A Piece Of Love
Group Blog
 
All blogs
 

แม้เหนื่อยกาย แต่อิ่มใจ

กลับจากความฝัน...ตื่นจากค่ายแห่งความรัก 25-27 กันยายน 2551 ณ. มธ. ศูนย์รังสิต

พี่แหม่มขา
เอ้หายไปนาน เพราะเอ้ได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการศึกษาของไทยสมใจอยาก
แต่ชีวิตยิ่งยุ่งกว่านั้น เมื่อวันค่ายมาถึง

เอ้ น้องตูน และ น้องโอ๊ะ ได้ออกเดินทางจากบ้านโชคชัย 4 พร้อมกัน โดยเราไปรอนักเรียนจำนวน 206 คน พร้อมทำเวที และจัดการเรื่องห้องพัก ก่อนจะได้พบพี่เป็ด แห่ง มธ. และทีมงาน คือ น้องตี้ และน้องตั้ง

โอ๊ะ ขึ้นพูดก่อนในฐานะวิทยากรมือเขียนบท ซิทคอม จาก เฮง เฮง เฮง พอช่วงบ่าย พี่อ้าย ปริทัศน์ กองเพียร ก็มาพร้อมพี่อุ๋ย นนทรี นิมิบุตร เพื่อให้ความรู้และเรื่องราวชีวิตสุดมันส์ ในฐานะบรรณาธิการนิตยสาร IN และผู้กำกับ อดีตนักเรียนช่างกล ตามลำดับ

วันรุ่งขึ้น จักษณ์ จันทร และ โซเวียต รายงานตัวแต่เช้า และขึ้นเวทีพร้อมกัน ในฐานะนักเขียน ช่างภาพ และ บรรณาธิการ ตามลำดับ กับประสบการณ์ที่เด็กๆ อ้าปากค้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตของเด็กจากสถานสงเคราะห์ จาก จักษณ์ หรือ เด็กบ้านเมตตา จาก โซเวียต
เอ้จึงผสมโรงด้วยการบอกว่า ชีวิตแต่ละคนกว่าจะถึงวันนี้ เป็นดั่งไส้กรอกที่โดนมีดกรีดเป็นริ้วรอย

ภาคบ่ายลดดีกรีความโหดร้ายของชีวิตมาเป็นงานออกแบบ พิธีกรจาก พี่นัท กราฟฟิค ดีไซเนอร์ จากรั้ว มัณฑนศิลป์ ศิลปากร และ คมสัน นัน พิธีกรและดาราผู้ตีบทกระจุย
ตบท้ายวันสุดท้ายด้วยคลาสแอนนิเมชั่น สำหรับผู้รักจะเป็นแอนิเมเทอร์ ด้วยการทายท้าจากเอ้
“อีก 10 ปี ให้ติดต่อมาบอกกับพี่เอ้ว่า หนู(ผม) ทำได้แล้วครับ ผมนำเงินเข้าประเทศได้ 1,000 ล้านบาทแล้วค่ะ(ครับ)”
หลังจากการเปิดเผยของมูลของเอ้ว่า ปัจจุบัน ไทยเป็นเอาท์ซอร์ส ที่สำคัญของโลก ที่มีมูลค่าตลาดกว่า 60,000 ล้านบาท ที่สำคัญ ราคาแอนิเมชั่นจากไทย อยู่ที่ 3 แสนบาท ในขณะที่ญี่ปุ่น เกาหลีจะมีราคา 1 ล้านบาท ในผลงานชิ้นเดียวกัน

สักพัก พี่เป็ด พิธีกรที่น่ารักที่สุด ก็นำเราทุกคนเข้าสู่พิธีอำลา
ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา น้ำตาเป็นเครื่องหมายของความอาลัยอาวรณ์ เราทุกคนสัญญาจะสร้างโรงเรียนเสมือนจริงขึ้นบนโลกไซเบอร์ ในวันที่โรงเรียนในโลกแห่งความเป็นจริงใช้การไม่ได้
หลังจากนั้นเราไปกินข้าวด้วยกัน ก่อนจะกลับมาสลบที่บ้านพัก
แม้เหนื่อยกาย แต่อิ่มใจ แม้จะลืมกินข้าวในบ้างมื้อ แม้ปวดท้อง แต่หัวใจเต้นแรงชุ่มฉ่ำ

สุดท้ายนี้ขอผลบุญจากการจุดประกายฝันเด็กๆ มียัง วิทยากร พิธีกร และทีมงานทุกคน

คิดถึงพี่แหม่ม กับพูมากเลยค่ะ
เสียดายจังไม่ได้ไปร่วมวงในวันนั้น
เอ้




 

Create Date : 02 ตุลาคม 2551    
Last Update : 2 ตุลาคม 2551 15:45:33 น.
Counter : 491 Pageviews.  

