Group Blog
 
All Blogs
 
blog KU-ABC โควิด-19​ แพร่ระบาดอย่าประมาทในการดำเนินชีวิต

                    blog KU-ABC โควิด-19​ แพร่ระบาดอย่าประมาทในการดำเนินชีวิต
                                                                                   ทวีศักดิ์ อุ่นจิตติกุล
 
        การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ซึ่งเป็นสุคติภูมิในชาตินี้
เป็นเพราะการกระทำความดี(กุศลกรรม)​
มาแต่ในอดีตชาติ​​จึงก่อให้เกิดผลของกรรมดี​(กุศลวิบาก)
​ในปัจจุบันชาติ​นับเป็นบุญที่ได้เกิดมาในประเทศที่เหมาะสม
ซึ่งเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนาและยังได้นับถือพระพุทธศาสนา
อีกด้วยสิ่งที่ประเสริฐที่สุดของชาวพุทธคือการได้ฟังพระธรรม
ซึ่งเป็นคำสอนของพระบรมศาสดา​​พระอรหันตสัมมาสัมพุทธ​เจ้า​
...........................................................................................................................

ซึ่งเป็นการละความไม่รู้(อวิชชา)​และมีการสะสมความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง
จนนำไปสู่ความเห็นถูก(สัมมาทิฏฐิ)​ปัญญาจากการฟังพระธรรม มี 3 ระดับ
เป็นไปตามลำดับขั้น​ได้แก่
-ปัญญาที่เกิดจากการฟังธรรม ​(สุตตมยปัญญา)​ 
-ปัญญาที่เกิดจากการพิจารณา(จินตมยปัญญา)
​และปัญญาที่เกิดจากการอบรมตามสภาวธรรม  (ภาวนามยปัญญา)​
............................................................................................................................

โดยทั่วไปแล้ว​ชาวพุทธมีการฟังธรรมตามกาลอยู่บ้าง
​หากมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามกำลังของปัญญา
ก็จะเป็นผู้เห็นโทษของการกระทำความชั่ว (อกุศลกรรม)
และเห็นประโยชน์ของการกระทำความดี  (กุศลกรรม)
มีความละอายชั่วกลัวบาป มีการให้ทาน เว้นจากการทุจริตทางกายและวาจา
...........................................................................................................................

จึงเป็นผู้มีการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างเป็นปรกติสุขตามอัตภาพของแต่ละบุคคล
เป็นผู้ประมาทในการดำเนินชีวิต เมื่อถึงแก่กรรมแล้วย่อมไปเกิดในภพภูมิที่ดี (สุคติภูมิ) 
ส่วนชาวพุทธที่มีความเห็นผิด( มิจฉาทิฏฐิ) ย่อมไปเกิดในภพภูมิที่มีความยากลำบาก(ทุคติภูมิ)
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย  คาถาธรรมบท​มีใจความว่าความไม่ประมาทเป็นเครื่องถึงอมตะ 
............................................................................................................................

ความประมาท เป็นทางแห่งมัจจุ  ผู้ไม่ประมาทแล้ว
ชื่อว่า  ย่อมไม่ตาย  ผู้ใดประมาทแล้ว 
ผู้นั้น ย่อมเป็นเหมือนคนตายแล้ว;  บัณฑิตรู้ความนั่นโดยแปลกกันแล้ว 
ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท 
บันเทิงอยู่ในความไม่ประมาท  ยินดีในธรรมเป็นที่โคจรของพระอริยะทั้งหลาย 
บัณฑิตผู้ไม่ประมาทเหล่านั้น  มีความเพ่ง  มีความเพียรเป็นไปติดต่อ บากบั่นมั่นเป็นนิตย์ 
เป็นนักปราชญ์ ย่อมถูกต้องพระนิพพาน  อันเป็นแดนเกษมจาก โยคะอันยอดเยี่ยม​
...........................................................................................................................

