เดินทางไปทำงานทิศทางเดียวกัน ทำให้รักแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

คู่แต่งงานหรือว่าคู่รักที่อยู่ด้วยกันแล้วหลาย ๆ คู่ อาจตัดสินใจเลือกซื้อหรือเช่าบ้านและคอนโดอยู่ โดยพิจารณาให้อยู่ตรงกลางระหว่างที่ทำงานของกันและกัน เพื่อที่จะได้เดินทางไปทำงานสะดวก แต่ความคิดนี้อาจต้องพิจจารณาใหม่เสียแล้ว เมื่อทีมนักวิจัยด้านจิตวิทยาสังคมนำโดย ไอรีน หว่อง จากมหาวิทยาลัยไชนีส ในฮ่องกง พบว่า การที่คู่รักออกจากบ้านและเดินทางไปยังที่ทำงานในทิศทางเดียวกัน มีส่วนทำให้ความรักของคู่รักคู่นั่นกระชับแน่นแฟ้นขึ้น

         
ผลการวิจัยชิ้นนี้ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสารการทดลองจิตวิทยาสังคม โดยได้ทำการทดลองสองครั้ง ครั้งแรกทำการสำรวจกับชาวอเมริกันที่แต่งงานแล้วจำนวน 280 คน อายุเฉลี่ย 33 ปี และแต่งงานมาแล้วเฉลี่ย 8 ปี พบว่า กลุ่มผู้ทดลองที่คนรักมีที่ทำงานอยู่ในทิศทางเดียวกัน มีความรู้สึกพึงพอใจและมีความสุขกับชีวิตคู่ของตน มากกว่ากลุ่มที่ต่างคนต่างเดินทางออกจากบ้านไปทำงานคนละเส้นทาง โดยยังพบว่าระดับความพึงพอใจนี้เกี่ยวพันกับเรื่องทิศทางที่ทำงาน แม้จะไม่ได้ออกจากบ้านพร้อมกันก็ตาม และไม่ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน จำนวนบุตร รายได้ หรือว่าเวลาว่างที่ทั้งสองมีตรงกันอีกด้วย

          การสำรวจครั้งที่สองทำขึ้นกับชาวฮ่องกง ซึ่งแต่งงานแล้วจำนวน 139 คน อายุเฉลี่ย 42 ปี และใช้ชีวิตคู่มาแล้วเฉลี่ย 13 ปี ผลที่ได้ก็ยังคงเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการสำรวจครั้งแรก คือ คู่รักที่เดินทางไปทำงานในทิศทางเดียวกัน มีความพึงพอใจและมีความสุขในชีวิตคู่มากกว่าคู่ที่ต่างคนต่างไปทำงานคนละทิศทาง

          นอกจากผลการสำรวจทั้งสองครั้งที่ ไอรีน หว่อง ได้อ้างอิงถึงในวารสารแล้ว ยังมีการทดลองอีกชิ้นหนึ่งที่ยืนยันเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี โดยได้นำคนแปลกหน้าทั้งหมด 80 คน มาจับคู่ และได้มอบหมายภารกิจต่าง ๆ กันไปให้แต่ละคนทำ พบว่าคู่ที่บังเอิญได้รับภารกิจที่ต้องเดินทางไปจัดการทำในทิศทางเดียวกัน จะมีทัศนคติเชิงบวก และความรู้สึกพึงพอใจต่อกัน มากกว่าคู่ที่ต่างคนต่างแยกกันไปทำภารกิจของตัวเอง

          หว่อง กล่าวว่า การที่ร่างกายได้เคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน อาจมีความเกี่ยวพันกับความรู้สึกที่ได้มีจุดมุ่งหมายในชีวิตร่วมกัน ทำให้คนทั้งคู่มีความสุขและพึงพอใจในชีวิตรักมากขึ้น

