Group Blog
All Blog
|
ความเป็นครอบครัวอยู่เหนือสิ่งอื่นใด เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา มีเหตุทำให้กิ๊กต้องจิตตกอยู่ 2 เรื่องด้วยกัน เรื่องแรกคือ เด็กทำงานบ้าน หนีกลับบ้านไปแล้ว (คือ ขอกลับไปทำธุระ แล้วไม่กลับมาอีก) ก่อนหน้าที่จะท้อง ที่บ้านมีแม่บ้านแบบไปกลับมาช่วยทำงานบ้านให้ หลักๆก็คือ กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า เหลืองานเล็กๆน้อยๆที่กิ๊กกะพี่หยี่ทำกันเอง เช่น เก็บที่นอน เตรียมอาหาร พอท้อง เราก็จ้างเด็กทำงานบ้านแบบอยู่ประจำมาแทน เพราะคิดว่า เดี๋ยวในระยะยาว ก็น่าจะมีแม่บ้านประจำเลย (เรียก เด็กทำงานบ้าน จะเหมาะกว่าแม่บ้านนะ เพราะ she ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหรอก) อยู่ด้วยกันได้ 2 เดือน เด็กก็มาบอกว่า ต้องกลับไปเก็บข้าวโพดที่บ้านต่างจว. ขอกลับบ้านไป 3 อาทิตย์ ตอนนั้น กิ๊กก็ทำใจแล้วแหละ ว่าสงสัยไม่กลับมาแน่นอน แต่พอครบ 2 อาทิตย์ เธอก็เป็นเด็กดีมาก โทรมาหา บอกว่า กลับมาถึงกรุงเทพแล้ว ให้มารับกลับบ้านหน่อย เราก็สบายใจ คิดว่าได้เด็กดี ไม่มีปํญหาอะไร ซึ่งช่วง 2 อาทิตย์ ตอนนั้นท้องได้ซัก 5 เดือนมั๊ง ก็ช่วยๆกันทำกับพี่หยี่ไป หลักๆพี่หยี่เป็นคนทำเกือบทั้งหมด แต่กิ๊กก็ยังพอมีแรง ก็ทำอะไรเล็กๆน้อยๆ ช่วยๆกันไป มันก็เหนื่อยหน่อยแหละ แต่ก็สบายใจ เพราะบ้านเราเอง เราก็ทำให้มันดี สะอาดทุกอย่าง พอเด็กกลับมา ก็โอเค สบายกายไป (แต่ใจจะขุ่นมัวนิดนึง เพราะ she ทำไรไม่ได้ดังใจเล้ยยย) ผ่านมาไม่ครบเดือนดี เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เด็กขอกลับบ้านอีก จะไปงานแต่งงานพี่สาว ขอเราวันศุกร์ จะกลับวันเสาร์เลย เพราะพี่สาวแต่งวันจันทร์ กิ๊กไม่ยอมให้ไปวันเสาร์ เพราะ ไม่ยอมบอกล่วงหน้า จะมาไปปุ๊บปั๊บได้ไง แล้วอีกอย่าง วันเสาร์-อาทิตย์ จะไปหัวหินด้วย แล้วใครจะเฝ้าบ้าน งานวันจันทร์ใช่มั้ย กิ๊กจะให้กลับเย็นวันอาทิตย์ ไปถึงนู่น (จ.ตาก) ก็เช้าวันจันทร์พอดี ได้ร่วมงาน แล้วก็ถามว่าจะกลับมาวันไหน She บอกเองว่า วันพุธก็กลับแล้วค่ะ อยู่แค่ 2 วัน เราก็โอเค เพราะเห็นว่าไปแป๊บเดียว แต่สรุปก็คือ she หายเงียบไปเลย โทรเข้ามือถือ ก็ไม่เปิด ก็เปลี่ยนเบอร์หนีไปเลยมั๊ง เฮ้อออ เศร้าจายยย  กิ๊กหาแม่บ้าน ที่ทำงานบ้านได้ด้วยและดูแลเด็กได้ด้วยเอาไว้ เค้าจะมาหลังปีใหม่ (ก่อนกิ๊กคลอดนิดหน่อย) เพราะงั้น ช่วงนี้แค่ 2-3 เดือน เราก็ไม่อยากหาเด็กใหม่แล้วอ่ะ เวลามันสั้นเกินไป แล้วก็วนเวียนกลับมาคิดว่า แล้วจะทำยังไงกะชีวิต (ดีวะ) ตอนนี้ท้องก็เริ่มโต 7 เดือนแล้วอ่ะ ต่อไป 8 เดือน 9 เดือน ใกล้คลอด จะทำยังไงดี ใครจะทำงานบ้าน ก็นั่งจิตตก กลุ้มไปคนเดียว ส่วนพี่หยี่น่ะเหรอ สบายใจมาก เพราะรับอาสาทำงานบ้านเองทุกอย่าง (ภาวะจำยอมรึป่าวไม่รู้ 555) พยายามบอก ไม่ให้กิ๊กกังวล เพราะเค้าก็ทำให้หมดอยู่แล้ว แต่เราก็เกรงใจอ่ะ เพราะเค้าก็ไปทำงานเหมือนเรา กลับมาบ้าน ก็เอาและ ล้างจาน (ตอนเช้าล้างไม่ทัน) ล้างระเบียงบ้าน กวาดบ้าน ถูบ้าน เก็บผ้า ก็สลับกันไป วันละอย่าง 2 อย่าง...มันเหนื่อยน่ะ กิ๊กเอง ถึงแม้พี่หยี่บอกว่าจะทำให้ แต่เราก็อยากทำด้วย จุ๊กๆจิ๊กๆไป เท่าที่จะช่วยได้ เวลาที่เราเคยมี แบบนั่งคุยกันสบายๆ นอนกระจุ๋งกระจิ๋งอะไร มันก็ไม่มีแล้วอ่ะ เพราะมันต้องเอาไปทำงานบ้านหมด เหอ เหอ เรื่องที่ 1 ก็ยาวแล้วใช่มะ เรื่องที่ 2 สั้นๆเอง คือ น้อยใจคุณแม่ (ของกิ๊กเอง) เหมือนกับว่า เราท้อง ก็อยากให้คุณแม่มาอยู่ด้วย มาดูแล มาทำกับข้าวให้กิน จะได้ทานอาหารคุณภาพหน่อย เพราะทุกวันนี้ ก็พยายามทำเองให้มากที่สุด (ปกติกินนอกบ้านตลอด แต่พอท้องก็พยายามทำกับข้าวกินเองมากขึ้น) แต่เราก็ทำงาน 8 5 โมงเย็น กลับมาก็ 6 โมง จะมาทำกับข้าวหลายๆอย่าง มันก็เหนื่อยเกิน แต่คุณแม่ก็ไม่ยอมมาอยู่ด้วยอ่ะ (แต่จะมาอยู่หลังกิ๊กคลอดแล้ว มาช่วยเลี้ยงลูก) เราก็น้อยใจว่า แม่ห่วงแต่บ้านทางนู๊น (คือมีคุณพ่อ กะมีน้องสาว) ไม่ค่อยห่วงเราเลย ซึ่งตอนแรก ถ้ามีเด็กทำงานบ้าน ก็ยังพอโอเค คุณแม่ไม่มา (หรือมาชั่วคราว) ก็ไม่เป็นไร แต่พอตอนนี้ กลายเป็น เด็กก็ไม่อยู่ คุณแม่ก็ไม่มา... พาลเอาจิตตกกันไปเลยทีเดียว นี่ชั้นต้องมาเหนื่อยตอนท้องแก่เหรอเนี่ย T_T ว่าแล้ว ก็เลยโทรไปบ่นกะน้องสาว 555 บอกว่า น้อยใจแม่ แม่ไม่มาหา แม่ไม่ยอมมาทำกับข้าวให้กิน งู๊นงี้งั้น น้องสาวเลยบอกว่า ให้กิ๊กย้ายกลับมาอยู่บ้านแม่มั้ย รับรองว่าสบายแน่ๆ งานบ้านก็ไม่ต้องทำ กับข้าวก็มีคนทำให้กิน ได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้า แถมยังมีญาติๆมาเยี่ยมบ่อยๆ อบอุ่นที่สุด กิ๊กถึงกับอึ้ง เออ จริง มานั่งน้อยใจทำไมเนี่ย คุณแม่ไม่อยากมา ก็เพราะเค้าห่วงคุณพ่อ ห่วงน้อง ห่วงบ้าน คนแก่อ่ะ ก็ติดบ้านด้วยแหละ แต่ถ้ากิ๊กย้ายกลับบ้าน