Group Blog
All Blog
|
คุกกี้ & แครอท
งงมั้ยคะว่า คุกกี้ กับ แครอท มาเกี่ยวข้องกันได้ยังไง ??? กิ๊กจะเฉลยให้ฟังค่ะ 555 ก่อนหน้านี้ ช่วงที่มิสา 4-5 เดือน มิสายังยอมนั่งรถเข็นแต่โดยดี โดยต้องมีของเล่นให้เค้าเล่น แต่หลังๆ ช่วง 7-8 เดือนมานี่ ของเล่นเอาไม่อยู่ค่ะ 555 อย่างเวลาไปห้าง เอาลงนั่งรถเข็นได้แป็บๆ ก็งอแง ซึ่งพี่หยี่ก็จะแก้ปัญหาโดยเอามิสาออกมาอุ้ม 555 ช่วงที่เดินเล่น ก็ยังพอเอามาอุ้มได้ แต่ปัญหาใหญ่ คือ เวลากินข้าวนี่สิ เคยแบบว่า ต้องผลัดกันกิน ผลัดกันอุ้มเดิน รู้สึกว่า ไม่ไหวแล้ว ต้องทำอะไรซักอย่าง ให้มิสาสามารถนั่งอยู่เฉยๆ รอจนกว่าพ่อและแม่จะกินเสร็จได้ แล้วก็ได้รับคำแนะนำมาจากพี่สาวพี่หยี่ (ไอ้ตอนหาของเล่นให้เล่น ก็ได้พี่สาวพี่หยี่คนนี้แหละที่แนะนำ อิอิ) ว่าให้หาอะไรให้มิสาแทะเล่นสิ (คือ ของเล่นเค้าไม่เล่นแล้วไง) ก็เลยอยากจะลองดู... ครั้กแรกเลย...พามิสาไปพารากอน แล้วไปนั่งกินข้าวกันที่ ร้านคาเฟ่ ชิลี มิสาก็ไม่ยอมนั่งรถเข็นเช่นเคย ก็เลยเอามานั่งเล่นบนโซฟาด้วย นั่งอยู่เธอก็ปีนป่ายไปมา แล้วก็เริ่มจะเบื่อ แล้วพอดีที่ร้าน ซึ่งเป็นอาหารอีสาน เค้ามีขวดแก้วใส่พวกผักสด 555 หนึ่งในผักทั้งหมด ก็มีแครอทอยู่ด้วย กิ๊กเลยได้โอกาส ลองเอาแครอทมาให้มิสาแทะเล่นซะเลย แล้วก็ได้ผลด้วยนะ 555  ++ อย่างเพลินเลย นั่งชิวมาก ++ มิสาก็ชอบเลยนะ นั่งแทะอยู่นั่นแหละ อย่างชิวเลย นั่งอ้าซ่า พิงพนักเค้าอย่างดี เหมือนนอนอยู่บ้าน 555 พอจะกลับ ก็เลยขอให้พนักงานเค้าเอาแครอทมาให้อีก 2-3 อัน เก็บไว้ให้เค้ากินระหว่างเดินเล่น ก็พอได้ผลอยู่บ้าง  แต่หลังๆ ก็ไม่เอาหรอกนะ เขวี้ยงทิ้งหมด  แต่ก็หยวนๆ ถือว่า ช่วยชีวิตไว้ได้นานอยู่ 555 ซึ่งแครอทนี้ กิ๊กก็ยังได้ใช้อีกหลายๆครั้งถัดมา เพราะสามารถขอจากร้านอาหารได้ง่ายๆ อิอิ    สำหรับอาหารอีกอย่าง ที่สามารถช่วยประวิงเวลาการงอแงของมิสาได้ ก็คือ เจ้าคุ๊กกี้ตัวนี้ค่ะ  พี่สาวพี่หยี่ซื้อมาฝากจากฮ่องกง (เมืองไทยไม่น่าจะมีขาย) จริงๆคุณหมอบอกว่า ไม่ให้เด็ก (ก่อน 2 ขวบ) กินขนมเลยนะคะ แต่ว่า อันนี้กิ๊กกับพี่หยี่ขอฝ่าฝืนเล็กน้อย (เพื่อช่วยชีวิตเรา 555) แต่ก็กะไว้ว่า จะให้เค้าทานเฉพาะไว้ฆ่าเวลาให้มิสามีอะไรทำ คราวนี้ เราได้ใช้งานเจ้าคุกกี้ตัวนี้ครั้งแรก ตอนไปทานข้าวที่ ร้านชินทาโร่ ที่รร.