|
คุณสมบัติของมืออาชีพ
จากหลายความเห็นของแบมในกระทู้ "จะทำงานเป็นมืออาชีพได้อย่างไร" //www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7447464/B7447464.html
***********************************************
โดยความสัตย์จริง คือ แบมไม่ค่อยอยากแปลคำว่า "มืออาชีพ" เท่าไร เพราะแบมรู้สึกว่ามันแปลยาก ความหมายมันดิ้นไปตามเงื่อนไขของแต่ละผู้แปล
เอาเป็นว่าแบมไม่แปลดีกว่า แต่แบมพูดโดยตัวตน โดยวิธีคิดของแบมดีกว่า
โกกล่าวไว้ว่า เคยมีเพื่อนถามผมเหมือนกันว่า.."มีกิจการเยอะๆทำได้ไง...???" ผมตอบทีเล่นทีจริงว่า..."ข้อแรก คุณต้องทำใจก่อน..."
แบมจะตอบว่า แบมทำงานโดยไม่ได้มุ่งหมายว่าตัวเองต้องได้อะไรอย่างไร แต่แบมทำงานโดยแบมตระหนักอย่างมาก ว่าคนเป็นเจ้าของกิจการเค้าต้อง "ทำใจ" แบมทำงานโดยวิธีคิดแบบใจเขาใจเรา แบมจะเสียใจมาก ถ้าการทำงานของแบม ทำให้เจ้าของกิจการต้อง "ทำใจ"
แบมเชื่อว่า การถูกเลือก การถูกว่าจ้างของลูกจ้างทุกคนนั้น เกิดขึ้นเพราะความคาดหวังลึกๆ ของเจ้าของกิจการว่า ผมจะไม่ต้อง "ทำใจ" ใช่ไหม ถ้ามีคุณอยู่ในองค์กร ทุกๆ วันของการทำงาน แบมทำด้วยวิธีคิดอย่างนี้ ทุกๆ วันที่มองเห็นปัญหา แบมพูดตรงๆ แบบไม่ได้อยากสร้างภาพว่า แบมสงสารเจ้าของกิจการ ทุกๆ วันที่มองเห็นพนักงานทำงานแบบไร้พลังและจิตวิญญาณ แบมก็สงสารเจ้าของกิจการ
และแบมจะค่อนข้างโรคจิตเป็นพิเศษ เมื่อได้ยิน ได้เห็น ผู้ที่กล่าวถึงองค์กรในทางแย่
กลับมาเขียนต่อ เพื่อตอบคำถามหัวกระทู้ค่ะ "จะทำงานเป็นมืออาชีพได้อย่างไร" (แต่ยังยืนยันไม่กล้าแปลคำนี้นะคะ)
แบมคิดว่า เราควรเริ่มที่ "การรู้จักตน" ก่อนค่ะ การใช้เวลาเพื่อรู้จักตนของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนทำงานมาเป็นสิบปียังไม่รู้ว่าตนเองเหมาะกับงานอะไรก็มี อาจเพราะไม่เคยถามตัวเอง หรือ กลัวคำตอบที่จะได้จากการถามตัวเอง แต่บังเอิญว่า ถ้างานคือส่วนสำคัญในชีวิตคุณ คุณจำเป็นต้องกลั้นใจถามตัวเองว่า คุณเหมาะกับงานอะไร? คุณทำงานประเภทไหนได้ดีเป็นพิเศษ และ มีความสุขในการทำสิ่งนั้น?
อ๊ะ อย่ามั่วประเมินตนแบบหลงตัวเอง คำว่า "ทำงานได้ดีเป็นพิเศษ" มิใช่สิ่งที่คุณคิดเอง แต่ต้องมีหลักฐานเป็นรูปธรรม มีผลงานเป็นที่ชื่นชมของผู้อื่น คนรอบข้างต่างก็ลงความเห็นว่า คุณทำสิ่งนั้นได้ดี แถมตัวคุณก็ยังมีความสุขในการทำสิ่งนั้นอีก นั่นคือความหมายที่แท้จริง
ถ้าคุณค้นพบแล้วว่าคุณเหมาะกับอะไร เราจะไปต่อกันที่ "เป้าหมายคุณคืออะไร?" ถ้าคุณใฝ่จะเป็น "มืออาชีพ" ก็อย่าเขินที่จะตั้งเป้าหมายให้สุด ทำไมคนเราจะไม่มีสิทธิฝันในเมื่อเราเหมาะ? บนเส้นทางที่คุณเหมาะนั้นสูงสุดอยู่ที่ไหน?
