Renault Alpine A110-50 Concept : กรุ่นกลิ่นอายสปอร์ตเต็มพิกัด
แม้จะโด่งดังมาก แต่นักเลงรถทั่วโลกน่าจะได้เคยได้ยินชื่อของ "อัลไพน์" มาไม่มากก็น้อย ในฐานะที่เป็นบริษัทรถยนต์อิสระที่มีความใกล้ชิดทางด้านเทคโนโลยีกับเรโนลต์ ซึ่งหลังจากที่เลิกผลิตไปในปี 1995 ชื่อของอัลไพน์ก็เงียบหายไปจนกระทั่งถึงตอนนี้ เมื่อเรโนลต์ที่ได้รับสิทธิ์ในการใช้ชื่อนี้ในการทำตลาดได้เผยโฉมต้นแบบรุ่นใหม่ในชื่อ" Alpine A110-50" ออกมา อัลไพน์ เป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่ตั้งขึ้นโดย ฌอง เรเดเล่ เมื่อปี 1955 และมีการผลิตรถยนต์ออกมาขายหลายรุ่น โดยใช้เครื่องยนต์ของเรโนลต์เป็นขุมพลัง และในปี 1973 เรโนลต์ได้ซื้อกิจการของอัลไพน์เข้ามา และเปิดอิสระในการทำตลาดโดยเน้นไปที่การผลิตรถแข่งเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันแรลลี่ และผลิตออกมาขายด้วย โดยโรงงานที่ Dieppe จะถือเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาตัวแรงทั้งในสนามแข่งและรถบ้านของเรโนลต์
|
| อย่างไรก็ตามในปี 1995 เรโนลต์ประกาศเลิกทำตลาดภายใต้แบรนด์อัลไพน์ แต่ก็เป็นชั่วคราวเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นในเดือนตุลาคม 2007 "พาทริก แบลง" บอสส์ใหญ่ของเรโนลต์ในตอนนั้นประกาศปัดฝุ่นนำชื่อของ อัลไพน์ กลับมาอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ประกอบกับในช่วงปลายปี 2010 เรโนลต์เริ่มลดบทบาทของตัวเองในแวดวงมอเตอร์สปอร์ตลง ก็เลยทำให้การกลับมาของอัลไพน์ถูกชะลอออกไป และทางแบลงก็ยืนยันว่าจะได้เห็นการคัมแบ็คของอัลไพน์แน่นอน แต่เป็นปี 2012-2013 และนี่ก็คือที่มาของสปอร์ตต้นแบบใหม่รุ่นนี้ที่ใช้ชื่อว่า A110-50 ชื่อตรงนี้มีที่มา เพราะตัวรถเป็นการออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวแรงของอัลไพน์รุ่นเก่าในอดีตอย่าง A110 ที่เปิดตัวในปี 1967 ส่วน 50 ที่ต่อท้ายมีความหมายถึงอายุครบ 50 ปีสำหรับรถสปอร์ตรุ่นนี้ ตัวรถยังเป็นแค่ต้นแบบและได้รับแนวทางในการออกแบบมาจากผลผลิตที่เป็นต้นแบบรุ่นใหม่ๆ ของเรโนลต์ ซึ่งบ้างก็บอกว่า A110-50 ได้รับอิทธิพลในการออกแบบมาจากรุ่น DeZir ขณะที่โครงสร้างและชิ้นส่วนตัวถังได้รับการผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ เพื่อความเร้าใจในการขับขี่ที่แท้จริง ขึ้นโครงในแบบสเปซเฟรม
|
| ตัวรถมีความยาวในระดับ 4.33 เมตร พร้อมกับระยะฐานล้อ 2,625 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า 1,680 มิลลิเมตร และ 1,690 มิลลิเมตรสำหรับล้อหลัง โดยน้ำหนักตัวเน้นความเบาเป็นหลักด้วยน้ำหนักเพียง 880 กิโลกรัมเท่านั้น ส่วนอัตราส่วนมากระจายน้ำหนักอยู่ที่ 47.8 % ที่ด้านหน้า และ 52.2% ที่ด้านหลัง เครื่องยนต์ที่วางอยู่กลางลำและเรโนลต์นำมาใช้กับต้นแบบรุ่นนี้เป็นรหัส V4Y ซึ่งเป็นบล็อกวี6 มีกำลังอยู่ที่ 3,500 ซีซี มีกำลังสูงสุด 400 แรงม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 43 กก.-ม. ที่ 6,200 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหว ะควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ในแบบซีเควนเชียล ส่วนระบบเบรกเป็นดิสก์ 4 ล้อด้านหน้าขนาด 356 มิลลิเมตร และด้านหลัง 330 มิลลิเมตร หลังจากเผยโฉมให้เห็นและมีการนำออกแล่นในงาน Goodwood FOS แล้ว ทางเรโนลต์ยังไม่ได้ยืนยันถึงอนาคตของอัลไพน์ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ถึงขนาดมีการเปิดตัวต้นแบบและโปรโมทขนาดนี้แล้ว ก็น่าจะมีการผลิตขาย เพียงแต่จะมาเมื่อไรเท่านั้นเอง