โฟร์ซีซั่น  ซึ่งตัวนี้คิดว่าได้ผลดีกว่าแครอทอีก แต่ข้อเสียคือ พอมันยุ่ยๆ ก็กลัวว่ามันจะหักเป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้วติดคอมิสา กับอีกอย่างคือ กินทีนึง เสื้อผ้าจะเลอะเทอะมากกก 5555  มื้อนั้นก็พอผ่านไปได้ด้วยดี ทานเสร็จ ก็ออกมาถ่ายรูปเล่นนิดนึง (ระหว่างรอรถ)  ก็เป็นอันว่า ยังคงต้องใช้บริการของ 2 ตัวช่วยนี้ไปอีกซักพัก จนกว่ามิสาจะคุ้นชินกับการต้องนั่งรถเข็นได้เองนานๆ (ซึ่งไม่รู้เมื่อไร่ เหอ เหอ) ใครที่ลูกร้องเวลานั่งรถเข็นนานๆ จะลองดูบ้างก็ได้นะคะ  ไม่ได้กลัววัวหาย...แต่อยากล้อมคอก (เด็ก 8 เดือน)
กิ๊กก็คิดว่า ถึงเวลาแล้วล่ะ ที่จะต้องหาคอกกั้นให้มิสา เพราะ ลำพังให้คุณยายมาตามจับมิสาตลอดเวลา ก็คงจะไม่ไหว ในที่สุด ก็เลยสั่งเค้าทำคอกกั้นเด็กจากท่อพีวีซี(สีขาว) ขนาดเท่ากับแผ่นรองคลาน (2*1.6 m) อันที่จริง กิ๊กก็บอกกับพี่หยี่มาซักพักแล้วเหมือนกันว่าบ้านเราต้องมีคอกให้มิสา เพราะว่าคุณแม่แก่แล้ว ตามจับไม่ไหว บ้านเราไม่ได้มีพี่เลี้ยงเด็กที่จะมาตามมิสาได้ตลอด แต่พี่หยี่ก็รีๆรอๆอะไรก็ไม่รู้ จนในที่สุด มิสาคลานคล่องมาก แล้วเวลาตามจับ ก็เหนื่อยมากกกจริงๆ พี่หยี่ก็เลยโทรไปสั่งเค้าทำซะที  ++ บ้านใหม่ของมิสา ++ ตัดสินใจอยู่ระหว่างคอกที่ทำจากไม้ และทำจากท่อพีวีซี หาข้อดีข้อเสีย...แล้วก็สรุปได้ว่า เอาท่อพีวีซีนี่แหละ ข้อดีคือ ราคาไม่แพง + เวลาลูกล้มไปกระแทกจะไม่เจ็บเท่าไม้ ทั้งยังทำความสะอาดง่าย (เก็บได้นาน ไม่ขึ้นรา - แต่เราคงไม่ได้กะเก็บนานขนาดนั้น 555) แต่ข้อเสีย ก็คือ มันดูไม่สวย ไฮโซ เท่ากับ คอกไม้ (ซึ่งข้อดีของคอกไม้ ก็คือ สวย ทนทาน แต่ข้อเสีย ก็คือ แพง !!! 555) ตอนที่จับมิสาใส่เข้าไปในคอกครั้งแรก ก็กลัวเค้าจะร้องเหมือนกันนะ แบบว่าถูกกักบริเวณอะไรแบบนี้ เพราะเค้าเคยคลานไปมาได้อิสระ แต่มิสาก็ไม่ร้อง ไม่ได้รู้สึกอะไรเลยด้วยซ้ำมั๊ง 555 เพราะคอกใหญ่ แล้วเราก็ลงไปนั่งเล่นกับเค้าด้วย   ซึ่งประโยชน์ของคอกกั้น นอกจากจะผ่อนแรงพ่อแม่(และยาย)แล้ว ยังสามารถเอาไว้ให้เค้าหัดเกาะยืน + เกาะเดินได้ด้วย  ซึ่งตอนนี้ มิสาก็ชอบเกาะยืนมากๆๆ แล้วเวลาเค้าเล่นอยู่ข้างใน แล้วกิ๊กอยู่ข้างนอก เค้าก็จะมาเกาะคอกนั่นแหละ แล้วก็ร้องๆๆๆ (บางทีก็มีกวักมือ) จะหาแม่ 555  so far..