Group Blog
All Blog
|
อบรมคุณแม่มือใหม่ที่รพ. BNH (12/9/09)
อายุครรภ์ของกิ๊กก็ปาไป 5 เดือนกว่าๆแล้ว (โชคดีที่ไปอบรมที่ BH มาแล้ว) จริงๆจะไม่ไปก็ได้ เพราะก็อบรมมาแล้ว และก็มีศึกษาเพิ่มเติมจากหนังสือต่างๆ แต่ก็เอาซะหน่อย เพราะกิ๊กคลอดที่นี่อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นก็จะอบรมฟรี 555 แต่ถ้าไม่ได้คลอดที่นี่ ค่าอบรมทั้ง 2 ครั้ง (มือใหม่ + ก่อนคลอด) ตั้ง 3,000 บ.แน่ะ แพงกว่าที่ BH เยอะมากๆเลยอ่ะ แต่บอกตามตรงว่า ไม่ค่อยประทับใจการอบรมที่ BNH เท่าไร่ คือ คลาสนี้เป็นคลาสของคุณแม่มือใหม่ แต่พอมาถึงปุ๊บ ก็เป็นการบรรยายของหมอสุธีรา เรื่องการให้นมแม่ ก็งงว่า จริงๆ คุณแม่มือใหม่ เค้าน่าจะได้ความรู้เรื่องการเตรียมตัว การทานอาหารที่มีประโยชน์ การเปลี่ยนแปลงอะไรต่าง ฯลฯ ไม่ใช่เหรอ แต่นี่นมแม่ล้วนๆ แล้วแบบบางคน ท้อง 2 เดือน 3 เดือน เค้าจะเตรียมตัวถูกเหรอ และการบรรยาย ก็นั่งเป็นเหมือนห้องเรียน มันก็เลยน่าเบื่อมากๆ สถานที่ของ BNH เล็กกว่า BH เยอะด้วยอ่ะค่ะ พวก sponsor อะไรก็ไม่ค่อยมี ไม่ค่อยมีของมาแจกเหมือนที่ BH 5555 พอพักครึ่ง ก็ให้ sponsor มานั่งบรรยาย เจ้าละ 10 นาที จนกิ๊กเกือบจะหนีกลับอยู่แล้วเพราะขี้เกียจฟังอ่ะ (ที่ BH ไม่มีแบบนี้ มีแต่ตั้งบูธอยู่นอกห้องบรรยาย) แต่ก็ไม่ได้กลับ เพราะอยากรู้ว่าจะมี sponsor มาบรรยายจนจบเลยมั้ย (เสียเวลามากๆ แต่ก็ฟังไป) พอครึ่งหลัง ดีหน่อย เพราะมีคุณพยาบาลมาบรรยาย เรื่องการเปลี่ยนแปลงระหว่างตั้งครรภ์ ก็ครอบคลุมตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ไปจนถึง 10 เดือนคลอดกันเลยทีเดียว ได้ประโยชน์มากๆ แล้วคุณพยาบาลที่มาบรรยาย เหมือนเป็นผู้เชียวชาญอ่ะ เค้าก็พูดได้ดี เฮฮา ไม่น่าเบื่อ แต่เนื่องจากเนื้อหาจริงๆมันเยอะ (จริงๆน่าจะบรรยายเรื่องนี้ล้วนๆไปเลย 3 ชม.) คุณพยาบาลก็เร่งใหญ่ เพราะต้องให้จบภายในเที่ยง ในที่สุดก็สำเร็จ เลยเที่ยงไปนิดหน่อย ก็จบ class สรุป ไม่ค่อยประทับใจเท่าไร่ อาจจะเป็นเพราะไปของ BH มา แล้วก็ชอบมากกว่า ได้ประโยชน์สำหรับคุณแม่มือใหม่ๆจริงๆมากกว่า ไว้รอลุ้นว่า คอร์สอบรมก่อนคลอดจะเป็นยังไงดีกว่า เหอ เหอ ฝากครรภ์ครั้งที่ 4 (4/9/09)
น้ำหนัก : 50.4 กก.
