|
เมล็ดพันธุ์แห่งมนุษย์
ณ ชุมชนเล็กๆแห่งหนึ่งซึ่งห่างไกลความเจริญ เด็กๆที่นี้รักธรรมชาติ เพราะเขาเกิดมากับต้นไม้ใบหญ้า โตมากับแม่น้ำลำธาร ชอบที่จะสังเกตอะไรแปลกๆใหม่ๆ นั้นก็เพราะส่วนหนึ่งที่ครูเป็นปลูกฝังให้เขามา เด็กๆมักจะเล่าว่าคุณครูใจดี ชอบสอนนู้นสอนนี้อยู่เสมอๆ คุณครูสอนให้เด็กได้เล่น ได้อ่าน ได้เขียน ได้คิด ปล่อยเด็กไว้อยู่กับจินตนาการของตัวเอง เล่นกับเพื่อน ร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ บางทีครูก็มาเล่นกับนักเรยนด้วย ทั้งๆที่คุณครูก็อายุมากแล้ว เด็กคนนึงถามครูว่า "คุณครูทำไมผมหงอกจังค่ะ" ครูเลยตอบศิษย์ไปว่า "ก็ครูผ่านโลกมามากแล้วนิลูก" ศิษย์เลยถามต่อว่า "ผ่านโลกแล้วทำไมต้องผมหงอกด้วยค่ะ" ครูหัวเราะลั่น "โฮๆๆ ก็เพราะเวลามันผ่านไปยังไงล่ะ" พร้อมปิดท้ายด้วยว่า "ซักวันหนึ่งเราก็โตขึ้นแล้วก็ผมหงอกเหมือนครูเช่นกัน" -------------------------------------------------------------------- อยู่ๆวันหนึ่งคุณครูก็หายไป เด็กๆจึงแยกย้ายไปตามโรงเรียนต่างๆที่อยู่ภายนอก ในช่วงแรกๆเด็กๆปรับตัวกับสภาวะสังคมที่มีการแข่งขันสูงไม่ได้ แทบทุกคนไม่มีความสุขในการเรียน บางคนต้องเจ็บช้ำน้ำใจ เพราะเพื่อนมักจะล้อว่าไอ้บ้านนอก แต่เมื่อเวลาผ่านมา บางคนก็ปรับตัวกลายเป็นส่วนหนึ่งของระบบ ส่วนหนึ่งทนกับสภาพในเมืองไม่ไหวกลายเป็นเด็กเกเร อีกส่วนหนึ่งปรับตัวเข้ากับระบบได้แต่ยังคงความเป็นตัวเองไว้ได้ เด็กในส่วนแรกก็ทำตามระบบของสังคมที่เขาว่าดีในตอนนี้ คือตั้งใจเรียน ทำคะแนนให้ดี แล้วเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัย เด็กในส่วนที่สอง ไม่ตั้งใจเรียน เที่ยวเตร่กับเพื่อนที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน ทำตามใจชอบ ขอเพียงวันนี้ยังมีความสุขก็เพียงพอ แต่ในส่วนที่สาม แม้การเรียนจะไม่ดีนัก พร้อมทั้งยังชอบทำอะไรแปลกๆ จนบางทีต้องถูกล้อเลียนว่าเป็นพวกนอกคอก แต่ก็ยังยิ้มร่ำได้อยู่เสมอ เมื่อถึงการประกาศผลสอบคัดเลือกเข้ามหาลัย เด็กในกลุ่มแรกสอบส่วนใหญ่สอบได้คณะดีๆ บางส่วนที่สอบไม่ได้ก็ทำร้ายตัวเอง ทั้งทางกาย หรือทางใจ เด็กในกลุ่มที่สองรู้ตัวเองยังไงตัวเองก็ไม่ได้แน่นอนเลยสอบๆไป ซึ่งบางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้ส่วนใหญ่ในกลุ่มนี้ไปต่อมหาลัยเอกชนกัน ในส่วนที่สาม พวกนี้หลากหลายมาก มีทั้งสอบได้ ไม่สอบไปเรียนเอกชน แต่ที่เลือกไปก็เพราะความชอบของตัวเอง ------------------------------------------------------------ "ไม่รู้ว่าเด็กๆพวกนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง" เสียงชายแก่พึมพำ "ลูกศิษย์แกเหรอเขาไปได้ดีกันหมดแล้ว" เสียงของชายหนุ่มตอบ "ฉันก็หวังว่าเช่นนั้น อยากให้เขาไร้เดียงสาเช่นเดิม พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ" ชายแก่เล่าต่อ "แกนี้เหมือนเดิมเลยนะ อยู่กับฉันมาร่วม 3-4 ปีแล้วยังบ้าอุดมการณ์เหมือนเดิม" ชายหนุ่มกล่าว