ก็ยังนับว่าคอกนี้มีประโยชน์อยู่มาก แต่ข้อเสียที่เริ่มมองเห็นนิดๆคือ ถ้ามิสาตัวโตกว่านี้ แล้วเค้าขย่มคอก คอกก็อาจจะเอาไม่อยู่ได้ เพราะมันเหมือนไม่ค่อยแข็งแรงอยู่เหมือนกัน ก็ต้องดูกันต่อไปว่าจะเป็นยังไง ฝากไว้กับรูปสุดท้ายของมิสา อิอิ ของเล่นชิ้นเดิม Ocean wonder play mat ที่สามารถแปลงร่างเป็นอุโมงค์ได้ มิสาชอบเล่นมากๆ ชอบมุดเข้ามุดออก กลายเป็นของเล่นโปรดไป (จริงๆ ของเล่นชิ้นนี้ที่อเมริกาเค้าเรียกเก็บไปแล้วนะ แต่ว่า กิ๊กเห็นว่า พอเอามาแปลงเป็นอุโมงค์ มันก็ไม่ได้มีความเสี่ยงอันตรายอะไร ก็เลยยังให้มิสาเล่นต่อ)  พบคุณหมอ....ครบ 8 เดือน ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009 เข็มที่ 2 (6/9/10)
(หมายถึง วัคซีนพื้นฐาน) แต่มิสาต้องฉีดไอพีดี กับ ไข้หวัดใหญ่ (ซึ่งมี 2 เข็ม คราวนี้เป็นเข็มที่ 2 แล้ว) ก็เลยมาหาหมอมันทุกเดือน ก็ไม่อยากเอาลูกมารพ.บ่อยๆนะ แต่ก็...ถือว่ามาหาคุณหมอ ถามเรื่องนู่นนี้ไปด้วย หยวนๆ  นน.ของมิสาเดือนนี้ก็ขึ้นน้อยอีกเช่นเคย (น้อยเป็นปกติ 555) ตอนแรกวัดมาจากบ้านได้ 7 กก. ดีใจกันใหญ่  เพราะเท่ากับขึ้นมาเกือบ 400 กรัม แต่พอเจอเครื่องชั่งดิจิตอลของรพ. ชั่งได้แค่ 6,920 กรัม แม่มันเลยจ๋อยสนิท เท่ากับขึ้นมาแค่ 300 กรัมเหมียนเดิม...เฮ้อออส่วนส่วนสูง เดือนที่แล้วอุตส่าห์ดีใจ ขึ้นมา 2.5 cm เป็น 66 cm ปรากฏ เดือนนี้ ขึ้นมาเซ็นต์เดียว เป็น 67 cm ...แปร่วเลย พี่หยี่ปลอบใจว่า ดูจากวิธีการวัดส่วนสูงของรพ.แล้ว มีโอกาสผิดพลาดเป็นเซ็นต์ๆเลย เพราะบางทีลูกอาจจะยืดขาไม่ตรง คั่นเวลาด้วยรูป... รูปนี้ พี่หยี่ถ่ายกิ๊กหัวขาดไปหน่อย ถามว่า ทำไมถ่ายเราหัวขาด พี่หยี่บอกว่า ... ก็ถ่ายมิสาอ่ะ แปร่วเลยเรา   ตอนฉีดวัคซีน ก็ไม่มีอะไรมาก มิสาร้องไห้จ้าเช่นเดิม แต่พอแม่อุ้ม ก็หยุด ได้โอกาสถามคุณหมอเรื่องลูกตื่นกลางดึก ว่าเป็นเพราะหิวนม หรือ พฤติกรรมเด็กเอง ก็ยังได้คำตอบไม่เคลียร์เท่าไร่ คุณหมอบอกว่า นมวันละ 8 ออนซ์ (ข้าว 1 มื้อ ผลไม้ 1 มื้อ) น่าจะพอ แต่ว่า เด็กแต่ละคนก็ไม่เหมือนกันอยู่ดี  ถามคุณหมอเรื่องท้องผูกเพราะกินอะไร คุณหมอบอกว่า มีอาหาร 5 อย่าง ที่อาจจะทำให้ท้องผูกได้ แต่พ่อแม่ต้องไป observe เอาเองว่าลูกเรา sensitive กับอะไร 5 อย่างที่ว่า ได้แก่... กล้วย, ไข่, ตับ, แครอท, ฟักทอง สำหรับมิสา กิ๊กตัดแครอทกับฟักทองทิ้งเลย เพราะกินมาแต่แรก ท้องก็ไม่ได้ผูกอะไร