 เมื่อวันที่​ 20​ มี.ค.​ 63​ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
​ประทานพระคติธรรมแก่พุทธศาสนิกชน ​เพื่อเป็นกำลังใจในสภาวการณ์
ที่ไวรัส​ โคโรนา​สายพันธ์ใหม่​ 2019​ ​ กำลังแพร่ระบาดขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว
​ความตอนหนึ่งว่า​
      “ไม่มีชีวิตใดประสบแต่ความเกษมสุข ปราศจากทุกข์ภัยไปได้ตลอด
เมื่อเกิดมาแล้ว จึงจำเป็นต้องขวนขวายสั่งสม ‘สติ’ และ ‘ปัญญา’
สำหรับเป็นอุปกรณ์บำบัดความทุกข์อยู่ทุกเมื่อ เพื่อให้สมกับที่ดำรงอัตภาพ
แห่งมนุษย์ผู้มีศักยภาพต่อการพัฒนา
............................................................................................................................
 
ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดซึ่งก่อให้เกิดความหวาดหวั่นครั่นคร้ามกันทั่วหน้า
ทุกคนมีหน้าที่แสวงหาหนทางเพิ่มพูน ‘สติ’ และ ‘ปัญญา’
พร้อมทั้งแบ่งปันหยิบยื่นให้แก่เพื่อนร่วมสังคม อย่าปล่อยให้ความกลัวภัย
และความหดหู่ท้อถอย คุกคามเข้าบั่นทอนความเข้มแข็งของจิตใจ
ในอันที่จะอดทน พากเพียร เสียสละ และสามัคคี​
............................................................................................................................

มีธรรมภาษิตบทหนึ่งในพระพุทธศาสนา พึงน้อมนำมาเตือนใจในยามนี้
ว่า ‘เมื่อถึงยามคับขันประชาชนต้องการผู้กล้าหาญ, เมื่อถึงคราวปรึกษางาน
ต้องการผู้ที่ไม่พูดพล่าม, ยามมีข้าวน้ำ ต้องการผู้เป็นที่รัก,
ยามเกิดปัญหา ต้องการบัณฑิต’ขอทุกท่านจงเป็น ‘ผู้กล้าหาญ’
ที่จะละความดื้อด้านเห็นแก่ตัว ความเคยตัว และความไม่ระมัดระวังตัว
ขอจงเป็น ‘ผู้ที่ไม่พูดพล่าม’ โดยปราศจากสาระ ก่อความร้าวฉานชิงชัง
ในยามที่สังคมต้องการสาระ คำปรึกษาหารือ และกำลังใจ
แต่จงประพฤติตนเป็น ‘บัณฑิต’ ผู้รู้รักษากายใจของตัวให้ปลอดจากโรคกายโรคใจ
เป็นผู้ฉลาดศึกษา ค้นคว้า วางแผน ชี้แนะ และลงมือทำ
.........................................................................................................................

ทั้งนี้ ถ้าแต่ละคนแม้เพียงตั้งจิตไว้ในธรรมฝ่ายสุจริต ไม่ถลำลงสู่ความคิดชั่ว
อันนำไปสู่การพูดชั่วและทำชั่วซ้ำเติม ก็นับว่าได้ช่วยบรรเทาปัญหาของโลกแล้ว
และยิ่งหากท่านมีดวงจิตผ่องแผ้วด้วยเมตตาการุณยธรรม
นำความปรารถนาดีเผื่อแผ่ไปสู่ทุกชีวิตอย่างเสมอหน้า
ความทุกข์ยากที่เราทั้งหลายต่างเผชิญ ย่อมจะคลี่คลายได้ในไม่ช้า…”
..........................................................................................................................
 
เมื่อวันที่ 24​มี.ค.63 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ
ให้​พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ​รมว.กลาโหม
ประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 
เพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19​
โดยจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.–​ 30 เม.ย.. 63  เป็นระยะเวลา 1 เดือน​
........................................................................................................................