อายุครรภ์ : 21 week ไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มเติม เพราะไม่ได้อัลตราซาวด์ เนื่องจากซาวด์ไปแล้ว เมื่อตอน 2 อาทิตย์ที่แล้ว และหมอก็ฟังเสียงหัวใจลูกได้ชัด ปกติดี ลูกไม่เล่นซ่อนแอบกับหมอแล้ว 555 แล้วก็ไม่ต้องตรวจเลือด เจาะเลือด ฉีดยาอะไรอีก กิ๊กก็แข็งแรงดี ทุกอย่างปกติ และยังได้รับคำชมจากคุณหมออีกด้วยว่า นน. perfect มากๆ คือ 5 เดือน นน.ขึ้นมา 5 โล ตอนแรกเป็นกังวล กลัวว่าจะน้อยไปรึป่าว เพราะเหมือนขึ้นเดือนละ 1 โลเอง ทั้งๆที่ก็กินอิ่มสุดๆทุกมื้อแล้วนะ 555 คือจะให้เพิ่มนน.โดยกินเยอะกว่านี้ ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว เหอ เหอ แต่คุณหมอบอกว่า ดีแล้ว ขอให้ทำให้ได้อย่างงี้ต่อไป เพราะตอนนี้ นน.ลูกยังน้อยมาก แค่ประมาณ 500 กรัม เพิ่มเยอะไป ก็ไปลงที่แม่หมด แล้วจะลดยากด้วย เลยรู้สึกดีใจ อิอิ เพราะกิ๊กเอง ก็พอรู้อยู่บ้างที่นน.เราขึ้นไม่เยอะ เพราะเราทานแต่ของที่มีประโยชน์ กิ๊กจะไม่ค่อยทานพวกขนมหวานๆเลย (เพราะมันไม่อยากไปเอง ชอบแต่ของเปรี้ยว) ขนมอะไรก็ไม่ค่อยกิน กินเป็นมื้อ แล้วก็กินเป็นข้าวกล้องเพาะงอกกับกับข้าว ไม่ได้กินพวก junk food เลย แถมเวลาหิวช่วงบ่ายๆ ก็จะทานพวกผลไม้แทน เรียกว่า กินแบบถูกหลักอนามัยสุดๆเลย ก็เลยทำให้นน.เราไม่ขึ้นมากด้วย ปล. แต่จะทำได้นานแค่ไหน โปรดติดตามตอนต่อไป 555 ลูกดิ้นชัวร์ๆแล้วนะ
กิ๊กก็รู้สึกถึงการดิ้นของลูกที่ชัดขึ้นกว่าเดิม คือ มันจะไม่แค่ปลาตอด หรือเหมือนฟองอากาศแล้ว แต่มันจะเป็นแบบตุ๊บๆเลย ชัดมากๆ มักจะเป็นตอนเช้า ตอนหลังกินอาหารกลางวัน และก่อนนอน (เป็นเวลามากๆ 555) ไปๆมาๆ เลยไม่แน่ใจว่า ที่เรารู้สึกไปเมื่อตอน 16 สัปดาห์ คือ ลูกดิ้นจริงๆรึป่าว แต่ก็ขอเข้าข้างตัวเองเอาไว้ก่อนว่า ใช่ 555 พอหมอถามกิ๊กว่า ลูกเริ่มดิ้นรึยัง ก็ตอบเต็มปากเต็มคำว่า ดิ้นแล้วค่ะ เวลาใครถามว่า เริ่มดิ้นเดือนไหน ก็จะบอกว่า 5 เดือนค่ะ 555 เพราะไม่อยากให้เค้าคิดว่า เราเว่อร์ อะไรจะดิ้นเร็วขนาดนั้น แต่สำหรับในความทรงจำของกิ๊กนั้น กิ๊กยังจำวันนั้นได้ดี และเชื่อมั่นว่า ต้องเป็นอาการของลูกดิ้นแน่นอน อิอิ เหตุเพราะเจ็บคอ --> รู้เพศแบบฟลุ๊คๆ (17/8/09)
น้ำหนัก : 49.5 กก.