คุณแม่คงทำให้ทุกอย่างอ่ะ (เพราะทุกวันนี้เวลากลับไปกินข้าวที่บ้านแม่ ก็ไม่ต้องทำอะไรเลย เป็นคุณหนูมากๆ 555) รถก็ไม่ต้องขับ เพราะที่ทำงานใกล้บ้านมาก คุณแม่รับส่งสบายๆ คือ มีแต่สบายกับสบายอ่ะ แต่ๆๆๆๆๆ ปัญหาคือ พี่หยี่คงไม่มาอยู่ด้วยแน่ๆอ่ะ  เพราะพี่หยี่เอง ทำงานตั้งสมุทรปราการ แล้วบ้านกิ๊กอยู่บางเขน มันไกลกันมากๆๆๆ แล้วพี่หยี่ ก็มีหน้าที่ต้องไปนั่งสมาธิกับหม่าม๊า (แม่พี่หยี่)ตอนเช้าทุกวัน และตอนเย็น ก็จะมีไปกินข้าวด้วย 2 ครั้งต่ออาทิตย์ (กิ๊กก็ไปด้วย) ซึ่งเค้าก็มีสิทธิ์ที่จะดูแลครอบครัวของเค้าเหมือนกัน เราก็ต้องเคารพสิทธิ์เค้าตรงนี้ด้วย ให้มาค้างบ้านแม่กิ๊กอาทิตย์ละวันอ่ะพอไหว (เหมือนตอนก่อนท้อง) แต่มาอยู่เลยทุกวัน he ไม่มาแน่นอน ซึ่งกิ๊กก็เข้าใจเค้าอ่ะ ไม่ขอร้องให้มาหรอก เพราะเราไม่ได้ตกลงกันตั้งแต่แรก อยู่ดีๆจะให้ย้ายมาอยู่บ้านกิ๊ก 2 เดือน เค้าก็คงไม่มา วางสายจากน้องไป นั่งคิดอะไรเงียบๆคนเดียว แล้วก็ตัดสินใจได้ แล้วก็บอกน้องว่า ชั้นคงไม่ไปอ่ะ เพราะว่า... กิ๊กคิดถึงความเป็นครอบครัวของเรา ทั้งในแง่ตัวของกิ๊ก และก็ลูกด้วย พี่หยี่ดูแลกิ๊กดีมากๆ ทั้งๆที่พี่หยี่ก็ไม่ใช่ผู้ชายประเภทพ่อบ้านตัวยง ทำกับข้าวเก่งอะไรแบบนี้นะ พี่หยี่เป็น คุณชาย คนนึงเลยทีเดียว กับข้าว พี่หยี่ก็ไม่เคยต้องทำ แต่กับกิ๊ก โดยเฉพาะช่วงท้อง พี่หยี่รับอาสา ทำงานบ้านเองทั้งหมด ข้าว พี่หยี่ก็เป็นเลือก + เป็นคนหุง ไปซุปเปอร์ จะเป็นหน้าที่พี่หยี่ต้องไปเลือกข้าว เพราะตั้งกะท้องมา พี่หยี่จะให้กินแต่ ข้าวกล้องเพาะงอกเท่านั้น นอกจากข้าว ก็ยังมีหน้าที่เรื่อง ไข่ ยี่ห้อไหนมี omaga3 มี DHA พี่หยี่รู้หมด ทุกเช้า พี่หยี่ต้องจัดการให้กิ๊กได้กิน ไข่ 555 ไข่ต้ม (พี่หยี่จะจับเวลาเลย ว่ากี่นาทีไข่สุกพอดี บางทีอาบน้ำอยู่ก็ต้องวิ่งมาปิดเตาอ่ะ 555) ไข่ดาว (กิ๊กชอบแบบไม่สุก พี่หยี่ก็ต้องพยายามทำให้ได้ จากแต่เดิมสุกทั้ง 2 ด้าน ก็เริ่มดีขึ้น) ไข่เจียว อันนี้พี่หยี่พยายามมาก เอาสูตร ทอดในหม้อ มาทำให้ไข่มันฟู สวยน่ากิน (จริงๆเรื่องประมาณนี้ยังมีอีกเยอะนะ เอาไว้เขียนรวมเรื่อง สุดยอดคุณพ่อ ไปเลยทีเดียวละกัน 555) หรือ เรื่องขับรถ ช่วงท้องเล็กๆ กิ๊กก็ยังพอขับได้อยู่ แต่พอท้องใหญ่ รู้สึกเวลารถติดมันเกร็งๆท้องยังไงไม่รู้ ก็เลยไม่อยากขับแล้ว (จะนั่งแท๊กซี่ก็ยิ่งกลัว) พี่หยี่ก็อาสา ไปรับ-ส่ง