เบิ่งอีสานตอนบน เด้อ... (วันที่ 5 เชียงคาน-นนทบุรี)
ย้อนดูวันที่ 4 อ.สังคม-เชียงคาน คลิกเลย
วันจันทร์ 4 ธ.ค.60
เช้านี้ตื่น 7 โมงสบายๆ ไม่ต้องรีบ ออกไปเดินดูบรรยากาศเชียงคานยามเช้ากันครับบนถนนคนเดิน ชาวบ้าน นักท่องเที่ยวใส่บาตรกันเสร็จแล้ว หมอกเต็มเลย แต่หาความหนาวไม่เจอ ได้แค่เย็นๆ ที่เที่ยวสำคัญอีกที่ของเชียงคานคือดูทะเลหมอกภูทอก ห่างจากเชียงคานประมาณ 5 กม. ต้องไปแต่เช้ามืด ผมขี้เกียจตื่นเดินเล่นแถวริมแม่น้ำโขงดีกว่า
ยิ่งสายหมอกยิ่งเยอะหมอกลงไม่เห็นแม่น้ำโขงเลยครับ เดินถ่ายรูปตรงทางเดินริมน้ำโขง ชอบมุมนี้มาก หยากไย่ เสียดายไม่มีน้ำค้างมาเกาะตรงใยแมงมุม ฝีมือถ่ายรูปกะโหลกกะลาไปเรื่อยเปื่อย ทนๆดูหน่อยนะครับ มีจุดชมวิวริมโขงตรงทางเดินด้วยครับ เดินไปเรื่อยมาสุดทางเดินริมโขง เดินขึ้นไปเป็นลานกว้างหน้าวัดท่าคก ยังมีนักท่องเที่ยวใส่บาตร มีของใส่บาตรไว้บริการด้วย ผมไม่ทราบว่าขายชุดละเท่าไหร่ แค่ถ่ายรูปอย่างเดียว ถ่ายจากบริเวณลานหน้าวัดท่าคกไปยังจุดชมวิวริมโขงบริเวณลานออกกำลังกายริมโขง มีมุมให้ถ่ายรูปไว้เช็คอิน แอบถ่ายรูปนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ น่ารักดี ขออนุญาตลงรูปนะครับ มีถนนเดินเรียบริมโขงเหมือนกัน ถ่ายเรื่อยเปื่อยมาเดินเล่นบนถนนคนเดิน ยามเช้าบ้าง ร้านนี้ไม่ได้ลองชิมครับ บรรยากาศยามเช้าก็แตกต่างกับช่วงเย็น มีเสน่ห์ไปคนละแบบ ร้านนี้ลูกค้าเต็มร้านเลย ไม่ได้ชิมเหมือนกัน เช้านี้มีบางร้านเปิดแล้วนะครับ เห็นขายหลายเจ้าเหมือนกันเดินไป ถ่ายรูปไป อากาศไม่ร้อนมาก เดินเพลินๆออกกำลังกายไปในตัว ร้านนี้อยู่ ซ.แรกเลยครับ เมื่อวานแวะชิมแล้ว วันนี้ว่าจะมาซ้ำคนแน่นร้านเชียว ไม่รอดีกว่าร้านไหนคนก็แน่นพอสายๆนักท่องเที่ยวเริ่มมาเดินกันเยอะแล้วครับ เดินเพลินดีเหมือนกันถึงเวลาเดินทางกลับบ้านแล้วครับ
ออกจากเชียงคาน โมเดิร์นโฮม เวลา 09.36 น.ระยะทาง 1,055.7 กม.ออกจากเชียงคานไปหน่อยเจอปั๊มน้ำมัน ปตท.แต่งปั๊มน่ารักมาก แวะถ่ายรูปถือโอกาสตุนเสบียง 7/11 ใน ปตท.เลยแล้วกัน มุมนี้น่ารักดี ห้องน้ำสะอาดมาก สวยอีกต่างหาก เดินเล่น อุดหนุน 7/11 ได้นิดหน่อย ได้เวลาเดินทาง ใช้เส้นทาง 201 ผ่านตัวเมืองเลย เลี้ยวขวาเข้าเส้น 203 จะผ่านที่เที่ยวอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำหมาน (ห้วยกระทิง) จะมีร้านอาหารเป็นแพลากไปกินกลางอ่างเก็บน้ำแพห้วยกระทิง ทางเข้าจะอยู่ด้านขวามือ ทำป้ายชัดเจน ถนนดีมาก มีสัญญาณจราจร ตอนแรกว่าจะแวะฝากท้องไว้ที่นี่ แต่เปลี่ยนใจกลัวเสียเวลาเลยยิงยาว ขับตามทาง 203 ถึงภูเรือ แวะปั๊ม ปตท.ยืดเส้นยืดสายนิดนึง พักประมาณ 15 นาที ได้เวลาเดินทางตามเส้น 203 ถึงแยกโคกงามตรงไปอ.ด่านซ้าย มีพิพิธภัณฑ์ผีตาโขน พระธาตุศรีสองรัก ใครมีเวลาแวะได้
