All Blog
เลือกหมอ + เลือกรพ. ฝากครรภ์ + แพ้ท้อง
กิ๊กเคยตรวจภายในก่อนท้องกับคุณหมอผู้หญิงท่านนึง
ที่รพ. BNH (รพ.ประจำอยู่แล้วอ่ะค่ะ)
ซึ่งคุณหมอท่านนี้ก็ใจดี พูดจาดี ถามอะไรก็ตอบหมด
ก็คิดไว้อยู่แล้วว่าถ้าท้อง ก็คงเอาหมอคนนี้แหละ
เพราะก็เคยเห็นอะไรกันมาแล้ว 555



แต่พอเอาเข้าจริง ก็เริ่มกังวล
เพื่อนๆก็แนะนำหมอมีชื่อมากันหลายๆท่าน
เราก็เลยลังเล


พอจะเลือกหมอ เรื่อง รพ. ก็จะควบคู่กันมาด้วย
เลือกไว้ 2 รพ. คือ BNH เพราะไปประจำ
กับ บำรุงราษฎร์ เพราะเคยไปส่องกล้องลำไส้ใหญ่ที่นี่ แล้วประทับใจดี
(ที่ตรวจท้องผูกก่อนท้องอ่ะค่ะ)


แต่เหตุผลง่ายๆที่เลือก BNH เลย เพราะว่าใกล้บ้าน
ไปมาสะดวก ถ้าวันอาทิตย์รถไม่ติดนี่ 10 นาที ก็ถึง
คือ คิดว่าฝากท้องเราต้องไปทุกเดือน บางทีมีเหตุฉุกเฉินมีอะไร
เลือกที่ไปมาสะดวกดีกว่า



พอตัดสินใจเลือก BNH ที่นี้ก็มาเลือกหมอ
อย่างที่บอกว่ากิ๊กมีหมอผู้หญิงที่ถูกใจอยู่
แต่ที่รพ.นี้ เค้าก็จะมีหมอที่ดังๆอยู่เหมือนกัน
แต่ปัญหาของหมอดังๆ คือ คนไข้เยอะ คิวแน่น
เพราะฉะนั้นเค้าจะไม่ค่อยมีเวลาให้เรา
แล้วเรายิ่งเป็นคุณแม่มือใหม่ มันก็อยากถามนู่นนี่เยอะแยะตามประสา



กับอีกอย่าง คือ หมอดังๆ จะรอคิวนานมาก
ขนาด book เวลาไว้แล้ว เอาเข้าจริงๆ เพื่อนบอกว่า ก็เลทเป็นชม.ๆ
กิ๊กรู้สึกว่าจะเสียเวลา + เสียสุขภาพจิตไปหน่อย



สรุป ก็เลยกลับมาเลือกคุณหมอผู้หญิงท่านเดิม
ซึ่งหลังจากไปหามาหลายครั้งแล้ว
ก็รู้สึกดีทุกครั้งเลยค่ะ
คุณหมอพูดจาดี ให้คำแนะนำตรงไปตรงมา ทำให้เราคลายกังวลหลายเรื่อง
(ยิ่งเวลาอัลตราซาวน์นะ คุณหมอบรรยายได้ขำกลิ้งมากๆ 555)
ถามอะไรก็ตอบหมด ไม่มีเร่งเลย

เพราะงั้น ก็เลยรู้สึกสบายใจ อยากไปหาคุณหมอทุกเดือน อิอิ
(จริงๆคือ อยากซาวทุกเดือนด้วย แต่มันแพง !!!)




อาการแพ้ท้อง



หลังจากที่ได้รู้ตัวว่าท้องแน่ๆแล้วเรา กิ๊กก็เริ่มกังวลกับอาการแพ้
สารภาพว่า ใจจริง อยากแพ้เยอะๆๆๆไปเลย 555
เพื่อนๆงงกันป่าว ว่าอีนี่มันบ้ารึป่าวเนี่ย 555



แต่จริงๆก็คือ กิ๊กเห็นบรรดาเพื่อนๆที่เค้าแพ้กันเยอะ จนขับรถไม่ได้เนี่ย
สามีเค้าก็ขับรถไปรับไปส่งที่ทำงานกัน
กิ๊กเป็นพวกขี้เกียจขับรถอ่ะ ก็อยากให้พี่หยี่ขับไปรับไปส่งบ้าง 5555
ต๊าย ตาย เหตุผลปัญญาอ่อนชิมิคะ แต่ก็..แค่นี้จริงๆอ่ะ 555


