All Blog
ป่วยครั้งแรก กับ ส่าไข้...อายุ 10 เดือน 2 สัปดาห์ (20-24/11/10)
อันที่จริง นับเป็นเรื่องที่น่าดีใจ (+ ภูมิใจ) มากก
เพราะ มิสาเป็นเด็กแข็งแรงมากๆๆๆ


ตั้งกะเกิดจนมา 10 เดือนนี่
มิสาไม่เคยป่วยเลย
ไม่ว่าจะ เป็นไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ท้องเสีย ท้องผูก ฯลฯ
ไม่เคยเป็นอะไรเลย (แม้แต่ฉีดวัคซีน ยังไม่มีไข้เลยซักครั้ง)


เรียกว่า อยู่มาจน 10 เดือน ไม่เคยต้องกินยาอะไรซักอย่าง
(ยกเว้น ยาแก้ท้องอืด กินไป 2 ครั้ง ตอนหัดดูดขวดแรกๆ)


กิ๊กก็ดีใจมากนะ ที่ลูกเราแข็งแรงอ่ะ


ทั้งๆที่กิ๊กก็ไม่ได้เลี้ยงมิสาอยู่ใน ระบบปิด อนามัย อะไรขนาดนั้นนะ
ถ้าใครติดตามบล๊อคจะรู้เลย
กิ๊กพามิสาออกเที่ยวต่างจังหวัดตั้งกะ 3 เดือน
ผจญอากาศมาทุกรูปแบบ ทั้งร้อน ทั้งฝน ทั้งหนาว(แอร์)
ไปนอกบ้านทุกอาทิตย์ (เพราะพ่อแม่อยู่ไม่สุก)
ทั้งห้าง ทั้งรร. supermarket ฯลฯ ไปมาหมดอ่ะ


หรือแม้แต่คนเลี้ยงมิสา ไม่สบายกันไปก็หลายหน
ไม่ว่ากิ๊กเอง พี่หยี่ หรือ คุณแม่
ไข้หวัดกินกันมาเป็นแถบๆ
แต่มิสาก็ไม่เคยเป็นอะไร


ซึ่งสาเหตุสำคัญเลย กิ๊กเชื่อว่า มาจากอิทธิพลของ "นมแม่" ค่ะ
นมแม่ มีภูมิต้านทานจริงๆ ทำให้ลูกแข็งแรง

(เคยคุยกับเพื่อนๆนมแม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่ลูกก็ 8-9 เดือนขึ้นทั้งนั้นกว่าจะป่วยครั้งแรก)


แต่อย่างไรก็ดี นมแม่ก็ไม่ใช่ยาวิเศษขนาดนั้น 555
ในที่สุดมิสาก็ป่วยค่ะ


แต่เป็นการป่วยที่ไม่หนักหนาอะไร
และเป็นการป่วยที่เด็กๆมักเป็นกันเกือบทุกคน
นั่นก็คือ มิสาเป็นส่าไข้ค่ะ


กิ๊กเคยอ่านเจอโรคนี้จากในหนังสือ
เค้าว่าเด็ก 7 เดือนขึ้นไปจะเป็น
และมันก็ป้องกันไม่ได้
ก็คิดไว้เหมือนกันว่า สงสัยมิสาคงจะไม่รอด
แต่ก็เห็นผ่าน 7 เดือนแล้ว 8 เดือนแล้ว
ยังไม่เป็นไร ก็เลยลืมเรื่องโรคนี้ไปเลย


แล้ววันนึง (วันศุกร์) อยู่ดีๆ พี่หยี่ก็บอกว่า วันนี้มิสาตัวอุ่นๆ
กิ๊กก็ยังไม่ได้เอะใจอะไรนะ
คิดว่า นิดเดียว คงไม่เป็นไร
ปรากฏ พอตกดึก (น่าจะเที่ยงคืนได้) มิสาร้องตื่นมากินนม
พออุ้มมาไว้บนตัก ก็รู้สึกว่า เฮ้ย ตัวร้อนผิดปกติแล้วอะ
เลยให้พี่หยี่ไปเอาเทอโมมิเตอร์มาวัดไข้(ทางหู)
ปรากฏว่า มันขึ้นเตือนสีแดงเชียว วัดได 37.6 องศา
เลยรีบเอายาลดไข้ให้กิน (เป็นครั้งแรกที่ใช้เลย ใช้ไม่เป็นด้วย)
ซึ่งพอให้ยาลดไข้ ไข้ก็ลดลงเหลือ 37 นิดๆ


เช้ามาวันเสาร์ พอฤทธิ์ยาหมด ก็ตัวร้อนอีก
ก็เลยโทรไปถามรพ. เค้าก็ว่าให้เช็ดตัว ลองดูอาการก่อน
เพราะว่าไข้ยังต่ำๆอยู่
กิ๊กก็เลยคุยกับพี่หยี่ว่า ดูอีก 1 วันแล้วกัน ถ้าไม่ดีขึ้นจะไปหาหมอ


(อยากบอกตรงนี้ว่า เพราะกิ๊กอ่านมาเยอะ ใจนึงก็อยากรีบไปหาหมอนะ
เพราะกลัวแบบว่า กว่าจะถึงมือหมอ ก็สายแล้วอะไรแบบนี้
แต่อีกใจ ก็ยังคิดว่า อาจจะเป็นไม่มาก เป็นแล้วหายเองอะไรแบบนี้
ซึ่งก็เลยไม่อยากเอาลูกไปเสี่ยงติดโรคที่รพ.อีก)


ผ่านไป 1 วัน อาการไข้ของมิสายังเหมือนเดิม
คือ กินยาก็หาย แต่พอฤทธิ์ยาหมด ก็ไข้ขึ้นอีก
จนกินยาครั้งสุดท้าย ตี 2 ของวันเสาร์
แล้วกิ๊กก็ไม่ให้ยาแล้ว เพราะกลัวว่า พอไปถึงหมอ แล้ววัดไข้ไม่ได้ หมอจะไม่เห็นอาการ
ซึ่งต้องบอกว่า เป็นความคิดที่ผิดมหันต์นะคะ
ขอเตือนไว้เป็นอุทาหรณ์เลย


ตอนเช้าวันอาทิตย์ มิสาตัวร้อนมากกก
เพราะกิ๊กไม่ได้ให้ยาแล้ว เตรียมตัวจะพาไปหาหมอ
แต่พอดี พี่สาวพี่หยี่เค้ามาหา เค้าจับตัวมิสาดู แล้วรีบบอกว่า ให้กินยาซะ
เดี๋ยวไข้ขึ้นสูง จะชักได้...กิ๊กก็เลยเอายาให้มิสากิน
กินยาเสร็จ ก็ไปรพ.


พอไปถึงรพ. ยายังไม่ออกฤทธิ์ พยาบาลวัดไข้มิสาได้ 38 องศา
คุณพยาบาลก็ตกใจมากก รีบพามิสาไปอีกห้อง
แล้วก็ทำการเช็ดตัวครั้งใหญ่
เช็ดแบบเช็ดจริงๆ รุนแรงมากๆๆ 555
คือ ตอนแรก เห็น 38 องศานี่ กิ๊กกะพี่หยี่ยังเฉยๆเลยนะ
แต่พอเห็นอาการคุณพยาบาลเช็ดตัวลูกแบบซาดิสมากก
เลยเริ่มรู้สึก(ตัว)ว่า เฮ้ย สงสัยจะไข้สูงจริง แล้วเค้าคงกลัวลูกเราชักอ่ะ
เลยต้องเช็ดๆๆๆๆ นานเลย เพื่อระบายความร้อนอ่ะ
ส่วนมิสาก็ร้องไห้จ้าเลย น่าสงสารมากๆ


