Love Sick หัวใจไม่ไร้รัก บทที่ ๗ (YURI)
๗ บ่ายวันต่อมา คทาวุธมีแขกไม่ได้รับเชิญปรากฏตัวที่ห้องทำงาน โดยไม่ได้นัดล่วงหน้า “สวัสดีค่ะอาวุธ” ลลิตาพนมมือไหว้ประธานหนุ่มใหญ่ เขาแปลกใจไม่น้อย ก่อนรีบเชิญนั่ง “นั่งสิตา” “ขอบคุณค่ะ” สาวสวยนั่งเก้าอี้ตรงข้ามเจ้าของห้อง “มีอะไรรึเปล่า?” “คือพี่นาทอยากลงโฆษณาบริษัทรถ กับธัญญากรุ๊ปค่ะ” สาวสวยเอ่ยเข้าเรื่องแบบไม่อ้อมค้อม หืม! คทาวุธทำหน้าดีใจ รู้ดีว่าบริษัทรถแห่งนี้มีงบโฆษณาค่อนข้างสูง จะสร้างรายได้ให้บริษัทไม่น้อย “จริงเหรอ” เขานิ่งคิด ก่อนซักถามรายละเอียด “จะลงโฆษณาในละครเหรอ?” “ไม่ใช่ค่ะ” ประธานหนุ่มใหญ่ทำหน้าสับสน “แล้วจะลงรายการไหนล่ะ?” ลลิตาคลี่ยิ้มน้อยๆ “รายการคุณม่านฟ้าค่ะ คือเมื่อวานตาเล่าไอเดียรายการใหม่ของคุณม่านฟ้า และให้พี่นาทดูคลิปในยูทูป พี่นาทเลยสนใจน่ะค่ะ” หล่อนจงใจเน้นคำว่า ‘สนใจ’ เป็นพิเศษ สนใจ? “ม่านฟ้า?” ประธานหนุ่มใหญ่ทวนชื่อลูกสาวอย่างงุนงง พริบตาก็เข้าใจว่า กัมปนาทอาจจะสนใจหญิงสาว จึงคิดเปิดทาง เผื่อสองบ้านจะได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่รายการที่ลูกสาวเสนอมานั้นยังลูกผีลูกคนอยู่ เขาเป็นผู้ใหญ่จึงไม่คิดจะรับปากส่งเดช “รายการนั้นที่ประชุมยังไม่อนุมัติ คงต้องรอตัดสินใจในที่ประชุมคราวหน้าก่อนนะตา” “ตาทราบค่ะ” ร่างบางกล่าวยิ้ม “ตามั่นใจว่าคุณม่านฟ้าจะทำให้ผู้ถือหุ้นยอมรับได้แน่” คทาวุธไม่คิดว่าจะได้ยินคำชื่นชมนี้จากปากหล่อน “มั่นใจขนาดนั้นเชียว” “ค่ะ ตาไม่ได้พูดยกยอคุณม่านฟ้านะคะอาวุธ ตาพูดตามเนื้อผ้าเฉยๆ” ลลิตาออกตัว แล้วอธิบายขยายความ “เท่าที่ตาดูหลายคลิป คุณม่านฟ้ามีความสามารถเยอะมาก แต่ละคลิปมีผู้ชมไม่น้อย ตาอยากให้เธอมีโอกาสได้แสดงผลงาน นั่นจะเป็นผลดีกับธัญญากรุ๊ปในอนาคตด้วยค่ะ” สาวสวยเดาว่า คทาวุธตั้งใจวางตัวม่านฟ้าเป็นประธานคนถัดไปของบริษัทแห่งนี้ ...ไม่ใช่วันทนา หรือชยันต์แน่ คนแบบอาวุธ คงไม่เห็นคนนอกดีกว่าลูกในไส้หรอก สาวฮอตคิดแบบนั้น หลังจับสังเกตขณะสนทนากับเขาหลายครั้ง พบว่า คทาวุธดูมีความสุขมากเวลาเอ่ยถึงม่านฟ้า ดีจริงๆ ที่มีคนเห็นความสามารถของฟ้า ประธานบริษัทดีใจที่มีคนเห็นด้วยกับเขา “ขอบใจนะ อาก็คิดแบบนั้นแหละ” แต่ก่อนที่สองคนจะคุยอะไรกันต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ก๊อก! ก๊อก! “เข้ามา” เจ้าของห้องมองไปทางประตู บีเปิดประตูเข้ามา พร้อมทำหน้าตาตื่นเต้น “ท่านคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ” น้ำเสียงของคนพูดร้อนรนแบบที่ไม่เห็นบ่อยนัก “มีอะไร?” คทาวุธถามเสียงนิ่งๆ เลขาสาวปรายตาไปทางสาวสวยแวบหนึ่ง ลังเลที่จะพูดต่อหน้าผู้ถือหุ้นสาว เพราะเรื่องนี้สำคัญมาก กระทบผลประโยชน์ของธัญญากรุ๊ปค่อนข้างมาก “คือว่า...” น่าจะเป็นเรื่องใหญ่มากๆ ลลิตาเดาจากภาษากายของบี ตั้งใจว่าจะขอตัวกลับก่อน เพื่อให้เจ้านายลูกน้องได้คุยกันสะดวก แต่ไม่ทันเอ่ยปาก “พูดมาเถอะ” ประธานหนุ่มใหญ่เอ่ยอนุญาต หากเป็นเรื่องบริษัท อย่างไรเสียลลิตาก็ต้องรู้อยู่ดี เขามั่นใจว่า ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่หล่อนจะไม่แพร่งพราย เรื่องที่เป็นผลร้ายกับธัญญากรุ๊ปแน่ ไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบังตา “คือว่าทางช่อง XX ขอยกเลิกสัญญารายการของเรา เดือนหน้าค่ะ” บีรีบพูดตอบรัวเร็ว หา! ทั้งสองคนที่รับฟังทำตาโตเป็นไข่ห่าน “รายการไหน?” เป็นคทาวุธที่โพล่งถามออกไป “วาไรตี้ค่ะ” บีรีบตอบ ธัญญากรุ๊ปเน้นสร้างซีรีย์ละครเป็นหลัก เพิ่งมีรายการวาไรตี้เป็นรายการใหม่แค่หนึ่งรายการ ส่วนอีกรายการเป็นเกมโชว์ คิดไม่ถึงว่าเพิ่งออกอากาศได้ไม่นานก็จะหลุดผังเสียแล้ว เป็นอะไรที่เกินคาดหมายมาก “แย่จริง!” เขาพึมพำเสียงแผ่ว “ทางนั้นบอกเหตุผลไหม ว่าทำไมถึงถอดรายการออก?” หล่อนที่ฟังอยู่ถามขึ้นบ้าง “บอกว่าเรตติ้งต่ำมากค่ะ แถมสปอนเซอร์ก็น้อย ก็เลย...” เลขาสาวเล่าเสียงอ่อย “แล้วยังพูดถึงอีกรายการด้วยนะคะ ว่าเรตติ้งก็ไม่ค่อยดีนัก ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป อาจจะมีปัญหาได้ค่ะ” เธอเคยรับชมสองรายการนี้ผ่านตาอยู่ไม่กี่ครั้ง ประกอบกับเป็นเวลาฉายค่อนข้างดึก ดูแล้วไม่มีอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ ไปดูละครน้ำเน่าสนุกกว่า บีไม่เข้าใจเลยว่า รายการนี้ได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นได้อย่างไร แค่ช่อทิพย์เป็นผู้ดำเนินรายการสวย อย่างอื่นก็งั้นๆ เลขาสาวแอบค่อนในใจ ผู้บริหารไม่เคยถามความเห็นเรื่องนี้ เธอเป็นแค่เลขาตัวเล็กๆ จึงไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ออกมาดังๆ กลัวได้รับซองขาวกะทันหัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น สมัยนี้งานดีเงินเดือนสูงแบบที่นี่หาไม่ง่ายนัก เป็นใครก็ต้องกอดงานเอาไว้แน่นๆ แถมเธอยังมีภาระผ่อนบ้านผ่อนรถอีก จึงไม่อยากเตะฝุ่น ไม่อยากรับประทานแกลบต่างข้าว “ทางช่องพูดอะไรอีกคะพี่บี?” ลลิตาซักต่อ “บอกว่า ให้ทางเราหารายการใหม่ไปแทนค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวกจะหารายการใหม่ บริษัทจะคืนเวลาให้ทางช่องก็ได้ค่ะ” บีตอบครบถ้วนตามข้อมูลที่ได้ยินจากคนของสถานี “ก็ยังดี” คทาวุธกล่าวเสียงแผ่ว อย่างน้อยคู่สัญญาไม่ได้ยึดเวลาของบริษัทคืนไปเสียทีเดียว “แล้วจะทำยังไงคะท่าน?” บีถามอย่างกังวล แม้สองรายการนั้นจะไม่ได้เป็นรายการหลัก แต่จู่ๆ ถูกถอดย่อมกระทบกับรายได้ของธัญญากรุ๊ป แถมค่าใช้จ่ายในการถ่ายทำล่วงหน้าไว้หลายตอนก็เบิกจ่ายไปแล้ว คงไม่พ้นกลายเป็นติดลบ “ไม่มีทางเลือก คงต้องหารายการใหม่ไปแทนน่ะสิ” ชายอาวุโสตอบเสียงเรียบราบ ใบหน้าที่หนุ่มกว่าอายุแฝงความวิตกไม่น้อย ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปฉายในช่วงเวลานั้น รายการใหม่เหรอ ลลิตากลอกตาคิดไปมา พลันนึกอะไรขึ้นมาได้ “เอารายการของคุณม่านฟ้าแทน ดีไหมคะอาวุธ?” เสี่ยงมากเลยนะนั่น พ่อของเธอเม้มริมฝีปากหนาครุ่นคิดหนัก ด้วยลูกสาวยังนับเป็นมือใหม่มาก แถมโปรเจคยังอยู่แค่ในกระดาษเท่านั้น ...แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามารีรอพิรี้พิไรอ้อยอิ่ง ไม่มีทางเลือก เขาตัดสินใจในเสี้ยววินาทีนั้น สำหรับนักธุรกิจ ไม่มีอะไรสำคัญมากเท่ากับเวลา “บี” เจ้าของชื่อสบตาเจ้านายของตน พร้อมรับคำสั่ง “คะ?” “เชิญคุณฟ้ามาที” “ค่ะท่าน” เลขาสาวรับคำ ก่อนก้าวออกจากห้องทำงานของประธานไป “ตาคิดว่าอาทำถูกไหม?” คทาวุธถามกึ่งปรึกษากับลลิตา ที่ยังคงนั่งเงียบอยู่ตรงหน้า ใบหน้าของเขาเคร่งขรึมกว่าปกติ พูดยากนะเนี่ย สาวสวยนิ่งไตร่ตรอง แล้วคลี่ยิ้มบาง “ในฐานะพ่อ อาวุธย่อมเป็นกังวลกับเรื่องของลูกสาว อันนี้เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ” หล่อนตอบเสียงจริงจัง หยุดมองคู่สนทนาที่นิ่งเงียบคิดตาม “แต่เพื่ออนาคตของคุณม่านฟ้า