ผมเคยมาแวะครั้งนึง ใครสนใจลองดูทริปเก่าในบล็อกผมได้ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=nongmalakor&month=11-2012&date=05&group=17&gblog=7 ส่วนผมไม่ได้เลี้ยวขวาเข้าภูเรือตรงไปเพชรบูรณ์
มาถึงหล่มเก่า ผ่านร้านบุญมีขนมจีน แฟนสั่งให้เลี้ยวเข้าไปเลย รถสั่งด้วยเสียงของจริง ร้านจะอยู่ทางด้านขวามือ ต้องกลับรถนิดนึง
ถึงร้านบุญมีขนมจีน เวลา 13.19 กม.ระยะทาง 1,240 กม.นั่งโต๊ะได้สั่งขนมจีน 1 กระจาดขนมจีนใส่กระจาดมา สีสันสดใสมากเสิร์ฟมาพร้อมผัก เครื่องเคียงเพียบส่วนน้ำยา น้ำยาป่า น้ำพริก จะใส่หม้อดินมาให้อย่างละหม้อ ไม่บรรยายนะครับ ขนาดผมไม่ชอบกินขนมจีน ยังกินไปเกือบหมดตะกร้าแฟนต้องสั่งมากเพิ่มอีก 1 ตะกร้า สั่งไก่ทอดมา 1 จาก พร้อมไข่ต้มคนละฟองไข่ต้มจะใส่ตะกร้าไว้ให้ถ้าไม่กินก็ไม่ต้องปลอกเปลือกเค้าจะไม่คิดเงินตัวขนมจีนจะบีบเส้นสดๆโชว์หน้าร้าน น้ำยา ผัก หมดมาเติมที่จุดนี้ได้ ฟรี ส่วนขนมจีนคิดราคาตามตะกร้าใครขี้เกียจเดินมารับจะสั่งให้เด็กที่ร้านมาเสิร์ฟก็ได้ แต่แนะนำเดินมาเองดีกว่าได้เร็ว ค่าเสียหาย ขนมจีน 2 ตะกร้า ไก่ทอด 1 จาน ไข่ต้ม 2 ฟอง น้ำเปล่า 2 ขวดเล็ก ทั้งหมด 260 เจ้าของร้านลดให้ผม 250 บาท ใจดีจัง
ได้เวลาเดินทาง ออกจากร้าน 14.00 น.กลับรถวิ่งตาเส้นทางเดิมไปได้หน่อยมีป้ายเลี้ยวขวาไปพิษณุโลกเลี้ยวขวาตามป้ายไปจะตัดเส้น 12 เข้าพิษณุโลก เลี้ยวขวาตามป้ายไปขับขึ้นเขาไปตามทางก็มาถึงทางแยกเข้าวัดพระธาตุผาแก้ว
จากทางแยกเข้าไปวัดประมาณ 2 กม. ถึงวัดผาซ่อนแก้วเวลา 14.50 น. ระยะทาง 1,275 กม. วันสุดท้ายแล้ว ขี้เกียจบรรยาย ก๊อปข้อความจากเวปวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วมาวางแล้วกันง่ายดีครับ https://www.phasornkaew.org/ กดตรงลิงค์ได้เลยวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์...สถานที่อันเป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้นมีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหลายคน ได้เห็นลูกแก้วลอยเหนือฟากฟ้าและลับหายเข้าไปในถ้ำบนยอดผา ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาและต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล มีความศักดิ์สิทธิ์และเรียกตาม ๆ กันว่า“ผาซ่อนแก้ว” และพุทธสถานที่มาตั้งในจุดที่โอบล้อมด้วยทิวเขาดังกล่าว จึงเรียกว่า“พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” เพื่อเป็นนิมิตมงคลแก่ชาวบ้านทางแดงและผู้มาปฏิบัติธรรมสืบไป
