เบิ่งอีสานตอนบน เด้อ... (วันที่ 4 อ.สังคม-เชียงคาน)
ย้อนดูวันที่ 3 ท่าเสด็จ หนองคาย-อ.สังคม คลิกเลย
วันอาทิตย์ 3 ธ.ค.60
วันนี้สบายๆตื่น 06.30 น. ตอนแรกว่าจะไปดูทะเลหมอกที่ ภูห้วยอีสันเป็นที่เที่ยวขึ้นชื่ออีกที่ของ อ.สังคม ห่างจากตัวเมืองสังคมประมาณ 20 กม. แต่ขี้เกียจขับรถ ไปเดินสำรวจที่พักดีกว่า แถวนี้มีรีสอร์ทติดกันอยู่ 3 เจ้า ถ้ามาจากวัดผาตากเสื้อจะถึง บ้านไม้ริมโขงก่อน ในเวปห้องดูน่าพักมากแต่เต็มหมดทุกห้อง ส่วนสภาพอากาศหาความหนาวไม่เจอเลย ถัดมาติดๆกันเป็นเรือนแวนด้า ก่อนมาโทรจองเต็มหมดทุกห้องแล้วเหมือนกัน เดินข้ามสะพานก็เป็นที่พัก สังคม ริเวอร์วิว หรือชื่อเดิมว่า ปูเป้ ใครเสิร์ทข้อมูลเจอชื่อปูเป้ นั้นเป็นรีวิวเก่าแล้วครับ แต่เป็นเจ้าเดียวกับสังคม ริเวอร์วิว สังคม ริเวอร์วิว เบอร์โทรตามป้ายเลยครับ เบอร์มือถือเป็น ID ไลน์ แอดเป็นเพื่อนได้เลย ตรงข้ามกับสังคม ริเวอร์วิว ข้ามถนนเป็น มั่งมีรีสอร์ท ตอนผมหาที่พักในเนท เจอแค่ 3 รีสอร์ทข้างบน มั่งมีไม่เห็นในเวปไม่รู้ว่าห้องเป็นยังไงแต่ไม่ติดริมโขง เอามาให้เป็นทางเลือกอีกที่ครับ มาดูบรรยากาศที่พักของสังคม ริเวอร์วิวกันดีกว่าด้านหน้าจะเป็นที่จอดรถ ตรงกลางจะเป็นร้านอาหารชื่อ ปูเป้ และเป็นแผนกต้อนรับด้านซ้ายมือตึกสีเหลืองติดถนนด้านหน้าเป็นที่พักไม่เห็นวิวริมโขง ห้องที่ผมพักนั้นแหละ สนใจห้องกลับไปดูบล็อกเมื่อวานได้ครับ ด้านขวามือเดินเข้าไปชมวิว ร้านอาหารและห้องพัก เดินเข้าไปเลยครับ จะมีป้ายบอก เดินตรงไปเป็นห้องพัก ดูข้างนอกสวยเหมือนกัน ด้านหลังจะติดคลอง จะมีหลังเล็ก 4 หลัง แล้วหลังใหญ่อีก 1 หลัง ส่วนตรงกลางชั้นล่างเป็นห้องอาหารและประชาสัมพันธ์ส่วนชั้นบนเป็นห้องพักเห็นวิวริมโขง ใครจองทันแนะนำให้จองห้องนี้ น่าจะมี 4 ห้องวิวสวยใช้ได้เลยครับ เสียดายตอนจองเต็มก่อน แอบขึ้นไปชมตอนแม่บ้านทำความสะอาดห้อง วิวริมโขงแบบพาโนราม่าด้านหลังทางเข้าประตูห้องพัก ด้านซ้ายเป็นหออะไรไม่รู้ ไม่ได้ถามถัดมาเป็นห้องพักไม่เห็นวิวริมโขงเหมือนกัน ห้องอาหาร ตัวตึกปลูกตีนตุ๊กแก มีมุมถ่ายรูปสวยๆ เดินออกไปชมวิวริมโขงของรีสอร์ทกันบ้าง  รีสอร์ทจะทำระเบียงไม้ให้ชมวิวริมโขงที่รีสอร์ทราคาพร้อมอาหารเช้า เราเข้าไปกินในห้องอาหารกันครับ
ห้องอาหารน่ารักมากกกกก รีสอร์ทมีข้าวต้มหรือข้าวผัดกับขนมปังให้เลือกคนละชุด  ข้าวต้มหมูรสชาติพอกินได้ ส่วนข้าวผัดแห้ง จืด หาความอร่อยไม่เจอ แนะนำข้ามต้มดีกว่า ผมสั่งผัดซีอิ้วกับหมูยอทอดเพิ่ม