เพื่ออนาคตของธัญญากรุ๊ป คุณม่านฟ้าเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแสดงผลงาน เพื่อให้ทุกคนยอมรับความสามารถ ไม่เช่นนั้นผู้ถือหุ้นกับพวกพนักงาน คงไม่ยอมรับตำแหน่งรองประธานของเธอ” “มันก็ใช่” คทาวุธถอนใจยาวเหยียด ยกมือนวดขมับเบาๆ “อาแค่รู้สึกผิดที่ให้ลูกต้องทำงานยากเกินตัว ทั้งที่ยังไม่พร้อม ฟ้ายังใหม่มากกับงานนี้” พ่อขอโทษนะลูก “ทุกอย่างเรียนรู้ได้ค่ะ ไม่มีใครทำเป็นตั้งแต่เกิดอยู่แล้ว” สาวสวย พูดยิ้มให้คู่สนทนา “ตาเชื่อว่าคุณม่านฟ้าต้องเข้าใจความปรารถนาดีของอาวุธค่ะ” หญิงสาวเข้าใจความคิดของคทาวุธ ไม่ต่างจากที่บิดาเกรียงไกรสอนพี่ชายของตน ด้วยการมอบให้รับผิดชอบธุรกิจนำเข้ารถยนต์หรู ทั้งที่เพิ่งเรียนจบไม่นาน โดยพ่อกับแม่คอยสนับสนุนชี้แนะอยู่ข้างๆ ...ตอนแรกธุรกิจทำท่าเหมือนจะไปไม่รอด แต่กัมปนาทก็ฝ่าฟันและทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้ทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ ฟังแล้วสบายใจขึ้น คนฟังค่อยใจชื้นขึ้น สบสายตากับหล่อน “ขอบใจนะตา” คทาวุธสนิทสนมกับพ่อหญิงสาวมาตั้งแต่หนุ่มๆ จึงมองลลิตาไม่ต่างจากหลานสาว แม้จะไม่ประทับใจนิสัยเจ้าชู้หลายใจของสาวฮอต แต่ก็ไม่ได้ตั้งแง่รังเกียจ เขาเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกจากเรื่องงาน “ยินดีค่ะ” เสียงเคาะประตูดังขัดจังหวะ ก๊อก! ก๊อก! “เชิญครับ” “มีอะไรคะพ่อ?” สาวหน้าคมถามขึ้น แทบจะทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องประธาน โดยมีบีเลขาสาวตามมาด้วย พอเห็นว่าบิดามีแขก จึงเอ่ยทักอย่างสุภาพ “สวัสดีค่ะคุณลลิตา” “สวัสดีค่ะคุณม่านฟ้า” หล่อนยิ้มเจิดจ้า แบบที่คิดว่ามีเสน่ห์ให้อีกสาว...อย่างคาดหวังผล ...ทว่าผิดคาดเธอกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น แค่มองแวบเดียวก็ละสายตา ทำให้สาวสวยรู้สึกเสียหน้าไม่น้อย ระ รอยยิ้มฉันไม่ได้ผลเหรอเนี่ย…ไม่น่าเชื่อ ม่านฟ้ามองคทาวุธเหมือนขอคำตอบ “นั่งก่อนลูก” บิดาบอกน้ำเสียงจริงจังกว่าปกติ มีอะไร! สาวผมสั้นสัมผัสได้ถึงความตึงเครียด จึงนั่งเก้าอี้ว่างข้างลลิตาอย่างว่าง่าย แล้วรอฟังอย่างใจจดจ่อ ประธานบริษัทถอนใจเบาๆ จ้องหน้าลูกสาวของตน “เมื่อกี้ทางสถานีโทรมาบอกว่า