          โดยสิ่งที่ได้ค้นพบในครั้งนี้เป็นเหมือนกับที่นักเขียนและนักบินชาวฝรั่งเศส อองตวน เดอ แซ็ง-แตกซูว์เปรี ได้กล่าวเอาไว้ในหนังสือเจ้าชายน้อย (The Little Prince) ของเขาว่า "ความรักไม่ได้แค่การนั่งมองจ้องตา แต่เป็นการมองออกไปยังทิศทางเดียวกันด้วยกันทั้งคู่ต่างหาก" ("Love does not consist in gazing at each other, but looking in the same direction together.") ซึ่งช่างเป็นคำกล่าวที่ตรงกับผลการวิจัยครั้งนี้จริง ๆ

          บางทีจากนี้ต่อไปหากคู่รักคู่ไหนจะเลือกซื้อบ้านอยู่ด้วยกัน การเลือกบ้านที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเดินทางไปทำงานในเส้นทางเดียวกัน แม้จะต้องเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกหน่อย แต่ก็อาจจะดีกว่าเลือกบ้านที่อยู่ตรงกลางระหว่างที่ทำงานของทั้งสองคนก็ได้นะ :)


* kapook.com *




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2555 8:59:14 น.
Counter : 824 Pageviews.  

4 ข้อห้ามในการเมคอัพ หากไม่อยากกลายเป็นตัวตลก

แต่งหน้า



เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

          เมคอัพเปลี่ยนคุณให้กลายเป็นอีกคนที่มีลุคอย่างที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเป็นสาวเปรี้ยวเฉี่ยว เซ็กซี่ หวานสดใส หรือเรียบร้อยสุภาพ แต่ที่แน่ ๆ คือคงไม่มีใครอยากแต่งหน้าตัวเองให้กลายเป็นตัวตลก ที่คนอื่นมองแล้วรู้สึกขำขันกันหรอกใช่ไหม (ยกเว้นแต่จะตั้งใจแต่งหน้าเป็นตัวตลกเพื่อไปงานเลี้ยงจริง ๆ เท่านั้นล่ะนะ) ถ้าไม่อยากพลาดกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่น ๆ ลองมาดูไว้ กับ 4 ข้อห้ามในการเมคอัพเหล่านี้

     1. อายไลน์เนอร์สีดำ + เหงื่อ = ใต้ตาคล้ำเป็นแรคคูน

          ออกไปปาร์ตี้กับเพื่อนทั้งทีก็ขอเนรมิตลุกโฉบเฉี่ยวเปรี้ยวเก๋ให้ตัวเองด้วยอายไลน์เนอร์สีดำ ยิ่งดำก็ยิ่งดีเพราะจะทำให้คุณโดดเด่นบาดตายิ่งกว่าคนอื่น ๆ แต่เผอิญคืนนั้นดันแดนซ์เพลิน เหงื่อเลยซึมนิด ๆ พอเข้าห้องน้ำอีกทีได้ส่องกระจกดูก็แทบช็อก เพราะอายไลน์เนอร์ที่จัดเต็มมามันเลอะเปรอะลงมาถึงขอบตาล่าง ตาเลยดูคล้ำ ๆ ช้ำเป็นวง คิดแล้วอายคนที่เดินผ่านก่อนจะมาเข้าห้องน้ำจัง

     2. อายแชโดว์สีขาวสำหรับแต่งหน้าเป็นผีเท่านั้นแหละ

          ใครคิดว่าอายแชโดว์สีขาวทำให้ดวงตาดูสว่างขึ้น ขอให้คิดใหม่เถอะนะ จากประสบการณ์การแต่งหน้าที่เคยฮิตแต่งตาด้วยอายไลน์เนอร์สีขาวเมื่อสมัยยังวัยรุ่น เมื่อได้ย้อนกลับไปดูรูปแล้วยังนึกขำตัวเอง ว่านี่กำลังดูรูปคนหรือว่าผีดิบเดินได้กันแน่

     3. เลือกบรอนเซอร์ให้ถูกเฉด

          อยากได้ผิวแทนบ่มแดดดูสุขภาพดี บรอนเซอร์ช่วยคุณได้ แต่ก็ต้องเลือกใช้ให้ถูกเฉดด้วยนะ ไม่ใช่หน้าดูบ่มแดดสวยวาวเป็นประกายเชียว แต่คอยังซีด ๆ อยู่ หรือจะปัดทั่วดีแล้วทั้งหน้าทั้งคอ แต่ยังไงก็ยังดูออกอยู่ดีว่าสีที่ใบหน้ากับลำคอมันผิดกับสีของผิวกาย ..เอาเป็นว่าถ้าเลือกสีมาเข้ากับผิวได้ดีปัญหาพวกนี้ก็จบ

