|
เปิดประตูสู่นิพพาน
เมื่อท่านลงมือเดินทางเข้าสู่เส้นทางนิพพานแล้ว ด้วยความมุ่งมั่น อดทน ไม่ท้อถอย แล้ววันหนึ่งก็จะถึงแดนนิพพานแน่นอน เราไปคอยเปิดประตูรับท่านอยู่ที่นั่นแล้ว ด้วยความยินดีต้อนรับและร่วมอนุโมทนากับท่านด้วยความจริงใจ นิพพานัง ปรมัง สุขัง นิพพานัง ปรมัง สุญญัง นิพพานะ ปัจจโย โหตุ สาธุ ๆ ๆ......
Create Date : 29 ธันวาคม 2548 |
Last Update : 29 ธันวาคม 2548 20:10:26 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1072 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เปิดประตูสู่นิพพาน (AmataNippan ) วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:20:49:24 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
พุทธญาณ แสงทิพย์/เนิน แสงทิพย์/ชัย แสงทิพย์ ฯลฯ
สถาบันแสงทิพย์อริยธรรม -บ้านฉัตรไชย บางเขน
http://www.buddhapoem.com http://www.buddha-dhamma.com
อีเมล์- BuddhayanSangthip@gmail.com NernSangthip@yahoo.com ChaiSangthip@www.com
|
|
|
|
|
|
|
|
ท่องแดนพระนิพพาน ภาค3
(ความว่าง-ประตูสู่พระนิพพาน)
ธรรมญาณ-ฐีติญาโณ
อันความว่าง คือ ประตูสู่นิพพาน นิรันดร์กาลยืนยงน่าสงสัย
ในความว่าง ที่ว่างนี้มีอะไร? อยู่ที่ไหน? เล่าความว่างที่อ้างอิง
อยากจะมี-อยากจะเห็น-อยากเป็นอยู่ ความอยากรู้มีมากมายทั้งชายหญิง
ความว่างมีคุณอนันต์ นั่นความจริง ยิ่งค้นยิ่งล่อหลบไม่พบเจอ
ความว่าง คือสิ่งว่างเปล่า .หากเข้าถึง .. จะรู้ซึ้งสัจธรรมนำเสนอ
ความว่าง คือ บรมธรรมน้อมนำเธอ . ให้พบเจอ ประตูสู่นิพพาน
ความว่างไม่มีอะไร .อยู่ไหนเล่า? ที่ว่างเปล่าแสนปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ ..
ไร้เครื่องหมาย .ไร้ขอบเขต สังเกตการณ์ ..พระนิพพานคือที่หมาย .จุดปลายทาง
เป็นที่อยู่อาศัย ..ของสรรพสิ่ง . อยากเห็นจริงก็มองเห็นเด่นกระจ่าง .
สัมผัสได้ .รู้ได้ .ใคร่เปิดทาง . สู่ความว่างประตูทอง ให้ลองดู .
สิ่งที่มีชีวิตและไม่มี . อยู่ในนี้ .ในความว่างสว่างหรู .
อัตตา-ตัวตน สสารเชิญอ่านดู . แล้วจะรู้ พลังงานชัด .อนัตตา .
มีตัวตนและไม่มี .อยู่นี่หมด .. ใช่สมมติเป็นความจริงทุกสิ่งหนา ..
ในความว่าง .มนุษย์-สัตว์ .เหมือนจัดมา . ล้วนแต่อาศัยความว่าง ..ก่อสร้างตน
แต่ความว่าง คือ ความมี ที่ไม่เห็น . แอบซ่อนเร้นอยู่รอบกายขยายผล
เป็นช่องว่าง .จึงไม่รู้เหล่าผู้คน แท้ในตน ว่างยังมีที่ร่างกาย
จะรู้จัก ความว่างดังอ้างถึง ควรจะซึ้งรู้จักธรรมในความหมาย
ธรรมที่อยู่ในความว่างเคียงข้างกาย .. ผลสุดท้ายก็จะเห็นอย่างเด่นชัด!! ..
โลกบังธรรม .ธรรมบังพระนิพพาน จำเนียรกาลนานนับสรรพสัตว์ .
สมมุติบังความจริง ยิ่งผูกมัด เครื่องร้อยรัดบังความว่าง ปิดทางตัน!! ..
