มะเร็งรักษาได้ แค่สมุนไพร กับความเชื่อ
มะเร็ง เป็นโรคยอดฮิต ในปัจจุบัน ใครไม่เป็นตกเทรนด์ชะมัด แค่ฟังชื่อ ก็ขนลุกกันไปตามๆ กันแล้ว แต่โรคนี้มันมีทางรักษาค่ะรักษาได้แน่นอน ไม่ต้องใช้เงินเยอะเป็นแสนๆ อย่างที่เขาคิดกันบางคนไม่ได้ใช้เงินเลยก็มีค่ะ (แล้วแต่วิธีรักษาของแต่ละคน และอาการป่วย)มีคนป่วยกันเยอะ แต่คนที่รักษาหายมีไม่เยอะ เพราะไม่รู้ คนที่ป่วยเป็นมะเร็งต้องหลีกเลี่ยง อาหารทะเลทุกชนิด ไข่เป็ด เป็ดและหน่อไม้ เพราะมันเป็นของแสลง ถ้ายิ่งกินก็จะยิ่งกำเริบหนัก โดยเฉพาะไข่เป็ด อันตรายมาก เร่งเวลาตายได้อีกหลายเดือนเลยทีเดียว บางคนไม่รู้จักของแสลงถึงรู้ว่าเป็นแต่ก็ยังกินอาหารเหมือนเดิม จากที่จะหาย ก็เร่งจะให้ตายเสียมากกว่า มีเด็กหลายคนที่ป่วยด้วยโรคนี้และหาทางรักษาไม่ได้ เพราะโรคนี้ส่วนใหญ่ ใครที่เป็นแล้ว หายจะรู้ว่า ยาหม้อหรือยาโบราณ เท่านั้น ที่จะรักษามันได้ ไม่ใช่ยาหลวงเลยสักนิด แต่วิธีรักษาอาจไม่เหมือนหมอตามคลินิก หรือ โรงพยาบาลที่เราเห็นกันทั่วไป เพราะต้องมีค่าครูและค่ายาซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิ 30 บาท เบิกได้ เรื่องที่ฉันจะถ่ายทอดให้รู้กันในครั้งนี้ ไม่ได้มาให้ใครเชื่อ ไม่ได้ลบลู่ใคร และไม่ได้หวังผลอะไรแต่ขอแค่เป็นหนทางเลือกสำหรับคนที่ยังมีความหวัง และเข้าใจในชีวิตอย่างแท้จริง ตั้งแต่เด็ก ฉันป่วยมาตลอดเป็นเด็กขี้โรค เวลาป่วยทีก็กินยาหม้อที ฉันกินยาหม้อมานับไม่ถ้วนจนปัจจุบันก็ยังกินอยู่ แต่ไม่ใช่กินทุกเดือน ทุกปี กินแค่ให้หาย หายแล้วก็หยุดฉันก็ไปโรงพยาบาล ในเวลาที่ป่วย แล้วรู้ว่า มันป่วยเพราะอะไร แต่ฉันไม่ชอบหมอโรงพยาบาลยอมรับว่า หมอบางคนดูแลคนป่วยดีมาก แต่หมอบางคนก็ปากจัดมาก เคยรู้สึกเบื่อไหม กับเวลาที่หมอซักประวัติ ถามว่า เป็นอะไรมา ฉันรู้ว่า หมอทำเพราะอะไร แต่ฉันเกลียดมาก.... เพราะอะไรหรอ!!! หากเราบอกอาการผิด หมอก็จะวินิจฉัยโรคให้เราผิดไปด้วยฉันไปโรงพยาบาลมาหลายหน แล้วมีอยู่สองหนที่หมอวินิจฉัยโรคผิด แล้วให้ยากิน ฉันเลือกที่จะกลับไปรักษาแบบเดิมเพราะฉันรู้ว่า ป่วยเป็นอะไร บางคนคงอยากถามว่ารู้ว่าป่วยโรคอะไรแล้วไปหาหมออีกทำไม คำตอบก็คือ เพื่อต้องการใบที่ยืนยันว่าเราเป็นโรคอะไรไง คนอื่นๆ จะได้ปรับให้เหมาะกับเราได้ และเราจะได้เข้ากับคนอื่นๆได้ง่ายขึ้น ที่นี่ ที่ฉันกำลังจะบอก เขาใช้วิธีแมะ เป็นการรักษาแบบจีนวิธีนี้ฉันชอบมาก