แต่ก็รู้แหละ อยากได้อะไร มักไม่ค่อยได้กะเค้าหรอก
ดังนั้น อาการแพ้ของกิ๊กจึงน้อยมากก


กิ๊กเริ่มแพ้ท้องตอนประมาณเกือบๆ 8 สัปดาห์
(ตอนไปญี่ปุ่น 6 สัปดาห์ สบายมาก ไม่มีแพ้เลย )
คือ คลื่นไส้บ้าง พะอืดพะอม ขมๆปากบ้าง ในระหว่างวัน
และมีอาเจียนบ้าง ประมาณวันละ 1 ครั้ง หลังเลิกงาน



รู้เวลาดีมั้ยล่ะ....ไม่มีให้แม่ได้อู้งานซักกะติ๊ด เฮ้อ
ที่ทำงาน เค้าเลยไม่มีใครเห็นใจเลย เค้าคิดว่าเราไม่แพ้ ทำงานได้สบายๆ


และนอกจากไม่แพ้มากแล้ว
กิ๊กยังเกิดอาการอยากกินไปหมดทุกอย่าง (ยกเว้นอะไร ติดตามต่อไป)
เป็นผลให้ นน. ช่วง 3 เดือนแรกนั้น ขึ้นมา 2 โลเลย
คนอื่นเค้ามีแต่นน.ลดกันเพราะแพ้ อาเจียน กินไม่ได้
อีนี่เล่นขึ้นมา 2 โล
(หมอให้แค่โลเดียว เพราะส่วนใหญ่แม่ๆจะกินไม่ค่อยได้)
ไม่รู้จนคลอดนี่นน.จะเพิ่มเท่าไร่...เง้อออ



ป่วย


ใช่ว่า กิ๊กไม่แพ้เลยแล้วจะสบายนะ
กิ๊กกลับมีอาการเหมือนตัวเองไม่สบายๆอยู่ตลอดเหมือนกัน
คือ อาการแพ้มันอาจจะไม่ได้ออกมาในรูปของการคลื่นไส้อาเจียน
แต่ว่าการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนมันทำให้กิ๊ก มีอาการที่แย่ๆ อยู่ 3 อาการ



ซึ่งช่วงที่ป่วยๆหยุดๆเนี่ย กิ๊กก็กลัวมากก
กลัวว่ามันเป็นไปตลอดจนกระทั่งคลอด
ไม่ได้คิดว่ามันมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนช่วงแพ้
แต่พอจริงๆ หลังจาก 13 week ไปแล้ว
อาการเหล่านี้ ก็หายเป็นปลิดทิ้ง
ก็เลยทำให้รู้ว่า สงสัยมันจะเป็นอาการแพ้ของเรานี่เอง



1. ท้องอืด

จากเดิมที่เป็นคนท้องอืดง่ายอยู่แล้ว
พอท้อง ทีนี้ซุปเปอร์อืดไปเลย
จะอืดมาก ตั้งกะหลังอาหารเที่ยงเป็นต้นไป
แบบกินอะไรแทบไม่ค่อยจะลงเลย แม้แต่น้ำ ก็ไม่ค่อยกิน
ทำให้ท้องผูกอีก (ส่วนท้องผูกนี่ เป็นประจำอยู่แล้ว เลยคิดว่าไม่ได้เกิดขึ้นเพราะท้อง)



2. ปวดหลัง

ตั้งกะเกิดมา 30 กว่าปี กิ๊กไม่เคยมีปัญหาการปวดหลังเลย
อยู่ดีๆ ช่วงประมาณ 8 week ก็มาปวดหลังซะได้
มันปวดๆๆ ตั้งกะช่วงบ่ายๆไปเหมือนกัน พอตกเย็น – ค่ำ มันก็ร้าวไปที่ขา
จะก้มที ปวดชะมัด….
แต่จะดีหน่อย คือ พอนอน แล้วตื่นตอนเช้าก็หาย
แล้วบ่ายๆก็ปวดใหม่อีก


ถามเพื่อน เพื่อนก็ว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับท้อง เพราะท้องยังเล็กมาก
แต่กิ๊กก็งง ว่าจะเป็นได้ไง เพราะไม่ใช่โรคประจำตัวเรามาตั้งกะต้น
เพิ่งจะมาเป็นนี่แหละ