จะถอดหนึ่งรายการของเราออกจากช่องสิ้นเดือนนี้ ส่วนอีกรายการก็อาจจะโดนถอดเร็วๆ นี้” ทั้งสองรายการเลยเหรอ! เธอทำหน้าตกใจหลังได้ยินข่าวร้าย จากนั้นขมวดคิ้วเรียวอย่างไม่เข้าใจ ว่าเรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับตน “แล้ว?” “บริษัทเราไม่มีรายการบันเทิงแบบอื่นอีก พ่อกับตาได้ปรึกษากันแล้ว คิดว่าไม่มีทางอื่น นอกจากจะเอารายการของลูกมาขัดตาทัพก่อน” พะ พูดเล่นใช่ไหมคะ! ม่านฟ้าอึ้งงันไปหลายวินาที จึงหาเสียงตัวเองเจอ “แน่ใจเหรอคะ?” คทาวุธประสานมือบนโต๊ะ แล้วพูดหนักแน่น “พ่อเชื่อใจลูก” พูดง่ายจังนะคะพ่อขา ร่างสูงนึกบ่น ในใจรู้สึกหนักอึ้ง ยามนี้เธอเดาจุดประสงค์ของบิดาได้แทบจะทันที “พ่ออยากให้ฟ้าทำตัวอย่างคลิปเลยใช่ไหมคะ?” คทาวุธผงกศีรษะ “ใช่ เรามีเวลาไม่มาก” ประธานหนุ่มใหญ่ยอมรับ “พ่ออยากให้นำตัวอย่างที่เสร็จสมบูรณ์เสนอที่ประชุมคราวหน้า ลูกคิดว่าทำได้ไหม?” ไม่ใช่เวลาปอดแหกนะม่านฟ้า คนฟังกลืนน้ำลายลงลำคออย่างยากเย็น ก่อนกลั้นใจตอบออกไป “ฟ้าจะทำให้เต็มที่ที่สุดค่ะ” “ดีมาก” แววตาของบิดาฉายแววคาดหวัง ก่อนหันไปทางลลิตาที่อยู่นั่งข้างเธอ “บริษัทนำเข้ารถยนต์ของพี่ชายตา เสนอเป็นสปอนเซอร์ให้รายการใหม่ของลูกนะ พยายามเข้าล่ะ” “เหรอคะ” ลูกสาวพึมพำ ใจร้อนไปไหมคะ ม่านฟ้าไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตัดสินใจเร็วขนาดนี้ เพราะเพิ่งคุยในที่ประชุมเมื่อวาน Story Board ก็ยังเขียนไม่เสร็จเลยด้วยซ้ำ “คุณลลิตาแน่ใจเหรอคะ?” ร่างสูงอดถามไม่ได้ สาวสวยแกล้งทำหน้าไม่เข้าใจ “เรื่องอะไรคะ?” “เรื่องเป็นสปอนเซอร์น่ะค่ะ” ใจจริงเธออยากรู้ว่า ทำไมหล่อนถึงได้พยายามช่วยตน ทั้งที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้ง ขี้สงสัยจริงๆ ลลิตานึกขำ เผยรอยยิ้มชวนมองออกมา “แน่ใจค่ะ” หล่อนตอบเสียงอ่อนโยน เต็มไปด้วยความจริงใจ “เรามาพยายามด้วยกันนะคะ” “ค่ะ” ร่างสูงสบสายตาคู่สวยของผู้หญิงตรงหน้า เพียงไม่กี่คำของอีกฝ่าย เหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจให้ม่านฟ้ามั่นใจขึ้นอย่างบอกไม่ถูก คุยกันถูกคอแบบนี้ ไม่น่าเป็นห่วงสินะ คทาวุธคิดอย่างเบาใจ ที่อย่างน้อยลูกสาวก็มีผู้ถือหุ้นแบบลลิตาสนับสนุน ไม่หัวเดียวกระเทียมลีบ “แล้วลูกจะไปอยุธยาเมื่อไหร่ พ่อจะได้จัดทีมไปช่วย?” พ่อกล่าวเข้าเรื่อง หันไปทางบี “มีตากล้องว่างไหม?” เลขาสาวขยับแว่นสายตา แล้วย้อนถาม “ผู้ช่วยตากล้องของคุณก้องภพ ได้ไหมคะท่าน?” ประธานบริษัทหันมองลูกสาว “ว่าไงลูก?” “ค่ะ” เธอพยักหน้า แอบดีใจที่ไม่ได้พวกประสบการณ์สูง เพราะพวกนั้นมักจะทำในแบบที่ตนเคยชิน ไม่ค่อยยอมเปิดใจรับวิธีการใหม่ๆ เขาจึงหันไปหาบี “ลองส่งมาคุยกับคุณฟ้าก่อนก็แล้วกัน” “ค่ะท่าน” บีจึงถามม่านฟ้าอย่างสุภาพ “คุณฟ้าสะดวกสัมภาษณ์ตอนไหนคะ?” “วันนี้หรือพรุ่งนี้ก็ได้ค่ะ” “ได้ค่ะ” เลขาสาวจดโน้ตลงในสมุดประจำตัว “รถตู้ของบริษัทล่ะ พร้อมไหม?” คทาวุธถามต่อ “พร้อมค่ะ เพิ่งเช็คศูนย์ฯ วันก่อนพอดี” “ดีมาก แล้วติดต่อช่างแต่งหน้าไปด้วย” “ค่ะท่าน” “แล้ว...” ชายวัยกลางคนกำชับเลขาของตนอีกหลายอย่าง ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำเพื่อลูกสาวทั้งสิ้น ขี้เห่อไปหรือเปล่าคะอาวุธ ลลิตาที่ร่วมฟังอยู่อมยิ้มในหน้า ไม่คิดว่าเขาจะโอ๋ลูกสาวมากกว่าที่คาดไว้ พ่อคะ ฟ้าอายคนอื่นเขานะคะ ทำหยั่งกับฟ้าเป็นเด็กๆ ใบหน้าคมของม่านฟ้าขึ้นสี ที่บิดาแสดงอาการเป็นห่วงเธอมากจนเกินเหตุ ยิ่งเห็นหล่อนพยายามกลั้นหัวเราะ เธอก็ยิ่งรู้สึกอับอาย จนอยากแทรกแผ่นดินหนีไปเสียเดี๋ยวนั้น “พ่อคะ พอแล้วค่ะ ฟ้าจัดการเองได้” เธอเอ่ยขัดจังหวะขึ้น ก่อนที่เขาจะสั่งโน่นสั่งนี่ออกมาอีก หืม ทำไมล่ะ? คทาวุธที่กำลังสั่งการบีชะงัก แล้วมองลูกสาวอย่างงง พลันเข้าใจทันทีหลังเห็นลลิตากลั้นยิ้มไว้จนหน้าแดงจางๆ ขี้อายไปหรือเปล่าลูก คนกันเองทั้งนั้น “เอางั้นก็ได้ อยากได้อะไรก็บอกพี่บีนะ” “ค่ะ” “บีขอตัวนะคะ จะโทรตามตากล้องกับช่างแต่งหน้าให้คุณฟ้าเลย” บีบอก “ขอบคุณค่ะพี่บี” “ยินดีค่ะ” เลขาสาวส่งยิ้มให้ม่านฟ้าอย่างเป็นมิตร หลังเหลือสามคนในห้องประธาน คทาวุธจ้องหน้าม่านฟ้า แล้วหลุดปากพึมพำออกมา “พ่อรู้ว่านี่เป็นงานแรก พ่อไม่ได้อยากกดดันฟ้า แต่นี่สำคัญกับบริษัทของเรามาก ฟ้าเข้าใจใช่ไหมลูก?” “ค่ะ ฟ้าจะทำอย่างสุดความสามารถ” เธอสัญญาหนักแน่น สาวร่างสูงรู้สถานะการเงินของธัญญากรุ๊ปดีว่า อยู่ในช่วงถดถอยกำไรต่อหุ้นน้อยลง หลังธุรกิจบันเทิงมีคู่แข่งผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ปัจจุบันใครๆ ก็มีช่องออนไลน์ของตัวเองได้ไม่ยาก หากเรียนรู้วิธีการต่อยอด แค่มีมือถือดีๆ สักเครื่องหรือกล้องราคากลางๆ ก็สามารถทำให้คนเดินดินกินข้าวแกง กลายเป็นคนดังพลุแตกในชั่วข้ามวันข้ามคืนได้ มีมานับไม่ถ้วนแล้ว ในทางกลับกัน สื่อออนไลน์สามารถทำให้ผู้มีชื่อเสียง กลายเป็นชื่อเน่าชื่อเสียได้ในพริบตาเช่นกัน ...ทุกการกระทำมีผลลัพธ์เสมอ สุดแท้แต่วิจารณญาณของแต่ละบุคคลจะเลือกทำ สำหรับบริษัทสตูดิโอใหญ่อย่างธัญญากรุ๊ปจะชะล่าใจไม่ได้ หากไม่ปรับตัวให้เร็ว ไม่ว่าจะเคยใหญ่โตรุ่งเรืองขนาดไหน สุดท้ายคงไม่พ้นล้มครืน คลื่นของการ Disrupt นั้นร้ายแรงใหญ่หลวง สามารถทำให้ธุรกิจใหญ่สิ้นซากกลายเป็นตำนานมานักต่อนักแล้ว ...ซึ่งม่านฟ้าไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด ฉันจะต้องรักษา ‘สมบัติ’ ของแม่ไว้ให้ได้ เธอกำหมัดที่วางบนตักแน่น ใบหน้าคมดูเอาจริงเอาจัง ลลิตาที่ได้ร่วมรับรู้ภารกิจของม่านฟ้า พลันรู้สึกเห็นใจและอยากช่วยเหลือ ประกอบกับครอบครัวตนมีส่วนได้ส่วนเสียในบริษัทนี้ด้วย คงไม่เหมาะที่จะวางเฉยปล่อยผ่านไป มีความคิดดีๆ ไหมลลิตา คิดสิ สาวสวยไตร่ตรองว่า ตนทำอะไรได้บ้าง นอกจากเป็นสปอนเซอร์ในรายการใหม่ของม่านฟ้า ในชั่วอึดใจ หล่อนก็เผยอเรียวปากยิ้มออกมา “อาวุธคะ คุณม่านฟ้าคะ ตามีข้อเสนอค่ะ” สองพ่อลูกหันมองลลิตาอย่างสงสัย และเป็นคทาวุธที่ถามขึ้น “อะไรเหรอ?” OoXoO ขอบคุณที่กรุณาติดตามนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์ ทุกหัวใจ ทุกแรงเชียร์ แรงกดดัน แรงทวง ฯลฯ นะคะ คือช่วงนี้มาถี่มาก จามกันทั้งวัน จนคนอื่นกลัวไรท์ไม่สบาย 5555 ตอนนี้พี่ตาเหมือนจะเชียร์น้องออกนอกหน้าไปนิด แต่ก็เอาเถอะ เธอสวยให้อภัยค่ะ อิอิ...ส่วนตอนหน้า มาดูสิว่า การถ่ายทำคลิปแรกของน้องฟ้าจะเป็นอย่างไร? ...รอติดตามกันด้วยนะคะ ไรท์กำลังตรวจรอบสุดท้ายค่ะ ลุ้นให้เสร็จทันคลอดอาทิตย์หน้า ส่วนวันไหนยังไม่แน่ใจนะคะ อดใจรอกันอีกนิด ^^ รักษาสุขภาพกันด้วยนะคะ เจอกันตอนหน้าค่ะ นาง ^^ OoXoO
| Create Date : 14 พฤษภาคม 2563 |
| Last Update : 14 พฤษภาคม 2563 20:34:52 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 532 Pageviews. |
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [
