All Blog
◄ Chapter 19 : 19 ชั่วโมงกับการเดินทางบทสุดท้าย


Chapter 19 : 19 ชั่วโมงกับการเดินทางบทสุดท้าย



** ก่อนเริ่มเรื่อง ขอชี้แจงไว้สำหรับคนที่ต้องการติดต่อ nakoze นะคะ

ท่านที่ต้องการติดต่อเข้ามาพูดคุยเรื่องไปเวิร์ค สอบถามปัญหาชีวิต คิดไม่ตก

ขอคำถามสัมภาษณ์นายจ้าง สัมภาษ์วีซ่าสำหรับเด็กWAT

สามารถส่งอีเมล์เข้ามาคุยได้ที่ claz_zic@hotmail.com

หรือแอดเฟสบุคมาที่ https://www.facebook.com/b.faii

หรือหากอยาก Skype กันก็แอดมาได้ที่ iiscentz

ทั้งนี้ถ้าส่งเมล์ก็ช่วยเขียนหัวเรื่องมาด้วยไม่งั้นมันไปอยู่ใน junk box ค่ะ

ส่วนถ้าจะแอดเฟสและสไกป์ ช่วยส่งแมสเสจมาด้วย ไม่อย่างนั้นขออนุญาตไม่รับแอดค่ะ

ท้ายที่สุดนี้ ไม่ต้องเกรงใจนะคะถ้าอยากเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน

บอกไว้ให้เคลียตรงนี้เลยว่ายินดีมากๆที่มีน้องๆเพื่อนๆเข้ามาทักทาย

ด้านล่างนี้เป็นตัวอย่างส่วนหนึ่งที่เขียนเมล์มาคุยกับ nakoze เรื่อง WAT



ดังนั้นแล้ววางใจได้ว่า nakoze ตอบให้ทุกคำถามและทุกคนอย่างแน่นอนค่ะ






จบจากเรื่องการมาของเด็กจีนในที่สุดก็ถึงวันที่ nakoze ต้องบอกลาอเมริกาเสียที

Nakoze กับแฟนต้าตัดสินใจเดินทางกลับวันเดียวกัน แต่คนละสายการบิน

วันนั้น nakoze ก็ตื่นนอนแต่เช้าเดินไปล่ำลาเพื่อนๆที่ร้านแมค

บรรยากาศการจากลาช่างแสนเศร้ายิ่งนัก มีแต่คนบอกว่าไม่อยากให้กลับ

(ฉันก็ยังไม่อยากกลับหรอกจ๊ะ)

nakoze เดินไปกอดคนโน้นที ที่สำคัญคือได้ถ่ายรูปกะเจฟฟรี่กับหนุ่มฮอตอีกคนในร้าน ชื่ออะไรจำไม่ได้ละ

แล้วคือแบบสองคนนี้ก็มาโอบไหล่แล้วถ่ายรุปด้วย

…. เอ่อ..แค่นี้กรูพอใจละ ได้แต๊ะอั๋งเจฟฟรี่ ทำความฝันอันสูงสุดได้สำเร็จแล้ว 55+

พอเสร็จแล้วแดเนียลก็ออกมาบอกลาบอกว่าไปส่งที่สนามบินไม่ได้ น่าเสียดายจัง

(หลังจากที่เมิงโกงเงินกรูไปเป็นหมื่นก็ไม่ต้องไปส่งแล้วล่ะ ลากันแค่นี้พอ nakozeคิดในใจ)

เวลาประมาณบ่ายๆ พี่เบลล์ก็ขับรถมารับ nakoze กับแฟนต้าไปสนามบินที่เมือง Des Moines,IA

เราล่ำลากันอย่างเศร้าศร้อย….ตลอดเวลาที่อยู่ที่อเมริกา

พี่เบลล์เป็นทุกอย่างจริงๆ เป็นทั้งเพื่อน เป็นพี่สาว เป็นผู้ปกครอง

อารมณ์นั้นคือแบบอยากจะร้องไห้ออกมา แต่พี่เบลล์ก็เข้มแข็งพอจะดันหลังให้เราสองคนเดินเข้าไปที่เกท



พอมาถึงเกทก็รอบอร์ดดิ้งตามปกติ ด้วยความที่ไมได้จองที่นั่งมาล่วงหน้า

nakozeกับแฟนต้าก็ถูกจับแยกกันไปนั่งคนละที่ ฮือๆ ยิ่งเศร้าเข้าไปใหญ่

คือใจกับปากมันคันมากอยากจะเม้าท์กัน แต่ที่นั่งมันไม่ติดกันนี่สิ ทรม๊าน ทรมาน ~

จนในที่สุดเวลาประมาณ 1 ทุ่ม nakozeกับแฟนต้าก็มาถึงสนามบิน Seattle, WA อย่างราบรื่น