แต่ถ้าโดนกล้วย กับไข่ นี่ก็ 2 เด้งเลย เพราะให้มิสากินทั้งคู่ ทุกวันด้วย ก็ต้องให้ลองกินทีละอย่างดู (สุดท้าย ลองแล้ว ก็คิดว่าอันดับแรกเลยคือ กล้วย รองลงมาคือ ไข่)  ส่วนผลไม้ที่จะช่วยทำให้หายท้องผูกได้ มี 5 ชนิดเหมือนกัน ได้แก่ มะละกอ, แก้วมังกร, พรุน, ส้ม, องุ่น สำหรับมิสาตอนนี้ ก็เลยให้กินแก้วมังกรอย่างเดียวเลย 555 กินง่าย ขูดๆเนื้อเอาก็ได้แล้ว ส่วนเม็ดดำๆ ก็ช่างมัน ให้กินไปแหละ ถามคุณหมอแล้ว หมอว่าไม่เป็นไร แล้วสุดท้าย ก็ถ่ายออกมาเป็นเม็ดๆเลย แต่ว่าได้ผลดีมากๆๆๆๆ  ฉีดวัคซีนกลับมาคราวนี้ มิสาก็ยังคงแข็งแรง ไม่เป็นไข้อีกเช่นเคย (ยังไม่เคยเป็นไข้เลยซักครั้ง ตั้งแต่ฉีดวัคซีนมา) เดือนหน้า 9 เดือน..ก็ต้องมาหาคุณหมออีก (แม่มันลางานทุกเดือน 555) คราวนี้ต้องฉีดวัคซีน คางทูม หัด หัดเยอรมัน หวังว่ามิสาก็จะแข็งแรง ไม่เป็นไข้อีกนะลูก... มิสา 7 เดือน...คลาน + เกาะยืนได้แล้วจ้า
เราก็ต้องมาอัพเดทพัฒนาการรวมๆของมิสาในช่วง 7-8 เดือนกันหน่อยนะคะ เริ่มด้วย พัฒนาการที่น่าชื่นใจมากๆ  คลานๆๆๆ....คลานรอบบ้าน เนื่องจากที่บ้านกิ๊ก ไม่มีใครได้ศึกษาว่าเด็กจะคลานได้ตอนกี่เดือน พวกเราเลยไม่รู้สึกกดดันว่า ทำไมมิสาถึงยังไม่คลาน 555 แล้วก็ไม่ได้ลุ้น ไม่ได้รออะไรกันมากมาย (ไม่เหมือนตอนพลิกคว่ำ ที่ลุ้นกันนานเหลือเกิน) เพราะงั้น พอเย็นวันนึงที่กิ๊กกลับมาถึงบ้าน แล้วคุณแม่บอกว่า มิสาคลานได้แล้วนะ กิ๊กเลยรู้สึกเหมือน surprise + ดีใจมากๆ  มิสาคลานได้นิดๆ คือ แค่เข่าซ้าย เข่าขวา ตอน 7 เดือน 9 วัน (วันที่ 14 สิงหา 53) (แต่ก่อนหน้านั้นก็มีกระดึ๊บๆ ได้บ้าง) แล้วก็ไม่ค่อยชอบคลานอะไรนะ แต่หลังจากนั้น 2 วัน มิสาก็คลานได้แบบยาวๆเลย (7 เดือน 11 วัน) และ...หลังจากนั้น ก็คลานเยอะมากกกก 555 คลานตลอด ไม่อยู่สุขเลย.. คลานรอบบ้าน...จนทุกคนที่เลี้ยงเหนื่อยไปหมด 555 คือ กิ๊กสังเกตุพฤติกรรมลูกตัวเองนะ รู้สึกว่า เวลาที่เค้าทำอะไรได้ครั้งแรกอ่ะ เค้าจะแบบไม่ค่อยชอบทำเท่าไร่ จนกระทั่ง พอเค้าทำได้ เค้าก็จะทำได้คล่องเลย คือ จากไม่ค่อยทำ พอทำเป็นก็จะทำบ่อยๆๆๆๆจนเรางง เช่น เรื่องพลิกคว่ำ...ตอนแรกที่ทำได้ ก็ไม่ค่อยคว่ำนะ นานๆคว่ำที คือ ลุ้นเหลือเกิน ...คว่ำสิลูก คว่ำสิลูก แต่พอถึงช่วงนึงทึ่เค้าทำคล่องเท่านั้นแหละ ก็คว่ำๆๆๆๆตลอดเลย คือ มันไม่มีช่วงแบบ ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ค่อยๆเป็น...แล้วก็คล่องขึ้นเรื่อยๆ แต่มันจะเป็นว่า... ทำครั้งแรก --> ผ่านไปช่วงนึง --> ทำได้คล่องเลย (งงกันมั้ยเนี่ย 555)  เกาะยืน หลังจากคลานได้ไม่นาน มิสาก็เกาะยืนได้ในเวลาใกล้ๆกันค่ะ เริ่มแรกก็ต้องมีช่วยๆจับกันบ้าง ครั้งแรกคือ วันที่ 23 สิงหา 2553 แต่มาเกาะยืนได้ด้วยตัวเองจริงๆ ก็คือ 28 สิงหา (7 เดือน 3 สัปดาห์) แล้วก็เหมือนเดิม คือ พอเห็นอะไรให้เกาะได้ เธอก็จะเกาะเสียหมด ชอบเกาะยืนมากๆ 555 รูปยังไม่มีนะคะ เพราะ ตอนเกาะยืนได้แรก กิ๊กต้องคอยประคองอยู่ข้างๆ (ไม่โดนตัว) เลยไม่สามารถหยิบกล้องมาถ่ายได้ เหอ เหอ  โผเข้าหา....ยามอยากได้ที่พึ่ง อันที่จริง อันนี้มิสาทำเป็นตอนก่อน 7 เดือน ได้ 2 วันล่ะ ซึ่งก่อนหน้านั้น กิ๊กก็เห็นมิสาทำท่ากางแขน เหมือนให้อุ้มๆ แต่กิ๊กก้ไม่รู้เหมือนกันว่า มันเป็นพัฒนาการอะไรรึป่าว แล้วตอนหลังกิ๊กไปอ่านเจอในหนังสือ เค้าบอกว่า เด็ก 7 เดือน จะรู้จักโผเข้าหา โผให้อุ้ม ก็ อ๋อ ! มันเป็นพัฒนาการอย่างนึง ซึ่งมิสา ก็ตรงตามตำราดีวุ้ย 555 เหตุการณ์ที่เห็นจะๆ และที่กิ๊กนับว่าเป็นการโผเข้าหาก็คือ คุณตาเอามิสาไปอุ้ม...แล้วกับคุณตาเนี่ย เป็นอะไรที่มิสาไม่เอาเลยยย ไม่ให้ตาอุ้มเลย เห็นหน้าตาก็จะร้องไห้  แล้ววันนั้น คุณตาเค้าอุ้มไปนั่งตักอย่างดี พอพี่หยี่เดินมาคุยด้วยเท่านั้นแหละ มิสากางแขนออก แบบขอให้พ่ออุ้มเลยอ่ะ เลยรู้เลยว่า เออ เค้าหนีคุณตานะ 5555 ซึ่งอย่างที่บอก ก่อนหน้านั้น มิสาก็ทำเป็นแล้ว ไอ้ท่าโผเข้าหาเนี่ย แต่ว่า กิ๊กดูไม่ออก...กิ๊กนึกว่า เค้าให้อุ้มเฉยๆ (ก็มิสาติดอุ้มอยู่แล้วนิ อิอิ) แต่พอคราวของคุณตาเนี่ย เห็นชัดๆ ว่าเค้าต้องการไปจากคุณตา โดยการโผเข้าหาคุณพ่อ ให้พ่ออุ้ม  ++ สายเดี่ยวเชอร์รี่...เซ๊ะซี่มั้ยคร๊า ++ ซึ่งเรื่องการโผนี่ มิสาจะทำบ่อยๆกับกิ๊ก เวลาที่อยู่กับคนอื่น เช่น พี่เลี้ยง หรือ คุณแม่ พอกิ๊กเดินเข้ามา เค้าก็จะอ้าแขน แบบว่า ให้กิ๊กอุ้ม อิอิ น่ารักมากกก  เห็นแล้วก็อดไม่ได้ ต้องเข้าไปอุ้มทำทีสิน่า... พัฒนาการถดถอยย...ตื่นกลางดึก มีสิ่งที่ทำให้แม่ปลื้มใจแล้ว...มันก็ต้องมีสิ่งที่ทำให้แม่กลุ้มใจบ้าง 5555 เข้าสู่เดือนที่ 7 นี้ ...กิ๊กคงต้องยอมรับจริงๆแล้วว่า มิสาตื่นกลางดึกค่ะ หลังจากที่หลอกตัวเองมาซักพักว่า แค่อาจจะบางคืน 555 (หลัง 6 เดือน นอนยาวครั้งสุดท้ายตอนไปเที่ยวภูเก็ต 24-27 ก.