ฤดูหนาวปีนี้ฉันจะได้อยู่คอยต้อนรับเพื่อนๆ ที่บ้านของฉันแล้ว

8 สิงหาคม 2551

โอลิมปิค เริ่มต้นแล้ว พิธีเปิดโดยจางอี้โหมว ไม่รู้ฉันคิดไปเองหรือเปล่า ฉันว่ามันเป็นพิธีเปิดที่ชวนให้ง่วงไปหน่อย แม้จะสวยงาม แต่มันยืดยาดอืดอาดชอบกล
พิธีเปิดกีฬาของมวลมนุษยชาติน่าจะคึกคักเร้าใจกว่านี้ และถ้าลดความเป็นจีนลงบ้างก็น่าจะสื่อสารกับชาวโลกได้ดีขึ้น

ดื่มกาแฟตอนเช้า ฉันมองรอบๆ ห้อง.... ฉันจะทำอย่างไรกับข้าวของทั้งหมดนี้

ย้ายบ้านต้องใช้พลังมหาศาล แค่คิดก็เหนื่อยแล้ว

ก่อนอื่นฉันต้องไปหาซื้อกล่องจำนวนมากมาเก็บไว้ อยู่กรุงเทพแบบไม่มีรถส่วนตัวนี่มันยากจริงๆ จะทำอะไรก็ดูติดขัดไปหมด ยังนึกไม่ออกเลยว่าจะเอากล่องจำนวนมากมาจากไหน
ฉันเคยลองถามคนแถวๆ นาคร ว่าถ้าฉันจะวานให้ขับรถบิคอัพขนของจากกรุงเทพไปเชียงรายสักเที่ยวจะได้มั้ย ฉันออกค่าน้ำมันรถเอง ถือว่าไปเที่ยวบ้านฉันด้วย เพราะยังไม่มีใครรู้จักบ้านฉันเลย
คำตอบก็คือ จ้างนิ่มซีเส็งถูกกว่ามั่ง
โอเคค้า นิ่มซีเส็งก็นิ่มซีเส็ง

ตอนที่ขนมาจากนครศรีธรรมราช ฉันได้รถบรรทุกในราคาถูก เขาเป็นเพื่อนกับนุช ขนทุกอย่างมาในเที่ยวเดียว อัดแน่นเต็มคัน
มาคราวนี้ฉันจะต้องแบ่งของเป็นสามส่วน
ส่วนแรกฉันจะยกให้กองทุนกนกพงศ์ สงสมพันธุ์ น่าจะสักห้าหกกล่อง เป็นของส่วนตัวของพี่กนกพงศ์ จดหมายเก่าๆ เสื้อผ้า ร้องเท้า ต้นฉบับร่างแรก
ส่วนที่สองคือหนังสือกับเสื้อผ้า ฉันจะเก็บใส่กล่องอย่างดีและส่งไปทางนิ่มซีเส็ง ซึ่งน่าจะราวยี่สิบถึงสามสิบกล่อง
ส่วนที่สามก็พวกโต๊ะเขียนหนังสือ ตู้เย็น ไมโครเวฟ จานชาม ชุดเครื่องครัวของพี่แหม่ม(อันนี้สำคัญยิ่ง) แพร์บอกว่าจะช่วยหาทหารขับรถขึ้นมาช่วยขน

เรียบร้อย(ในความคิด) แต่จะเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ ใช่แล้ว ไปหาซื้อกล่อง เก็บของที่จะให้กองทุนแล้วเอาไปให้เขาก่อน

ปลายเดือนกลับเชียงรายไปหาผู้รับเหมา เตรียมเคลียร์พื้นที่ แต่งกิ่งต้นไม้ กลับมาขอเงินพี่แหม่ม กลางเดือนกันยายนเริ่มสร้าง
สร้างเสร็จค่อยขนของไปทีเดียว ขนไปตอนนี้ไม่มีที่เก็บ
คิดแล้วตื่นเต้น ฤดูหนาวปีนี้ฉันจะได้อยู่คอยต้อนรับเพื่อนๆ ที่บ้านของฉันแล้ว





 

Create Date : 03 กันยายน 2551    
Last Update : 10 ธันวาคม 2551 11:33:36 น.
Counter : 454 Pageviews.  