     4. อายไลน์เนอร์สีนีออนคู่กับปากสีสด ..ห้ามเด็ดขาดจริง ๆ

          มันดูเยอะเกินไปจริง ๆ หากคิดจะโชว์ความเปรี้ยวด้วยอายไลน์เนอร์สีนีออน แล้วยังจับคู่กับการใช้ลิปสติกสีสว่างอีก เลือกเอาแค่อย่างใดอย่างหนึ่งดีกว่า ไม่อย่างนั้นใบหน้าคุณจะเหมือนติดหลอดไฟสว่างไสวไว้คู่กันตั้ง 2 ดวงแน่ะ


          รู้เรื่องที่ไม่น่าไปทำพลาดในการแต่งหน้าอย่างนี้แล้วก็อย่าลองไปทำตามเชียว เราเตือนคุณแล้วนะ !


* kapook.com *




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2555 8:58:07 น.
Counter : 1417 Pageviews.  

เรื่องย่อละคร รักเกิดในตลาดสด


รักเกิดในตลาดสด ละครรักเกิดในตลาดสด ละครช่อง3

ละครรักเกิดในตลาดสด บทประพันธ์โดย : นราวดี
ละครรักเกิดในตลาดสด บทโทรทัศน์โดย : สนุกคิด-สนิทเขียน
ละครรักเกิดในตลาดสด กำกับการแสดงโดย : พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครรักเกิดในตลาดสด แนวละครโดย : โรแมนติก-คอมเมดี้
ละครรักเกิดในตลาดสด ผลิตโดย : บริษัท แอ็คอาร์ต เจเนอเรชั่น จำกัด
ละครรักเกิดในตลาดสด ควบคุมการผลิตโดย : ธัญญา วชิรบรรจง
ละครรักเกิดในตลาดสด ออกอากาศทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. เสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3

 เรื่องย่อรักเกิดในตลาดสด

          ตลาด...เคยเป็นสังคมสงบสุขเล็ก ๆ ถึงผู้คนจะพลุกพล่านแต่ก็อบอุ่น จนถึงวันนี้ด้วยพิษเศรษฐกิจและการเปลี่ยนไปของสังคมเมือง ห้างสรรพสินค้าเข้ามามีบทบาทต่อคนมากขึ้น ทำให้ตลาด...ที่เคยรุ่งเรืองต้องกลับซบเซาลง แต่ผู้คนในตลาดแห่งนี้ก็ยังคงยึดอาชีพเดิมไม่เปลี่ยน แม้ยอดขายรายวันและลูกค้าประจำจะหดหาย แต่เสียงหัวใจของผู้คนในที่แห่งนี้ก็ยังเต้นต่อไป

          ต๋อง นักศึกษาหนุ่มผู้เต็มไปด้วยความฝันและจินตนาการ ต้องมารับหน้าที่ขายผักแทนพี่สะใภ้ที่ท้องแก่ใกล้คลอด ต๋องคิดหาวิธีเรียกลูกค้าตามประสาคนมีความคิดแหวกแปลกแนวไม่เหมือนชาวบ้าน ทั้งเล่นกีต้าร์ ร้องเพลง แหล่เรียกลูกค้า รวมไปถึงเลียนเสียงคนดังผ่านไมค์ดึงดูดลูกค้าให้มาเข้าร้าน ทำให้ตลาดที่ซบเซาดูมีสีสันมากขึ้น และด้วยความเป็นคนช่างพูดช่างคุยทำให้เป็นที่สนิทสนมของคนในตลาดได้อย่างรวดเร็ว