อายุครรภ์ : 19 week ลูกมีขนาดประมาณ 15 cm. นน.ลูกประมาณ 250 กรัม ตำแหน่งของรก : ต่ำไปนิดนึง แต่ยังมีโอกาสขึ้นมาได้อีก ไม่รู้จะเรียกเรื่องนี้ว่าไงดี แต่เอาเป็นว่า วิตกจริต จนเจอดีก็แล้วกันเหอ เหอ อ้อ บอกก่อน อายุครรภ์ตอนนี้ 19 สัปดาห์ค่ะ แต่กำหนดนัดหมอครั้งถัดไป จะอีก 2 อาทิตย์ข้างหน้า (ตอน 21 สัปดาห์) เรื่องของเรื่อง คือ กิ๊กรู้สึกว่าที่คอจะมีเม็ดขาวๆขึ้น มันเป็นเหมือนเม็ดแข็งๆอ่ะ ทำให้ระคายคอ (เหมือนก้างติดคอ) เคยเป็นที 2 ที แล้วมันก็หลุดหายไปเอง คราวนี้ก็เป็นอีกแล้ว เป็นมาตั้งกะอาทิตย์ที่แล้ว กิ๊กก็รอๆๆๆไป ผ่านมา 4-5 วัน เม็ดขาวๆก้ไม่ยอมหลุด แถมยังงอกออกมาเป็น 3 เม็ดอีกตะหาก ด้วยความกลัว กลัวว่ามันจะทำให้เจ็บคอตามมา เพราะเริ่มเห็นคอเรามันแดงๆนิดๆแล้ว เมื่อวันจันทร์ ก็เลยลาป่วยเลย (ท้องอ่ะ เป็นไรนิดหน่อย ก็ต้องหาหมอไว้ก่อน) แล้วก็นัดหมอ(สูติ)ตอนบ่าย เพราะกลัวว่าเช้าคนจะเยอะ ขี้เกียจคอย ตอนเช้าก็นอนเล่นกลิ้งเกลือกที่บ้าน พอบ่ายโมง ก็เลยโทรหาพี่หยี่เล่นๆ ปรากฏพี่หยี่บอกว่า เสร็จงานแล้ว ก็เลยบอกพี่หยี่ว่า มารับแล้วพาไปหาหมอหน่อย ด้วยความใจดีของพี่หยี่ พี่หยี่ก็เลยออกจากออฟฟิศตั้งกะบ่ายครึ่ง มารับกิ๊กที่คอนโดเพื่อพาไปหาหมอ ระหว่างที่ขับรถไปรพ.กัน พี่หยี่ก็ทำหน้าแบบงงๆ นี่ตรูหนีงานมาทำไมฟระเนี่ย 555 คือ นังเมียก็ไม่ได้มีอาการรุนแรงอะไรขนาดน๊านนน สงสัยจะโดนมนต์สะกด 555 มาถึงรพ.ก็ตรงไปแผนกสูติ คือ รพ.นี้ เป็นโรคอะไรก็ตามจะให้มาหาหมอสูติก่อน ปรากฏว่า หมอสูติดูไม่ออกว่าตุ่มขาวๆคืออะไร ก็เลยบอกว่าให้ไปแผนก หู ตา คอ จมูก ดูให้ดีกว่า สรุปคุยกะหมอไป 5 วินาทีได้ แต่... ก่อนออกจากห้อง นังกิ๊กโรคจิต บอกหมอว่า ขอฟังเสียงหัวใจลูกหน่อยได้มั้ยคะ คือ กิ๊กเนี่ย บอกได้เลยว่า ชอบเป็นโรควิตกจริต บางทีเวลาเหนื่อยๆ หรือ เวลาว่ายน้ำเนี่ย (อ่านไม่ผิดค่ะ ว่ายน้ำ จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย หันมาว่ายน้ำอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง เพื่อลูกค่ะ เหอ เหอ) จะชอบคิดว่า ลูกเป็นไรไปรึป่าว คือ มันไม่มี