ค.) ทั้งๆที่มิสาเป็นเด็กนอนยาวมาตลอด เริ่มนอนยาวตั้งแต่ 2 เดือนกว่า ไม่เคยทำให้พ่อแม่ต้องเดือดร้อนกลางดึก จนกระทั่ง 6 เดือน ก็เริ่มๆมีบางคืนตื่น บางคืนไม่ตื่น แต่พอ 7 เดือนปุ๊บ ก็ตื่นตลอด คืนนึงจะตื่น 2 ครั้ง ประมาณ 5 ทุ่ม - เที่ยงคืน และ ตี 3- ตี 4 (เข้านอน 2 ทุ่ม ตื่น 6 โมงเช้า) เวลาตื่น ก็จะร้อง แล้วกิ๊กก็จะให้ดูดนม(เต้า) ซึ่งยังโชคดีอยู่บ้าง เพราะมิสาตื่นมาดูดนมเสร็จ ก็หลับต่อได้เลย ไม่ได้งอแง หรือว่ามาเล่นคึกคักกลางดึก กิ๊กก็เลยสามารถให้นมเสร็จ ก็กลับไปหลับได้อย่างง่ายดาย (ง่ายกว่าตอนที่มิสาหลับยาว แล้วกิ๊กต้องตื่นมาปั๊มนมอีก ถ้าอย่างงั้น กลับมานอนจะนอนไม่หลับ เพราะมันถูกปลุกให้ตื่นซะแล้ว --> กิ๊กนะ) แล้วก็เลิกปั๊มนมรอบดึกไปด้วย เพราะแค่นี้ก็ตื่นทุก 3 ชม.อยู่แล้ว แต่ถึงกิ๊กจะหลับได้ง่าย แต่ก็ยังไม่สามารถตื่นเช้าได้ 555 เพราะรู้สึกเหมือนนอนไม่พอ  เพราะงั้น รอบเช้า 6 โมง...พอมิสาตื่น พี่หยี่ก็ต้องตื่นมารับช่วงตรงนี้ก่อน กิ๊กก็จะได้งีบต่อนิดหน่อยถึง 7 โมง อิอิ ซึ่งพฤติกรรมตื่นกลางดึกนี้ ทำเอากิ๊กกลุ้มมากมาย ที่กลุ้ม ไม่ได้กลุ้มว่า ตัวเองต้องตื่นหรอกนะ แต่คิดว่า เป็นเพราะอะไรมิสาถึงตื่น กินนมกลางวันไม่พอรึป่าว หรือ ว่าเป็นพฤติกรรมของเค้าเอง คือ พอตื่นขึ้นมา ต้องให้ดูดเต้า (ติดเต้า) คือ ถ้าเกิดเป็นเพราะกินนมไม่พอเนี่ย กิ๊กยินดีจะตื่นเลยนะ (เพราะอยากให้มิสากินนมเยอะๆอยู่แล้ว) แต่ถ้าเป็นอย่างหลัง นี่ก็กลุ้มเอาการ เพราะอยากฝึกเค้าอ่ะ ไม่อยากให้เป็นนิสัยตื่นกลางดึกไปจนโต (แต่ก็ต้องทนกับเสียงร้องหฤโหดของลูกให้ได้) ไปโพสต์ถามในเน็ต ก็ว่าเป็นพฤติกรรม ถามหมอ หมอก็ว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับนมไม่พอ แต่ถ้าเอาความรู้สึกกิ๊กเอง กิ๊กค่อนข้างมั่นใจว่า เป็นเพราะกินนมไม่พอ เพราะมิสากินนมน้อยมากตอนกลางวัน ซึ่งที่มาเป็นหลัง 6 เดือนเนี่ย เพราะว่าเริ่มอาหารเสริมไง แล้วพอกินอาหารเสริม มิสาก็กินนมน้อยมาก วันนึง 8 ออนซ์ได้ (2 ขวด) แล้วกิ๊กสังเกตุการดูดของเค้าตอนกลางคืน เค้าจะดูดนานมาก และดูดแรงด้วย เหมือนว่าหิวจริงๆ...ไม่ใช่แค่จุ๊บๆแล้วหลับ ก็เลยไม่รู้จะทำไง ไม่รู้จะฝึกยังไงเลย เพราะจะยัดนมตอนกลางวันเพิ่ม ก็ไม่สามารถจริงๆ (ชีไม่กินเลย ติดเล่นด้วย) ก็คงต้องปล่อยแบบนี้ไปก่อน ได้แต่หวังงว่า มิสาจะกลับมานอนยาวได้เหมือนเดิมในเร็ววันนะจ๊ะ ปิดท้าย 7 เดือนด้วยรูปนี้ดีกว่า เห็นความแตกต่างดี อิอิ  Second time to be (temporary) single mom (28-29/8/10)