หมูยออร่อยดีครับ หมูล้วนๆไม่มีแป้งปนเลย ส่วนผัดซีอิ้วอร่อยพอประมาณรอดตายไปอีกหนึ่งมื้ออิ่มเสร็จขึ้นไปเก็บของ คืนห้อง
ที่รีสอร์ทจะให้กุญแจ รีโมทแอร์ รีโมททีวี ใส่กระเป๋าให้มาเป็นชุดอย่างนี้ครับออกจากสังคม ริเวอร์วิว เวลา 9.00 น.ระยะทาง 906.7 กม.เป้าหมายต่อไปคือวัดป่าภูก้อน 
เส้นทางทาง ออกจากรีสอร์ทเลี้ยวขวาจะผ่าน รพ.สังคมตรงเข้าไปในตลาด เลย 7/11 ไปนิดเดียวจะมีซอยเลี้ยวซ้ายเข้าเส้น 2376 วิ่งเข้า อ.นายูง ก่อนถึง อ.นายูง จะมีป้ายบอกไปวัดป่าภูก้อนผมก็บอกทางไม่ถูก เปิดแผนที่ กูเกิ้ลบ้าง ถามทางชาวบ้านบ้าง มาถึงจนได้เอาแผนที่การเดินทางมาให้ดูคราวๆแล้วกันครับ
แผนที่จากเวป วัดป่าภูก้อน https://www.watpaphukon.org/map/ กดตรงเวปได้เลยครับเส้นทางลาดยางตลอด รถไม่ค่อยมี นานๆจะวิ่งสวนมาซักคันผ่านอุโมงค์ต้นไม้ร่มรื่นดี ชอบขับรถถนนแบบนี้ครับ ขับปุเรงๆมาเรื่อยๆ ถึงวัดป่าภูก้อนเวลา 9.45 น.ระยะทาง 943 กม.จากป้ายข้างบนขึ้นเขาประมาณ 1 กม.แอบชันนิดหน่อยแต่รถทุกชนิดขึ้นได้หมดยกเว้นรถบัส ขึ้นมาถึงมีลานจอดรถถ้ามาช่วงคนเยอะๆน่าจะไม่พอต้องจอดข้างล่างจะมีรถรับส่งไม่รู้เสียค่าบริการหรือเปล่านะครับด้านหลังเป็นอาคารร้านอาหารและห้องน้ำ  สำหรับไฮไลท์อันเป็นเอกลักษณ์ของวัดป่าภูก้อน คือโครงสร้างการออกแบบทางสถาปัตยกรรมขององค์พระพุทธรูปหินอ่อนพระวิหารที่สวยงามสะดุดตาของวัดป่าภูก้อน ได้รับออกแบบวิศวกรรมโครงสร้างองค์พระพุทธรูปหินอ่อน พระวิหาร ศาลาราย และอาคารรอบลานเขาโดยพระวิหารมีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์สมัยรัตนโกสินทร์มีประตูทางเข้าออกวิหาร 3 ด้าน ภายในถูกตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตาแฝงไปด้วยเรื่องราวคำสอนของพระพุทธเจ้า รอบผนังภายในวิหารตกแต่งอย่างสวยงามด้วยภาพพุทธประวัติและภาพทศชาติ ตกแต่งเป็นภาพปั้นนูนต่ำหล่อด้วยทองแดงจำนวน 22 ช่องซึ่งเป็นภาพของพระพุทธเจ้าในองค์ชาติต่างๆ 10 ชาติเป็นการสื่อความหมายถึงการสั่งสมบารมีด้วยความพรากเพียรและความเสียสละของพระองค์ในทุกๆชาติ โดยด้านบนของทุกภาพแกะสลักบทสวดอิติปิโสช่องละท่อนด้วยสีเขียวเข้มบนหินอ่อนขาวถือเป็นผนังพระวิหารที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ภาพภายในพระวิหารตกแต่งด้วยพุทธประวัติพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนีหินอ่อนสีขาว ความยาว 20 เมตรเป็นหินอ่อนที่มีความสวยงามและทนทานที่สุด รวมระยะเวลาในการสร้างทั้งหมด 6 ปีเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ พระพุทธไสยาสน์นี้จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งพุทธศิลป์ของรัชกาลที่ 9วันที่ผมไปภายในพระวิหารกำลังทำพิธีสวดมนต์อยู่พอดี นอกจากพระวิหารและพระพุทธไสยาสน์โลกนาถศาสดามหามุนีที่เป็นจุดเด่นของวัดป่าภูก้อนแล้วยังมี พระปฐมรัตนบูรพาจารย์มหาเจดีย์ ที่อยู่ในอาณาบริเวณเดียวกันถัดมาทางด้านล่างก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กันเพราะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุและรูปปั้นหินอ่อนของเหล่าเกจิอาจารย์ชื่อดังของประเทศไทยซึ่งมีศิษยานุศิษย์อยู่มากมายโดยนักท่องเที่ยวจะต้องเดินทางขึ้นบันไดยาวเพื่อเข้ามายังเจดีย์เพื่อเข้าไปสักการะบูชาวันนี้แดดแรงมากแต่ด้วยศรัทธายังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาไม่ขาดสายได้เวลาเดินทางไปเชียงคานแล้วครับ 
ผมออกจากวัดป่าภูก้อนเวลา 11.30 น. ระยะทาง 944 กม.ใช้เส้นทางจากปากทางเข้าวัดเลี้ยวขวาใข้เส้นทาง 2348 ไป อ.นายูง ขับตามทางไปมีป้ายบอกเลี้ยวขวาไปเชียงคาน วิ่งมึนๆไป เส้นทางดูออกเปลี่ยวๆหน่อย ไม่มีรถสวนทางนานๆจะเจอหมู่บ้าน ถนนพังเป็นช่วงๆ ถ้าใครวิ่งตอนกลางคืนไม่แนะนำเส้นนี้ครับไม่มีปั๊มน้ำมันอีกต่างหาก ทางก็งงๆ แต่ก็ขับมาถึง 3 แยกตัวทีไม่รู้เรียกแยกอะไร ผมเรียกแยก ปากชม-อ.สังคมแล้วกัน เข้าเส้นทางหลัก 211 จนได้ 
ถึงทางแยก เวลา 12.32 น.ระยะทาง 994 กม.เลี้ยวซ้ายขับเลาะริมโขงไปปาก อ.ปากชม เส้นนี้ถนนดี ไม่มีปะผุ ลาดยางตลอด วิวสวยมากขับแบบชิวๆมาถึงปากทางเข้าภูทอกอยู่ทางซ้ายมือ ไม่แวะ ตรงไปอีกนิดเดียวเลี้ยวขวาเป็นแก่งคุคคู้แวะหน่อย (จากปากทางเข้าไปประมาณ 1 กม.) 
ถึงแก่งคุดคู้เวลา 13.23 น.ระยะทาง 1,048 กม.นักท่องเที่ยวเยอะมาก มีของขาย ของกิน ของฝากหลายร้าน ตำนานแก่งคุดคู้ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วได้มีพรานป่ารูปร่างล่ำสันและมีฝีมือในเชิงพรานคนหนึ่งชื่อว่า “จึ่งขึ่งดั้งแดง”ไล่ล่าตามควายที่ถ่ายมูลเป็นเงินมาจากหลวงพระบางพอมาถึงริมโขงก็เห็นควายเงินกำลังกำลังพักกินน้ำอยู่ นายพรานจึงดักซุ่มยิงแต่พอดีมีชาวบ้านแล่นเรือผ่านมาพอดี ควายเงินจึงตกใจหนีเตลิดขึ้นไปบนภูเขาลูกหนึ่งต่อมาเขาลูกนี้จึงได้ชื่อว่า “ภูควายเงิน”นายพรานโมโหจึงยิงไปถูกเขาอีกลูกหนึ่งจนพังทลายไปซีกหนึ่ง กลายเป็นหน้าผาชาวบ้านจึงเรียกที่นั่นว่า “ภูผาแบ่น” นายพรานจึงโกรธชาวเรือซึ่งเป็นต้นเหตุให้ควายเงินหนีไปจึงพยายามขนหินมาปิดลำนำโขงไว้ เพื่อไม่ให้ชาวเรือเดินทางได้เกือบจะสำเร็จอยู่แล้ว แต่พอดีมีเณรองค์หนึ่งมาเห็นเข้าจึงออกอุบายให้นายพรานใช้ไม้เฮียะหาบหินไปแทน ไม้เฮียะ (ไม้ไผ่ชนิดหนึ่ง)ผ่าซีกแล้วก็มีความคมกริบ เมื่อนายพรานแบกหินไม้จึงบาดคอนายพรานจนต้องนอนตายคุดคู้อยู่ตรงนั้นนั่นเอง จึงเรียกแก่งหินนั้นว่า“แก่งคุดคู้” ซึ่งจริงๆ แล้วตามตำนานยังมีแก่งที่เกิดจากเรื่องนี้อีกหลายแก่งครับ
เดินเล่นไม่ถึง 15 นาที ไม่ค่อยมีอะไร เผ่นเข้าที่พักในเชียงคานดีกว่าจากแก่งคุคคู้ห่างจากเชียงคานไม่เกิน 3 กม. แต่จะว่าไปที่นี้ดังเรื่องมะพร้าวแก้ว เลือกร้านที่ทำสดๆจากกะทะโดยตรงดีกว่า อร่อยจริงครับ
ถึงที่พัก เชียงคาน โมเดิร์นโฮม เวลา 14.18 น.ระยะทาง 1055 กม. เชียงคาน โมเดิร์นโฮม อยู่ ซ.16-ซ.17 ที่จอดรถอยู่ข้างๆที่พักเป็นของชาวบ้านเสียค่าจอดคืนละ 50 บาท ตอนจองโทรมาถามที่พักดังๆเต็มหมด ที่ไม่เต็มอยู่ติดริมโขงราคา 2,000-3,000 กว่าบาท รับไม่ได้ จำได้ว่าเคยถ่ายรูปที่พักนี้ไว้กลับไปดูรูปเก่าๆมีเบอร์อยู่พอดีเลยโทร บอกมีห้องว่างรีบโอนเงินให้ทันที
ผมจองห้อง 800 บาท อยู่ชั้น 2 ห้องแอบร้อนไปหน่อย ไม่บรรยายห้องนะครับดูรูปเอาเองบันไดทางขึ้นห้องชั้น 2เดินลงมาชั้นล่าง เห็นห้องว่างอยู่ 1 ห้องขอเข้าไปดูหน่อย ห้องกว้างกว่าเย็นกว่าห้องแรก แต่ห้องละ 1,000 บาทเลยขอนอนห้องนี้แทน เพิ่มอีก 200 บาทห้องดูโอเคกว่าห้องเบอร์ 15เข้าไปดูในห้องกันครับ เป็นเตียงไม้เดี่ยวขนาด 5 ฟุตแอบเล็กไปหน่อยพื้นปูกระเบื้องสีขาว ผนังปูนเปลือย หมอนใหญ่ 2 ใบ หมอนอิง 2 ใบผ้าเช็ดตัวกับผ้าเช็ดหน้าอย่างละ 2 ผืนปลายเตียงมีทีวี - โต๊ะวางทีวีแอบก๊องแก๊งไปหน่อย ด้านหลังเป็นกระจกเต็มบานมีผ้าม่านบังให้ ส่วนปลั๊กไฟมีให้ตรงทีวีอยู่ 3 หัวปลั๊ก เสียบทีวีหมดไปแล้ว 1 ปลั๊ก เหลือใช้งาน 2 ปลั๊ก น้อยไปหน่อยด้านหัวเตียงมีชั้นวางของได้นิดหน่อย กับโต๊ะกระจกตัวเล็ก 1 ตัว พร้อมน้ำเปล่า 2 ขวด ไม่มีตู้เย็นถัดไปเป็นห้องน้ำ หน้าห้องน้ำมีเก้าอี้ยาวให้ไว้ 1 ตัวเข้าไปดูห้องน้ำกันบ้าง เปิดประตูเจอเครื่องทำน้ำอุ่นใช้ได้ปกติแต่น้ำไม่แรงมาก ประตูห้องน้ำยกสูงไปหน่อยถ้ายืนอาบตรงๆน้ำมีไหลเข้าห้องนอนด้วยต้องยืนเฉียงไปทางชักโครก ส่วนชักโครกติดผนังเกินไป ทำให้นั่งไม่ค่อยถนัดมีสายชำระก็ติดขาตรงนี้ไม่ค่อยปลื้ม ดีตรงที่ไม่ค่อยสกปรกที่พักปลูกยาวสามารถเดินทะลุได้ระหว่าง ซอย 16-17 จากที่พักห่างจากถนนคนเดินประมาณ 10 ม.