sign อะไรหรอกนะ ไม่มีเลือดออก ไม่ปวดท้อง ไม่อะไรทั้งนั้น แข็งแรงทุกอย่าง แต่จิตตก จิตหลอน ประสาทไปเอง เหอ เหอ คราวนี้ก็เอาอีกล่ะ ไหนๆมาหาหมอแล้ว ขอซักนิดก็ยังดี จะได้มั่นใจว่าลูกปลอดภัย พอบอกหมอแล้ว ตอนแรกก็ใจตุ๋มๆต่อมๆนะ ว่า เอ หมอจะให้รึป่าวน๊า หรือว่าจะ charge เงินเพิ่มป่าว 555 แต่คุณหมอก็ยิ้มบอกว่า ได้สิ ขึ้นเตียงเลย จากนั้น คุณพยาบาล ก็จัดการเปิดพุง แล้วก็ทาเจล แล้วคุณหมอ ก็เอาแท่งๆ (เหมือนอัลตราซาวด์แต่ไม่มีจออ่ะ) มาถูที่หน้าท้อง แล้วก็ฟังๆ หาเสียงหัวใจลูกไปเรื่อยๆ และแล้ว...ก็มีเสียง ตึกๆ ตึกๆ ไอ้เราก็ดีใจ โอ้ววว...ใช่แล้ว ปรากฏคุณหมอ เอามือมาจับชีพจรของกิ๊ก แล้วก็ทำหน้าแบบ ไม่ใช่อ่ะ ไม่ใช่เสียงหัวใจเด็ก จากนั้น กิ๊กก็รู้เลยนะ ว่าหัวใจตัวเองมันเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความตื่นเต้นอ่ะ คุณหมอก็ไถไอ้แท่งนั่นไปเรื่อยๆ แต่ก็ไม่พูดว่า เสียงหัวใจลูกซะที ผ่านไป 5 นาทีได้ ภายใต้สีหน้าเรียบเฉยของคุณหมอ คุณหมอก็หยุดหา แล้วก็บอกว่า หมอว่าไปอัลตราซาวด์ดูดีกว่า เพราะหมอหาเสียงหัวใจเด็กไม่เจอ โอ้ว !! พระเจ้าช่วย กล้วยทอด.... ทำไมเป็นหยั่งงี้ล่ะเนี่ย รู้เลยว่า ตกใจมากมาย แล้วก็ งง ไปหมด ว่าเกิดอะไรขึ้นเนี่ย หันไปหาพี่หยี่ อยากได้กำลังใจ คุณพี่ท่านดันโทรศัพท์มาพอดี เลยมัวแต่คุยโทรศัพท์ ไม่ได้สนใจหมอเลย จนออกมานั่งคอยอยู่หน้าห้องซาวด์ พี่หยี่ก็ยังไม่หยุดคุย กิ๊กก็เลยดุเลย วางได้แล้ว หมอเค้าไม่ได้ยินเสียงหัวใจลูกเต้น ต้องอัลตราซาวด์ คุยอยู่ได้ อารามตกใจว่า อีนี่โกรธอะไรเนี่ย พี่หยี่เลยวางหู พอพี่หยี่วางเท่านั้นล่ะ นังกิ๊กทำหน้าเศร้าอ้อนสามีทันที 555 อะไรจะเปลี่ยนได้เร็วขนาดนั้น(ฟระ) แล้วก็พร่ำพรรณนาต่างๆนาๆ กลัวไปหมด น้ำตามันจะไหลให้ได้ กังวลไปสารพัด แล้วหมอก็มาเรียก แต่ดันบอกว่า ให้ไปหาหมอ หู ตา คอ จมูก ก่อน เพราะห้องซาวด์ไม่ว่าง กิ๊กก็เลยต้องไปหาหมอคอก่อน ระหว่างนั้น รู้ตัวเลยว่า จิตใจฟุ้งซ่านมากมาย คิดนุ่นนี่ ปรุงแต่งไปเยอะแยะ พี่หยี่ก็ถามว่า มันมี sign อะไรรึป่าว ทำไมถึงไปให้หมอฟังเสียงหัวใจลูก