ทนปวดไปได้ 2 อาทิตย์ ถึงคิดได้ว่าไปหาหมอดีกว่า เหอ เหอ
หมอก็บอกว่า มีสิทธิ์เกิดจากการท้องได้ เพราะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
กระดูกอาจจะทำการปรับตัว เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง
แล้วหมอก็ให้ยาพารามาทาน (ได้แค่นี้แหละ)...จบข่าว

ซึ่งเราก็ไม่อยากกินยาหรอก
เพราะถ้ากิน ก็ต้องกินทุกวัน ก็เลยทนๆไป


3. ปวดหัวไมเกรน
เป็นอาการที่ทรมานที่สุดในโลก เพราะกิ๊กเป็นไมเกรนอยู่แล้ว
แต่ปกติ พอปวดปุ๊บ กิ๊กก็กิน Cafagot (ยาแก้ไมเกรน) ปั๊บ
อาการก็หาย...เลยทำให้ไม่เดือนร้อนกับการเป็นไมเกรน


หมอบอกว่า ปกติคนท้อง...อาการไมเกรนจะไม่ค่อยเป็น
ช่วงก่อน 2 เดือน กิ๊กก็ไม่มีอาการปวดไมเกรนเลย
ก็ยังนึกดีใจว่า เออ ดีจัง

แต่ดีใจได้ไม่นาน พอเข้าเดือนที่ 2 อาการปวดไมเกรนเริ่มถามหา
ซึ่งพอท้อง หมอไม่ให้ทาน Cafagot ให้ทานแค่พารา
ซึ่งบอกได้เลยว่า แค่พารามันเอาไม่อยู่จริงๆ
แล้วพอเอาไม่อยู่ บางทีก็ปวดไปเลยแบบ 3 – 4 วันติด ทรมานมาก

หมอไมเกรน (ที่เคยไปหา) บอกว่า ถ้ารู้สึกเหมือนปวดไมเกรน
ให้เริ่มกินยาตั้งกะปวดนิดๆ เพราะถ้าปล่อยให้ปวดนาน
มันจะหายยากขึ้น
แต่พอเราท้อง พอปวดนิดๆ เราก็ไม่อยากกินยาใช่ป่ะ
ก็รอๆๆๆไป จนปวดเยอะ ทนไม่ไหว ก็ถึงกิน
แล้วมันก็ไม่หาย ก็ปวดไปเรื่อยๆเป็นวันๆ
กลุ้มใจมากๆๆๆ



แต่ในที่สุด พอช่วง 13 week อย่างที่บอก
ก็คือตอนหยุดยาวอาสาฬหฯ
พี่หยี่ตั้งข้อสังเกตุว่า กิ๊กไม่ปวดไมเกรนเลยนิ
กิ๊กก็นึกว่า สงสัยเพราะไม่ต้องไปทำงาน ก็เลยไม่เครียด 555
แต่เอาเข้าจริงๆ ถึงไปทำงาน ก็ไม่ปวดแล้ว
สรุป กลายเป็นว่าไม่ปวดไปเลย
(ณ วันที่อัพเดท จากวันที่ปวดครั้งสุดท้ายน่าจะครบเดือนได้แล้วที่ไม่ปวด
ซึ่งถือว่า น้อยกว่าตอนยังไม่ท้องซะอีกอ่ะ
ตอนนั้นปวดเดือนละ 1-2 ครั้งได้....เย้ เย้ เย้ )



แปลก



นอกจากอาการป่วยดังกล่าวข้างต้น
กิ๊กก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงแปลกๆ
อย่างทึ่เค้าบอกว่า อะไรที่ชอบ พอท้องก็ไม่ชอบ
แต่อะไรที่ไม่ชอบ พอท้องก็มาชอบ อะไรแบบนี้
เห็นทีจะจริง...แต่ของกิ๊กจะมีแต่ที่ชอบ ก็กลับไม่ชอบมากกว่า

กิ๊กได้คัดอาการแปลกๆที่ว่า เรียงตามความ surprise ของตัวเอง และคนรอบข้าง
เริ่มจาก อันดับน้อยสุด



3. อาการเกลียดของหอม

เพราะปกติ กิ๊กเป็นคนชอบอะไรหอม
สบู่หอม เทียนหอม อโรมา อะไรต่างๆ ต้องเลือกกลิ่นก่อน