อยู่กลางซอยพอดี ตรงนี้โอเคหน่อย เอาเบอร์เชียงคานโมเดิร์นโฮม 0933457881 ไว้สำรองช่วงเทศกาลหรือเจ้าอื่นเต็ม ไอดีไลน์ เป็นเบอร์มือถือ แอดเป็นเพื่อนได้เลยครับได้เวลาเดินเล่น ริมโขง บ่ายสามแดดเปรี้ยงมาก ร้อนจัดแวะชิมเส้นเปียกร้านนี้ครับ ของผมเกาเหลา น้ำซุปไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ รสชาติโอเคอยู่แต่ไม่ถึงกับสุดยอด ให้เครื่องมาไม่เยอะ เข้าใจราคาเมืองท่องเที่ยวดังๆรับได้ตามสภาพเส้นเปียกใส่ไข่ แฟนบอกอร่อยดีเหมือนกันยำหมูยอ เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ด มีครบทุกชาติ หมูยออร่อยดีครับ แต่สู้ที่อุดรไม่ได้กุ้งชุบแป้งทอด ซื้อกลางซอย 40 บาท เย็นจนแข็งไปหน่อยถ้าร้อนกว่านี้จะอร่อยมากกกอิ่มเสร็จเดินกลับไปนอนพัก ตื่นมาประมาณสี่โมงเย็นไปเดินเล่นที่ถนนคนเดิน
รูปนี้ถ่ายจากหน้าที่พักอยู่ซอย 16 ข้างหน้าเป็นถนนคนเดิน ใกล้มาก เดินจากซอยเข้าถนนคนเดินเลี้ยวซ้ายเป็น เชียงคานตะวันวา ตรงหัวมุมพอดีเยื้องๆเป็นร้านอาหารนั่งเล่น ที่พักแนะนำให้กินร้านนี้ ราคาไม่สูง อาหารอร่อยเดินลงซอยเข้าไปจะถึงร้านนั่งเล่น อยู่ริมฝั่งโขง ยังไม่เปิด เดินชมริมโขงไปก่อนแล้วกันครับ   ชอบตรงทำทางเดินริมโขง เคยมาครั้งก่อนนานแล้วยังไม่มีตรงนี้มีแค่ทางเดินเป็นปูนชั้นบนแค่นั้นเอง ชอบครับ วิวยามเย็น ณ เชียงคาน เดินชมร้านค้า ที่พักริมโขงไปเรื่อยๆ ร้านอาหาร+ที่พักน่ารักๆเยอะมาก   เดินมาถึงตรงลานเดินเล่น ตลาดต้องชม แถววัดท่าคกจากวัดท่าคก เป็นจุดเริ่มต้นถนนคนเดิน ทั้งสองข้างทางจะเป็นที่พักร้านค้า ร้านอาหาร มีให้เดินชมตลอดทาง“ถนนชายโขง” เป็นชื่อของถนนสายสั้นๆริมแม่น้ำโขงที่มีความยาวไม่ถึง 3 กิโลเมตร ปกติในวันธรรมดาบรรยากาศที่นี่ก็จะเงียบสงบ เรียบง่ายไม่ต่างจากวิถีชีวิตชนบทในจังหวัดอื่นๆที่ชาวบ้านจะตื่นกันแต่เช้าเพื่อมาทำบุญตักบาตรก่อนจะแยกย้ายไปทำงานตามภาระหน้าที่ของใครของมัน แต่พอถึงช่วงบ่ายแก่ๆของวันหยุดสุดสัปดาห์ถนนสายนี้ก็จะคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายที่แห่แหนกันมาใช้เวลาในวันหยุดพักผ่อน ทำให้ถนนสายนี้คึกคัก มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันตาดังนั้นพอแดดร่มลมตกซักหน่อย ได้เวลาออกมาเดินเล่นที่ถนนคนเดินกันแล้วอากาศที่เชียงคาน ณ วันนี้ อย่าว่าแต่หนาวเลย ความเย็นยังหาไม่เจอแถมคนเยอะมากกกกก ไม่บรรยายแล้วครับ ดูรูปยาวเลยแล้วกัน ลองชิมกุ้งย่าง เค็มๆมันๆเดินเล่นกันต่อไป เพลินดีเหมือนกัน  วันนี้ตรง ซุปเปอร์ มูน พระจันทร์เต็มดวงใหญ่มากแต่ฝีมือบวกกับกล้องก็องแก็ง ถ่ายได้แค่นี้แหละครับ เดินต่อไปเชียงคานตะวันวา