เพราะเค้ากลัวว่าเรามีอาการผิดปกติอะไรรึป่าว กิ๊กก็บอกว่า ไม่มีอ่ะ โรคจิตอยากได้ยินไปงั้นเองแหละ หลังจากนั้น พี่หยี่ก็พยายามปลอบใจกิ๊ก แหย่โน่นแหย่นี่ให้กิ๊กสบายใจ ตั้งแต่ไปจิตประภัสสร (ที่เสถียรธรรม)มา เค้าสอนให้ รู้ทัน อารมณ์ตัวเอง อย่าฟุ้งซ่าน อย่าปรี๊ดแตก กิ๊กก็ค่อยๆฝึกมาทีละนิด เวลาโกรธ ก็รู้ทันอารมณ์ตัวเอง ทำให้ใจเย็นลง แต่มาคราวนี้ รู้เลยว่า เป็นบททดสอบที่ทำยากจริงๆ พี่หยี่ก็พยายาม เตือนสติตลอด ให้หายใจเข้า หายใจออก คือ ทุกวิธี แต่อีนี่ ทำไม่ได้เลยอ่ะ มันหยุดฟุ้งไม่ได้จริงๆ แล้วพอยิ่งคิดๆๆๆ น้ำตามันก็พาลจะไหลๆๆๆๆ คิดถึงลูก กลัวเค้าเป็นอะไรไปอ่ะ แถมยังคิดฟุ้งซ่านไปอีกว่า ที่อยู่ดีๆพี่หยี่ก็ลางานมาด้วยนี่ หรือว่ามันจะเป็น "ดวง" ?? คือ คิดไปเรื่อยอ่ะ เหอ เหอ กิ๊กเห็นพี่หยี่อารมณ์ดี ยังมีหน้าไปว่าเค้าอีกนะ ตัวเองไม่กลัวลูกเป็นไรเลยเหรอ ดูท่าทางสบายใจจังนะ พี่หยี่ก็บอกว่า ใช่ พี่รู้ว่าลูกไม่เป็นอะไร กิ๊กก็เลยใจชื้นขึ้นมาบ้าง พอหาหมอคอ ก็ปรากฏว่า เม็ดขาวๆอ่ะ มันเป็นหินปูน + เชื้อแบคทีเรียอะไรซักอย่าง หมอก็แคะมันออกมาได้ 3 เม็ด แล้วก็เสร็จเรียบร้อย แถมยังบอก ไม่มียาอะไรนะ ถ้าเป็น ก็มาให้หมอแคะอีก จบแระ เรื่องเจ็บคอนี่มันจิ๊บๆมากกกก ~~~~~~~~~~ กลับมานั่งฟุ้งซ่านที่แผนกสูติ รอคิวอัลตราซาวด์ต่อ แต่ก็เริ่มอารมณ์ดีขึ้นแระ คิดว่า ลูกต้องไม่เป็นไรสิ ลูกเราแข็งแรงจะตาย 555 นั่งทบทวนว่า เราก็ดูแลตัวเองอย่างดี ทานอาหารที่มีประโยชน์ บำรุงสารพัด (อันนี้เป็นความคิดส่วนตัวนะ) ออกกำลังกาย ไม่ทำงานหนัก ไม่หักโหม แล้วที่ผ่านๆมา เราเองก็ร่างกายแข็งแรงมากก แข็งแรงกว่าตอนไม่ท้องเยอะเลย ไม่ปวดหัว ไม่เป็นหวัด คือ ไม่เป็นอะไรง่ายๆ (คงเพราะเราบำรุงตัวเองด้วย) เดินเยอะ ว่ายน้ำ ฯลฯ ก็ยังไม่เคยมีอาการผิดปกติอะไร เลยเกิดความมั่นใจขึ้นมาว่า เค้าน่าจะปลอดภัยแหละ จนในที่สุด.. เวลาที่รอคอยก็มาถึง กิ๊กก็นอนรอหมอบนเตียง พอหมอมา ก็เอาแท่งๆ (ที่ใช้ซาวด์อ่ะ เรียกไม่เป็น) มาถูที่ท้อง ประโยคแรกที่ได้ยินจากคุณหมอก็คือ "โอเคๆ เด็กดิ้นอยู่ๆ" คือ ตอนแรกเนี่ย