Group Blog
All Blog
|
กิจกรรมวันแม่...แด่คุณยายไฮเทคของมิสา
แต่ว่า...ก็ไม่ได้รู้สึกซึ้งอะไร 555 คงเป็นเพราะ มิสายังเด็กมากกก ยังไม่รู้เรื่องอะไร กิ๊กก็เลยยังคง "ซึ้ง" ในฐานะ "ลูก" ต่อไป 555 แอบเสียดายเล็กน้อย ที่เป็นวันหยุดยาวตั้ง 4 วัน แต่กลับไม่มีแพลนไปไหนเลย 5555 เพราะดันไม่รู้ว่าออฟฟิศตัวเองก็ได้หยุดกับเค้าด้วย แต่ถึงรู้ล่วงหน้า ก็คงไม่ได้ไปอยู่ดี เพราะพึ่งไปภูเก็ต ช่วงหยุดอาสาฬหฯมาตั้ง 4 วัน วันที่ 12 สิงหา ตื่นเช้ามา... ก็เตรียมดอกมะลิให้คุณยายมิสา แต่ให้มิสาเป็นคนมอบ อิอิ ว่าแล้ว บล๊อคบล๊อคนี้...กิ๊กขอมอบให้คุณยายของมิสาหน่อยนะคะ อยากบอกว่า ขอบคุณคุณแม่มากๆๆๆเลยนะคะ รู้สึกตัวเลยว่า เราโชคดีมากๆๆๆๆๆที่มีแม่มาช่วยเลี้ยงลูกให้แบบนี้ ไม่ต้องจ้างพี่เลี้ยง ซึ่งไว้ใจได้ไม่เท่าแม่ตัวเองแน่ๆ (และที่สำคัญ พี่เลี้ยงแพงมากก 555) ไม่ต้องหอบลูกไปๆมาๆไปๆกลับๆ เพราะคุณแม่ยอมมาอยู่ที่คอนโดกิ๊กเลย แม้ว่าตอนแรกๆ จะแบบว่า...ทะเลาะกับคุณแม่บ่อยมากก 555 ส่วนใหญ่เลย ก็เรื่องมิสาน่ะแหละ แบบว่า เราก็อยากได้แบบนี้ๆๆๆๆ (เคยได้ยินที่เค้าบอกว่า พอมีลูกแล้วจะรักแม่มากขึ้น แต่ของเรากลายเป็นว่าทะเลาะกับแม่มากขึ้น...ก็งงมากมาย ) แต่ท้ายที่สุด ก็สำนึกได้ว่า คุณแม่ก็รักมิสามากๆๆๆ และก็ทำทุกอย่างดีที่สุด (เท่าที่ท่านจะทำได้)ให้มิสา ก็ต้องขอโทษคุณแม่ด้วยนะคะ ช่วง 3 - 4 เดือนแรก เวลามีคนชมว่า คุณยายเก่งจังเลย อึดจังเลย อายุเยอะแล้ว แต่ยังเลี้ยงหลานได้อยู่เลย แต่กิ๊กก็จะแบบ...เฉยๆนะ เพราะรู้สึกว่า ก็ไม่เท่าไร่ 555 มิสาเลี้ยงง่ายอ่ะ เพราะก็นอน กิน นอน แค่นั้นเอง (แต่จริงๆคุณแม่ก็อึดมากๆนะ เพราะช่วงแรกมิสาไม่เอาคุณแม่เลย คุณแม่ก็พยายามอุ้มๆๆๆ จนในที่สุดมิสาก็ติดคุณยายเป็นอันดับ 2 รองจากกิ๊กแล้วอ่ะ) แต่ตั้งแต่มิสาเริ่ม 6 - 7 เดือนมานี่แหละ คือ มิสาคลานได้แล้ว และก็ไม่อยู่สุกเลย... ถึงจะเอาไว้บนตัก ก็ยังปีนไปปีนมา กิ๊กถึงได้รู้สึกว่า คุณแม่อึดมากกกก 555 เสาร์-อาทิตย์ เวลากิ๊ก(และพี่หยี่ด้วย) เลี้ยงมิสาทั้งวัน จะรู้สึกเหนื่อยมากกก 555 ทั้งต้องคลานตาม คอยจับตัวเค้า พอเบื่อก็ต้องอุ้มบ้างอะไรบ้าง นั่งเฉยๆ ก็ไม่ได้ ต้องเล่นของเล่นกับเค้าด้วยนะ แต่ก็แค่ 2 วัน... แล้วคุณแม่อ่ะ เลี้ยงมิสาทั้งวัน ตั้งกะ จ.-ศ. 5 วันเลยนะคะ โอ้ว ! มายก๊อดด ...อึดมากๆ แม่ชั้น 555 และนอกจากงานเลี้ยงมิสาแล้ว คุณแม่กิ๊กยังทำกับข้าวให้กิ๊กกับพี่หยี่และมิสาด้วย !! เก่งมั้ยล่ะคะ คือ เลี้ยงเด็กทั้งวันคนเดียว นี่ก็เหนื่อยมากแล้วอ่ะ ยังต้องทำกับข้าวอีก กลางวันนี่แทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลยอ่ะค่ะ (แม้แต่เข้าห้องน้ำ 555) คือ อย่างกับข้าวผู้ใหญ่นี่ทำอยู่แล้ว ส่วนข้าวมิสา ตอนแรกคุณแม่ให้กิ๊กเป็นคนทำ แต่ปรากฏ กิ๊กตื่นไม่ไหว สรุป ข้าวมิสาก็เลยเป็นหน้าที่คุณแม่อีก 555 ทำทุกอย่างจริงๆค่ะ คุณยายมิสา ยกให้เป็น super grandma เลยนะคะ ดังนั้น ตอนนี้ เวลาใครๆชมคุณแม่ว่า อึดจังเลย เก่งจังเลย กิ๊ก(และพี่หยี่) จะน้อมรับคำชมให้ทันที 55 แบบว่า ชื่นชมคุณแม่มากๆๆอ่ะค่ะ แล้วก็...สำนึกในบุญคุณอย่างที่สุด ขอบพระคุณคุณแม่มากๆๆๆๆๆนะคะ ที่มาของ คุณยายไฮเทค ตอนแรกก่อนเขียนบล๊อคนี้ กิ๊กถามคุณแม่ว่า จะเอา super grandma หรือ เอาคุณยายไฮเทค คุณแม่บอกว่า เอาคุณยายไฮเทคดีกว่า เพราะตรงกับท่านมากกว่า 555 ก็เลยได้ชื่อตอนนี้มา... แต่จริงๆแล้ว ที่กิ๊กเรียกคุณแม่อย่างงี้ เพราะอะไรรู้มั้ยคะ ?? เพราะคุณยายมิสาอ่ะ เล่นเน็ตเก่งอย่าบอกใครค่ะ 555 เวลาอยากรู้เรื่องอะไร คุณแม่ก็จะใช้วิธี search จาก google เอาเลยค่ะ โดยเฉพาะ เรื่องเกี่ยวกับการเลี้ยงมิสานี่แหละ เวลามีปัญหาอะไรก็ตาม ไม่ว่า เรื่องท้องผูก ผลไม้ แก้วมังกร นอนหลับ ฯลฯ คุณแม่ search เอาจากอากู๋หมด เพราะฉะนั้น การเลี้ยงมิสาของคุณแม่ เลยเป็นอะไรที่ค่อนข้างตามตำรา และก็สมัยใหม่ด้วย (เพราะเลี้ยงแบบโบราณเป็นไง คุณแม่กิ๊กไม่รู้ 555) ซึ่งถือว่าเป็นโชคดีของกิ๊กเลย เพราะว่าก็จะไปในแนวทางเดียวกัน (หลังๆมา ก็จะไม่ค่อยทะเลาะกัน อิอิ) เพราะกิ๊กก็เปิดตำราเอาเหมือนกัน กลับบ้านมา คุณแม่ก็จะบอกแล้วว่า วันนี้แม่ search เรื่องนี้ๆๆๆ ในเน็ตเค้าบอกว่า บลาๆๆๆ เราก็โอเค สบายใจ... เพราะมี reference 555 คุณแม่เลยยกตัวเองว่าเป็น คุณยายไฮเทค พึ่งเน็ตตลอด 555 นอกจากนี้ คุณแม่ยังทำอะไรหลายๆอย่างผ่านเน็ต ดูหุ้น โอนเงิน เช็คอีเมลล์ (ส่งรูปหลานแจกเพื่อนๆ 555) ทันสมัยมากๆ นี่กิ๊กว่า จะให้สมัคร FB ด้วยนะเนี่ย 555 แต่กลัวว่าจะ ทันสมัยเกินเพื่อนๆรุ่นเดียวกัน 555 เพราะฉะนั้น ที่กิ๊กเขียนบล๊อคนี้ให้คุณแม่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่า คุณแม่จะได้อ่านรึป่าว อิอิ อ่านแล้วตอบด้วยนะคะ ..คุณยาย ก่อนจบเรื่องกิจกรรมวันแม่ ขอต่ออีกซักนิด... ฉลองกับคุณยายมิสาไปแล้ว ก็ต้องมีฉลองกับคุณย่าของมิสาด้วย (มิสาเรียก อาหม่าคะ ภาษากวางตุ้ง) ครอบครัวพี่หยี่ เค้านัดกันไปเลี้ยงหม่าม๊าที่ร้าน Ootoya เซ็นทรัล พระราม 3 แต่ตอนทาน ไม่ได้ถ่ายรูปกับหม่าม๊ากันเลย 555 ถ่ายแต่รูปมิสา... เลยเอารูปมิสามาฝากแทนละกัน ปิดท้าย กิจกรรมวันแม่ของมิสา ก็ต้องเป็น รูปถ่ายคู่กับคุณแม่ของมิสาใช่มั้ยคะ อิอิ น่ารักทั้งแม่ทั้งลูกเลยเนาะ 555 และแล้ว...เราก็เปิดเต้าได้ ไม่อายใคร 555 (7/8/10)
เพราะเดี๋ยวนี้มิสาโตขึ้นๆ activity ต่างๆก็เยอะขึ้นๆ (ป่าวหรอก จริงๆคือ แม่มันอยากออกนอกบ้าน เลยหาเรื่องทำเป็นว่าพาลูกไปเที่ยว 5555) แต่ไม่ได้ล่ะ...คราวนี้เอาจริง จะอัพกันรายสัปดาห์เลยดีกว่า (แต่ต้องย้อนของเก่าให้หมดก่อนนะ 555) ว่าด้วยเรื่อง เปิดเต้า กลางที่สาธารณะ สมัยก่อนทียังไม่ท้อง หรือแม้แต่ท้องแล้ว (แต่ยังไม่ได้คลอดก็ตาม) กิ๊กงงมากๆ เวลาที่เห็นแม่ๆให้นมลูกกลางร้านอาหาร หรือตามที่สาธารณะ สงสัยว่า ทำไมไม่ให้นมขวดแทน คือ ไม่ได้หมายถึงนมวัวนะ ก็นมแม่น่ะแหละ แต่ใส่ขวดไม่ได้เหรอ คิดว่า ถ้าเป็นตัวเองคงไม่กล้าทำแน่ๆ 555 แต่แล้ว ในที่สุด พอมีลูกเอง (และเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ 100%) ก็เลยเข้าใจอย่างถี่ถ้วน ว่าทำไมต้องเปิดเต้ากันด้วย อิอิ ไหนจะเป็นเรื่องของความสะดวกสบาย ไม่ต้องเตรียมนมขวดให้ยุ่งยาก และนมแม่เองก็เก็บได้ไม่นานในอุณหภูมิปกติ ยังรวมไปถึงความลำบากของตัวแม่เองด้วย เพราะถ้าไม่ให้ลูกดูดนานๆ แม่ก็คัดนมอีก ก็ต้องหาทางระบายออก โดยให้ลูกดูดซะเลย แต่ว่าถึงจะเปิดเต้ากลางสาธารณะ...ก็ไม่ได้โป๊นะ เพราะมีผ้าคลุมให้นม ปิดมิดชิด ตอนแรกก็อายๆเล็กน้อย แต่หลังๆ เริ่มชิน 555 ใครอยากมองก็มองไป เคยอ่านเจอ เค้าบอกว่า ให้ไปเถอะ ถือเป็นการสร้างค่านิยมที่ถูกด้วย คือ การให้เด็กกินนมแม่ (ประมาณว่า ประชาสัมพันธ์นมแม่ไปในตัว 555) พอไปหลายๆครั้งเข้า ก็เริ่มชิน ถือเป็นเรื่องชิลล์ๆ อิอิ อย่างครั้งนี้... เรา 3 คนพ่อ แม่ ลูก ไปเดินเล่น King Power กันค่ะ ก่อนเดิน ก้ไปทานบุฟเฟต์ที่ รร. Pullman ซึ่งจะบอกว่า บุฟเฟต์กลางวันของที่นี่ เป็นเหมือนบุฟเฟต์ของครอบครัวยังไงไม่รู้ เพราะไปกี่ที ก็มีแต่คนพาเด็กเล็กๆไป แบบว่า ทุกโต๊ะแทบจะมีรถเข็น 555 เลยรู้สึกดี ไม่เขิน ไม่ต้องเกรงใจใคร เพราะทุกคนก็มีลูกเล็กหมด วันนี้ไป ก็จับมิสาใส่ชุดสวยเลยนะ ไปถึงมิสาก็ยังนั่งในรถเข็นได้สบายๆ นั่งไปนั่งมา ไม่ทันไรก็ร้องงอแง ก็คิดแล้วล่ะว่าต้องหิวนม แต่พออุ้มขึ้นมา ปรากฏว่า มิสาขรี้แตกคับพี่น้อง แล้วแบบเยอะมากก...เลอะกางเกงหมดเลย เลยต้องจับเปลี่ยนชุดใหม่ 555 แล้วไม่รู้เป็นไรนะ ออกนอกบ้านทีไร มิสาจะอึแตกตอนออกนอกบ้างทุกที ทั้งๆที่เวลาไม่ออก บางทีก็ไม่อึ บางทีก็อึเวลาเช้าหรือเย็น แต่ทำไม้ พอออกนอกบ้าน ต้องอึตอนกลางวันด้วยไม่รู้ 555 พอเปลี่ยนชุดเสร็จ ก็ได้เวลากินนม เปิดเต้ากันกลางร้านแบบนี้แหละ ใครจาทามมายยย 555 ดูรูปสิ...เดี๋ยวนี้เวลากินนม ชีก็ไม่ใช่นอนเฉยๆนะ มือนี่ก็จะโผล่ไปโผล่มา..ขาก็เหมือนกัน ถีบไปถีบมา อิแม่ก็เสียวผ้ามันจะเปิด แล้วจะโป๊เอา... รูปนี้ท่าเท่ห์เลยนะ.. กินเสร็จก็อารมณ์ดี.. เห็นมะ สบายๆ ไม่โป๊นะ ไม่เขิน ไม่อาย 555 กินเสร็จก็เตรียมตัวไปช๊อปปิ้งที่ king power ระหว่างรอพี่หยี่เข้าห้องน้ำ อิแม่ก็ขอถ่ายรูปคุณลูกในชุดใหม่หน่อย (ชุดเก่าที่ว่าสวยอ่ะ ไม่ได้ถ่ายไว้ 555) ++ โปรดสังเกต...เปลี่ยนชุด ก็ต้องเปลี่ยนที่คาดผมด้วยนะคะ อิอิ ++ พอจะถ่ายอีก มิสาก็ไม่อยู่นิ่ง ถอดรองเท้าออกมาซะงั้น... Kik recommend สำหรับแม่ๆที่ตั้งใจจะให้นมแม่ กิ๊กอยากแนะนำว่า ผ้าคลุมให้นม สำคัญมากนะคะ ...แล้วก็เป็นของที่ใช้คุ้มมากๆ เพราะงั้นใครอยากได้ผ้าคลุมแบบไหน แบบสวยแค่ไหน อย่างดีแค่ไหน (แพงแค่ไหน) ก็ซื้อไปเถอะค่ะ เพราะคุ้มจริงๆ คือ ที่กิ๊กแนะนำ ไม่ได้หมายความว่าให้ใช้ของแพงนะคะ แต่หมายความว่า มันเป็นของที่ใช้คุ้ม เพราะฉะนั้น ถ้าจะซื้อแพง ก็โอเคอ่ะ เทียบกับว่า ถ้าไปซื้อของแพงอย่างอื่น แต่มันไม่จำเป็น และใช้ไม่นาน ซึ่งของแบบนั้น ไม่ต้องซื้อแพงก็ได้...อย่างกิ๊กเองตอนแรกก็งกนิดนึง ซื้อแบบไม่แพงอ่ะ แต่ใช้ไปใช้มา รู้สึกว่า เออ มันใช้บ่อย...เพราะงั้น ก็ซื้อของดีไปเถอะ อะไรแบบนี้ แต่ผ้าคลุมให้นมที่กิ๊กคิดว่า น่าใช้ คือ เนื้อผ้าต้องโปร่งๆหน่อย ระบายอากาศดี อันนี้สำคัญมาก เพราะกิ๊กเอง เคยสั่งซื้อผ้าคลุมให้นมของญี่ปุ่น ซึ่งผ้ามันนิ่มมาก แต่ว่าผ้ามันหนา (เพราะญี่ปุ่นมันหนาวอ่ะ)...