แต่มาหลังท้อง....ไม่ชอบเลยยย
คือ กลิ่นหอม มันก็ยังหอมนะ ไม่ได้รู้สึกว่ามันเหม็น
แต่ว่า รู้สึกว่า มันฉุนอ่ะ แบบฉุนไป เวียนหัว
อย่างสบู่ ก็ต้องใช้สบู่เด็กที่ไม่มีกลิ่น แป้งก็แป้งเด็ก
พวกเทียนหอม น้ำมันหอมที่เคยจุดนี่ เก็บไปเลย
ขนาดผ้าที่ซัก ก็ไม่ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะถ้ามันติดเสื้อเนี่ย
เวียนหัวอ่ะ เหอ เหอ


2. อาการเกลียดอาหารญี่ปุ่น
ถ้าใครติดตามไดกิ๊กมาตั้งกะสมัยแรกๆ
จะรู้ว่ากิ๊กกับพี่หยี่ ชอบอาหารญี่ปุ่นมากก
เป็นอะไรที่ชอบเหมือนกันตั้งกะเป็นแฟน

แต่พอท้อง โดยเฉพาะหลังกลับจากทริปฮอกไกโด
ก็เกิดเอียนอาหารญี่ปุ่นซะงั้น
(แต่ตอนอยู่ญี่ปุ่นไม่เป็นเลยนะ มีแต่อยากกินนู่น อยากกินนี่ )
ตอนแรกพี่หยี่ก็นึกว่า สงสัยเพราะเพิ่งกลับจากญี่ปุ่นเลยไม่อยากกิน
แต่พอเวลาผ่านไป ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะอยากเลย
เห็นข้าวปั้น เห็นปลาดิบ ทนไม่ได้เลยอ่ะ
ถ้าดูทีวีอยู่นี่ต้องรีบเปลี่ยน
เป็นเอามากจริงๆ


คนที่ซวย คือ พี่หยี่ เพราะแต่ก่อนชอบเหมือนกัน
พอกิ๊กไม่กิน พี่หยี่เลยไม่ได้กินไปด้วย


แต่พี่หยี่ก็ปรับตัวได้
โดยการไปกินตอนข้าวกลางวัน (ทำงานคนละที่อยู่แล้ว)
ไปถึงก็สั่ง set lunch กิน ไม่ว่าจะฟูจิ จะ Zen
ตอนหลังมาบอกว่า ดีเหมือนกัน กินคนเดียว ประหยัดดี 555


อาการที่ต้องยกให้เป็นอันดับ 1 เลย

คือ อาการอยากอยู่บ้าน ไม่อยากออกไปไหน 5555

งงมั้ยคะ



คือ แบบว่า จริงๆแล้ว กิ๊กเป็นพวกชอบเที่ยวไง
ถ้าไม่ได้ไปเที่ยว ก็จะอยู่บ้านไม่ติดหรอก
ต้องออกไปห้าง ไปหานู่นนี่กิน ไปสปา
ไป one day trip ไปบ้านแม่ คือ อยู่ไม่ติดบ้านอ่ะ

แต่พอท้อง หลังกลับจากญี่ปุ่น ก็เกิดอาการเนือยขึ้นมาเลย
อยากอยู่บ้าน ไม่ไปไหนทั้งนั้น
รู้สึกว่า ออกไปมันร้อน มันเหนื่อย ก็ไม่อยากไปอ่ะ


คือถ้า อยากไป แต่ไปไม่ได้ เพราะต้องระวังนู่นนี่ก็ว่าไปอย่าง
มันก็จะไม่ happy
แต่นี่คือ ไม่อยากไปเอง การอยู่บ้าน ก็เลยทำให้ happy มากๆ
นั่งเล่น นอนเล่น อ่านหนังสือ ดูทีวีไรงี้


คนรู้จักทุกคน งงมาก ว่าไอ้กิ๊กเป็นอะไร อยู่ติดบ้านเป็นด้วยเหรอ
เวลามีคนถาม เสาร์-อาทิตย์นี้ไปไหน
ปกติ กิ๊กก็จะมีคำตอบตลอด ไปหัวหิน ไปนู่น ไปนี่
มาคราวนี้....ก็จะบอกว่า ไม่ไปอ่ะ อยู่บ้าน
ทุกคนจะงงกันมาก 555


เหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่ก็เป็นไปแล้วนะ
คือ กลับจากญี่ปุ่น ก็มีไปหัวหินครั้งเดียว
แล้วก็ไม่ได้ไปไหนแล้วอ่ะ
เก็บ voucher ท่องเที่ยวไว้ไปช่วง 4-6 เดือน (ที่หมอว่าปลอดภัย)
หยุดยาว 5 วัน (อาสาฬห) ก้ไม่ไปไหน อยู่บ้านอ่ะ