เลี้ยวซ้ายก็เข้าที่พักผมแล้วครับ อยู่กลางซอยเลยนักท่องเที่ยวตรึมทั้งของกิน ทั้งร้านของฝาก มีหลายร้านมากชอบตู้เอทีเอ็มที่ถนนคนเดินเชียงคาน แต่งเข้ากับสภาพแวดล้อมดี มุมดังๆ ร้านอร่อยๆไม่ต้องรอ คิวยาวมากกกกก มาช่วงวันหยุดยาว คนเยอะแต่ไม่เหงา อาจจะน่าเบื่อต้องมาแย่งกันกิน แย่งกันนอน มันก็เป็นเสน่ห์ มีสีสันไปอีกแบบของถนนคนเดิน เคยไปเดินถนนคนเดินที่ไม่ค่อยดัง คนเงียบ ร้านค้าน้อย ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจนั้นก็เงียบไป โลกนี้ช่างหาความพอดีไม่ได้เลยเนอะ ชิมผัดไทยโบราณนิดนึง ไม่อร่อยอ่ะ เดินไปชิมไป อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง เพลินดีเหมือนกันเบียร์ปั่นเป็นวุ้น แก้เมื่อย 1 ขวดวันนี้เดินเพลินมาก ถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวอาจจะเยอะไปหน่อย เป็นธรรมดาสำหรับวันหยุดยาวและเป็นสถานที่คนไทยนิยมอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทยอาจจะหงุดหงิด อาจจะน่าเบื่อไปบ้างแต่โดยรวม เชียงคานก็ยังคงมีเสน่ห์ถึงแม้ว่าความเจริญจะก้าวกระโดดไปมาก จากหลายปีก่อน สำหรับใครที่ยังไม่เคยไป อย่าตัดสินใจแค่ดูรูป ฟังจากคนอื่น แล้วตัดสินว่าเชียงคานไม่มีอะไร อยากให้ลองมาเที่ยวแล้วจะได้รู้ด้วยตัวเองว่าเชียงคาน ตรงกับจริตตัวเองหรือไม่
สำหรับวันนี้ก่อนนอน แวะกินข้าวเปียกใส่ไข่ 1 ถ้วย   พรุ่งนี้ได้เวลากลับบ้านแล้วครับ คลิกเลย
คืนนี้ฝันดี 
ระยะการเดินทางวันนี้ทั้งหมด 148.3 กม.เดินทางจาก อ.สังคมเวลา 9.02 น.ถึง เชียงคาน เวลา 14.18 น.รวมแวะเที่ยวตามรายทาง
สรุปค่าใช้จ่าย
อาหารเช้า 170 บาท
ค่าจอดรถ แก่งคุดคู้ 10 บาท
ค่าเข้าห้องน้ำแก่งคุดคู้ 5 บาท
ไอติม 5 บาท (1 แท่ง)
เมี่ยงคำ 10 บาท (1 ไม้)
ค่าจอดรถเชียงคาน 50 บาท (1 คืน)
กุ้งทอด 40 บาท (1 แพ)
อาหาร 160 บาท (ข้าวเปียก,เกาเหลา,ยำหมูยอ)
เบียร์วุ้นไฮเนเก้น 90 บาท (1 ขวดเล็ก)
ข้าวต้ม 35 บาท (1 ชาม)
ไส้กรอก 20 บาท (1 ไม้)
ผัดไท 40 บาท (1 กล่อง)
น้ำเปล่า 10 บาท (1ขวดเล็ก)
กุ้งย่าง 10 บาท (1 ไม้)
หมอน 150 บาท (2 ใบ)
ค่าที่พัก 1,000 บาท
รวมค่าใช้จ่ายวันนี้ 1,805 บาท
Create Date : 11 ธันวาคม 2560 |
Last Update : 23 มกราคม 2565 18:20:36 น. |
|
1 comments
|
Counter : 3753 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: พี่น้อง IP: 171.100.164.25 วันที่: 13 ธันวาคม 2560 เวลา:14:55:42 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
|