เพราะรู้หมดว่า ตัวเองเป็นโรคอะไร และไม่ต้องพูดอธิบายให้มากความแค่มาหาและยื่นแขนให้รักษา คนไข้รายใหม่แต่ละวันไม่เยอะค่ะแต่รายเก่าเยอะมาก หมอลงแค่ 08.00 09.30 น. ประมาณนี้ ลงวันละแค่รอบเดียว แต่รักษาทั้งวัน คนที่จะตรวจต้องมาตอนนี้แต่ถ้าใครเคยตรวจแล้วก็รักษาได้เลย โรคที่คนส่วนใหญ่จะมาหา ก็จะหนีไม่พ้น โรคมะเร็งและคนป่วยที่หนักมากๆ แบบที่หมอ โรงพยาบาลเมินแล้ว (คนที่เป็นมะเร็งลุงหมอจะรับรักษาเฉพาะคนที่ยังไม่ได้ฉายแสงเท่านั้น ต่อให้ระยะสุดท้ายก็เถอะถ้ายังไม่ฉายแสง รักษาได้หมดค่ะ) ใครไม่เชื่อ หรือไม่แน่ใจเช็กที่โรงพยาบาลมาก่อนก็ได้ มาถึงก็บอกว่า มาตรวจโรค แค่นี้เอง ที่นี่ เขาลงทรงค่ะ ลุงหมอ ที่รักษาเป็นร่างทรงค่ะเป็นทรงมาก่อนฉันจะเกิดซะอีก คิดว่า ประมาณ 30 ปีแล้ว ลุงหมอเก่งมาก คนจากต่างจังหวัดมากันเยอะ เขาไม่ได้คิดค่าครูแพงปีละ 39 บาทจ่ายครั้งเดียวอยู่ไปนานค่ะ ลุงหมอช่วยได้ทุกเรื่อง แต่เรื่องหลัก คือ การรักษาคนค่ะ หลวงปู่ ก็เคยรักษามะเร็งต่อมลูกหมากที่นี่ กินไปสี่หม้อ ก็หายหมอขนาดหมอโรงพยาบาลยังแปลกใจ ถามหลวงปู่หลายรอบ แต่หลวงปู่ไม่บอกค่ะ กลัวหมอว่า (หลวงปู่ไปตรวจโรงพยาบาลมาก่อนแล้วถึงไปหาลุงหมอ) ฉันไม่ได้เขียนเรื่องราวเหล่านี้เพื่อให้ใครเชื่อแต่ฉันสงสารคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน คือ หมดความทางรักษาอย่างที่เรารู้จักว่า -- โรงพยาบาลทุกแห่งไม่เคยรักษามะเร็งให้หายได้มีแต่ตายหรือไม่ก็ชะลอไว้อย่างเดียว มันเป็นหนทางที่สิ้นหวังเมื่อต้องเข้าโรงพยาบาล ฉันคิดอยู่เสมอว่า ในเมื่อคนเราเป็นโรคนี้ได้ ก็ต้องหายได้เพราะมันต้องมีสาเหตุที่ทำให้เกิด ถ้าเรารู้ เราก็ตัดเหตุได้อย่างที่พระพุทธเจ้าท่านได้ทรงตรัสไว้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ทุกโรคก็ต้องมีทางรักษาอยู่ดี อยู่ที่ว่า ใครจะเจอทางรักษาหรือเปล่า ฉันยอมรับว่า ตัวเอง โชคดีที่ครอบครัวได้รู้จักกับลุงหมอ เพราะไม่ว่า เรื่องเดือดร้อนอะไรลุงหมอก็จะช่วยเราได้ตลอด แต่บางอย่าง ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ ก็นับว่าดีมากแล้ว ถามตัวฉันว่าเชื่อเรื่องเหล่านี้มากแค่ไหน.... ฉันเชื่อแค่ครึ่งต่อครึ่ง เพราะฉันเคยเห็นเจ้าจริง และเจ้าปลอม ทรงจริงและทรงปลอม ฉันเจอมาหมด ฉันไม่ได้บอกให้ใครเชื่อฉัน ไม่ได้บอกให้ลบหลู่ใครแต่มีคนเคยทำมาแล้ว เรื่องเป็นแบบนี้ ง่ายๆ บางคนมาตรวจแล้วไม่เชื่อ ก็ไปศูนย์มะเร็ง ผลตรวจก็ตรงกัน แค่นั้นเอง ของมันง่ายบางครั้งเราก็ต้องใช้วิทยาศาสตร์ช่วยบ้าง เพื่อไม่ให้ดูงมงายจนเกินไป แต่สำหรับฉันลุงหมอ ไม่ได้ทำให้ฉันงมงาย แต่ทำให้ฉันเข้าใจอะไรได้มากขึ้น คนที่เชื่อก็มีที่ไม่เชื่อก็ไม่มี แต่เราไม่สามารถไปบีบบังคับเขาได้ เขาจะรักษาก็เรื่องของเขาไม่รักษาก็เรื่องของเขา ตัวเขาต้องตัดสินใจเอง ค่ายา ลุงหมอก็คิดไม่แพงแล้วแต่โรคค่ะ เมื่อก่อนแม่เล่าให้ฟังว่า ลุงหมอให้ยามะเร็งฟรี เพื่อเป็นทานแต่หลังจากนั้นมาก็ต้องคิดเงิน เหตุผล 1. ยามะเร็งบางตัวเริ่มสูญหายไปเมื่อก่อนลุงหมอไปขุดยารักษาโรคมะเร็งที่บางคล้า เข้าทรงไปขุดเจ้าจะนำทางไปเจอต้นยานั้นแล้วก็ขอขุดมา ตอนหลังๆ ที่แถวบางคล้าเริ่มเจริญขึ้นพื้นดินแปรเปลี่ยนเป็นพื้นคอนกรีต ต้นยาหลายตัวเริ่มสูญหาย 2. ลุงหมอต้องสั่งซื้อสมุนไพรบางตัว ซึ่งบางตัวต้องข้ามไปเอาจากประเทศพื้นบ้านเพราะป่าไม้อุดมสมบูรณ์กว่าเรามาก 3. ต้นยาไม่สามารถปลูกขึ้น ขึ้นชื่อว่า สมุนไพร บางตัวก็แปลกว่า จะต้องขึ้นเองตามธรรมชาติจะนำมาปลูกไม่ได้ มันไม่ขึ้นค่ะ ฉันมีความฝันลึกๆว่า ถ้ามีเงินมากมาย จะไปซื้อที่แถวบางคล้าทิ้งไว้สัก 50 ไร่ เพื่อให้ต้นยาพวกนี้ได้ขึ้นมาอีกแต่ก็ต้องเร็วก่อนที่ลุงหมอจะไม่อยู่กับเราปัจจุบันฉันก็ยังไปขุดต้นยาบางต้นที่นั่น แต่ก็เริ่มเห็นว่า วี่แววว่า อีกไม่นาน คนที่ป่วยด้วยโรคนี้ ต้องตายจนหมดแน่เพราะความเจริญที่กำลังย่างกรายเข้ามา จนพื้นดินแทบไม่เหลือให้หญ้าสักต้นได้ขึ้น สำหรับฉันฉันไม่กังวลแล้ว เพราะรักษาคราวนี้ ถ้าฉันได้กินยาตัดรากเมื่อไร รุ่นลูกรุ่นหลานก็จะไม่เป็นโรคนี้อีกแล้ว อย่างที่เรารู้จักว่าโรคนี้สามารถถ่ายทอดได้ทางกรรมพันธุ์ ญาติทางพ่อของฉันเป็นโรคนี้กันทั่วหน้าค่ะปู่ อา ป้า เป็นกันทั่วหน้า แล้วมันก็พาลมาที่..... ช่างเถอะค่ะ เอาว่ามีทางรักษาก็แล้วกัน มีสูตรยารักษามะเร็งอีกฉบับที่ฉันอ่านเจอใช้ต้นไมยราบ และต้นลูกใต้ใบ ทั้ง 5มาต้มรวมกัน แล้วดื่มน้ำ คำว่าทั้ง 5 บางคนอาจงง หมายถึงลำต้น ใบ ดอก ผล และราก ค่ะ มาฟังกันต่ออีกว่าค่ะ ทุกครั้งที่มีคนไข้มาใหม่เวลาตรวจเสร็จ บอกโรคแล้ว ลุงหมอก็จะถามว่า จะรักษาไหม ไม่รักษาก็ไม่เป็นไรไม่ว่ากัน (เจ้าองค์นี้ แก่มากแล้วเวลาลงก็จะหง่อมมาก แต่เก่งมากๆ ค่ะ รู้หมดทุกอย่างอ่ะ เราเจอมาแล้ว) ฉันเอง ถ้าไม่เจอ ลุงหมอคงตายไปนานแล้ว ไม่ได้มีโอกาสอยู่มาถึงตอนนี้หรอก แต่มา ณ วันนี้สิ่งที่ฉันกังวลอีกอย่างหนึ่ง ก็คือ หากหมดลุงหมอไป แล้วใครจะทำหน้าที่แทน ฉันจะอธิบายเรื่อง เจ้า ให้ฟังแบบง่ายๆ พอให้เข้าใจกัน (สำหรับเจ้าของลุงหมอ) องค์นี้จะไม่เหมือนเจ้าที่เราเจอกันบ่อยๆ(ไม่เอ่ยชื่อน่ะค่ะ กลัวบางคนไม่เชื่อ ไปว่าท่าน จะว่า ก็ว่า เราแค่คนเดียวพอ) แบบพระแม่องค์ต่างๆ หรือเจ้าพ่อต่างๆที่เรามักจะคุ้นชื่อกัน ท่านไม่ใช่เจ้าแม่ เจ้าพ่อที่ไหนค่ะ ถ้าให้คิดทางธรรมเป็นเทพองค์หนึ่ง มีเทพบุตรสององค์เป็นบริวาร การปฏิบัติตัวของลุงหมอจะเคร่งมาก ตั้งแต่ 21.00 00.00 ต้องสวดมนต์ทุกวันจากนั้นเข้านอน ตื่น 04.00 เพื่อรักษาคนไข้ 8.30 9.30 เป็นเวลาลงทรงค่ะแล้วแต่แขกที่จะมา บ่ายๆ ลุงหมอก็จะพักผ่อนค่ะ หรือทำงานอื่น (วันพระไม่ลง) ที่อยู่จะต้องสะอาด เรียบร้อยไม่เหมือนกับเจ้าบางที่เราเจอ ที่ตำหนักจะมีฝุ่นเยอะๆ เพราะที่นี่ต่างกันค่ะ(แต่เราไม่ได้ลบหลู่ เราก็เคยไปหาเจ้าที่อื่นเหมือนกัน ) เนื่องจากมีคนป่วยด้วยต้องรักษาความสะอาดเป็นพิเศษค่ะ <<<<เคยมีคนถามฉันว่าทำไม เจ้าองค์หนึ่งมีร่างเยอะจัง อย่างที่เรารู้ๆ กันว่า บางคนบอกว่าเป็นทรงของพระฤาษี ของพระแม่รัศมี พระ...... มากมายค่ะ ฉันก็ตอบได้แค่ว่ามีหลายภาคค่ะ แต่บางองค์ท่านแบ่งภาคอย่างละภาคหรือไม่ก็ ไม่เคยแบ่งภาคเลยก็งงๆเหมือนกัน แยกกันให้ออกหน่อยน่ะค่ะ จะเชื่อก็เชื่อได้ แต่ใช้สติเวลาเชื่อค่ะ เวลาเราไปหาเจ้าเรื่องเดียวกันนี่แหละ แต่ไปหาหลายเจ้าเลย ไปสามที่ก็เรื่องเดียวองค์ไหนพูดแล้วหลายกับองค์ไหนมากที่สุดก็เอามารวมๆ กันแล้วตัดสินใจค่ะ แต่ถ้าบางคนไปเจอเจ้าเก่งๆ เลยก็องค์เดียวอยู่ค่ะ รู้หมด บางทีต้องขอลองถามดูนิดนึ่ง ไม่ได้ลบหลู่แต่เพื่อความมั่นใจค่ะ>>>>>> ถ้าดูจากการรักษา จะคล้ายแบบจีนใช้วิธีการแมะ ใช้ยาสมุนไพรในการรักษา มีทั้งยาหม้อ ยาทา และยาเม็ด สรุปง่ายๆ ค่ะอยากให้คนที่ป่วยด้วยโรคนี้ มีโอกาสกลับมามีรอยยิ้ม และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขแบบที่เคยเป็นอยู่ ได้มีชีวิตใหม่ และช่วยเหลือคนอื่นๆ ที่กำลังลำบากให้หายดี ฉันเห็นใจหลายคนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งทั้งที่อายุยังน้อย เกิดมาทั้งที่ กำลังจะมีอนาคตที่สดใสก็ต้องมาดับ เพราะป่วยซะเนี่ย
Create Date : 02 เมษายน 2556 | | |
Last Update : 2 เมษายน 2556 21:15:45 น. |
Counter : 1807 Pageviews. |
| |
|
|
|