…. แฟนต้าเลือกที่จะบินกลับกับ EVA เพราะเราต่างคนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ถ้ารู้จักกันมาก่อนเข้าโครงการบ้างก็คงจะได้เลือกไปสายการบินเดียวกัน ได้เที่ยวด้วยกันอีกซักรอบ

Nakozeนั่งรำลึกอดีตความหลัง 3 เดือนที่ผ่านมาด้วยกันจนถึงประมาณตี 1 กว่า

แฟนต้าก็ต้องเตรียมเดินไปขึ้นเครื่องกลับเมืองไทย

Nakoze เดินไปส่งแฟนต้าถึงจุดตรวจพาสปอร์ต เราโบกมือลากันอย่างใจหาย

ไม่น่าเชื่อจริงๆว่าเวลาแค่ 3 เดือน จะได้เพื่อนที่แสนจะรู้ใจเพิ่มมาอีกหนึ่งคน

พอเพื่อนรักบินจากไป ตอนนี้ก็เหลือตัวคนเดียวแล้ว

Nakoze เดินลงไปชั้นล่างของสนามบินเพื่อจะไปเช่ารถเข็น

(สนามบินที่นี่ถ้าจะใช้รถเข็นขนกระเป๋าต้องเสียตังค์ค่ะ)

แต่ว่าก็มีคุณป้าท่าทางใจดีที่แกคงใช้รถเข็นเสร็จพอดี เดินเอารถเข็นมาส่งให้ถึงมือ

คุณป้าแกบอกว่าเอาไปใช้เลย จะได้ไม่ต้องเสียตังค์นะจ๊ะ

แหม่โชคดีจริง โลกเรายังมีคนแบบนี้เหลืออยู่จริงๆสินะ

พอได้รถเข็นแล้วเราก็เดินวนรอบสนามบินหาพื้นที่จับจองพักสายตาให้ค่ำคืนอันแสนยาวนานรีบๆผ่านไปเสียที

ในที่สุดก็ได้ที่นั่งตรงข้ามกับกองทัพทหารอเมริกันที่นอนเรียงรายอยู่บนพื้น

ที่เลือกตรงนี้เพราะคนพลุกพล่าน เลยคิดว่ามันคงปลอดภัย

เหมือนนอนอยู่ท่ามกลางกองทัพอย่างไงอย่างงั้น 55+

Nakoze นั่งเอนหลังไปกับเก้าอี้ได้ไม่นานก็เกิดมโนสำนึกขึ้นได้ว่า

ถ้านอนท่านี้อาจจะโดนมือดีเข็นกระเป๋าหนีไปได้

ว่าแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นนั่งแล้วก็เอาหัววางทับกระเป๋าเดินทาง สองมือก็โอบรอบกระเป๋าไว้อีกที

(รักษายิ่งชีพค่ะพี่สาวฝากซื้อครีมเยอะ)



ใครบอกว่านอนค้างสนามบินแปปเดียวก็เช้า nakoze จะเถียงว่าไม่จริงโว้ยยยยย

ด้วยความที่เราไม่ได้นอนราบ แต่เป็นการนั่งหลับแล้วใจก็พะวงห่วงของ

มันให้ทำให้ nakoze สะดุ้งตื่นขึ้นมาทุกชั่วโมง หลังก็ปวด รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมด

จนเวลาผ่านไปใกล้ฟ้าสาง nakoze ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกรอบ

คราวนี้รู้สึกมึนๆ เบลอๆ ลองเอามือคลำๆตัวดูก็พบว่าเป็นไข้เลยจ้า

คือแบบว่าคืนก่อนหน้าเดินทางก็พักผ่อนน้อย เพราะเด็กจีนเม่งอพยพกันมาพอดี

กระเป๋าก็ต้องนั่งจัดจนดึก พื้นที่ก็ไม่ค่อยมีทำอะไรมันก็ขัดๆไปหมด

ผลคือมันเลยเป็นไข้กลางอากาศ ยาที่พกมาจากไทยก็ยกให้พี่เบลล์ไปหมดแล้ว

ร้านขายยาในสนามบินก็ไม่เปิดซักที

นั่งสัปปะหงกรอจนประมาณ 7 โมงเช้า สนามบินก็เริ่มกลับมาคึกคัก

Nakoze เดินโซซัดโซเซไปล้างหน้าแปรงฟันและเข้าห้องน้ำที่ผ่านไป3เดือน ประตูเม่งยังเป็นช่องอยู่เหมือนเดิม 55+

นึกว่าอากาศร้อนขึ้นประตูจะขยายได้อีกบ้างนิดหน่อยเสียอีก

เสร็จแล้วก็เดินไปซื้อยาที่ร้านขายยาด้านล่าง

ตอนนั้นใครเดินสวน nakoze ไปคงนึกว่าอีนี่อัพยามาแน่แท้ หน้าตาหล่อนกำลังไฮได้ที่เลย 55+