          แต่วิธีการแปลกประหลาดของต๋องไม่ได้มีไว้แค่ดึงดูดลูกค้าเท่านั้น แต่ลุกลามไปถึงขั้นจีบกิมลั้ง สาวหมวยสวยหวาน แม่ค้าร้านขายปลาฝั่งตรงข้าม จนสร้างความไม่พอใจให้กับ กิมฮวย แม่ของกิมลั้ง ทำให้มีปากเสียงกันเป็นประจำ กิมลั้งแม้จะเก็บอาการทำเป็นไม่สนใจต๋อง แต่นานไปก็มีอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คล้อยตามไปด้วย จนถึงขั้นพูดคุยต่อปากต่อคำกันไป จนกิมฮวยอยากจะสั่งห้ามกิมลั้งมาขายของ ติดแต่ว่าไม่มีใครมาผลัดเปลี่ยน ลำพังจะพึ่ง กิมแช ลูกสาวอีกคนที่เอาแต่กินกับนอนก็พึ่งไม่ได้

          ที่สำคัญกิมฮวยต้องการให้กิมลั้งได้มาพบเจอกับจาตุรงค์ ลูกชายเต๊กไฮ้ เจ้าของร้านขายหมูที่เธอหมายมั่นที่จะให้ทั้งสองตกล่องปล่องชิ้นเป็นทองแผ่นเดียวกัน จาตุรงค์เองก็แอบชอบกิมลั้งอยู่แล้วทุกอย่างเหมือนจะลงตัว แต่ติดที่กิมลั้งไม่ถูกชะตากับจาตุรงค์ เพราะแอบเห็นจาตุรงค์นัดเพื่อนเที่ยวสำมะเลเทเมา ไม่ได้เอาการเอางาน เหมือนกับภาพที่สร้างไว้ให้กิมฮวยได้เห็น

          ต๋องมุ่งหน้าตามจีบกิมลั้งโดยมี เลื่อน เด็กเข็นของในตลาดที่ชื่นชมบูชาต๋องคอยเป็นพ่อสื่อส่งของให้กิมลั้ง และยังได้กิมแชน้องสาวกิมลั้งมาช่วยเชียร์อีกแรง เหตุที่กิมแชสนับสนุนต๋องเพราะเธอเองหลงกรี๊ดมาดเกาหลีของ จาตุรงค์ และคิดว่าถ้ากิมลั้งลงเอยกับต๋อง จาตุรงค์ก็คงอกหักแล้วมาซับน้ำตากับอกหนา ๆ ของเธอ

          แต่ทุกอย่างไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะติดที่กิมฮวยคอยส่งส่วยเปิดทางรักให้จาตุรงค์ให้ได้ไปไหนมาไหนกับกิมลั้งบ่อย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องเด็ดขาดยากที่จะทัดทาน แต่คนจะรักกันกำแพงขวางกั้นก็พังได้ ต๋องเองก็ขึ้นชื่อเรื่องจอมวางแผนแอบแยกจาตุรงค์กับกิมลั้งแบบหักครึ่งทาง ทำให้เขากับกิมลั้งได้มีเวลาศึกษาดูใจกันมากขึ้น

          ต๋องได้คุยฟุ้งโครงการตลาดในฝันให้กิมลั้งฟัง ว่าถ้าทุกคนในตลาดร่วมมือกันทำตลาดในฝันทั้งตบแต่งแผงให้มีสีสันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งการแต่งตัวของพ่อค้า แม่ค้า มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม รวมถึงการละเล่นที่ดึงดูด มีกิจกรรมทุกวันหยุด รับรองว่าคนต้องมาตลาดมากขึ้น และรายได้ที่หดหายก็จะกลับมาเป็นกอบเป็นกำ กิมลั้งดูตื่นเต้นกับไอเดียของต๋องและพร้อมที่จะร่วมมือผลักดันให้ตลาดในฝันเป็นความจริง

          และคนแรกที่ต๋องได้เสนอไอเดียนี้ก็คือ คุณนายสดศรี คุณนายเจ้าของตลาดจอมงก ซึ่งก็ได้รับคำด่ากลับมาเป็นรางวัล แต่ต๋องไม่ยอมแพ้ทำใบปลิวแจกพร้อมกับภาพกราฟฟิคจากคอมพิวเตอร์ให้คนในตลาดได้เห็น แต่กลับกลายเป็นเรื่องเพ้อเจ้อเสียเวลาทำมาหากินของทุกคน ทำให้ต๋องต้องหาวิธีเกลี่ยกล่อมวิธีใหม่ให้ทุกคนคล้อยตามให้ได้ กิมลั้งเห็นใจต๋องจึงมาช่วยสนับสนุนอย่างออกหน้า ทำให้จาตุรงค์ไม่พอใจ พาพวกมาหาเรื่องต๋องจนมีเรื่องชกต่อยกัน

          กิมฮวยรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรุมด่าต๋องที่ทำร้ายว่าที่ลูกเขยสุดที่รัก ทั้งที่ต๋องพยายามอธิบายว่าเขาไม่ได้เป็นคนหาเรื่องแต่กิมฮวยก็ไม่ฟัง ปรามาสต๋องว่าเป็นพวกนักเลงหัวไม้ดีแต่เพ้อเจ้อ อย่าทำเจ๋อมาเสนอตัวกับลูกสาวเธอเลย ต๋องเลือดขึ้นหน้าจึงประกาศท้ากิมฮวยว่าถ้าเขาทำให้ตลาดนี้กลับมาคึกคักขายดีและโด่งดังอีกครั้ง จะยอมให้เขาคบหากับกิมลั้งมั้ย กิมฮวยรับปากอย่างไม่ต้องคิดเพราะมั่นใจพันเปอร์เซ็นต์ว่าคนอย่างต๋องไม่มีทางทำได้แน่ ๆ พร้อมทั้งต่อรองว่าถ้าทำไม่สำเร็จต๋องต้องเลิกยุ่งกับกิมลั้ง และหายหน้ากลับถิ่นฐานไปไม่ต้องอยู่ให้รำคาญตาด้วย

          ต๋องเริ่มหาวิธีใหม่ เดินสายคลุกวงในไปทีละแผงทั้ง ป้าพิณ ร้านข้าวแกง ที่ไม่เคยยุ่งสุงสิงกับใครนอกจาก เขียวหวาน ลูกจ้างชาวพม่าที่เป็นเหมือนญาติคนเดียว คำมูล พ่อค้าส้มตำชาวอีสานผู้ต้องการสละโสด ชมพู่เจ้าของร้านเสริมสวยผู้คลั่งไคล้ในชายหนุ่ม แม่ค้าแผงต่าง ๆ รวมถึง ลุงชวนชม เจ้าของโรงหนังที่เป็นที่หวาดกลัวของคนในตลาด เพราะต๋องมองว่าโรงหนังคือจุดบันเทิงแรกที่เขาจะใช้ในการเอาชนะใจคนอื่น ๆ แต่เหนือกว่านั้นเขาต้องเอาชนะใจลุงชวนชมก่อน แนวร่วมที่เห็นด้วยกับต๋องนอกจากเลื่อน กิมลั้ง และกิมแชแล้ว ก็ยังมี คิตตี้ หรือ สมคิด กระเทยร้านดอกไม้ที่แอบรักต๋องแบบทุ่มเทแน่แท้ แต่ไม่กล้าแสดงออก

          เมื่อต๋องเดินหน้าสัมผัสความจริง รายละเอียดของแต่ละคนทำให้เห็นว่าสิ่งที่เขาคิดไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่มีใครสนใจความคิดของต๋อง แม้กระทั่ง ประชา พี่ชายแท้ ๆ ของต๋อง ก็ด่าว่าต๋องจนหมดความมั่นใจ ยิ่งแผงหมูของพ่อจาตุรงค์ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ใครจะเข้าร่วมอุดมการณ์กับศัตรูหัวใจของลูกชายเขา ร้านของกิมฮวยก็คงยากเย็นด้วยเหตุผลเดียวกัน คิตตี้จึงเสนอความคิดว่า คนที่มีอิทธิพลต่อความคิดของคนในตลาดอีกคนที่มีน้ำหนักในการพูดก็คือ จะเด็ด เจ้าของร่างทรงเจ้าพ่อสิงโตทอง ที่ทุกคนในตลาดศรัทธานับถือ แม้จะเป็นหนทางที่เป็นไปได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นอย่างใจ เพราะจะเด็ดเกลียดต๋องเข้าไส้ เพราะต๋องเคยทำทะลึ่งไปจับผิดเจ้าพ่อร่างทรง ทำให้ทุกอย่างดูจะมืดมนไปเสียหมด

