นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างทบทวนหลักเกณฑ์โครงการพักชำระหนี้และลดภาระหนี้รายย่อยที่มีสถานะหนี้ปกติไม่เกิน 5 แสนบาท ระยะเวลา 3 ปี เพื่อให้ประชาชนได้รับสิทธิลดดอกเบี้ย 3% โดยอัติโนมัติ แม้ว่าจะไม่ได้ยื่นแสดงความจำนงขอเข้าร่วมโครงการก็ตาม เพราะถือว่าเป็นสิทธิและไม่ได้ทำให้ธนาคารได้รับความเสียหาย โดยมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ไปศึกษารายละเอียดว่า ติดขัดกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือไม่ ก่อนที่จะหมดอายุโครงการในวันที่ 20 สิงหาคมนี้

 นายทนุศักดิ์กล่าวว่า เกณฑ์การพักชำระหนี้ดีที่ผ่านมติ ครม.นั้น กำหนดไว้ 2 เงื่อนไขคือ ขอพักชำระเงินต้นและลดดอกเบี้ยลง 3% และไม่พักชำระเงินต้น แต่ขอลดดอกเบี้ยลง 3% ซึ่งในกรณีหลังนี้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มองว่าไม่ได้ทำให้ธนาคารเสียหาย ก็ควรที่จะลดดอกเบี้ยให้เลย เพราะเป็นสิทธิที่ลูกค้าธนาคารควรได้รับอยู่แล้ว โดยไม่ต้องรอให้ประชาชนเข้ามาติดต่อ แต่ก็ต้องดูในรายละเอียดว่า สามารถทำได้ทันทีเลยหรือไม่และต้องเร่งสรุปก่อนที่โครงการจะหมดอายุ

"ธนาคารรัฐที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 4 แห่งนั้น หลักๆ อย่างธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ก็เห็นว่ามีเกษตรกรยื่นเข้าโครงการเกือบครบทั้ง 2 ล้านกว่ารายแล้ว แต่ที่เป็นปัญหาคือ ธนาคารออมสินที่พบว่า มีผู้เข้าโครงการหลักพันรายเท่านั้นถือว่าน้อยมาก ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าธนาคารมีปัญหาภายใน ทำให้โครงการไม่คืบหน้ามากนัก" นายทนุศักดิ์กล่าว

นายบุญช่วย เจียดำรงชัย รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า จากจำนวนเกษตรกรที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ดีกว่า 2.7 ล้านราย วงเงิน 3.2 แสนล้านบาทนั้น แบ่งเป็นผู้ยื่นความจำนงพักชำระเงินต้นและลดดอกเบี้ย 1.77 ล้านราย วงเงิน 2.1 แสนล้านบาท และที่เลือกไม่พักเงินต้นแต่ขอลดดอกเบี้ย 2.57 แสนราย วงเงิน 2.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลังจากปิดโครงการที่ยังไม่แสดงความจำนงก็จะได้รับการลดดอกเบี้ยโดยอัตโนมัติทั้งหมด

* ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ *

Create Date : 31 กรกฎาคม 2555
Last Update : 31 กรกฎาคม 2555 9:54:36 น.		0 comments
Counter : 1216 Pageviews.
Share Tweet