November 2009 @London: 3rd day: กว่าจะได้วิวกลางคืนของ Tower bridge, Big Ben และ London Eye
เครดิตภาพ Illustration ของ Big Ben จาก google ------------------------------------------------------------------ วันที่สามนี้ต้องไปเข้าร่วมงานแต่เช้าค่ะ อาหารเช้าก็เป็นขนมปังยัดไส้ที่ซื้อเตรียมมาจากสถานีตั้งแต่เมื่อวาน กินง่ายๆเข้าว่าค่ะ เสร็จจากงานแอบออกมาก่อนเวลานิดนึงก็กะว่าวันนี้จะไป Tower of London กับ Tower Bridge ค่ะ ที่จัดงานอยู่ตรงริมแม่น้ำ Thames อยู่แล้วก็เลยกะว่าจะเดินเลียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ อากาศ ณ ตอนนั้นไม่ดีไม่ร้ายค่ะ ฟ้าขาวๆดูมืดๆหน่อยฝนก็ทำท่าจะตกแต่โดยรวมก็ยังพอเดินเล่นชิวๆได้ #1 ไม่รู้ว่าต้นพวกนี้เรียกว่าอะไร Maple หรือเปล่า? เห็นใบเป็นแฉกๆคล้ายเมเปิ้ลที่ญี่ปุ่น แต่ขนาดนี่ผิดกันลิบลับเลย ที่นี่ใบใหญ่เบ้อเริ่มสีเหลืองสีส้มร่วงเต็มพื้นเกือบตลอดทางเดินแถวนั้นเลยค่ะ ก็สวยไปอีกแบบ #2 กะว่าเดินเลียบแม่น้ำเป็นแผนที่ดีแล้วเชียวไม่หลงชัวร์ ที่ไหนได้เดินๆไปไปเจอที่ๆเดินผ่านไม่ได้แถมสถานีตรงนั้นก็ปิดซ่อมอยู่ พยายามหาทางไปต่อเลียบแม่น้ำ ขึ้นๆลงๆ Subway (ทางเดินใต้ดินนะคะ ทีแรกเราก็คิดว่าเป็นรถไฟใต้ดินซะอีก) ตรงนี้หลายรอบมากสุดท้ายก็ยอมแพ้ค่ะ แค่หาทางเดินผ่านจุดที่ปิดซ่อมไปเลียบแม่น้ำต่อนี่ล่ะหาไม่เจอ #3 สรุปเลยต้องเดินย้อน(ไกลมาก)เพื่อมาขึ้นรถไฟค่ะ รู้งี้ขึ้นรถไฟซะตั้งแต่สถานีตรงที่จัดงานป่านนี้ถึง Tower of London ไปแล้วค่ะ ทำเก่งดีนักเสียเวลาเลย ถือซะว่ามาเดินเล่นถ่ายรูปก็ได้ #4 มัวแต่หลงทางกว่าจะมาถึง Tower Hill Station ก็เริ่มมืดซะแล้วคงเข้า Tower of London ไม่ทันก็เลยได้แต่เก็บภาพรอบๆเอาค่ะ ออกจากสถานีแล้วเดินตามๆคนตามๆป้ายไปก็ไป Tower of London กับ Tower Bridge ได้ไม่ยากเลยค่ะ #5 ตอนเดินผ่าน Tower of London ฝนก็เริ่มลงเม็ดแล้ว แต่ยังแค่นิดๆหน่อยๆยังสบายๆค่ะ #6 ดูเหมือนว่าฝั่งนึงของ Tower Bridge จะปิดปรับปรุงอยู่ คนก็เลยมาเดินกันอยู่ฝั่งเดียวกันหมดเลย พอเดินผ่าน Tower of London โผล่มาที่ถนนก็จะมองเห็น Tower Bridge อยู่ไกลๆแล้วค่ะ #7 รีบๆเดินเข้าไปใกล้ๆอีกนิด เสียดายจริงๆว่าอีกฝั่งซ่อมอยู่เลยได้ Tower Bridge มาแค่ขาเดียวอย่างนี้ล่ะค่ะ อีกขานึงไม่ค่อยเหมาะเอามาโชว์เท่าไหร่ #8 ยิ่งเดิน ลมก็พัดแรงขึ้นๆ ฝนก็ตกเม็ดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆจนแทบจะถ่ายรูปอะไรไม่ได้เลยค่ะ เม็ดฝนติดหน้าเลนส์ภาพออกมาเสียหมดเลย ถ้าไม่เพราะว่าเราอาจได้มาที่นี่หนนี้หนเดียวล่ะก็คงตัดใจกลับโรงแรมไปแล้ว แต่นี่ก็ยืนตากฝนตากลม เช็ดหน้าเลนส์และเล็งกล้องถ่ายรูปอยู่อย่างนั้นล่ะค่ะ จริงๆร่มก็พกมาอยู่แต่ถ้าจะถือร่มกับกล้องพร้อมกันนี่ยังไม่สามารถพอค่ะ หัวนี่เปียกหยั่งกะเพิ่งสระผมมาเลยเพื่อให้ได้ภาพนี้ (จริงๆลมแรงด้วย ถึงกางร่มก็คงไม่ต่างกันมากค่ะ หัวอาจแห้งแต่ตัวก็เปียกเหมือนกัน) #9 ยังไม่หมดแค่นี้ค่ะ แพลนวันนี้ของเราคือไปเก็บวิวกลางคืนของ Big Ben และ London Eye ด้วย (วิวกลางวันได้แล้วเมื่อวานแต่ยังไม่พอค่ะ จะเอาวิวกลางคืนอีก) ตอนโผล่ออกจาก Westminster Station ก็ดูเหมือนฝนจะซาลงดีอยู่นะคะเลยได้ภาพ Big Ben สีทองตัดกับฟ้าตอนกลางคืนมาได้ #10 แต่ยิ่งๆเดินๆข้ามสะพานไป ทั้งลมทั้งฝนก็กลับแรงขึ้นมาอีกครั้งค่ะ แถมลมนี่พัดเข้าหน้าเลย ภาพเลยออกมามีรอยเม็ดฝนที่หน้าเลนส์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ (ขนาดว่าเราลบรอยออกไปบ้างแล้วด้วย Photoshop) แต่ก็ยังคุ้มค่ะว่าก็ยังได้ภาพที่พอดูได้มาบ้าง ถ้าเปียกแล้วไม่ได้ภาพนี่คงเซ็ง (ภาพล่างนี้ไม่น่ามีเงาคนขี่จักรยานผ่านพอดีเลยน้า ไม่งั้นจะคร๊อปส่วนถนนออกให้ดู panorama ไปเลย) #11 หันไปถ่ายทาง London Eye นี่ค่อยยังชั่วค่ะเพราะลมไม่พัดเข้าเลนส์ ได้ไฟกลางคืนสวยๆของ London Eye กับเรือล่องแม่น้ำ Thames มาจนได้ ^o^ ดูเผินๆในรูปเหมือนบรรยากาศจะโรแมนติกดีนะคะ แต่จริงๆแล้วคือทั้งฝนทั้งลมพัดกันหัวกระจุย คาดว่าไม่น่ามีใครมีอารมณ์ไปล่องเรือชมวิว ณ นาทีนั้นค่ะ #12 เพิ่งรู้ตอนเห็นนี่เองค่ะว่า London Eye นี่ไฟกลางคืนสีน้ำเงิน จะมีเปลี่ยนสีไฟไปเรื่อยๆตามเทศกาลเหมือนหอไอเฟลหรือเปล่าหนอ เผอิญว่าข้อมูลไปค่อยปึ๊กค่ะ #13 ถ่ายรูปหมดตรงนี้เราก็โล่งแล้วค่ะเสร็จภารกิจ(กำหนดเอง)ของวันนี้แล้ว คราวนี้เก็บกล้องกางร่มกับเค้าบ้าง ขึ้นรถไฟตัวเปียกๆพลาดรถไฟไปตั้งสองคันแน่ะค่ะกว่าจะได้ขึ้น รู้สึกช่วงเราไปพนักงานรถไฟเค้ามีหยุดประท้วงไม่ทำล่วงเวลาอะไรกันนี่ล่ะค่ะ รถไฟหลายสายเลยขาดช่วงไป มาคันนึงคนก็เต็ม มาอีกคันคนก็เต็มค่ะกว่าจะได้ขึ้นคันที่สาม (จริงๆเราดูๆแล้วรถไฟก็ยังไม่เต็มไม่แน่นเท่าไหร่เลย ยังเบียดเข้าไปได้สบายๆ แต่เห็นคนอังกฤษรอบๆเค้าหยุดยืนรอคันต่อไปกันหมดเลยอ่ะค่ะเลยไม่กล้าเข้าไปเบียดเค้า จริงๆยังว่างกว่ารถไฟญี่ปุ่นตอนแน่นๆตั้งเยอะแน่ะค่ะช่องไฟระหว่างแต่ละคนนี่ยืนสบายๆไม่เบียดเลย) กว่าจะกลับถึงโรงแรมนี่แทบจะนอนตายเลยค่ะ กินกันตายก็ขนมปังซื้อจากสถานีอีกแล้ว (แต่ก็อร่อยดีนะคะ) ฝนตกทีนึงนี่อะไรๆก็ลำบากไปหมด ทำอะไรทีนี่เหนื่อยกว่าตอนอากาศดีๆปกติๆหลายเท่าเลย ------------------------------------------------------------------ ภาพทั้งหมดถ่ายจาก Canon Kiss X3 (หอบเลนส์ไปตัวเดียวคือ EF-S 10-22 mm USM) ต้องขอขอบคุณพี่ใจดีผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการที่กรุณาให้ยืมเลนส์มาลองใช้ด้วยค่ะ ^_^ ปล ภาพ outdoor กลางคืน ส่วนใหญ่ผ่านการโพรเซสด้วย Photoshop ด้วยนะคะ หลักๆก็เพื่อจัดการส่วนที่ติด Shadow หรือ Highlight และก็เพื่อให้ตัวสถานที่ดูเด่นมากขึ้น บางภาพต้องใช้ Stamp tool เพื่อลบรอยฝนที่เกาะที่เลนส์ออกด้วยค่ะเครดิตภาพการ์ตูน Illustration จาก google ------------------------------------------------------------------รวมลิงค์ทั้งหมด 1. November 2009 @London: 1st day: Korean air ชั้น business class (first class?) มุ่งหน้าสู่ลอนดอน ;-) 2. November 2009 @London: 2nd day: วันฟ้า(เกือบ)ใสที่ Big Ben และ London Eye / เป็ดย่างที่ Four Seasons 3. November 2009 @London: 3rd day: กว่าจะได้วิวกลางคืนของ Tower bridge, Big Ben และ London Eye 4. November 2009 @London: 4th day: กระทบไหล่คนดังที่ Madame Tussauds 5. November 2009 @London: 4th day: เดินต่อไป British museum & National History museum (แอบเบื่อนะนี่) 6. November 2009 @London: 5th-6th day: Shopaholic กำเริบที่ Harrods และ Incheon airport / ただいま東京
Create Date : 21 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2553 23:56:37 น.
1 comments
Counter : 3386 Pageviews.
โดย: tukuta วันที่: 22 พฤศจิกายน 2552 เวลา:0:39:59 น.
Location :
Bangkok Thailand / Tokyo Japan
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 35 คน [? ]
บล็อคนี้ถึงไม่ค่อยมีอะไรแต่ถ้าจะก๊อปปี้ข้อความหรือรูปอะไรไปโพสที่อื่น ก็รบกวนช่วยใส่เครดิตลิงค์บล็อคนี้ไว้ด้วยนะคะ เราไม่สงวนลิขสิทธิ์การนำภาพและข้อความในบล็อคไปเผยแพร่(ในแบบที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์)แต่สงวนลิขสิทธิ์ความเป็นเจ้าของภาพถ่ายและเนื้อหาค่ะ
ลอนดอนดูมีเสน่ห์ขึ้นมาทันตาเลย
พี่ยังไม่เคยไปลอนดอนเลยค่ะ... ไม่อยากไปด้วย
แต่..แต่..เห็นเกดถ่ายรูปมาแล้วสวย ดูน่าสนใจ น่าไปขึ้นมาทันทีเลย
ขอบคุณภาพสวยๆ เรื่องราวอ่านง่ายๆ สบายๆนะคะ อ่านเพลินเลย ขอตัวไปนอนก่อน