พี่หยี่หนีไปทำธุระที่สิงคโปร์ 2 วัน (เสาร์-อาทิตย์) เป็นเหตุทำให้กิ๊กต้องเลี้ยงเดี่ยวอีกแล้วว เฮ้ออ... แต่คราวนี้ เนื่องจากมิสาคลานได้แล้ว (มิสาคลานได้ตอน 7 เดือน 10 วัน) ก็พอรู้แล้วล่ะ ว่าต้องเหนื่อยกว่าแน่นอน เตรียมตัวคลานรอบบ้านไว้แล้ว 555 แต่ก็ยังคิดว่า ไม่น่ากลัวเท่าไร่ เพราะปกติมิสาก็ไม่งอแง ถ้าจะให้นอน ก็เอาเต้ายัดอย่างเดียว 555 แต่ในที่สุด.. คราวนี้ ก็ไม่ชิวเหมือนคราวนั้นจริงๆด้วย 555 เพราะนอกจากมิสาจะคลานได้แล้ว คลานรอบบ้าน คลานทั้งวัน มิสาก็ยังติดเล่นมากๆๆๆอ่ะ กิ๊กเอานอนไม่ได้เลย เต้านี่ก็เอาไม่อยู่... ดูดแป๊บๆ ก็ลุกไปเล่นอีกล่ะ เอานั่งบนตักก็ปีนป่ายอะไรไปเรื่อยเปื่อย เอานั่งกับพื้นก็คลานลูกเดียว เหอ เหอ กินข้าวเช้าเสร็จ ก็จับลูกแต่งตัวสวย (เป็นชุดอยู่บ้าน อิอิ)  จริงๆจะใส่คาดผมให้ด้วย แต่เดี๋ยวนี้ มิสาไม่ชอบใส่คาดผมเลยอ่ะ รู้เรื่องขึ้นเยอะ พอมีอะไรมารัดหัวหน่อย ก็จับดึงออกทู๊กที ดึงออกไม่พอ ยังเอามากินอีกตะหาก เสียของหมด..  ปกติ มิสาจะนอนรอบเช้า 9 โมง (ตื่น 6 โมงเช้า) นอนแค่ประมาณ 30 นาทีแค่นั้นแหละ แล้วอีกที ก็อาจจะ 11 โมง - เที่ยง แล้วแต่ (ก็ครั้งละครึ่งชม.เช่นเคย 55) พอกินข้าวเช้าเสร็จ ... 9 โมง กิ๊กก็เตรียมเอามิสานอน แต่คุณเธอไม่นอนเลยย ปลุกปล้ำกันอยู่บนที่นอนนั่นแหละ คือ ดูก็รู้ว่า ง่วงนะ แต่ก็ไม่ยอมนอน ติดจะเล่นท่าเดียว  ++ สภาพเด็กคึก ไม่ยอมนอน ++ จนกิ๊กทนไม่ไหว โทรไปฟ้องคุณแม่ ว่ามิสาไม่ยอมนอนเลย จริงๆคือ กิ๊กเอาลูกนอนไม่ได้ 555 เพราะไม่มีวิธีอื่นนอกจากเต้าไง พอลูกไม่เอาเต้า เลยทำอะไรไม่เป็นซะงั้น คุณแม่ก็บอกวิธีมา ให้เปิดเพลง ให้นอนบนหมอน ฯลฯ สารพัดวิธี ก็เอาไม่อยู่ ก็ปลุกปล้ำกันไป ถึงประมาณ 11 โมงครึ่ง มิสาก็เริ่มงอแง ก็รู้ล่ะว่า ง่วงเต็มที เลยเอาเต้ายัดอีกที (อัดให้ได้ 555) สุดท้าย มิสาก็มีสภาพเยี่ยงนี้  ++ สภาพเด็กหมดพลัง ถึงได้สลบเหมือด ++ แต่ถึงนอนก็นอนไม่นานอยู่ดี ครึ่งชม. ชีก็ตื่นมาซ่าส์ได้เหมือนเดิม นมก็ไม่ค่อยกิน เหอ เหอ ซ่าส์นัก...