|
การแข่งขันอย่างสันติ และการตั้งสมมติฐานก่อนทำธุรกิจ
จากความเห็นที่ 148 และ 156 กระทู้ "อุบล.....หนาวมาก" //www.pantip.com/cafe/silom/topic/B7337347/B7337347.html
**********************************************
ความเห็นที่ 148
............................................. .............................................
เรื่องที่สองที่แบมคิดว่าเราต้องตั้งสติก่อนทำแผนคือ "ย้ำเตือนตัวเองให้แข่งขันอย่างสันติเสมอ"
แม้ว่าแบมจะชอบพูดเปรียบว่ากำลังจะออกไปสงคราม แต่ในความจริงแล้วแบมคิดว่าการทำธุรกิจและสงครามมีความแตกต่างกันอย่างน้อย 2 ประการ
1) สงครามนั้น ไม่ว่าจะยาวนานขนาดไหน ก็มีจุดสิ้นสุดเสมอ แต่การแข่งขันธุรกิจนั้นไม่เคยจบลงอย่างหมดจด
2) ในสมรภูมิรบ ภารกิจหลักคือ กวาดให้สิ้น ฆ่าไม่ได้ก็จับไปเป็นเชลย แต่ในสนามธุรกิจนั้น ไม่มีใครให้ฆ่า มีแต่ต้องแข่งกันทำให้ (ลูกค้า) รัก
ในภาวะที่คุณยังหา "นวัตกรรม" ไม่เจอ โปรดย้ำเตือนตัวเองให้แข่งขันอย่างสันติเสมอ เพราะสิ่งนี้จะช่วยรักษาโอกาสในการทำกำไร และ ยืดชีวิตธุรกิจคุณไปจนกว่าคุณจะคลำหา "นวัตกรรม" เจอ นั่นแหละ
การแข่งขันอย่างสันติ เริ่มตั้งแต่การที่คุณตั้งหัวใจตัวเองไว้ที่ "การมุ่งรักษาระดับกำไร" ด้วยจุดที่ยึดมั่นนี้ คุณจะไม่ยอมพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่หมกมุ่นอยู่แต่การสิ้นเปลืองทรัพยากรไปเพื่อแข่งกับใคร เพราะคุณจะรู้สึกว่า มันไร้สาระสิ้นดี ที่ต่างฝ่ายต่างยกเหตุผลในการต่อสู้แข่งขันว่า เพื่อ "ปกป้อง" ตัวเอง แถมในบางสนามแข่งกันมานานจนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าต้นเรื่องมันเกิดขึ้นได้อย่างไร
แทนที่จะเป็นอย่างนั้น คุณจะเลือกที่จะหมกมุ่นอยู่กับการ "สร้างความแตกต่าง" ให้กับตัวเอง ในสนามที่ตัวเองเชื่อมั่นว่าจะเป็น "ผู้ชนะ" ประเด็นของเรื่องนี้ คือ การประเมินหาสนามที่เหมาะสม ซึ่งแน่นอน ไม่ใช่การนั่งนึก หรือไปถามกับบรรดาผู้ตั้งตนว่าเป็นกูรู การประเมินที่แม่นตรงที่สุด คือการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง คุณจำเป็นต้องระบุตำแหน่งสนามที่ผู้แข่งขันคุณแต่ละรายยืนอยู่ คุณไม่จำเป็นต้องเสียดายบางสนามที่คู่แข่งคุณแข่งแกร่งด้วยทรัพยากรที่เหลือเฟือ แต่คุณจำเป็นต้องกวาดตามองหาสนามที่คุณมั่นใจว่า คุณสามารถสร้างความแตกต่าง หรือ ดีกว่า คู่แข่งที่ยืนอยู่กลางสนามนั้น
บางสนาม คุณพบว่า คู่แข่งของคุณก็ไม่ได้เหนือกว่าคุณสักเท่าใด คุณน่าจะชนะได้ แต่อย่ามั่นใจจนกว่า คุณจะได้ถามตัวเองอย่างซื่อตรงว่า คุณดีกว่าเค้าจริงๆ เหรอ??? ตรงไหนล่ะ??? ทำไมลูกค้าต้องเลือกคุณด้วย??? ถ้าคุณถามตัวเองแล้วไม่ได้คำตอบ หรือ เขินที่จะตอบ คนที่จะตอบคุณได้อย่างปรุโปร่งที่สุด คือ ลูกค้าของคุณ เตรียมรับคำตอบของพวกเขาไว้ให้ดี เพราะบ่อยครั้งมันช่างแตกต่างจากสิ่งที่คุณคิด มันจะตรง แรง และ เจาะใจคุณจนบางทีคุณอยากจะเบือนหน้าหนี คุณอาจตกใจที่พวกเค้าตอบคุณว่า ไม่ๆ คู่แข่งคุณไม่ได้ดีกว่าคุณตรงไหน แต่คุณมันแย่เหลือทนในเรื่องดังต่อไปนี้..............