Nakoze นั่งภาวนาอยู่นาน เข็มนาฬิกาก็เหมือนจะแกล้งเดินช้ากว่าที่ควรจะเป็น

(เพ้อเพราะพิษไข้ 55+)

ในที่สุดประมาณ 9 โมงเช้า เคาเตอร์ของสายการบิน Asiana airlines ก็มาเปิดให้เช็คอิน

Nakoze ก็พุ่งเข้าไปเช็คอินคนแรกๆ ดีใจจะเกือบจะกระโดดที่จะได้บินเสียที

แต่ปรากฏว่าพนักงานเค้าแจ้งว่า เครื่องดีเลย์จะออกประมาณ 14.45

รู้สึกว่าสายการบินนี้จะดีเลย์ทุกไฟลท์เลยอ่ะตั้งแต่ที่ขึ้นมา

วันที่ออกมาจากกรุงเทพมันก็ดีเลย์ ถึงวันกลับกรุงเทพก็ยังดีเลย์อีก

ในที่สุดเวลา 14.20 nakoze ก็ได้เข้าไปนั่งในเครื่องบินเสียที

หลังจากมาถึงสนามบินตั้งแต่ 1 ทุ่มเมื่อวาน รวมระยะเวลานั่งรอก็….19 ชั่วโมงเอ๊งงงง

14.50 เจ้านกเหล็กลำยักษ์ก็พุ่งทยานขึ้นฟ้า nakoze โบกมือลาอเมริกาอย่างช้าๆ

ก่อนพึมพำเบาๆว่า “แล้วเจอกันใหม่ปีหน้านะ Work and Travel”



Smiley Special Part

จากอาการไข้จากสนามบินมันส่งผลให้ nakoze เพลียมากๆ ผล็อยหลับไปตั้งแต่ตอนเครื่องไต่ระดับเพดานบิน

และเป็นการหลับที่ลึกและยาวนานที่สุดในชีวิต

nakoze หลับยาวมาจนตอนกัปตันประกาศว่าเครื่องกำลังเข้าสู่เขตประเทศเกาหลี

เฮือก!! ไอ้คนที่นั่งข้างๆมันคงคิดว่านังคนนี้มันตายไปแล้วหรือเปล่า

เพราะตลอดทางมันไม่ลืมตา ไม่ลุกมากิน ไม่เข้าห้องน้ำ ไม่อะไรทั้งสิ้น 55+

พอถึงเกาหลีเสร็จ nakoze ก็เดินหน้ามึนๆไปเข้าช่อง ต.ม

เพราะตั้งใจจะแวะมาเหมาสกินฟู้ดก่อนกลับไทย

เราก็ไม่ได้กรอกช่องโรงแรมเพราะไม่ได้จองโรงแรมไว้ล่วงหน้า

พอเดินเข้าไปถึง ต.ม ก็เห็นว่าช่องโรงแรมมันเว้นวางไว้

นางก็เงยหน้าที่ผ่านมีดหมอกรีดเปลือกตามาแล้ว ก่อนจะถามเสียงเบาว่าแล้วจะพักที่ไหน

(สงสัย ต.ม เกาหลีไม่เคยเจอคนเที่ยวแบบไร้แผนการ 55+)

Nakoze ก็เลยตอบนางไปว่า “เอ่อ ฉันยังไม่ได้จองที่พัก จะลงไปจองที่เคาเตอร์ด้านล่างนี่ล่ะ”

ต.ม แกก็ โอ้ โอเคๆ แล้วก็ปั๊ม ปั่ป welcome to korea

อ่าวเวนกำ คนอื่นเค้ามีหลักฐานกันสามหน้ากระดาษ กรูนี่โรงแรมไม่จองยังผ่านมาได้อีกเหลือเชื่อจริง







สิ้นสุดการเดินทางสำหรับ Work and Travel 2010 แล้วนะคะ

ติดตามชมเรื่องราวการผจญภัยในเมืองใหญ่ระดับโลกอย่าง New York City

ของ nakoze ได้ในบล็อกถัดไปค่ะ

Work and Travel 2011 (คลิกเพื่ออ่าน)



Create Date : 28 ตุลาคม 2555
Last Update : 28 ตุลาคม 2555 11:08:57 น.
Counter : 2273 Pageviews.

3 comments
  
สวัสดี วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555 วันหยุด




โดย: ต้นกล้า อาราดิน วันที่: 28 ตุลาคม 2555 เวลา:11:30:22 น.
  
ถ้าเป็นหนูตายแน่ๆเลยอ่ะ พี่สุดยอดมาก มาอัพเรื่องในนิวยอคไวๆนะคะ อยากอ่านจะแย่แล้ว
โดย: flysky IP: 158.108.92.25 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2555 เวลา:11:14:38 น.
  
Nice ka.
Khub khun ka.
โดย: tusporn IP: 203.146.78.178 วันที่: 20 พฤษภาคม 2556 เวลา:16:39:14 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

nakoze
Location :
  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [?]



New Comments