แม่มันเลยจับลูกแต่งตัวเต็มยศ ถ่ายรูปซะเรยย    จากนั้นตลอดบ่าย ก็ปลุกปล้ำกันไปเหมือนเดิม นมก็ไม่ค่อยกิน นอนก็ไม่นอน เปลี่ยนที่เลี้ยงไปเรื่อย เข้าห้องบ้าง (มีฟูกนอนของมิสา เพราะงั้นล้มได้ ไม่เจ็บ ไม่ต้องคอยจับตัว 555) ใส่ around we go บ้าง นั่งอุ้มบ้าง (แต่แบบนี้ก็เหนื่อยอยู่ดี เพราะปีนป่ายโน่นนี่ตลอด) วางพื่นให้นั่งเล่น ซึ่งก็ไม่ค่อยนั่งหรอก คลานตลอด อิแม่ก็ต้องคลานตามจนเข่าด้าน สรุปว่า เหนื่อยมากกกก ไม่ชิวเลยยยย ^^"  พอตกเย็น ถอดกระโปรงเตรียมเปลี่ยนชุดนอน แต่เผอิญมิสาได้ของเล่นใหม่ (จริงๆ คือ ซื้อมาแล้วแม่มันเก็บลืม 555) เป็นขวดนมจิ๋ว อยู่ดีๆ ชีก็ติดอกติดใจ นั่งดูดอยู่เฉยๆได้เป็นเกือบครึ่งชม. เฮ้ออ...ทำไมเพิ่งมาเจอขวดนมนี่ตอนเย็นนะ (วะ)  เลี้ยงมิสาแค่วันเดียว กิ๊กถึงกับหมดพลัง 555 โทรหาคุณแม่ไม่รู้กี่รอบ สุดท้าย คุณแม่ ก็เลยกลับมาคอนโดวันเสาร์เย็นเลย 555 (ปกติมาอาทิตย์เย็น) อยู่ค้างคืนด้วย และเตรียมตัว ช่วยเลี้ยงวันอาทิตย์เต็มวัน อิอิ แถมด้วย น้ากลอย ก็ถูกหลอกให้มาค้างด้วยกัน เพราะแม่มันมีแผนในใจว่า อยากไป K-village ซักครั้งนึง เลยต้องระดมพลมาช่วยเลี้ยงมิสากันเยอะๆหน่อย 555 วันอาทิตย์ เลยได้ไป K Village สมใจ อิอิ รูปเด็กลั๊นลา เตรียมตัวไปเที่ยว  ++ ชอบกัดนักเชียว รองเท้าเนี่ย ++ ไปถึง K-village ...จริงๆ ก็มีร้านน่ากินหลายร้าน แต่ต้องเลือกที่ทำเลเหมาะๆ เพราะเรามีเด็กด้วย ต้องมีที่พอจะเอารถเข็นเข้าได้ และคนไม่เยอะ ไม่พลุกพล่านจนเกินไป ก็มาลงตัวที่ร้าน T House เป็นร้านอาหารเวียตนาม ตกแต่งร้านได้สวยมาก แต่ราคาก็อาหารก็แพงมากก (แต่รสชาดธรรมดามากก 555)  กินเสร็จ ก็เดินเล่น จนมิสาหลับ ก็ไปนั่งกิน ชา กับ toast กันต่อ ที่ร้าน Tom n Toms (เขียนงี้ป่าวไม่รู้ จำไม่ได้) มิสาหลับตลอดงาน ทั้งๆที่ในร้านคุยกันเสียงดังมากก แต่ชีก็ไม่ตื่นเลย อยากบอกว่า Honey toast ร้านนี้อร่อยมากๆๆๆ อยากไปกินอีกอ่ะ ปิดท้ายบล๊อค ด้วยรูป toast ดีกว่า 555 (เอ๊ะ ได้ข่าวว่าบล๊อคของมิสา ไม่ใช่รีวิวอาหาร)  |
Beauty & Bambi
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?] ณ 31/1/2023 นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^ บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ *** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
Friends Blog
Link |