แต่สำหรับเรื่องเที่ยวอ่ะ ก็ยังอยากไปอยู่นะคะ
แต่จะเป็นแนวพักผ่อนจริงๆอ่ะ
คือ ไปถึงก็นอนโรงแรม เย็นออกไปหาไรกิน กลับมานอน chill
คือขอแค่นี้อ่ะ จะให้ไปตะลอนนู่นนี่ หาที่เที่ยว หาร้านกาแฟ หาสปา อะไรงี้
ไม่เอาอ่ะค่ะ ขอแบบพักจริงๆ



เปื่อย


ก่อนจบ ขอบันทึกการเปลี่ยนแปลงอีกอย่าง
เป็นอาการที่เรียกว่า ออกแนวโทรม 555


คือ ตั้งกะท้อง กิ๊กเกิดอาการ ไม่มีอารมณ์อยากแต่งตัวอย่างแรง
คือ เสื้อผ้า ไม่ซื้อ (เงินเหลือเป็นกอบเป็นกำ) หน้าเหน่อไม่แต่ง
ผมเผ้ากระเจิดกระเจิงโทรมมากก
เสื้อผ้าก็ใส่เก่าๆไปนั่นแหละ เน้นสบายพุงเป็นหลัก
หน้าก็โทรม...แรกๆ ขี้เกียจล้างหน้าอีกตะหาก สิวขึ้นเห่อเลย
ตอนหลังดีหน่อย ล้างหน้าทุกวัน สิวหายหมดแล้ว


เพื่อนๆส่วนใหญ่ เลยทายว่าจะได้ลูกชาย
เพราะแม่โทรมเหลือเกิน
วันๆไม่ทำอะไร...นอนอืดอยู่บ้าน
กินๆ นอนๆ..
ใครก็ทายว่าลูกเราจะขี้เกียจ 555


และด้วยความโทรม ก็ไม่ค่อยอยากไปไหน
ไม่อยากเจอเพื่อน เดี๋ยวมันเห็นว่าเราโทรม
ไม่อยากออกงาน งานแต่งนี่ไม่อยากไปเลย 555
เพื่อนชวนไปต่างจว.ก้ไม่อยากไป เพราะไม่อยากตากแดด ไม่อยากเหนื่อย
(คือ ไปกะเพื่อนมันก็จะลุยๆกัน ไม่ทะนุถนอมเหมือนไปกับพี่หยี่)
สงสัยว่า จนคลอดเนี่ย เพื่อนมันคงขับไล่ไปจากลุ่มแน่ๆ
เพราะไม่ไปไหนกับใครเค้าซักงาน



เพื่อนๆมีอาการอย่างงี้กันบ้างมั้ยคะ....เง้อออ



แต่ก็มีที่ๆนึง ที่ชอบไปมากๆ...ไว้เดี๋ยวค่อยๆมาเฉลยดีกว่า
พี่หยี่บอกว่า เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะ อิอิ



ปล. ว่าจะไม่เขียนยาว ก็ยาวอีกล่ะ อย่างว่า นานๆเขียนที เรื่องที่เขียนก็เลยเยอะอ่ะค่ะ ขออภัยที่ทำให้เพื่อนๆต้องใช้เวลานาน อิอิ



Create Date : 31 ตุลาคม 2552
Last Update : 8 พฤศจิกายน 2555 17:53:44 น.
Counter : 2036 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Beauty & Bambi
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]



ณ 31/1/2023

นิยามตัวเองได้ว่า เป็นคนชอบ เที่ยว กิน ช๊อป ค่ะ...แต่หลังๆไม่ได้อัพบล็อคเลย มัวแต่เล่น ig กับ เฟส ^^

บล็อคที่เขียนไว้อาจจะนานแล้ว แต่ก็ยังหวังว่าจะพอมีประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ถ้าได้เที่ยว (หลังโควิด ) จะมาอัพอีกนะคะ


*** เราไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คที่ blog เท่าไร่ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วมีคำถาม รบกวนถามมาทางอีเมลล์เลยนะคะ (ดูอีเมลล์จาก profile ได้ค่ะ) เรายินดีตอบทันทีค่ะ แต่ถ้ามาทิ้งคำถามไว้ที่ blog หรือ หลังไมค์ มันอาจจะนานกว่าเราจะมาอ่านเจออ่ะค่ะ ***
New Comments