          แต่ด้วยกำลังใจจากกิมลั้ง ทำให้ต๋องค่อย ๆ เข้าไปทำความรู้จักพูดคุยกับคนในตลาดมากขึ้น จนทำให้ได้เรียนรู้ชีวิตของแต่ละคน และเห็นปมปัญหาที่แตกต่างของผู้คนในตลาด ต๋องเริ่มจริงจังและมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือแก้ไขปัญหาของแต่ละคน จนเป็นความผูกพันและเข้าใจชีวิตมากขึ้น ต๋องทุ่มเทที่จะสานต่อโครงการให้สำเร็จเพื่อช่วยเหลือทุกคน ถึงขนาดรับข้อเสนอยอมเป็นคู่เดทของ ณดา ลูกสาวเจ้าของตลาดที่แอบชอบเขาอยู่ เพื่อให้ช่วยเกลี่ยกล่อมคุณนายให้ออกกฎสั่งบังคับให้ทุกคนทำตาม จนกิมลั้งหึงและเลิกพูดกับต๋องไปพักใหญ่ และการช่วยไขปัญหาบวกคำปรึกษาต่าง ๆ ของต๋องทำให้ได้ใจใครหลายคนในตลาด จนลองเชื่อใจทำตามต๋องดูสักครั้ง

          เมื่อจาตุรงค์เห็นว่าต๋องเริ่มที่จะเดินหน้าโครงการตลาดในฝันและเป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะงานเลี้ยงฉลองตลาดที่ต๋องเป็นโต้โผได้รับความร่วมมือจากผู้คนและร้านค้าต่าง ๆ มีหนังฉายฟรี มีออกร้าน มีการแสดง และสามารถดึงคนมาเที่ยวตลาดได้มาก จึงพาพรรคพวกมาก่อเรื่องทำให้งานของต๋องพังยับ และรุนแรงถึงกับสร้างสถานการณ์ให้ไฟไหม้โรงหนังเพื่อโยนให้เป็นความสะเพร่าของต๋อง ต๋องเสียใจ ท้อใจ จนหมดกำลังใจหนีหายกลับบ้าน

          กิมลั้งกับเลื่อนจึงแอบไปตามหาต๋องถึงบ้านที่อัมพวา จนได้รู้ว่าต๋องเป็นที่ตราหน้าของคนมากมายว่าเป็นคนไม่ได้เรื่อง ทำอะไรไม่เคยสำเร็จสักอย่าง และยังเป็นตัวซวยของตำบล กิมลั้งยิ่งเห็นใจต๋องมากขึ้น และสัญญาว่าจะช่วยทำให้โครงการของต๋องสำเร็จให้ได้ เพื่อที่ต๋องจะได้ลบปมของตนเองสักที

          การไปค้างที่บ้านต่างจังหวัดของกิมลั้งทำให้กิมฮวยกับจาตุรงค์ไม่พอใจอย่างมาก ถึงขนาดจะให้เต๊กไฮ้มาขอหมั้นตีตราจองกิมลั้งไว้ หลายคนในตลาดที่ต๋องเคยช่วยเหลือไว้จึงสงสารและเห็นใจอยากจะตอบแทนต๋อง ด้วยการรวมตัวกันรณรงค์โครงการตลาดในฝันของต๋องให้สำเร็จ เพื่อจะต่อรองร้องเรียกข้อสัญญากับกิมฮวย ซึ่งครั้งนี้จะเด็ดได้มาร่วมด้วย ซึ่งก็เหมือนมีคำพูดประกาศิตจากร่างทรงที่คนในตลาดไม่กล้าปฏิเสธ จึงเฮโลร่วมด้วยช่วยกันลงชื่อเปลี่ยนแปลงตลาด จนเกือบจะสำเร็จ แต่แล้วข่าวการซื้อที่ดินตลาดไปสร้างห้างสรรพสินค้าก็เข้ามาดับฝันกะทันหัน คุณนายสดศรีถูกกดดันด้วยเงินก้อนใหญ่และเงื่อนไขบังคับให้ขายที่ ชาวตลาดทุกคนจึงตกอยู่ในสถานะเดียวกันทั้งหมดแม้แต่กิมฮวยและเต็กไฮ้ก็ไม่เว้น