คุณจะหนีไหม เมื่อเจอคำตอบนี้? หรือจะพาลด่าคู่แข่งคุณที่ทำให้ลูกค้ามีทัศนคติที่ไม่ดีกับคุณ เรียนรู้ที่จะแข่งแบบสันติเสีย ในโลกธุรกิจ บางทีมันก็ไม่มีใครมาทำให้คุณแพ้หรอก นอกจากตัวคุณเอง
ทบทวนตัวเองกันบ่อย ๆ ค่ะ
ไว้ว่ากันใหม่เรื่อง สิ่งที่ต้องเตือนสติข้อที่สาม เพราะตอนนี้แบตหมดแย๊วววว
จากคุณ : bam_ka@ - [ 6 ม.ค. 52 23:19:03 ]
: Mythica88, mpl2004, คุณไข่เป็ด
************************************************ ความคิดเห็นที่ 156
เรื่องที่สามที่ควรเตือนสติตัวเอง ก่อนทำแผน ที่แบมติดเอาไว้ คือ "ตั้งสมมติฐานของคุณจากเรื่องจริงเท่านั้น" เวลาเราจะกำหนดวิธีเดิน เรามักจะเคยชินที่จะถามตัวเองเป็นคนแรก ว่าจะเดินยังไงหรือแม้จะถามว่า จะเดินดีไหม ถ้าถามตัวเองแล้วยังไม่แน่ใจ เราจะเลือกถามคนที่เราสนิทคุ้นเคย เราทำอย่างนั้น เพราะเราชิน แต่สิ่งที่เราชินนี้ควรเก็บไว้ใช้กับเรื่องอื่น ไม่ใช่กับเรื่องธุรกิจ
ถ้าคุณจะทำธุรกิจ การตั้งสมมติฐานของคุณจำเป็นต้องมาจากเรื่องจริงเท่านั้น บุคคลที่เป็นผู้กำข้อมูลเรื่องจริงทั้งหมดคือ ลูกค้า และ ข้อมูลสิ่งที่เกิดขึนในอดีต (ถ้ามี) ทั้งหมดนั่นคือ สิ่งที่คุณต้องศึกษาเพื่อตอบทุกสมมติฐาน ทุกคำถามในใจคุณ แต่ถ้าคุณใช้วิธีถามตัวเอง หรือ คนรอบข้างคุณที่ไม่มีคุณลักษณะของลูกค้าเป้าหมาย แล้วตัดสินใจในเรื่องธุรกิจของคุณ ภาษาสั้นๆ ห้วนๆ เรียกว่า "นั่งเทียน"
ถ้าคุณ "นั่งเทียน" แล้วฟลุค ตัดสินใจถูกถือว่าเฮง และ โชคดี แต่เชื่อเถอะว่า บนเส้นทางธุรกิจ ความเฮงไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ธุรกิจเป็นเรื่องราวที่มี ที่มาที่ไป มีคำอธิบายสำหรับทุกสถานการณ์ หลักฐานที่แสดงว่า ความเฮงไม่ได้เกิดบ่อย คือ ตัวเลขของธุรกิจที่ปิดกิจการซึ่งมีทุกวัน วันละไม่ใช่น้อยๆ
Create Date : 25 มกราคม 2552 |
Last Update : 25 มกราคม 2552 2:08:20 น. |
|
0 comments
|
Counter : 784 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
|