สารภาพว่าดูรูปในจอ ไม่รู้เรื่องอ่ะ เนื่องจาก เด็กตัวใหญ่กว่าไอ้แท่งๆของหมอ ภาพที่เห็นก็เลยไม่ครบตัวเหมือนตอนดู 13 week อันนั้นคือ เห็นหัว ตัว แขน ขา ครบเลย แต่อันนี้ มันเหมือนเห็นครึ่งตัวไรงี้ แต่พอได้ยินหมอพูดว่า ลูกดิ้นอยู่ๆ ก็โอเคแล้วล่ะ พี่หยี่บีบมือกิ๊กแน่นเลย ประมาณว่าลูกเราปลอดภัยแล้วนะ แค่นี้ก็โล่งใจแล้ว หลังจากนั้น ความตลกก็เกิดขึ้น คือ กิ๊กอ่ะ ดูไม่รู้เรื่องอย่างที่บอก เพราะงั้น หมอแกก็จะรู้เรื่องของแกอยู่คนเดียว หมอก็จะบอกว่า ดูสิ เกาหัวใหญ่เลย แน่ะ เกาใหญ่ ... คันอะไรนักหนาเนี่ย แล้วก็แกก็หัวเราะอยู่นั่นแหละ (จริงๆคือ ขยับแขนอ่ะค่ะ แต่คุณหมอพากษ์เป็นเกาหัว อิอิ) ไอ้เรา พ่อกะแม่ ก็ยังอึ้งๆอยู่ ไหนวะ แขน 555 แล้วกิ๊กก็บอก หมอชี้ด้วยค่ะ 555 หมอก็อธิบายไป นี่ ตา นี่ จมูก นี่ปาก อะไรงี้ แล้วหมอก็บอก นี่ไง หาว เด็กหาวใหญ่เลย สงสัยง่วง (คงอ้าเฉยๆไปตามเรื่องอ่ะ ไม่น่าง่วงนะ อิอิ) แล้วหมอก็หัวเราะใหญ่ แบบน่ารักจัง หมอแอบเปลี่ยนหัวแท่งซาวด์ มาซาวด์แบบ 4 มิติให้ดูหน้าลูกชัดๆด้วยอ่ะ แต่สำหรับเรา ดูน่ากลัวไปนี๊ด ผิวหนังมันยับๆย่นๆอ่ะ มีแต่หมอตามเคยที่ขำ เอ็นดูลูกเราเต็มที่ 555 อุ๊ยๆ อ้าปากอีกแล้วว , เอ้าๆ เกาหัวอีก 555 ก็เลยแบบ ขำอ่ะ... ขำหมอ ไม่ได้ขำลูกตัวเองหรอก แล้วหมอก็ให้ฟังเสียง หัวใจลูกเต้น อยากฟังใช่มั้ย...เอาไป ชัดๆเลย 555 (นี่หมอพูดนะ) แล้วหมอก็บอก ปกติดี และแล้ว... หมอก็เลยบอกว่า ไหนๆก็มาซาวด์แล้ว ดูเพศไปเลยแล้วกัน ไอ้เราก็กรี๊ดในใจ เพราะกำหนดอัลตราซาวด์ดูเพศจริงๆ มันอีก 2 อาทิตย์อ่ะค่ะ แล้วหมอก็เลื่อนแท่งๆไปตรงส่วนขา ปรากฏ สายสะดือ ดันบัง ตรงนั้น ซะมิดเลยค่ะ 555 ว่าแล้ว หมอก็พยายามเขย่าๆพุงกิ๊ก เพื่อให้สายสะดือมันเลื่อนหน่อย จะได้เห็นชัดๆ แต่ปรากฏว่า สายสะดือก็ไม่ไปไหน แต่คุณหมอบอกว่า การที่หมอเขย่าๆ ถ้าเป็นเด็กผู้ชาย ก็น่าจะมีอะไรห้อยๆลงมาบ้าง 555 แต่นี่ไม่มี คุณหมอเลยคิดว่า น่าจะเป็น เด็กผู้หญิง ค่ะ ตอนที่รู้เพศ กิ๊กกับพี่หยี่ก็เงียบๆ หมอเลยถามว่า อยากได้ผู้ชายหรอ ก็เลยบอก ป่าวค่ะ อยากได้ผู้หญิง อิอิ แต่ที่เงียบอ่ะ เพราะมันเหมือนคิดไว้อยู่แล้วมากกว่า 555 เพราะดูจากวันปฎิสนธิอะไรต่างๆ มันลงล๊อคที่ ผู้หญิง อยู่แล้วอ่ะค่ะ อิอิ กิ๊กชอบลูกสาว เพราะชอบแต่งตัวให้ลูกอ่ะ 555 เวลาเห็นชุดเด็กน่ารักๆแล้วจะแบบ อยากมีลูก จะจับแต่งตัวซะ...อิอิ ส่วนพี่หยี่เค้าชอบเด็กผู้หญิง เพราะจะช่างฉอเลาะอะไรแบบนี้ แต่พี่หยี่บอกว่า เดี๋ยวยังไงก็ต้องดูให้ชัดอีกที เพราะมันจะคาใจ (ก็สายสะดือมันปิดอยู่อ่ะ) เอาไว้ 6 เดือน เจอกันใหม่นะจ๊ะ เพราะถ้า 5 เดือน ซาวด์อีก พ่อกับแม่จะจนอยู่แล้วจ้า 555 (แค่นี้ก็ อยู่ดีไม่ว่าดี เจ็บคอนิดเดียว เจอค่าซาวด์เข้าไป 3 พันกว่าบาท เหอ เหอ) ปล. ในรูปเหมือนจะหัวแหว่ง แต่จริงๆไม่แหว่งนะคะ อิอิ ฝากครรภ์ครั้งที่ 3 : ตรวจความเสี่ยงดาวน์ซินโดรม (2/8/09)
นน. : 48.4 กก.
อายุครรภ์ : 17 week ฉีดวัคซีนกันบาดทะยัก ครั้งที่ 2 ไม่ได้อัลตร้าซาวน์ดูลูกแล้ว เอาไว้ดูอีกทีตอน 5 เดือนไปเลย อิอิ แต่คราวนี้ สิ่งที่ทำเพิ่มเติมก็คือ การตวรจเลือดเพื่อดูพาหะอะไรต่างๆ และ การตรวจเลือดเพื่อหาความเสี่ยงดาวน์ซินโดรม อย่างที่รู้กันว่าถ้าอายุเกิน 35 อัพ ต้องเจาะน้ำคร่ำ แต่หมอบอกว่า ด้วยความที่คนที่อายุน้อยกว่า 35 ไม่ได้ทำการตรวจก่อน ทำให้พบว่า มีจำนวนไม่น้อยที่ลูกอาจจะออกมาผิดปกติได้ ตั้งแต่ฝากครรภ์ครั้งที่แล้ว หมอเลยแนะนำว่า แม้จะอายุไม่ถึง 35 แต่ก็ควรตรวจ แต่ว่าไม่ต้องเจาะน้ำคร่ำ สามารถตรวจจากการ เจาะเลือดได้เลย และถ้าผลเจาะ ออกมาว่ามีความเสี่ยง ก็ให้เจาะน้ำคร่ำเพื่อความชัวร์อีกทีนึง แต่ก็ให้ตัดสินใจเอาเองนะว่าจะตรวจหรือไม่ตรวจ เพราะถ้าตรวจหมายความว่า ถ้าผลออกมา negative เราก็ต้องรับให้ได้ด้วย ถ้ารับไม่ได้ ก็อาจจะต้อง.... เพื่อนกิ๊กคนนึง เค้าไม่ตรวจ เพราะเค้าบอกว่า ยังไงก็ลูกเรา ไม่รู้จะรู้ไปทำไม แต่สำหรับกิ๊กและพี่หยี่ เราตัดสินใจทันที โดยไม่ต้องคุยกันด้วยซ้ำ ว่าเราอยากจะตรวจค่ะ เพราะฉะนั้นครั้งนี้ เราเลยเจาะเลือดเพื่อตรวจ 2 อย่างไปเลย คุณพยาบาลเก็บเลือดแม่เพียงคนเดียว สำหรับผลเลือดพวกพาหะต่างๆ กิ๊กรอฟังผลเลย แค่ประมาณชม. 