มองเห็นเป้าหมายแล้ว ต่อไปคุณต้อง "เติมความพร้อมของตัวเอง" จากตรงนี้จนถึงจุดนั้น คุณยังต้องเติมอะไรอีกบ้าง บางคนต้องการเติมความรู้ บางคนต้องการเติมประสบการณ์ ก็แล้วแต่ แบมค้นพบว่า หลายคนตกม้าตายตรงจุดนี้ การชินกับการมุ่งมั่นในสิ่งที่รับผิดชอบอยู่ ทำให้คนเราลืมทบทวนตัวเอง
ทั้งๆ ที่คุณรู้ว่าคุณต้องเติมความรู้ คุณกลับให้เหตุผลว่า "ไม่มีเวลาไปศึกษาต่อ" เป็นคำอธิบายที่น่าเสียดายแทนมาก เพราะคุณแปลข้อความ "งานคือสิ่งสำคัญของชีวิต" ว่า "งานที่นี่ คือสิ่งสำคัญของชีวิต" คุณเข้าใจผิดแล้ว คุณลืมแล้วหรือ ว่า ไม่มีคำว่าแน่นอนและมั่นคงในโลกการทำงาน ทำไมถึงเชื่อมั่นว่าสิ่งที่คุณมีอยู่ในมือในวันนี้ จะยังอยู่ในวันพรุ่งนี้ มันไม่มีอะไรเป็นของคุณถาวรทั้งนั้น สิ่งที่จะเป็นของคุณอย่างแท้จริงเพียงอย่างเดียว คือ "ความรู้" รีบกอบโกยเสียในขณะที่ชีวิตคุณยังมีเวลา กอบโกยเสียในขณะที่ความรู้เป็นสิ่งมีค่าที่จะนำพาคุณไปสู่จุดหมาย อย่าหาข้ออ้างที่จะไม่รับความรู้ค่ะ โปรดรู้ไว้ว่า ในโลกทำงานมีคนมากมายที่ก้มหน้าก้มตาทำงานไปเพื่อที่จะเงยหน้าขึ้นในวันหนึ่งแล้วพบว่า สายเกินไปที่จะเติมความรู้เพื่อสนับสนุนการเดินสู่เป้าหมาย บางทีโอกาสสำหรับคุณก็ไม่ได้อยู่รอคุณทั้งชีวิตนะคะ
ทั้งๆ ที่คุณรู้ว่าคุณต้องเติมประสบการณ์ในสายงานนี้ คุณกลับให้เหตุผลว่า "คุณอยากไปเรียนรู้งานอื่นบ้าง" ว่าแล้วคุณก็กระโดดข้ามห้วย ข้ามองค์กร ข้ามสายงานไปอยู่ในงานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกับงานที่คุณคิดว่าเหมาะกับตัวเองเลย ไม่ว่าจะด้วยข้ออ้างอะไรก็แล้วแต่ ช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายแทนมาก ที่คุณเลือกที่จะเดินออกจากเส้นทางที่เหมาะกับคุณ และ ละทิ้งเป้าหมายของคุณไป กว่าจะเจอสิ่งที่เหมาะกับตัวเอง ก็ยากเย็น คุณกลับปล่อยให้ ใคร หรือ อะไร ก็ไม่รู้พัดพาใจคุณออกจากเส้นทางที่คุณเลือกแล้ว แล้วคุณจะทำอย่างไรต่อไป???? กลับไปเริ่มต้นค้นหาสิ่งที่เหมาะใหม่ กลับไปเริ่มต้นตั้งเป้าหมายกันใหม่ อย่างนั้นหรือ??? เป้าหมายในชีวิตเป็นสิ่งที่เปลี่ยนกันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?
อ่ะ ย้ำกันอีกรอบ รู้จักตน >> ตั้งเป้าหมาย >> เติมความพร้อมตัวเอง
หมดไปหนึ่งตอน ได้มาแค่ แสดงให้โลกรู้ว่า เราพร้อมที่จะเสนอคุณสมบัติของตัวเองให้พิจารณา หากองค์กรต้องการ"มืออาชีพ"
แต่ยังไม่ไปถึงการทำงานของ "มืออาชีพ" เลย คุณสมบัติพร้อมก็แค่จิ๊กซอว์ตัวหนึ่งเท่านั้น ยังเหลืออีกจิ๊กซอว์อีกมากมาย ซึ่งหากขาดตัวใดตัวหนึ่งไป
Create Date : 25 มกราคม 2552 |
Last Update : 25 มกราคม 2552 2:19:16 น. |
|
4 comments
|
Counter : 858 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: Lady BarBie วันที่: 25 มิถุนายน 2552 เวลา:17:49:06 น. |
|
|
|
โดย: Maew IP: 117.47.214.12 วันที่: 4 มกราคม 2553 เวลา:19:19:24 น. |
|
|
|
โดย: รัชตะ IP: 124.122.227.26 วันที่: 28 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:45:36 น. |
|
|
|
โดย: ดารณี IP: 10.21.80.55, 61.7.185.113 วันที่: 11 ธันวาคม 2553 เวลา:16:53:02 น. |
|
|
|
| |
|
|