|
|
| | * โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ *
Create Date : 30 กรกฎาคม 2555 | | |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2555 9:28:46 น. |
Counter : 1028 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
"เคดี" พา "ดรีมทีม" ถลุงน้ำหอมยับ
เควิน ดูแรนท์ ฟอร์เวิร์ดของทีมชาติสหรัฐอเมริกา โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมกด 22 แต้ม พา "ดรีมทีม" เปิดหัวเอาชนะ ฝรั่งเศส ไปได้ 98-71 ในศึกบาสเกตบอลโอลิมปิก 2012 เมื่อคืนวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา เก็บชัยแรกพร้อมผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่มเอตามคาด ศึกยัดห่วง "ลอนดอนเกมส์ 2012" ที่ประเทศอังกฤษ เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการไปแล้วเมื่อคืนวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยเกมที่น่าสนใจอยู่ที่สนามบาสเกตบอล อารีนา ในกรุงลอนดอน "โค้ชเค" ไมค์ ชูเชฟสกี พาทีมยัดห่วงของอเมริกา แชมป์เก่า "ปักกิ่งเกมส์" ลงสนามเจอกับ ฝรั่งเศส ที่มี โทนี พาร์เกอร์ การ์ดของ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส เป็นผู้นำทัพ ปรากฏว่า ลูกทีมของ "โค้ชเค" ไม่ทำให้แฟนๆผิดหวัง หลังจัดการชนะฝรั่งเศสไป 98-71 โดยควอเตอร์แรก ทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างสูสีและมีสกอร์ใกล้เคียงกันที่ 22-21 อย่างไรก็ตาม ช่วงควอเตอร์ที่สอง เห็นได้ชัดว่า ดรีมทีม ครองเกมเหนือกว่าชัดเจนเริ่มขยับแต้มห่างจนถึงควอเตอร์สุดท้าย พร้อมเรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูได้ต่อเนื่อง ด้วยลีลาดังค์ของ เลอบรอน เจมส์, คริส พอล และ เจมส์ ฮาร์เดน เกมนี้ เควิน ดูแรนท์ สตาร์ดังของโอคลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ส กลายเป็นพระเอกของงานโชว์ฟอร์มส่อง 22 แต้มสูงสุดให้กับสหรัฐอเมริกา พร้อมอีก 9 รีบาวด์ มีส่วนสำคัญให้ทีมคว้าชัย ขณะที่ เควิน เลิฟ ทำ 14 แต้ม ส่วน โคบี ไบรอันท์, "คิงเจมส์" และ คาร์เมโล แอนโธนี ช่วยกันประคองพาทีมเข้าป้ายด้วยการกด 10 และ 9 แต้มตามลำดับ ฟากทีมยัดห่วงแดนน้ำหอม อาลี ตราโอเร เซ็นเตอร์ตัวเก่งของทีมทำคะแนนสูงสุดที่ 12 คะแนน ส่วน พาร์เกอร์ ทำ 10 แต้ม ไม่เพียงพอให้ทีมคว้าชัย ซึ่งหลังจบการแข่งขัน มิเชล โอบามา สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาเชียร์ขุนพล ดรีมทีม ข้างสนาม ก็เข้ามาสวมกอดแสดงความยินดีกับโค้ช, ทีมงาน และผู้เล่นทุกคน ชัยชนะดังกล่าว ทำให้สหรัฐอเมริกา ผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่มเอ โดยมีแต้มอยู่ 2 แต้ม นัดต่อไปเตรียมลงสนามเจอกับ ตูนิเซีย วันที่ 31 ก.ค. ส่วนฝรั่งเศส รอเจอศึกหนักกับทีมชาติอาร์เจนตินา ในคืนวันเดียวกัน
| * โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ *
Create Date : 30 กรกฎาคม 2555 | | |
Last Update : 30 กรกฎาคม 2555 9:14:48 น. |
Counter : 834 Pageviews. |
| |
|
|
|
|
| |
|
|