2 ชม. ก็รู้ผล ซึ่งก็คือ ทุกอย่างปกติดี มีภูมิคุ้มกันแล้ว (แต่รายละเอียดมีอะไรบ้าง จำไม่ได้ซะแร้วว) แต่สำหรับความเสี่ยงดาวน์ซินโดรม ต้องใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ แล้วก็บอกว่า ถ้าผลปกติดี ก็จะบอกตอนตรวจครรภ์ครั้งหน้าเลย แต่ถ้ามีอะไรผิดปกติจะโทรแจ้งก่อน พอฟังตอนแรก กิ๊กก็ อ๋อๆ โอเค ค่ะ แต่พอกลับบ้านนี่สิ มานั่งคิดวนไปวนมาหลายตลบ เฮ้ย อย่างงี้ชั้นไม่เป็นบ้าแย่เหรอวะ เกิดระหว่าง 1 เดือนนี้ มีโทรศัพท์มาจากรพ. คงกรี๊ดสลบแน่เลย (แปลว่าผลมัน negative ไง) แต่สุดท้าย ก็ได้แต่รอ ร๊อ รอไป ถามน้องที่ออฟฟิศ เค้าบอกว่า ประมาณ 10 วันเค้าก็รู้ผล ด้วยความจิตตก พอครบ 10 วันปุ๊บ ก็เลยโทรไปถามที่รพ.เอง ว่าผลออกรึยัง แต่คุณพยาบาลบอกว่า ผลยังไม่ออก ถ้ายังไง ไม่ว่าผลจะเป็นยังไงจะโทรบอกนะคะ ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย ว่า เออ ถ้ารพ.โทร.มา ก็แปลได้ทั้ง 2 อย่างว่า ปกติ หรือ ผิดปกติ แต่ในที่สุดทาง รพ.ก็โทรมาบอก น่าจะซัก 2 อาทิตย์ได้ ว่าผลปกติดี ก็รู้สึกโล่งใจ + ดีใจมากๆๆ (ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมลุ้นขนาดนี้) อ้อ ก่อนกลับ หมอถามด้วยว่า ลูกดิ้นรึยัง กิ๊กก็ยิ้มๆ ไม่กล้าบอก บอกแต่ว่า ไม่แน่ใจอ่ะคะ ว่าใช่รึป่าว แต่จริงๆ มั่นใจมากก 555 แต่หมอดันมาทำความมั่นใจเราหดหายหมด หมอบอกว่า อุ๊ย ท้องแรก ยังไม่รู้สึกหรอก กว่าจะรู้ ก็ 5-6 เดือนนู่น เวรกรรม หมอบอกว่า ที่เห็นมันครืดคราด เหมือนมีอะไรในท้องอ่ะ เสียงของลำไส้มากกว่า แต่กิ๊กก็ค้านในใจ แหม ถ้าเสียงลำไส้จริง เราโตมาจน 30 แล้ว ก็ต้องเคยรู้สึกมาบ้างแหละน่า แต่นี่มันเป็นอะไรที่แปลกๆ ไม่เคยรู้สึกมาก่อน แถมยังเป็นแถวท้องน้อยด้วย ไม่ใช่ตำแหน่งลำไส้ซะหน่อย เหอ เหอ ยังไงก็มั่นใจว่า ลูกเราดิ้นแล้วเน้ออออ |
Beauty & Bambi
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?] ณ 31/1/2023 นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^ บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ *** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
Friends Blog
Link |