          กิมลั้งช่วยเกลี้ยกล่อมคนในตลาดให้เห็นว่าความคิดของต๋องจะช่วยให้ตลาดรุ่งเรืองและมีคนมาซื้อของมากขึ้น และเมื่อตัวต๋องท้อแท้และคิดจะเลิกกลางคัน กิมลั้งก็มีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้ต๋องลุกขึ้นสู้อีกครั้ง และพร้อมที่จะก้าวเดินไปกับต๋องจนประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับของกิมฮวยและคนในตลาด ติดตามชมความสนุกสนานของ ละครรักเกิดในตลาดสด ได้ทุกวันศุกร์ เวลา 20.25 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3 ละครรักเกิดในตลาดสด เริ่มตอนแรกวันเสาร์ที่ 4 สิงหาคม 2555

รายชื่อนักแสดงนำใน ละคร รักเกิดในตลาดสด

มาริโอ้ เมาเร่อ   รับบท   ต๋อง   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ราศรี บาเลนซิเอก้า  รับบท   กิมลั้ง   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
จริยา แอนโฟเน่   รับบท   กิมฮวย   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
สถาพร นาควิไลโรจน์   รับบท   เคี้ยง   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ภาวิดา มอริจจิ   รับบท   กิมแซ   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ชนัตพล ลังสิทธิเสถียร   รับบท   จาตุรงค์   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
สุเทพ ประยูรพิทักษ์   รับบท   เต๊กไฮ้   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ปวีณา ชารีฟสกุล   รับบท   ลักษณ์   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
สาวิตรี สามิภักดิ์   รับบท   คุณนายสดศรี   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
วิรากานต์ เสณีตันติกุล   รับบท   ณดา   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
จักรกฤษณ์ อำมรัตน์   รับบท   เสี่ยชายศักดิ์   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
อภิรดี ภวภูตานนท์   รับบท   รัศมี   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
สุริยนต์ อรุณวัฒนกุล   รับบท   ศักดิ์ชาย   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
สุรพันธ์ ชาวปากน้ำ   รับบท   ชูชาติ(เต๋า)   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
โชติรส แก้วพินิจ   รับบท   ติ๋ม   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
โน๊ต เชิญยิ้ม   รับบท   จะเด็ด   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
หนุ่ย แสนแดง   รับบท   รักเร่   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ณฉัตร จันทร์พันธ์   รับบท   เลื่อน   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
อชิตะ ธนาศาสตนันท์   รับบท   ชมพู่   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ปาจรีย์ ณ นคร   รับบท   น้อยหน่า   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล   รับบท   คิตตี้   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
มยุรี อิศรเสนา ณ นคร   รับบท   ป้าพิณ   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ด.ญ.กัจนฐานียา ศรีโรจน์วัฒนะ   รับบท   เขียวหวาน   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ปวันรัตน์ นาคสุริยะ   รับบท   ทวี   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ศิรินุช เพ็ชรอุไร   รับบท   เครือฟ้า   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
ต๋อง ชวนชื่น   รับบท   คำมูล   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด
จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม   รับบท   เสือ(อาบัง)   ใน ละคร รักเกดในตลาดสด

* kapook.com *




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2555 8:56:59 น.
Counter : 2381 Pageviews.  

กฟผ.เล็งขึ้นค่าเอฟทีงวดสิ้นปี อีก 58 สตางค์

คาดค่าไฟรอบ พ.ค. - ส.ค. ขึ้นอีก 25 สตางค์/หน่วย


สรุปประเด็นข่าวโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล  

          กฟผ.จ่อชงขึ้นค่าเอฟทีงวดสิ้นปีอีก 58 สตางค์ อ้างราคาก๊าซพุ่ง ชี้เรกูเลเตอร์เตรียมเบรกแผนส่งผลแบกรับภาระรวม 17,000 ล้านบาท ย้ำยอมแบกไม่เกิน 20,000 ล้านบาท หวั่นกระทบรายได้รวม  

           แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เตรียมสรุปอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ประจำงวดสุดท้ายของปี (กันยายน - ธันวาคม 2555) เพื่อเสนอให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) หรือ เรกูเลเตอร์ ซึ่งมี นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ เป็นประธาน พิจารณาช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2555 โดยจากการคำนวณเบื้องต้นคาดว่า ค่าเอฟทีจะอยู่ 58 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเป็นผลมาจากราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับสูงขึ้น และค่าเอฟทีที่ค้างจ่าย กฟผ. ตั้งแต่เดือน มกราคม - เมษายน 2555 จำนวน 20 สตางค์ และงวดเดือนมิถุนายน ที่ตรึงค่าเอฟทีไว้ 1 เดือน

           "เชื่อว่าเรกูเลเตอร์จะคงค่าเอฟทีไว้เท่าเดิมที่ 30 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ กฟผ.ต้องแบกรับภาระเก่าที่ 20 สตางค์ต่อหน่วยต่อไปก่อน หรือประมาณ 14,000 ล้านบาท รวมรับภาระค่าเอฟทีงวดใหม่เพิ่มอีกประมาณ 5 สตางค์ต่อหน่วย จะทำให้ กฟผ.ต้องแบกรับภาระรวมประมาณ 17,000 ล้านบาท ซึ่ง กฟผ.คงแบกรับภาระค่าเอฟทีได้สูงสุดไม่เกิน 20,000 ล้านบาท เนื่องจากจะกระทบต่อรายได้ของ กฟผ.ในอนาคต" แหล่งข่าวกล่าว

           แหล่งข่าวกล่าวว่า กฟผ.ได้ร่วมกับเรกูเลเตอร์จัดทำหลักเกณฑ์เพื่อเปิดประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้า 5,000 เมกะวัตต์ ตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2553-2573 (พีดีพี 2010) ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 คาดว่าจะเสร็จไม่ทันปลายปีนี้ เนื่องจากต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ อีกทั้งยังมีระยะเวลา 10 ปี กว่าจะครบกำหนดการผลิตไฟฟ้าจริง ซึ่ง กฟผ.ยืนยันว่าจะไม่ร่วมประมูลอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นผู้ร่วมจัดทำหลักเกณฑ์การประมูล

* kapook.com *




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2555 8:55:25 น.
Counter : 962 Pageviews.  

อั้ม รับแล้วว่าคบ แอมป์ หลัง เมย์ ปากโป้ง

ปล่อยให้สงสัยกันจนเหนื่อย... ใครคือ "หวานใจ" คนล่าสุด ของ ซุปตาร์สุดแซ่บ! อั้ม พัชราภา ที่ล่าสุดดูเหมือนจะ ปิดไม่อยู่ หรือ ไม่อยากหมกเม็ด ซะแล้ว ก็เลยยอมรับออกมาโต้งๆ ว่าคบ แอมป์ พิธาน อยู่จริงๆ หรือว่านี่จะเป็นเพราะ เมย์ พิชญ์นาฎ ปากโป้ง..หลุดบอกสื่อว่า ทั้งสองคบกัน งานนี้ไม่รู้ว่า สาวอั้ม จะงอนน้องเมย์สุดเลิฟคนหรือเปล่า?

"คือตอนนี้ก็ดูๆ กันอยู่คะ ไปไหนก็ไปด้วยกัน มีข่าวออกมาก็ยอมรับคะ อันไหนเรื่องจริงไม่จริงก็ตอบไปตรงๆ เขาก็เป็นคนดีคะ ค่อยๆ ดูกันไปคะ ไม่ได้รีบร้อนไปไหน ถึงจะอายุมากแล้ว แต่ก็แค่ตัวเลข หน้าตายังไม่รีบไปไหนคะ (หัวเราะ)"

นอกจากนี้ สาวอั้ม ยังบอกอีกว่า ไม่ได้โกรธหรือจะตั้งวงเกาเหลากับน้องรัก เมย์ พิชญ์นาฎ ที่ทำให้ความลับแตกแต่อย่างใด




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2555    
Last Update : 30 กรกฎาคม 2555 8:53:29 น.
Counter : 1059 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  

angelica0819
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add angelica0819's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.