ซื้อตั้งกะตอนท้อง พอใครเห็น ก็ทักว่า มันหนาไปป่าว เดี๋ยวลูกร้อน...กิ๊กก็ไม่เชื่อนะ เถียงด้วย บอกว่าของญี่ปุ่นเชียวนะ ผืนนึงเป็นพันอ่ะ....แล้วที่ไหนได้ พอเอามาใช้ มันก็ร้อนจริงๆอ่ะ แล้วยิ่งผิวเด็ก ยังระบายอากาศไม่ดีอ่ะ เหงื่อเค้าจะออกเยอะมาก...กิ๊กก็เลยซื้อผืนใหม่ (ที่ว่างกอ่ะค่ะ เพราะตอนแรกซื้อของแพงดันใช้ไม่ดี เลยไม่กล้าซื้อแพงอีก - ก็ผืนที่เห็นในรูปแหละ ซื้อในเน็ต 555)...เพราะฉะนั้น เลือกที่ผ้าระบายอากาศดีๆนะคะ...ขอเตือน อิอิ กับอีกข้อ คือ ถ้าเป็นแบบมีช่องให้เห็นหน้าลูกด้วย ก็จะดีมาก...เพราะตอนแรก ที่กิ๊กใช้ไอ้ผืนจากญี่ปุ่นอ่ะ มันเหมือนผ้าพันคอธรรมดา แล้วพอคลุมไป มันมองไม่เห็น เวลาจะเปิดเต้า เอาลูกเข้าเต้า ก็ลำบากมากก (ต้องกะเอาเองในใจ มองไม่เห็น) ...ผืนนั้น ก็เลยไม่ work อีกแหละ (สรุป ผืนนั้นเอาไว้เป็นผ้าห่ม 555)...ถ้าซื้อแบบที่มองเห็นลูกได้ จะเอาเข้าเต้าง่ายกว่า และเวลาลูกกินนมอยู่ เราก็มองเห็นว่าลูกหน้าเป็นไง ดูดอย่างสบายใจดีมั้ย 555 First time to be (temporary) single mom...(30/7 - 3/8/10)
(แบบที่ไม่มีทั้งคุณแม่และพี่หยี่) เลยต้องมีการบันทึกไว้หน่อย 555 เพราะปกติ ที่เคยเลี้ยงคนเดียว ก็คือ ช่วงกลางวัน แบบตอนเช้า และ/หรือ ตอนค่ำก่อนมิสานอน ก็ยังมีพี่หยี่ (เสาร์-อาทิตย์ คุณแม่ไม่อยู่อยู่แล้ว) แต่คราวนี้ เนื่องจากพี่หยี่มี business trip ไปเซี่ยงไฮ้ (ฟังดูดีเชียว...จริงๆ คือ เที่ยวงาน world expo ด้วย..มันน่ามั้ย !!) เลยปล่อยให้กิ๊กเลี้ยงมิสาแบบเต็มๆคนเดียว แต่ก็แค่ เสาร์-อาทิตย์เองแหละ เพราะวันธรรมดา (จันทร์-อังคาร) คุณแม่ก็มาเลี้ยงอยู่แล้ว กิ๊กก็เหลือแค่ทำหน้าที่อาบน้ำให้มิสาแทนที่พี่หยี่เคยทำ ตอนแรกบอกเลยว่า กลัวมากๆๆๆ 555 เพราะตอนนี้มิสาเริ่มโต มันจะมีอะไรวุ่นวายหลายอย่างกว่าตอนเล็กๆ เช่น การอาบน้ำ กิ๊กไม่ได้อาบน้ำให้มิสามานานมาก พี่หยี่อาบตลอด...แล้วเดี๋ยวนี้ พี่หยี่บอกเลยว่า ยากกว่าแต่ก่อน เพราะมิสาดิ้นได้ มือก็อยู่ไม่สุก (สมัยที่กิ๊กเคยอาบคือ 3 เดือนแรกอ่ะคิดดู) แถมยังหนักอีกด้วย กิ๊กจะอุ้มมือเดียวเพื่อสระผมก็ไม่ได้ แล้วไหนต้องตื่นเช้า เพราะมิสาตื่นไม่เกิน 6 โมงเช้า ซึ่งปกติ พี่หยี่เค้าจะเป็นคนตื่นเช้ามาอาบน้ำให้ลูก ส่วนกิ๊กก็เตรียมเข้าให้มิสาไป แบ่งหน้าที่กัน แต่นี่กลายเป็นว่า ทุกๆหน้าที่ กิ๊กต้องทำคนเดียวหมด ตื่นเช้า (ซึ่งกลางคืนก็ตื่น 2 ครั้งอยู่แล้ว) + อาบน้ำ + ทำข้าวให้มิสา รวมถึงการดูมิสา 24 ชม. ด้วย คือ ทำหมดทุกอย่าง ตัวเองก็แทบไม่ต้องอาบน้ำ เข้าห้องน้ำ และไม่ต้องกินข้าวกันเลยทีเดียว มันอาจจะดูเป็นเรื่องธรรมดาของแม่ๆที่เลี้ยงลูกคนเดียว แต่เผอิญกิ๊กไม่เคยไง เลยรู้สึกว่าเรื่องใหญ่ 555 แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ต้องบอกเลยว่า chill มากมาย จะยุ่งหน่อยก็ตอนเช้าอย่างที่บอก แต่ว่าตอนนี้มิสาโตแล้ว เลี้ยงง่ายมากมาย มิสาสามารถนั่งเองได้ พอจับเค้านั่ง เค้าก็เล่นของเล่นอะไรไปเรื่อย ซึ่งกิ๊กเอง ก็พักได้ ไปเข้าห้องน้ำ กินข้าวอะไรได้ พอถึงเวลากินนม มิสาเค้าติดเต้าอยู่แล้ว ก็เอาเข้าเต้า ก็หลับได้สบายดี และที่สำคัญ มิสาโตพอที่กิ๊กสามารถให้ลูกจ้างที่บ้านมาช่วยดูได้ (เป็นแค่คนทำงานบ้าน แต่ไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กค่ะ บ้านกิ๊กไม่ได้จ้างพี่เลี้ยง) ถ้าเป็นแต่ก่อน คอไม่แข็ง...ก็ไม่เคยให้ลูกจ้างดูให้ ไม่ให้เค้าอุ้ม แต่ตอนนี้ ก็ให้อุ้มได้ ให้นั่งเฝ้าน้องได้ (เค้าชอบเล่นกับเด็กด้วย เลยหมดห่วง) เลยกลายเป็นสบายเรา 555 จะไปกินข้าว จะไปอาบน้ำ ก็ให้เค้ามาช่วยดูน้องไว้ก่อน สรุป เลยเป็นอะไรที่สบายๆ ไม่หนักไม่หนา อิอิ พอว่างๆ ชิลล์ๆ กิ๊กเลยจับมิสาใส่ห่วงคอ ลงเล่นน้ำกะลูกซะเลย รูปนี่ก็ถ่ายเองนะ คือ ต้องเสี่ยงปล่อยลูกอยู่ในน้ำคนเดียว แล้วแม่มันก็วิ่งไปหยิบกล้องมาถ่าย 555 แต่ไอ้เล่นน้ำกะลูกนี่แหละ ที่ทำให้ไม่ชิลล์ เพราะลืมคิดไปว่า พอเราเปียก แล้วต้องมาเช็ดตัวให้ลูก แต่งตัวให้ลูก มันจะทุลักทุเลขนาดไหน...ทำเอาพื้นห้องเละเทะไปหมด แล้วก็ ดูจากรูปได้... ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้วนะ ที่เอามิสาใส่ห่วงคอ แต่ก็ยังไม่ได้มีทีท่าว่ามิสาจะชอบเล่นน้ำด้วยห่วงคอเลย สรุป...เลิกใช้ห่วงคอถาวร เหอ เหอ วันแรกผ่านไปอย่างชิลล์ๆ พอวันอาทิตย์ ก็ยุ่งเฉพาะช่วงครึ่งวันเช้า พอตอนบ่าย คุณแม่ก็มาแล้ว 555 แล้วด้วยความที่แม่มันเบื่อ ก็เลยแบบ หาเรื่องพาลูกออกจากบ้าน จริงๆแล้วก็ไม่ได้ไปไหนหรอก ไปซื้อกางเกงขาสั้นให้มิสาที่แถวๆบ้าน (มีร้านขายของเด็กนำเข้าอยู่) แต่ออกจากบ้านทั้งที ก็ต้องสวยหน่อย...ใช่ป่ะ อิอิ วันอังคาร พี่หยี่ก็กลับมาแล้ว มาดูหน่อยดีกว่า ว่าได้ของฝากอะไรจากเมืองจีนบ้าง 555 จริงๆพี่หยี่บอกว่า ไม่ค่อยได้อะไร เพราะของดีๆเลย ก็ราคาแพง แต่พอของถูก พี่หยี่ก็คิดว่าบ้านเราก็มี แต่ก็ยังอุตส่าห์เลือกของดีๆมาให้มิสานะ 555 อย่างแรกเป็นเหมือน legging ที่เอาไว้ใส่เวลาคลาน เลือกลายได้ถูกใจกิ๊กดี ...สีชมพู น่าร๊ากก กับชิ้นที่ 2 เป็นชุดของ Hallmark (เมืองไทยไม่เคยเห็นนะ) ซึ่งพี่หยี่ระบุเลยว่า เลือกของ brandname ให้ เอาใจแม่มันสุดฤทธิ์ 555 พร้อมกับบอกว่า แพงนะๆๆ แต่แบบก็อ่ะนะ...หมี forever เลยนะ แต่กิ๊กว่า มันก็แปลกๆ...คือ ถ้าไม่เห็นยี่ห้อ อาจจะนึกว่าเป็น หมีอะไรก็ไม่รู้ 555 นอกนั้น ก็เป็นพวกชุดหมีไว้ใส่อยู่บ้าน มียี่ห้อเหมือนกัน แต่เป็นแบบพวกของ over run อะไรแบบนี้ (เหมือนของที่ขายในตลาดนัดเมืองไทยอ่ะค่ะ แต่นี่เป็นตลาดนัดเมืองจีน) บอกแล้วว่าลูกได้ของแพง แต่แม่ได้ของถูกค่ะ 5555 ได้กระเป๋า Le sporsac ก๊อปมาหลายใบเลย จริงๆ ก็คือ กิ๊กสั่งไปเองแหละ เพราะน้องสาวเคยซื้อมา สวยดี ใช้ทน และไม่แพง 555 (แต่ไม่ถ่ายรูปนะ เดี๋ยวมีหลักฐาน อิอิ) ยังไงก็ขอบคุณพี่หยี่มากนะคะ ที่คิดถึงเราแม่ลูก อิอิ (แม้จะคิดถึงลูกมากกว่าเรา 5555) พบคุณหมอ....ครบ 7 เดือน ฉีดวัคซีน IPD เข็มแรก + วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 (4/8/10)