ทั้งเช้าและเย็น ทั้งๆที่ที่ทำงานพี่หยี่กะกิ๊กไกลกันมาก (ต้องวิ่ง สาธร ลาดพร้าว สมุทรปราการ แล้วก็ สมุทรปราการ ลาดพร้าว สาธร) พี่หยี่ก็ยังจะทำ (ยังไม่นับรวมว่า กลับมาต้องทำงานบ้านอีกนะ เหอ เหอ) มันดูหฤโหดมากๆอ่ะ แต่เอาเป็นว่าทุกๆอย่างที่พี่หยี่ทำให้กิ๊ก มันทำให้เรารู้สึก มีความสุข เวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ถึงจะ เหนื่อยกาย (เพราะไม่มีลูกจ้าง) แต่ก็ไม่ "เหนื่อยใจ" แถมมันก็เป็น เวลาคุณภาพ สำหรับกิ๊กด้วย เพราะมันทำให้กิ๊ก happy  ซึ่งกิ๊กเชื่อว่า ถ้าแม่มีความสุข ลูกในท้อง ก็จะมีความสุข และอารมณ์ดีไปด้วย และยิ่งกับลูก... ถึงแม้เค้าจะยังอยู่ในท้อง แต่ถ้าได้อยู่ด้วยกัน มันก็เป็นเวลาสำหรับ ครอบครัวเล็กๆ ของเรา กิ๊กเคยบ่นว่า เรามีกันแค่ 2 คน แต่พอตอนนี้ พี่หยี่จะบอกตลอดว่า มี 3 คนต่างหาก ทุกๆเช้า พี่หยี่เค้าจะต้องมาปลุก เวนิซ ให้ตื่น คุยกับ เวนิซ แล้วเราก็จะร้องเพลงให้ลูกฟัง พี่หยี่เค้าจะเอาหน้าไปแนบกับพุง ให้ลูกได้ยินเสียงเค้าชัดๆ 555 (เราทำแบบนี้มาตั้งกะท้องได้ 3 เดือนอ่ะค่ะ) พอเย็นๆ พี่หยี่ก็ต้องมาคุยกะ เวนิซ อีก เรียกให้เค้าดิ้นบ้าง ถีบบ้าง พี่หยี่เค้าคุยกับลูกบ่อยๆอ่ะ แล้วก็ชอบมามือมาแตะท้องกิ๊ก รอเวลาที่ลูกดิ้น ซึ่งกิ๊กว่า มันก็เป็น เวลาคุณภาพ กับลูกเหมือนกัน มันทำให้เกิดปฎิสัมพันธ์ในครอบครัวเล็กๆของเรา ซึ่งถ้าย้ายไปอยู่บ้านคุณแม่ โดยไม่มีพี่หยี่ เวลาคุณภาพ เหล่านี้ก็คงหายไป เพราะฉะนั้น กิ๊กก็เลยตัดสินใจ ไม่ไปอยู่บ้านคุณแม่ เพราะ กิ๊กอยากอยู่กับพี่หยี่ และอยากให้ลูกอยู่กับพี่หยี่ด้วย พอคิดได้ปุ๊บ มันก็เหมือนความจิตตกทั้งหมดมันมลายหายไป  กิ๊กก็ไม่น้อยใจคุณแม่ด้วย เพราะคิดว่า เราเลือก (ที่จะเหนื่อย) ของเราเอง 555 คิดได้แล้วก็ ยิ้มกับตัวเอง มีสามี (และพ่อของลูก)ที่ดีขนาดนี้ แล้วจะจิตตกไปใยกันเนี่ย  ปล. แต่ก็ไม่ใช่ว่า กิ๊กจะใช้เวลาแต่กับครอบครัวเล็กๆของเรานะคะ กิ๊กก็ยังคงไปทานข้าวกับคุณแม่(และครอบครัว)อย่างสม่ำเสมอค่ะ 
|
Beauty & Bambi
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?] ณ 31/1/2023 นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^ บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ *** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
Friends Blog
Link |
|||||||||||||
