|
เส้นทางนิพพาน
เมื่อเที่ยวชมนิพพานกันเรียบร้อยแล้ว อยากไปนิพพานกันบ้างหรือยัง ? ถ้าอยากไป สนใจจริงๆ เราก็จะชี้บอกเส้นทางสู่แดนนิพพานให้ท่าน เพื่อได้เดินทางไปได้ถูกต้อง ตัดตรง ไม่หลงทาง วกเวียนไปที่ที่อื่นให้เสียเวลา.....
Create Date : 29 ธันวาคม 2548 |
Last Update : 29 ธันวาคม 2548 20:04:52 น. |
|
2 comments
|
Counter : 607 Pageviews. |
|
|
|
โดย: เส้นทางนิพพาน (AmataNippan ) วันที่: 29 ธันวาคม 2548 เวลา:20:45:11 น. |
|
|
|
โดย: นายนุกูล IP: 203.146.186.2 วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:36:37 น. |
|
|
|
| |
|
|
Location :
กรุงเทพ Thailand
[Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]
|
พุทธญาณ แสงทิพย์/เนิน แสงทิพย์/ชัย แสงทิพย์ ฯลฯ
สถาบันแสงทิพย์อริยธรรม -บ้านฉัตรไชย บางเขน
http://www.buddhapoem.com http://www.buddha-dhamma.com
อีเมล์- BuddhayanSangthip@gmail.com NernSangthip@yahoo.com ChaiSangthip@www.com
|
|
|
|
|
|
|
|
ท่องแดนพระนิพพาน ภาค2(เส้นทางนิพพาน)
ธรรมญาณ-ฐีติญาโณ
ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต
ผู้ใดเห็นเราตถาคต ผู้นั้นเห็นนิพพาน
(พุทธวจนะ)
ทุกข์ก็คือตาเนื้อเชื่อหรือไม่? . ธรรมก็คือตาในจำไว้หนอ
เห็นทุกข์คือเห็นรูปธรรมนำพะนอ . ดิน-น้ำหนอ ไฟ-ลมผสมกัน .
เห็นธรรมคือเห็นนามธรรม จำ-รู้สึก . ความคิดนึกและสัมผัสที่จัดสรร
ตถาคตคือตาในตา .สารพัน . รู้แจ้งทันเท่ามายาในสากล .
ตาในตา ทิพย์จักษุ .บรรลุแล้ว เหมือนดวงแก้วทรงฤทธิ์ประสิทธิ์ผล
เห็นตถาคตคือความคิดในจิตคน ไม่มีตน-ตัวเราด้วยเข้าใจ
จิตละรูปเพียงดูแค่รู้สึก .. มิคิดนึก .ชังหรือคิด พิศมัย ..
เป็น ผู้รู้-ผู้ตื่น-ผู้เบิกบานใจ ด้วย ตาในตาพุทธะจิต ละวาง .
นิพพานหรือคือธรรมจักษุ . ตาบรรลุ เห็นธรรมะใสกระจ่าง
เห็นนิพพาน .สุญญตามาเปิดทาง .. ดวงจิตว่าง ..จากกิเลสเหตุมายา ..
ว่างจากเครื่องร้อยรัดที่มัดจิต . ว่างจากพิษแห่งสมมุติสุดสรรหา ..
ไร้รูป-นาม .สิ้นห่วงภาพลวงตา นิพพานาเป็นสุขทุกวันคืน
ผู้เห็นทุกข์ เห็นธาตุสี่นี่ตัวเรา รวมกันเข้าผูกมัดไม่ขัดขืน ..
ทั้งดิน-น้ำ-ไฟ-ลมช่างกลมกลืน . กิเลสรื่นครื้นเครงบรรเลงรมย์ .
เป็นตัวเรา .เดือดร้อนเป็นก้อนทุกข์ . ตัณหาคลุกเคล้าสร้างไว้ให้ขื่นขม .
ไม่รู้จักคำว่าพอ ..ก่อตรอมตรม .. สามพอคมคายนัก รู้สักนิด!!
หากพอกินพอใช้ใครพออยู่ ผู้นั้นรู้ถึงแก่นธรรมเลิศล้ำจิต
เป็นธรรมชาติแท้จริงยิ่งชีวิต .. หากใครคิดออก ไร้ทุกข์เป็นสุขเทอญฯ
ธรรมชาติ .รังสรรค์เจ้า-ตัวเราด้วย เรียนรู้ช่วยเหล่ามนุษย์สุดสรรเสริญ
ให้เรียนรู้ .ไม่ยึดติด .ไม่ชิดเชิญ ไม่ขาดเกิน แล้วปล่อยวางทุกอย่างลง ..
ร่างกาย .อาศัยข้าว-ผ้า-ยาและบ้าน . สี่ประการก็อยู่ได้มิใหลหลง ..
ไม่มีทุกข์สุขใจ ..เมื่อได้ปลง .. ชีพดำรง .คงทำดีมีมงคล
ผู้เห็นธรรม .เห็นตัวเราไม่เขลาโง่ มุ่งสู่โพธิญาณตระการผล
รูปธรรมสี่-นามธรรมสี่ มีทุกคน แยกแยะตนออกให้เห็นอย่างเด่นชัด!!
รูปธรรมสี่คือธาตุสี่ ..มีดิน-น้ำ- . ไฟ-ลมย้ำตามรุกทุกขสัจจ์
นามธรรมสี่รู้สึก-จำเห็นธรรมชัด คิด-สัมผัสปรุงแต่งแหล่งรับรู้ .
ละเอียดมีเพียงสี่คู่ .ดูให้ดี .. ย่ออีกทีมองให้ซึ้งเหลือหนึ่งคู่ .
รูปกับนามกระทบกันเท่านั้นดู .. ก็จะรู้นี่มายาชีวาเรา ..
เห็นตัวตน .แล้วอย่าหลงพะวงคิด .. เป็นพุทธจิตจิตเดิมแท้ช่วยแก้เขลา
ละทั้งรูป-ละทั้งนาม ..เกิดความเบา เป็นแค่เงา .ตามร่างก็ช่างมัน!! .
เป็นจิตเดิมใสยิ่งกว่าธาราน้ำ . ไม่ชอกช้ำบริสุทธิ์ประดุจฝัน
บริสุทธิ์ยิ่งกว่าอากาศพิลาศครัน .. เป็นต้นธาตุ-ต้นธรรม์ นิรันดร
ผู้ใดเห็นตถาคต .ปรากฏเด่น .. ผู้นั้นเห็นนิพพานะประภัสสร ..
เห็นทุกสิ่งเพียงมายา .ทุกท่าตอน .. ไม่เดือดร้อนเครื่องร้อยรัดสลัดไป .
รูป-นามเป็นภาพลวงตา ..สารพัด เลิกผูกมัดพบหนทางสว่างไสว .
เพราะไม่มีฝุ่นละอองเกาะข้องใจ .. ด้วยละได้ในทุกสิ่ง แล้วทิ้งเลย ..
นิพพานะ ปัจจโย โหตุ .