แต่อย่างที่เคยบอกไปว่า กิ๊กไม่ได้ฉีด IPD เข็มแรกให้มิสา (ตอน 2 เดือน) เพราะเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านอย่างเดียว ก็เลยตั้งใจ skip ไป 1 เข็ม (มาฉีดหลัง 6 เดือน ก็จะได้ฉีดแค่ 3 เข็ม) เพราะงั้นเข็มแรก (เอ๊ะ จะเรียกยังไงดี งงๆ) ที่มิสาจะฉีด ก็เลยต้องมาฉีดตอน 7 เดือน (คือ หลัง 6 เดือน ไม่ใช่ตอน 6 เดือนพอดี) แล้วไหนๆตอนนี้เค้าก็มีวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วย ซึ่งรวมเอา 2009 เข้าไปแล้ว ก็เลยฉีดมันไปซะเลยทีเดียว ซึ่งวัคซีนไข้หวัดใหญ่นี้ ตั้งใจฉีดก่อนที่จะรู้ว่ามันกลับมาระบาดอีกครั้ง แต่กว่าจะได้ฉีด ก็เป็นช่วงระบาดพอดี 555 ไปรพ.คราวนี้ มิสาเปลี่ยนลุคส์แล้วนะคะ อิอิ ด้วยความกลัวรถติดมหาโหดเหมือนคราวที่แล้ว แม้ว่าจะนัดคุณหมอ 14.10 น. เราก็ถ่อออกจากบ่ายตั้งกะ 13.00 น. แต่ปรากฏว่า รถไม่ติดเลย ก็เลยมาถึงรพ.ตั้งกะ 13.30 แน่ะ ถามคุณพยาบาลว่า มาก่อนเป็นไรมั้ย (ประมาณว่า เผื่อจะได้เข้าก่อน 555) คุณพยาบาลตอบว่า ก็ต้องรอให้ถึงคิวค่ะ ไปถึง ก็ได้ชั่งนน. วัดส่วนสูงก่อน คราวนี้ นน. 6,630 กรัม...ขึ้นมาน้อยมากก หมดสิทธิ์อ้างว่าเป็นเพราะไม่ได้กินข้าวเช้า เพราะคราวนี้มาบ่าย แต่ส่วนสูง ก็ขึ้นโอเคนะ ขึ้นมา 2.5 cm เป็น 66 cm แล้ว คิดว่า ที่เค้าพยายามยืดตัว จากการเล่น around we go น่าจะมีส่วนช่วยอ่ะ (รอบที่แล้ว 2 เดือน ขึ้นมา 4 cm เอง) ซึ่งระหว่างรอคุณหมอนี้ มีเรื่องตลกมากๆๆ นั่นก็คือ ดูจากรูปนะคะ มิสาใส่หมวกปอยผมไปรพ. แล้วก็ออกมาหน้าตาน่ารักมากๆนะ 555 ไม่รู้ดูจากรูปนี่จะน่ารักมั้ย แต่ของจริง น่ารักมากๆ 555 ไม่ได้ยอลูกตัวเองนะ อิอิ สงสัยเป็นเพราะ ทั้งน่ารัก (ยังมั่นใจอยู่) + ตลกดีด้วย คนก็เลยมองมิสากันใหญ่เลยอ่ะ ทั้งคุณพยาบาล ทั้งบรรดาแม่ๆยายๆ ที่พาหลานมาหาหมอ มีแต่คนเข้ามาทักมิสา แบบว่า หนูน่ารักจังเลย กิ๊กกับพี่หยี่ก็ยิ้มหน้าบานสิคะ แต่ความตลกอยู่ตรงไหนรู้มั้ยคะ ??? ก็แบบว่า ที่มิสาน่ารักขนาดนี้ เพราะใส่หมวกปอยผมอ่ะ 555 คือ ถ้าไม่ใส่ มิสาจะหน้าแมนมากๆๆ แล้วความจริง ก็จะถูกเปิดเผย 555 พอเวลาผ่านไปซักพัก มิสาก็เริ่มหงุดหงิด คงรำคาญผมด้วย กิ๊กกับพี่หยี่ก็มองหน้ากัน คิดในใจ จะถอดดีมั้ยวะ 555 เดี๋ยวคนรู้ความจริงหมด ว่าหน้าตามิสาเป็นไง แบบว่า เค้าอุตส่าห์คิดว่าลูกเราน่ารักอ่ะ 555 แต่ในที่สุด ก็ต้องถอดหมวกออกนะ พอถอดแล้ว ทุกคนก็มองแบบขำๆอ่ะ ประมาณว่า อ๋อ ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เองอ่ะ 555 ขำก็ขำ สงสารลูกเหมือนกันนะ ก็เป็นเรื่องตลกๆดี เลยเอามาแฉ (ตัวเอง+ลูก) ซะงั้นแหละ 555 สรุปว่า วันนั้นที่ไปถึงก่อน ก็ได้หาคุณหมอตอน 14.15 น.อยู่ดี ก็ใกล้ๆเวลานัด นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไปก่อน ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร 555 แล้วก็ มิสาถูกฉีดยา 2 เข็ม ก็ร้องแง๊ตามระเบียบ แต่พอกิ๊กอุ้ม ก็หายอ่ะค่ะ มิสาบอกว่า แค่นี้ จิ๊บ จิ๊บ อิอิ ทิ้งท้ายไว้ด้วยรูปนี้ดีกว่า มิสาชอบทำมือหมุนไปหมุนมา แล้วกิ๊กก็จับภาพนี้ได้พอดี... เจ๋งเลยใช่ม้า 6 เดือน ...พลิกหงาย & นั่งได้เองจ้า
++ Strawberry girl ! แต่หนูไม่สตอฯนะคะ อิอิ ++ พลิกคว่ำได้แล้ว...ก็ต้องมีพลิกหงาย มันจะช้าไปมั้ยเนี่ย ที่กว่ามิสาจะพลิกหงายได้ ก็ปาเข้าไป 6 เดือน 555 เนื่องจาก มิสาเอง ก็คว่ำช้าด้วย เวลาล่วงเลยมาประมาณเดือนครึ่ง (คว่ำตอน 4 เดือนครึ่ง) วันที่ 10 ก.ค. มิสาก็พลิกหงายได้ แต่ตอนแรกๆ พอหงายแล้ว ก็ยังติดแขนอยู่ กิ๊กก็ต้องคอยช่วยเอาออกไปก่อน พอผ่านไปซัก 2 วัน มิสาก็พลิกหงายได้ completely (คือ เอาแขนออกได้เอง 555) แต่จริงๆ มิสาก็ไม่ค่อยได้ชอบพลิกหงายหรอก ส่วนมาก พอวางแบบนอนหงาย มิสาก็จะคว่ำ แล้วก็จะเล่นจะอะไรอยู่ในท่าคว่ำนั่นแหละ จะชอบกลิ้งไปกลิ้งมา (คว่ำ-หงาย) เฉพาะช่วงก่อนนอนเท่านั้นเอง ซึ่งเรียกว่าเป็นเวลาหรรษาของมิสา เพราะมิสาจะชอบนอนเกลือกกลิ้งบนที่นอนของตัวเองเป็นที่สุด ลงที่นอนได้ จะคึกคัก กลิ้งไป กลิ้งมา... เห็นแล้ว อยากจะเอามาเลี้ยงอยู่บนที่นอนนี่ทั้งวัน 555 มิสาชอบนั่งๆๆๆ ตั้งแต่ก่อน 6 เดือน (ซัก 3 เดือนกว่าด้วยซ้ำ) มิสามีอาการอยากลุกนั่งเองเอามากๆ แต่ว่าเค้ายังเล็กอ่ะ หลังก้ไม่แข็ง ก็เลยไม่ค่อยอยากจับเค้านั่งเท่าไร่ กลัวหลังเค้าจะโก่ง เวลานั่ง ก็จะให้นั่งพิงตัวเรา (หรือคนที่อุ้มอยู่) เพื่อจะได้ไม่ล้ม แต่หลังจากถามคุณหมอ ว่าถ้าให้เค้านั่งเอง ทั้งๆที่หลังยังไม่แข็ง จะเป็นไรมั้ย คุณหมอกลับบอกว่า ไม่เป็นไร ดีเสียอีก เพราะเค้าจะได้หัดทรงตัว ทำให้หลังแข็งเร็วขึ้นพอได้คำตอบเช่นนี้ ก็เลยทำให้กิ๊กกล้าจับให้มิสานั่งเอง โดยไม่ต้องประคองเค้าไว้ ซึ่งช่วงแรกๆ ก็แน่นอนล่ะ ไม่กล้าปล่อยเค้าไว้เอง ต้องหาหมอน หาอะไรมารองๆเอาไว้ เพราะเค้ามีสิทธิ์ล้มได้ตลอดเวลาอ่ะ ++ นั่งได้แล้ว แต่ยังตัวเอียงๆไปหน่อย ++ อ้อ ! และจะบอกว่า กิ๊กเริ่มเอาแผ่นรองคลานมาปูแล้วด้วย ปกติจะเลี้ยงมิสาอยู่บนเบาะตลอด (โซฟา) แต่ได้คำแนะนำมาว่า ควรให้เค้าได้อยู่บนพื้นแข็งๆบ้าง เค้าจะได้ หัดพลิกตัว ทรงตัวอะไรได้ดีขึ้น เลยรีบไปหาแผ่นรองคลานมาปู (ทั้งๆที่ลูกยังไม่มีทีท่าว่าจะคลาน) ซึ่งก็รู้สึกดีใจมากก ที่ทำตามคำแนะนำนั้น เพราะรู้สึกเลยว่า การปล่อยมิสาอยู่บนพื้น มันทำให้เค้านั่งเองได้เร็วขึ้น (และคลานเร็วขึ้น)จริงๆด้วย ซึ่งไม่แน่นะ การที่มิสาคว่ำช้า อาจจะเป็นเพราะเราอุ้มเค้ามากเกินไป แล้วก็ไม่ได้ปล่อยให้เค้าอยู่บนที่นอนแข็งๆบ้าง เพราะเบาะที่นุ่มเกินไป มันก็ทำให้พลิกตัวยากอยู่อ่ะ อืมม ไม่รู้จะพูดถึงเรื่องคว่ำช้าของลูกบ่อยๆทำไม 555 เพราะ มิสาก็คว่ำได้เป็นปกติแล้วอ่ะ แล้วก็คว่ำเอาๆๆๆด้วย และช่วงใกล้ๆครบ 7 เดือน มิสาก็เริ่มลุกนั่งได้เองด้วย โดยลุกจากท่าคว่ำ ค่อยๆชันแขนขึ้นมา ตอนทำได้ คุณยายตื่นเต้นมาก 555 เพราะไม่ได้รอลุ้นมาก่อนว่าต้องทำแบบนี้ได้นะ พอมิสาทำได้ ทุกคนเลยขำ ตลกกันใหญ่ โดยขั้นตอนคือ ต้องเอามิสาไปวางไปบนที่นอน โดยวางนอนหงาย แล้วมิสาก็จะคว่ำ --> ค่อยๆลุกนั่งเอง (คือ ต้องอยู่ในท่าคว่ำ ถึงจะนั่งเองได้ ไม่ใช่นอนหงาย แล้ว sit up ขึ้นมานะคะ 5555) นั่งเอง...เล่นเอง....นอนเอง...