ชายชราผมขาวโพลนยืนเกาะลูกกรงแล้วกล่าวต่อไปว่า "นายเคยคิดไหมว่า ประเทศเราทำไมถึงได้ทรุดลงทุกทีๆ" "ผมไม่ทราบผมได้รับคำสั่งแค่ให้จับกุมคุณ ไม่มีการใดที่จะฟังคุณพูดถึงเรื่องนี้" ชายหนุ่มกล่าวเสียงแข็ง ชายชราสูดหายใจลึกๆแล้วพูดต่อไปว่า "ผมไม่เสียใจหรอกนะที่วันนั้นได้ทำอย่างนั้นลงไป แม้มันจะไร้ความหมายก็ตาม" ชายหนุ่มฟังแ้ล้วคิดตามจึงถามต่อไปว่า "คุณจะบอกว่าคุณรักประเทศนี้เหรอ" ชายชรายิ้มแต่ไม่กล่าวแต่อย่างใด พร้อมส่ายหัวนิดๆ "อ้าวคุณไม่ได้รักประเทศ แล้วคุณทำอย่างนั้นทำไม เท่ากับการเป็นกบฏต่อรัฐเลยนะนั้น?" นายตำรวจสงสัยจึงซักถาม "ผมไม่ได้บอกว่าผมรักประเทศนี้ เพราะผมรักโลกใบนี้ คนบนโลกนี้ทั้งหมดต่างหาก" "ผมไม่รู้ว่าคุณมันตัวอันตราย หรือว่าตัวสร้างสันติสุขกันแน?่" นายตำรวจถาม "ไม่จำเป็นต้องตอบ ผมรู้แค่ว่าตอนนี้ผมเพาะเมล็ดเอาไว้กับเด็กๆแล้ว เด็กๆพวกนั้นจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้กับชาติในอนาคตอย่างแน่นอน" -------------------------------------------------------------------- เด็กๆได้เติบโตกันเป็นผู้ใหญ่แล้ว เด็กกลุ่มที่หนึ่งมีฐานะการงานดีมีหน้าตาในสังคม เด็กกลุ่มที่สองพอรู้รสชาติของชีวิตแล้วบางส่วนหันหน้าเข้าสู่สังคม แต่อีกส่วนปฏิเสธสังคมโดยสิ้นเชิง เด็กกลุ่มสุดท้ายหลายๆคนตระหนักถึงสภาวะของสังคมที่เปลี่ยนไป จึงพยายามตามหาเครือข่ายที่เล็งเห็นเหมือนกับตนเอง ------------------------------------------------------------------ "ไปกันเถอะถึงเวลาของพวกเราแล้วที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้" "คุณครูครับ ขอบคุณคุณครูมากที่ช่วยสอนผมในตอนเด็กๆอย่างนั้น ไม่เช่นนั้นคงจะไม่มีความคิดแบบนี้อยู่ในหัวของผมจนถึงทุกวันนี้"
ปี 26XX เด็กกลุ่มนั้นที่เป็นกลุ่มผู้ใหญ่ในวันนี้ได้ก้าวขึ้นมาในการเมือง และ.......
คุณครูที่แสนดีจากไปอย่างสงบในมุมมืดของสังคม สิริอายุร่วม 87 ปี
"คุณครูครับ ผมจะสร้างอนาคตให้กับประเทศเอง"
Create Date : 24 มกราคม 2550 |
Last Update : 24 มกราคม 2550 16:51:49 น. |
|
5 comments
|
Counter : 322 Pageviews. |
|
|
|
โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:17:06:01 น. |
|
|
|
โดย: N_BEE810 วันที่: 24 มกราคม 2550 เวลา:17:21:48 น. |
|
|
|
โดย: basbas วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:19:59:10 น. |
|
|
|
โดย: basbas วันที่: 25 มีนาคม 2550 เวลา:21:00:55 น. |
|
|
|
โดย: ทะเลคราม (blueocynia ) วันที่: 27 มีนาคม 2550 เวลา:11:06:31 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
กาลเวลาร่องลอยคอยร่วงโรย น้ำค้างโปรยปรอยทั่วทุกหัวระแหง ดังความสุขทุกข์มิหลงจงสำแดง จำต้องแปลงเปลี่ยนเรื่องเพราะเตือนความ
วันเวลาอยู่คู่ความทรงจำ ไม่ว่าทุกข์หรือสุขเพียงใด วันเวลาเหล่านั้นจะค่อยเข้ามาสู่ความทรงจำของเราเอง
|
|
|
|
|
|
|
|
สวัสดีค่ะ
มาเยี่ยมเยียน ค่ะ ได้เวลา
เดินชมบ้านเพื่อน แล้วค่ะ
(@^_^@)
จุ๊ฟๆๆๆ