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. ๒๕๔๗ ในนาม “พุทธธรรมสถานผาซ่อนแก้ว” ได้รับการอนุมัติจัดตั้งเป็นวัดในมงคลนามว่า “วัดพระธาตุผาแก้ว” เมื่อวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๓ จากคณะกรรมการมหาเถรสมาคมโดยมีพระครูปลัด ปารมี สุรยุทโธ เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น“วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” เมื่อ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖เพื่อให้สอดคล้องกับบริเวณที่ตั้ง ซึ่งแต่เดิมชาวบ้านเรียกกันว่า “ผาซ่อนแก้ว”
วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วตั้งอยู่ในชัยภูมิธรรมณ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โดย คุณภาวิณีและ คุณอุไร โชติกูล ได้มีจิตศรัทธาซื้อที่ดินถวายเริ่มแรกจำนวน ๒๕ ไร่เพื่อก่อสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแก่พระสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนทั่วไปปัจจุบันมีผู้ร่วมถวายปัจจัยซื้อที่ดินเพิ่มรวมทั้งสิ้นมีที่ดินรวม ๙๑ ไร่
พระครูปลัดปารมีสุรยุทโธ และ พระครูใบฎีกาอำนาจ โอภาโส สองครูบาอาจารย์คู่บุญคู่บารมีร่วมกับคณะศิษยานุศิษย์และเหล่าผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศได้ร่วมกันจัดสร้างเสนาสนะ กุฏิที่พักสงฆ์ อาคารปฎิบัติและบรรยายธรรมรวมถึงอาคารที่พักผู้ปฏิบัติธรรมเพื่อรองรับคณะผู้มีจิตศรัทธาจากทุกแห่งหนที่หลั่งไหลกันเข้ามาอบรมภาวนาในแนวสติปัฎฐานสี่แห่งองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ากันอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ปิติยินดียิ่งของครูบาอาจารย์กับเหล่าบรรดาศิษยานุศิษย์ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจ สละทั้งแรงกาย แรงทรัพย์ พร้อมทั้งความวิริยะอุตสาหะและความตั้งใจมั่นเพื่อให้วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเป็นที่ปฏิบัติภาวนาสำหรับผู้มีจิตศรัทธาสืบต่อไป… ดูรูปยาวเลยแล้วกันครับที่พระธาตุผาซ่อนแก้ว ร้อนมาก ได้เวลากลับบ้านแล้ว
ออกจากวัดผาซ่อนแก้วเวลา 15.51 น.ระยะทาง 1,275 กม. ขับมาทางเพชรบูรณ์ ใช้เส้นทาง 21 วิ่งมาเรื่อยๆ มาถึง วิเชียรบุรีเวลา 18.09 น.ระยะทาง 1,434 กม. แวะกินไก่ย่างร้าน ตาแป๊ะ 2 อยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงสี่แยกไฟแดง
นั่งโต๊ะได้พนักงานจะส่งใบอาหารมาให้ ติ๊กตามช่อง สั่งไป 6 อย่างไก่ย่างเนื้อครึ่งตัว ย่างมาแห้งดี ปกติผมไม่ชอบไก่ย่างแบบแห้งๆแต่ร้านนี้ย่างอร่อย ร้อนๆมาเลย เนื้อแห้งแต่อร่อยมากกกก ที่เห็นกินไปแล้วคนละสองชิ้นหิวจัด ถ่ายรูปแทบไม่ทัน ลาบหมู ทำแบบแห้งไม่เหมือนแถวบ้านผม รสชาติก็แปลกๆ เหมือนลาบคั่วแต่อร่อยดีส้มตำไทย เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด ครบเครื่องครับ แต่ยังไม่ค่อยโดน เมนูสุดท้าย ต้มแซ่บเห็ด 3 อย่าง น้ำเข้มข้มมาก เปรี้ยวเผ็ดจี๊ดจ๊าดดดด ซดร้อนๆ อร่อยอย่าบอกใคร ให้เห็ดมาเยอะมาก ส่วนหนังไก่ย่างกับลาบปลาดุกหมดอดกิน เสียดาย ทั้งหมด 300 บาท รวมข้าวเหนียว 3 กระติบ ไม่ใช่ 320 บาทผมไม่ได้เอาน้ำแข็งกับน้ำเปล่า สำหรับร้านตาแป๊ะ 2 อร่อยดีครับถ้ามีโอกาสไปอีกจะแวะไปอุดหนุน
อิ่มแล้วได้เวลาออกจากร้านตาแป๊ะเวลา 19.15 น. ขับตรงไปถึงสระบุรีดอนเมือง เข้าเกษตร กลับรถข้ามสะพานผ่านเรือนจำคลองเปรม แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์เต็มถังข้ามสะพานแครายถึงบ้านเวลา 22.31 น.ระยะทาง 1,678.4 กม.ในที่สุดก็จบทริปแบบสมบูรณ์ ครั้งนี้ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากไปแบบเรื่อยๆ นึกอยากไปไหน อยากแวะก็แวะ งงเส้นทางตรงไหน สงสัยเปิดแผนที่ กูเกิ้ลบ้าง ถามชาวบ้านบ้าง ร้านอาหารเจออร่อยบ้างไม่อร่อยบ้างไม่ซีเรียส ที่เที่ยวผิดหวังบ้าง สวยเกินคาดบ้างถือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจอีกหนึ่งทริป ไว้มีโอกาสไปเปิดประสบการณ์ใหม่ค่อยมาเล่าให้ฟังอีกครับ ระยะการเดินทางวันนี้ทั้งหมด 623 กม. เดินทางจากเชียงคานเวลา 9.36 น.ถึงบ้านนนทบุรีเวลา 22.31 น. รวมแวะเที่ยวรายทาง
รวมระยะการเดินตลอดทริป ทั้งหมด 1678.4 กม.
หมดน้ำมัน 117.38 ลิตร เฉลี่ย 14.29 ลิตร/กม. เติมน้ำมันไป-กลับเต็มถัง 3,620 บาท ยานพาหนะ ALLNEW Toyota Fortuner 2015
สรุปค่าใช้จ่าย 7/11 ปั๊ม ปตท.เชียงคาน 186 บาท ขนมจีนหล่มเก่า 250 บาท ทำบุญวัดผาซ่อนแก้ว 50 บาท ค่าจอดรถ 30 บาท ไก่ย่างวิเชียรบุรี 300 บาท เติมน้ำมันเต็มถัง 1,660 บาท (เชลล์ วีพาวเวอร์ 54.39 ลิตร ลิตรละ 30.52 บาท) รวมค่าใช้จ่ายวันนี้ 2,476 บาท
สรุป ค่าใช้จ่ายตลอดทริปทั้งหมด 13,451 บาท
วันที่ 1 รวม 2,382 บาท คลิกเลย วันที่ 2 รวม 3,315 บาท คลิกเลย วันที่ 3 รวม 3,473 บาท คลิกเลย วันที่ 4 รวม 1,805 บาท คลิกเลย วันที่ 5 รวม 2,476 บาท
Create Date : 11 ธันวาคม 2560 |
Last Update : 25 มกราคม 2565 13:56:54 น. |
|
2 comments
|
Counter : 3995 Pageviews. |
|
|
|