ฉันชอบระยะห่าง ฉันว่า มันทำให้เรานับถือ และให้เกียรติกัน

7 สิงหาคม 2551

พี่แหม่มคงกำลังเก็บกระเป๋า เตรียมตัวไปเกาะช้างวันพรุ่งนี้
ฉันดีใจที่พี่แหม่มได้มีเวลาพักผ่อนยาวๆ บ้าง พี่แหม่มทำงานหนัก และรับผิดชอบใครต่อใครอีกหลายชีวิต
ฉันอยากเห็นพี่แหม่มให้รางวัลตัวเอง

เมื่อวานเราประชุมกันเรื่องหนังสือ a piece of love หนังสือของเรา(พี่แหม่ม เอ้ ฉัน)
ชักอยากเห็นหน้าตามันเร็วๆ หวังว่าจะเสร็จก่อนฉันกลับไปอยู่เชียงรายนะ

แพร์โทรมาบอก เชฟแนวอ่านครัวสีแดงตอนที่ฉันเขียนถึงมัน แล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ทั้งวัน เป็นบ้าไปแล้ว
ดีจัง ความสุขของคนอ่านคือรางวัลของนักเขียน ทำให้ฉันเฉื่อยแฉะน้อยลง คอยๆ เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ เขียนไปทีละนิดละหน่อย หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน

โลกของฉันกลับมามีตัวหนังสืออีกครั้ง เฮ้อ โล่งอก ขืนนานกว่านี้ ดาบคงขึ้นสนิม

ก่อนวางหู แพร์ถาม เมื่อไรแกจะกลับมาอยู่บ้านว่ะ
ฉันบอกแพร์ว่าให้หาผู้รับเหมาไว้รอเลย ฉันจะเริ่มสร้างบ้าน(ดัดแปลงโรงรถ)เดือนตุลาคมนี้
แพร์ว่า ไม่ถึงเดือนก็เสร็จ

วันนี้ทั้งวันฉันจึงลองวาดแปลนโรงรถของแม่ คำนวนพื้นที่ดีๆ มันกว้างกว่าแปลนบ้านที่ฉันคิดจะสร้างเยอะ
เราจะได้ทั้งห้องนอน ห้องครัว ห้องทำงาน ห้องน้ำโอเพ่นแอร์(อันนี้ต้องถูกใจพี่แหม่มแน่นอน) และที่สำคัญ เราได้พื้นที่สีเขียวแบบนับไม่ถ้วน

สิ่งที่ฉันต้องคิด คือทำอย่างไรให้มันโล่งที่สุด เปิดทางให้แสงสว่างเข้าบ้านมากที่สุด อาจต้องขอแม่ตัดลิ้นจี่หน้าบ้านสักต้น ให้โอกาสดวงอาทิตย์โผล่หน้ามาทักทายเจ้าของบ้านบ้าง

พี่แหม่มบอก อยากได้พื้นปูนเปลือย ได้เลยค่ะ เดี๋ยวพูจัดให้ ปูนเปลือยทั้งพื้นทั้งผนัง บ้านหลังนี้น่ะ เป็นของพี่แหม่มมากกว่าของฉันเสียอีก

ฉันจะหาจักรยานสักคัน เอาไว้ปั่นตอนเย็น ในวันที่ขี้เกียจเต้นระบำหน้าท้อง เชียงรายอากาศดีจะตาย ออกกำลังกลางแจ้งดีกว่าเยอะเลย

คุณ
ฉันดีใจที่เราได้เจอกันอีก นานๆ ได้คุยกันทีก็ดีเหมือนกัน มันทำให้เรามีเรื่องคุยกันเยอะ และฉันชอบระยะห่าง ฉันว่า มันทำให้เรานับถือ และให้เกียรติ์กัน
ฉันรู้สึกว่าคุณเหนื่อยมาก คุณน่าจะหาเวลาพักผ่อนบ้าง น่าจะมีสักสี่ห้าวัน ที่คุณไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องคิดเรื่องงาน อยู่ในที่ใดที่หนึ่ง กับตัวเอง หนังสือสักเล่ม สมุด ปากกา และกีต้าร์โปร่ง
ฉันอยากให้คุณมีวันอย่างนั้นบ้าง มันจะช่วยเติมพลังให้คุณได้เยอะเลยล่ะ
ฉันถาม คุณว่าดีมั้ย ที่ฉันจะกลับไปอยู่เชียงราย
ดีสิ เราจะได้ไปเยี่ยม
ขอให้แน่เถิด จะมวนยาไว้รอ




 

Create Date : 01 กันยายน 2551    
Last Update : 1 กันยายน 2551 11:22:16 น.
Counter : 379 Pageviews.  

อยู่ที่เราต่างหาก ว่าจะเลือกรับสิ่งไหน อย่างไร

3 สิงหาคม 2551

ฉันกำลังจะไปบ้านพี่เต้ย เราจะดูคอนเสิร์ต af5 รอบชิงชนะเลิศที่บ้านพี่เต้ยกัน พี่เต้ยเป็นนักเขียนอีกคนหนึ่งที่ชอบรายการนี้ นอกจากพี่เต้ย ก็มีคมสัน ที่ฉันคุยเรื่อง AF ได้ ส่วนเพื่อนนักเขียนคนอื่นมักจะหัวเราะขำเรา

ฉันคิดเหมือนพี่เต้ย เราดูรายการ af แต่เราไม่ได้โง่นี่หว่า เราอ่านมูราคามิ เราอ่านฟูโก เราอ่านรัชตี อ่านกุนเดอรา
แน่นอน รายการปฏิบัติการล่าฝัน คือสินค้าที่ถูกออกแบบอย่างแยบยล มันมีความเจ้าเล่ห์เพทุบาย แต่ขณะเดียวกันก็มีความบริสุทธิ์จริงใจอย่างเหลือแสน
อยู่ที่เราต่างหาก ว่าจะเลือกรับสิ่งไหน อย่างไร
สำหรับฉันกับพี่เต้ย เราชอบร้องเพลง เราเชื่อว่ามนุษย์ต้องมีความใฝ่ฝัน และเราเชื่อมั่นในศักยภาพของมนุษย์
เราไม่โหวตจนหมดตัว เราไม่สั่งพิซซ่ามากิน เราไม่ใช้โอเล ไม่ใช้แพนทีน ไม่กินอาหารแช่แข็ง บรรดาผู้สนับสนุนทั้งหลายไม่เคยกระตุ้นต่อมตัณหาของเราได้เลย
เราชอบเห็นการต่อสู้เพื่อเอาชนะข้อจำกัดตัวเองของนักล่าฝัน เราชื่นชมมิตรภาพระหว่างพวกเขา เรานับถือสปิริตของครูรักษ์ เราชอบความฮาของเหล่าครูร้อง
และเราชอบดูโชว์ของคนที่ยังไม่ได้เป็นซุปเปอร์สตาร์

ฉันต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวพี่เต้ยจะรอ
หวังว่ามหาชนคนไทยจะเปิดหูเปิดใจ มองเห็นว่าใครเหมาะกับเดอะวินเนอร์




 

Create Date : 29 สิงหาคม 2551    
Last Update : 29 สิงหาคม 2551 10:35:10 น.
Counter : 413 Pageviews.  

สองเดือนที่ผ่านมา โลกของฉันไม่มีตัวหนังสือ

2 สิงหาคม 2551

ฉันกำลังสงสัยว่า อุรุดา โควินท์ คนนั้นอยู่ไหน คนที่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่จะเล่าเรื่อง คนที่สนุกกับการเล่นแร่แปรธาตุด้วยถ้อยคำ คนที่รัวแป้นคอมพิวเตอร์ในจังหวะที่เร้าใจ
อุรุดา คนไหนไปอยู่เสียที่ไหน

ตลอดสองเดือนที่ฉันไม่ได้เขียนบันทึก ฉันก็ไม่ได้เขียนอะไรเลยเช่นกัน มันคงเท่ดี ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ได้เขียนบันทึก เพราะปลุกปล้ำกับนิยายเสียจนหมดแรง ฉันกำลังเดินทางท่องเที่ยว ฉันยุ่งเสียจนไม่มีเวลา หรือ...
ไม่ใช่เลย
ฉันไม่เขียน เพราะไม่อยากเขียน ฉันไม่อยากเขียนอะไรทั้งนั้น นิยาย เรื่องสั้น บันทึก บทกวี ฉันไม่อยากอ่านหนังสือด้วยซ้ำ สองเดือนที่ผ่านมา โลกของฉันไม่มีตัวหนังสือ

มันเริ่มจากเช้าวันหนึ่ง ขณะที่ฉันพยายามเค้นประโยคมหัศจรรย์ออกมาจากกระดูก
ฉันพยายามอย่างที่สุด เพื่อจะเขียนหนังสือ... ใช่ มันเริ่มจากตรงนี้
ทำไมฉันต้องพยายามด้วย ฉันไม่ต้องการแบบนี้ ฉันอยากเริงร่า ฉันอยากเต้นรำขณะที่เขียน มันต้องไม่ใช่การขู่เข็ญ
ฉันปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ทันที
บอกตัวเอง จงรอจนกว่าจะอยากเขียน
แล้วฉันก็เปิด true vision อา..รายการ af5 ถ่ายถอดสดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง
นักล่าฝันชายคนหนึ่งกำลังซ้อมเพลง เปลี่ยน ของ ETC โอ ฉันชอบเพลงนี้มาก และนักล่าฝันคนนั้นก็ทำได้ดี
ฉันตามดูคอนเสิร์ตแรกในคืนวันเสาร์
บนเวที เขามีพลังบางอย่างที่ฉันสัมผัสได้ ฉันจำชื่อ และจำ v ของเขาไว้
แล้วทุกเช้า หลังดื่มกาแฟ ฉันก็เปิดทีวีช่องเดิม
มารู้ตัวอีกที... af5 จบซีซัน
ส่วนฉันแทบไม่ได้เขียนอะไรเลย
เหมือนจะน่าเศร้าและไร้สาระ แต่ความจริงก็คือ สองเดือนที่ผ่านมาฉันได้เรียนรู้บางอย่าง
1. แม้ไม่ได้เขียนหนังสือ ฉันก็ยังมีชีวิตอยู่
2. ชีวิตที่ไม่มีตัวหนังสือ ไม่ได้เลวร้ายนัก

ถึงวันนี้ฉันจึงมองงานเขียนอย่างธรรมดาขึ้น รวมถึงความเป็นนักเขียนของฉันด้วย มันเป็นสิ่งสามัญที่สุดในโลกนี้ และอาจไม่จำเป็นเลยสักนิดสำหรับบางคน ดังนั้นไม่ต้องลำพองนัก และไม่จำเป็นต้องเคี่ยวเข็ญงานอันชาญฉลาดออกมาจากสมองกลวงๆ ของตัวเอง
ไม่ต้องแร่เนื้อตัวเอง ไม่ต้องกระเทาะเข้าไปถึงกระดูก
เพียงแค่เขียนเมื่ออยากเขียน และเขียนอย่างเป็นธรรมชาติที่สุด




 

Create Date : 28 สิงหาคม 2551    
Last Update : 28 สิงหาคม 2551 10:31:13 น.
Counter : 566 Pageviews.  

1  2  3  4  5  

jangar
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




a piece of love เป็นพื้นที่สนทนาออนไลน์ เพื่อแลกเปลี่ยน ทัศนะ ความเป็นไปของชีวิตในทุกด้าน ของ ผู้หญิง 3 คน คือ สุมิตรา จันทร์เงา (แหม่ม) , อุรุดา โควินท์ (พู) และ ปรารถนา รัตนะ (เอ้)

และพร้อมแลกเปลี่ยนกับทุกท่านในทุกมุมมอง ไม่ว่าจะเป็นความรัก ชีวิต ความผิดหวัง สมหวัง ครอบครัว หรือปัญหาใดๆ เพื่อให้ทุกท่านรู้ว่า ในโลกอ้างว้าง มุมนี้เป็นดั่ง ชิ้นส่วนความรัก ความห่วงหา เป็นมิตรภาพแท้ บนโลกออนไลน์ ที่(เขาว่า)เป็นความลวง
Friends' blogs
[Add jangar's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.