แสนสบาย หลังจากที่จัดให้มิสานั่งได้แล้ว ความสบายก็มาเยือนแม่ทันที 555 เพราะกิ๊กสามารถจับมิสาแหมะไว้ให้เค้านั่ง เอาหมอนมารองๆๆๆ แล้วก็จัดการเอาของเล่น 3-4 ชิ้น วางกองตรงหน้ามิสา แล้วชีก็จะหยิบอันโน๊นที อันนี้ที เล่นเองไปเรื่อย เอาเข้าปากมั่งอะไรมั่ง คอยระวังหน่อยไม่ให้ล้ม (กรณีหมอนกันไม่ได้รอบ เพราะชีมีสิทธิ์ล้มได้ทุกทิศทาง)เท่านั้นเอง ส่วนตัวคนเลี้ยง (กิ๊กเอง เพราะคนอื่นจะทำแบบกิ๊กรึป่าวไม่รู้ 555) ก็สามารถทำนู่นนี่ได้ เช่น อ่านหนังสือ เล่นเน็ต ก็สบายๆดี อิอิ กับอีกเรื่องที่พัฒนามาอีกขั้น นั่นคือ มิสาสามารถนอนเองได้แล้ว จากทุกที ก็คือ ต้องใช้เต้ากล่อม แต่ตอนนี้ พอซัก 2 ทุ่มกว่าๆอันเป็นเวลานอนของมิสา เธอก็จะเริ่มง่วงและ ขยี้หู ขยี้ตาให้รู้ว่า ง่วงแล้วนะ และถ้ากิ๊กมาไม่ทัน (คือ ตอนนี้พี่หยี่จะดูลูกอยู่ เล่านิทานไป เล่นกันไป ส่วนกิ๊ก ก็ไปอาบน้ำ ก่อนจะมาให้นมลูก) มิสาก็จะ กลิ้งไป กลิ้งมา อาจจะดูดนิ้วตัวเองนิดหน่อย (กล่อมตัวเอง) แล้วก็หลับเองไปได้เลย ... เย้ๆๆๆๆ แต่เนื่องจากว่า มิสากินนมน้อย และนอนยาว กิ๊กก็เลยไม่ได้พยายามจะให้เค้านอนเอง เพราะอยากจะให้เค้ากินนมรอบก่อนนอนเป็นมื้อสุดท้ายก่อน เพราะไม่งั้น มิสาก็จะกินนมน้อยมากกก (ต่อวัน) กิ๊กเลยยังยินดีจะกล่อมด้วยเต้าต่อไป แม้ว่า บางครั้งพี่หยี่ต้องคอยเรียกให้อาบน้ำเร็วๆ ไม่งั้นลูกจะหลับไปก่อน 555 และก็อาจจะทำให้เค้าติดเป็นนิสัยนอนเองไม่ได้ แต่ก็ยังไม่อยากปล่อยให้เค้าหลับโดยไม่กินนมก่อนนอนอ่ะ อย่างไรก็ดี มีข่าวดี ก็ต้องมีข่าวร้าย หลังเดือนที่ 6 (นั่นคือ เริ่มกินอาหารเสริม) มิสาก็เริ่มมีอาการ ตื่นกลางดึกบ้างบางคืน คืนละ 1 ครั้งบ้าง 2 ครั้งบ้าง ก็ต้องดูกันต่อไปว่าอาการนี้จะยาวนานแค่ไหน (หลังจากแม่มันสบายมาตั้งแต่ 2 เดือนกว่า 5555) ของเล่นชิ้นใหม่ (และใหญ่)...Around We Go ที่จริง กิ๊กอุตส่าห์ pre-order เจ้า around we go นี่มาตั้งแต่มิสา 4 เดือนกว่าๆ (เลยเสียแพงเลย เพราะหลังๆราคามันถูกลงๆ 555) คิดว่า จะเอาไว้ให้มิสาเล่นตอน 5 เดือน แต่ไปๆมาๆ ลืมด้วย ยุ่งด้วย เลยได้เอาออกมาต่อให้มิสาเล่นตอน 6 เดือน แต่อย่ากระนั้นเลย ขนาดเอามาตอน 6 เดือน ขาคุณเธอยังไม่ถึงพื้นเลย ลอยเท้งเต้ง 555 ก็เลยได้แต่เล่นของเล่นบนโต๊ะไปก่อน ไม่สามารถ go around ได้อย่างชื่อของเล่น 555 แต่มิสาก็ดูสนใจเล่นดีนะ หยิบอันนู๊นที อันนี้ที เอาเข้าปากอย่างเดียว 555 แล้วก็พยายามจะเอาขาแตะพื้นให้ได้ คิดว่า น่าจะทำให้สูงเร็วขึ้น อิอิ (นึกถึง jumperoo ขึ้นมาเลย อยากซื้อให้มิสาเล่นอีก แต่ติดว่า แค่ around we go ก็แพงจะแย่ ซื้อ 2 ชิ้น สงสัยพ่อแม่คงกินแกลบ) ก้ได้แต่หวังว่า หนูจะชอบเล่นมันจนคุ้มค่าเงินหน่อยนะจ๊ะ ก็ของมันแพงนะลูก 555 |
Beauty & Bambi
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?] ณ 31/1/2023 นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^ บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ *** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
Friends Blog
Link |