ธรรมก็คือรูปธรรม ประจำใจ . ดิน-น้ำ-ไฟ-ลมพัดที่จัดสรร
ธรรมะคือนามธรรมอันสำคัญ จิตใจนั้น คือความหมายใน กายเรา
จิตซ่อนอยู่ในกาย .หมายเป็นตน . ดิ้นทุรนเป็นทุกข์ใจเหมือนไฟเผา .
ทึกทักว่า กายต้อง เป็นของเรา . ไล่ตามเงา .บังนิพพานมานานนม .
จิตเป็นของว่างเปล่า .นะเจ้าเอ๋ย . หลงจนเคยชินอยู่ไม่รู้สม .
อาศัยรูปกายแฝงแหล่งภิรมย์ .. มัวงายงม อวิชชา นานกาเล .
จิตอาศัยกายอยู่เพียงครู่หนึ่ง .. ให้รู้ซึ้ง เท่าทันใช่หันเห
จิตต้องไปเมื่อกายพัง .ไม่ลังเล จิตจะเร่ไปที่ไหน? .ก็ไม่รู้!! .
จิตย่อมไปตามกรรมที่ทำมา .. หากบาปหนา .ลงอบายตายอดสู .
จิตกุศลผลบุญ .หนุนอุ้มชู .. ตายไปสู่ทิพยสถานพิมานแมน .
หากจิตสิ้นอาสวะสละแล้ว . จิตเป็นแก้วดวงวิมุติพิสุทธิ์แสน
จักไปสู่ พระนิพพาน .ตระการแดน หยุดโลดแล่นไม่เกิดอีก ปลีกตัวไป ..
แล้วเมื่อนั้นจะรู้สึกสำนึกคิด .. ถูกหรือผิด นรก-สวรรค์สำคัญไฉน? ..
หากคิดผิดถลำเดินสายเกินไป ก็คิดใหม่-ทำใหม่ .ให้มันดี .
ชีวิตเกิดมาในโลกมีโชคช่วย . บุญอำนวยเป็นมนุษย์วิสุทธิ์ศรี
แต่ดิน-น้ำ-ไฟ-ลมผสมดี .. เห็นกายนี้ว่าเป็นเรา นั่นเขลาเกิน
กิเลสบังธรรมชาติอันบริสุทธิ์ .. มวลมนุษย์มีสารพัดเหตุขัดเขิน
เห็นร่างกายเป็นจิต .มัวคิดเพลิน ถลำเดิน ลืมบ้านเก่าของเราเอง ..
เอาร่างกายคืนสู่โลกแห่งธาตุสี่ . ดิน-น้ำนี้ ไฟ-ลมปลงให้ตรงเผง
เอาจิตใจคืนความว่าง .ทางเปิดเอง . ยินบรรเลงเพลงทิพย์พระนิพพาน .
ว่าความว่างสอนอะไรให้มนุษย์? . ในที่สุดลืมความว่าง ทางศุขศานติ์ ..
ทุกอย่างที่มีตัวตน .ดลบันดาล . อัตตาผ่านลืมหลงถึงงงงวย!! .
ไร้ความว่าง .จะเดิน-ย่าง-วิ่งอย่างไร? อยู่ที่ไหน?บนแผ่นดิน?คงสิ้นสวย
ไร้ความว่าง .คนล้นโลก โศกระทวย . ใครจะช่วยถ่ายเท ..สนเท่ห์นัก!!
สิ่งที่มี คือ.ฝุ่นละอองของความว่าง . ทุกสิ่งสร้างชอบกล .วิ่งวนหลัก
ในโลกนี้สิ่งที่มี ..มีน้อยนัก .. ไม่รู้จัก .สิ่งที่มี .กันดีพอ ..
ความว่างคือความไม่มี .ไร้ที่สุด แล้วก้าวรุดสู่สิ่งมีฉะนี้หนอ
แล้วพัฒนาสู่ไม่มี .มิรีรอ .. ชีวิตก็ไปไปมามา .น่าเบื่อจัง!! .
นี่แหละคือชีวิต ..คิดให้ตก ล้อธรรมวกเวียนตามดับความหลัง
ความว่างมีชีวิต ..อนิจจัง . เมื่อชีพยัง .ทำหน้าที่ ให้ดีเอย .
นิพพานะ ปัจจโย โหตุ สาธุๆๆ