พอดีวันที่ไป หมอประจำของมิสา คิวยาวมาก
ก็เลยหาหมอท่านอื่นไป
คุณหมอตรวจดู ก็ไม่พบอาการอื่น
จมูกปกติ ไม่มีน้ำมูก คอก็ยังไม่แดง
สรุปว่ามีแต่ไข้เฉยๆ ก็เลยให้กินยาลดไข้ไปก่อน


วันจันทร์ กิ๊กไปทำงานด้วยความไม่สบายใจนัก

1. เพราะมิสายังไม่หายไข้
ก็กังวลว่า ถ้าไม่ได้เป็นอะไรมาก
ไข้ก็น่าจะเป็นซัก วัน 2 วัน ก็หายได้แล้ว
แต่นี่วันที่ 3 แล้ว ยังไมหายเลย
กลัวจะเป็นโรคอะไรที่รุนแรง

แต่ก็อยากไปทำงานนะ เพราะหยุด 2 วัน ดูแลมิสานี่
เหนื่อยมากกกก 5555
แบบว่า พอไม่สบาย มิสาจะติดแม่มากๆๆๆ
จากปกติก็ติดอยู่แล้วนะ
แต่นี่เป็นลูกลิงเลยอ่ะ
นั่งอยู่ด้วยกันก็ต้องนั่งตัก ต้องอุ้ม ต้องนัวเนียกันตลอดเวลา
แล้วมันก็ใช้พลังงานเยอะมากก 555
เลยแบบ ขอแม่ไปพักผ่อนหน่อยนะลูก 555
ก็เลยทิ้งมิสาไว้กับคุณยายแทน อิอิ


และ 2. คือ weekend ที่จะถึง เรา (กิ๊ก+พี่หยี่+มิสา+คุณยาย) จะไปเที่ยวเชียงใหม่กัน
ก็กังวลว่าจะหายทันมั้ย ถ้าไม่ทันต้อง cancel อะไรตั้งหลายอย่าง
ยังมีกะจิตกะใจนึกถึงเรื่องเที่ยวนะ 555


แล้วคืนวันจันทร์นี่เองที่มิสาเริ่มไข้ลด
พอเช้ามา ก็หายเลย หายแบบงงๆ
กิ๊กก็ค่อยสบายใจ คิดว่าลูกหายแล้ว


สบายใจไปได้ 1 วัน
วันรุ่งขึ้น (วันพุธ) พี่หยี่อาบน้ำมิสาเสร็จ ก็เรียกกิ๊กไปดู
ปรากฏว่า ผื่นขึ้นมิสาเต็มตัวเลย


วินาทีนั้นเอง ที่กิ๊กพึ่งคิดถึง ส่าไข้ 555
คิดว่า เป็นส่าไข้แน่ๆ


แต่ เอ๊ะ อีกใจก็คิดว่า หรือเป็น ไข้เลือดออกฟระ
เพราะพอไข้ลด ก็มีจุดขึ้นเหมือนกัน
แต่ก็ยังนิ่งนอนใจ ไปทำงานตามปกติ
ไปถึงออฟฟิศ ลองหาข้อมูลดู
ดันปรากฏ โรคหัด ขึ้นมาอีกอย่าง
เพราะผื่นของส่าไข้ จะเหมือนกับผื่นหัดมากกว่า
ที่นี้ละครับ ลาครึ่งวัน กลับมารับมิสา(กับคุณยาย)ไปรพ.อีกรอบเลย


พอไปรพ. คุณหมอก็ตรวจว่า เป็นส่าไข้จริงๆ
ค่อยยังชั่ว


เอารูปผื่นส่าไข้ให้ดูเป็นตัวอย่างนะคะ





ปกติผื่นนี่จะขึ้นตามตัวหมดเลยนะ
แต่มิสา เป็นแค่ที่ท้องอ่ะค่ะ ตามแขน ขาไม่ขึ้น
แล้วก็ขึ้นมาวันเดียวแหละ
และมันก็หายไปเอง


ตอนแรกก็กลัวว่า ถ้าผื่นหายไม่ทัน
เดี๋ยวเค้านึกว่าลูกเราเป็นโรคติดต่อไม่ให้ขึ้นเครื่อง 555
(แต่ว่าเรารู้อยู่แล้วไง ว่าเค้าเป็นผื่นส่าไข้ ไม่เป็นอันตรายกับใคร อิอิ)
แต่ว่าโชคดีหน่อยวันเดียวก็หายแล้ว



ขอสรุปอาการของ ส่าไข้ คร่าวๆ เพื่อแม่ๆท่านอื่นนะคะ

ส่าไข้ มักเป็นการไม่สบายครั้งแรกๆของเด็กๆค่ะ
จะเป็นกับเด็กตั้งแต่ 7 เดือน ถึง ขวบครึ่ง
ถ้าเกิน 2 ขวบแล้ว มักไม่เป็นแล้วค่ะ
อาการ คือ มีไข้ติดกัน 3 วัน แต่เป็นไข้ที่กินยาแล้วไข้ลดนะคะ
(ถ้าไข้เลือดออก กินยาแล้วจะไม่ลด)
พอไข้หาย ก็จะมีผื่นขึ้นค่ะ
(จริงๆ ผื่นจะขึ้นวันที่ไข้ลดเลย แต่ของมิสานี่ มาขึ้นอีกวันนึงค่ะ)
แต่ถ้าหัดนี่ จะผื่นขึ้น ทั้งๆที่ยังมีไข้ค่ะ
ผื่นจะขึ้นประมาณ 1-3 วัน ก็จะหายไปเอง
ไม่ต้องทำอะไรค่ะ
แต่อย่าให้ลูกอยู่ในที่ร้อนๆ เพราะถ้าเหงื่อออก อาจจะทำให้ลูกรู้สึกคันได้ค่ะ

ส่าไข้ ไม่ใช่โรคร้ายแรงอะไร และถ้าเป็นจะไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆค่ะ
ตามตำราเค้าว่า ถ้ารู้ว่าเป็นส่าไข้ ไม่ต้องให้กินยาก็ได้ค่ะ
ไข้จะมา 3 วันแล้วลดไปเอง
แต่ในทางปฎิบัติ ให้ยาเถอะค่ะ เพราะถ้าปล่อยให้ไข้สูง
เดี๋ยวเด็กอาจจะชักได้ค่ะ
และคงไม่มีพ่อแม่คนไหนมั่นใจว่าลูกเป็นส่าไข้แน่นอน แล้วไม่ให้กินยาหรอกเนอะ




Create Date : 23 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 7 ธันวาคม 2553 23:15:38 น.
Counter : 2622 Pageviews.

5 comments
  
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีดีนะคะ
เลยไม่เห็นหน้าตา น้องมิสาเลย
คิดถึง
โดย: แม่น้องเก้า IP: 27.55.107.13 วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:1:55:55 น.
  
สวัสดีค่ะ

ขอให้น้องมิสาหายเร็วๆ มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ จะได้ไปเที่ยวกับคุณพ่อคุณแม่ไงคะ
โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 9 ธันวาคม 2553 เวลา:16:10:37 น.
  
ลงรูปน้อยอ่ะพี่กิ๊ก
โดย: อิน IP: 119.46.218.1 วันที่: 17 ธันวาคม 2553 เวลา:16:04:24 น.
  
สวัสดีค่ะ

แวะมาเยี่ยมน้องมิสาค่ะ เป็นอย่างไรบ้างคะ

ปีนี้ขอให้เป็นปีที่ดีๆ นะคะ มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงทั้งครอบครัวค่ะ
โดย: กิ่งลีลาวดี วันที่: 27 มกราคม 2554 เวลา:5:42:31 น.
  


ลูกเพิ่ง7 เดือนพอดี ผ่านมาอ่าน
มีประโยชน์มากค่ะ
โดย: แม่นู๋ผิง IP: 124.121.251.131 วันที่: 21 ตุลาคม 2554 เวลา:9:21:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Beauty & Bambi
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]



ณ 31/1/2023

นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^

บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ


*** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
New Comments