ต่อมาเมื่อวันที่​25​ มี.ค.​63​ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
และรมว.กลาโหม แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย
ถึงการตั้งศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินโควิด-19
​โดยมีตนเองเป็นอำนวยศูนย์ฯ​และมีปลัดกระทรวงต่างๆ​ร่วมเป็นกรรมการ​ศูนย์ฯ
ทำงานร่วมกับททารและตำรวจซึ่งเป็นฝ่ายความมั่นคงในการปฏิบัติภารกิจให้ลุล่วง
เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและความมั่นคงของประเทศชาติ
ทำงานร่วมกันในเชิงบูรณาการ​ในทุกมิติอย่างเป็นเอกภาพและมีประสิทธิภาพ
............................................................................................................................

และในวันเดียวกันมีการประกาศข้อปฏิบัติ 16 ข้อ แบ่งเป็น 3 กลุ่มคือ ห้ามทำ ให้ทำ
สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในเช้านี้ วันที่ 26 มี.ค. 63
มีรายงานล่าสุดว่าทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อ​ราว 463, 000 ราย​เสียชีวิตราว 21,000 ราย​
ใน 196 ประเทศและเขตปกครองในขณะนี้ประชากรทั่วโลกราว​ 3,000 ล้านคน
ต้องกักตนอยู่กับบ้านเพื่อความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรการของแต่ละประเทศ​
ส่วนประเทศไทย​เมื่อวานนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อ​ 934  ราย​เสียชีวิต​ 4​ ราย​รักษาหาย​ 70  ราย
​อยู่ระหว่างการรักษา​ 860 ราย
............................................................................................................................
 
อย่างไรก็ดีใคร่ขอนำทัศนะและมุมมองของนางอังเกลา แมร์เคิล​นายกรัฐมนตรี​เยอรมนี​
ซึ่งเป็นผู้นำประเทศมาต่อเนื่อง 4​ สมัย​นับตั้งแต่ปี​ค.ศ.2005 (พ.ศ.2548)​
และเป็นประเทศ​ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของสหภาพ​ยุโรป​(European Union -​ EU)
และมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ​ 4​ ของโลก​ กล่าวถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19
ในเยอรมนีเป็นครั้งแรกไว้อย่างน่าสนใจ
​เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 63​ว่า ชาวเยอรมนีมากถึงร้อยละ​70 ของประชากรหรือราว​ 58  ล้านคน
อาจจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา ​ ในขณะที่ยังไม่มียารักษา
สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในตอนนี้ก็คือการชะลอการระบาดให้ช้าลง โดยเป็นการซื้อเวลา
............................................................................................................................

ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 63 นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ
มีสาระสำคัญว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 มีความรุนแรงมากขึ้น
ขอให้ประชาชนทุกคน "จริงจังกับเรื่องนี้" โดยให้ทัศนะว่านับตั้งแต่ผ่านพ้นสงครามโลกครั้งที่สอง
เยอรมนีไม่เคยเผชิญกับวิกฤติด้านสาธารณสุขในระดับเลวร้ายถึงเพียงนี้มาก่อน
สถานการณ์ที่เป็นอยู่ "มีความท้าทาย" แต่ในเวลาเดียวกัน
ความสามัคคีและความร่วมมือจากทุกภาคส่วนรวมถึงชาวเยอรมันทุกคน
"เป็นสิ่งสำคัญ"อีกทั้งยังย้ำว่า จิตสำนึกของประชาชนทุกคนในช่วงเวลาไม่ปกติเช่นนี้
"สำคัญอย่างยิ่ง" โดยขอให้ทำตามหน้าที่ของตัวเองด้วยความรับผิดชอบ
ประชาชนต้องไม่กักตุนสินค้า "อย่างตื่นตระหนก"
และยืนยันว่าขณะนี้รัฐบาลทำทุกอย่างที่เหมาะสมและจำเป็นในเขตอำนาจ
เพื่อนำพาบ้านเมืองให้พ่านผ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และ "เป็นบททดสอบ" ของทุกฝ่ายได้
............................................................................................................................

ที่มาข้อมูล:มูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย
เตือนใจ เจริญพงษ์ กรรมการชมรมวิชาการนิสิตเก่า มก.
ผู้ post เมื่อ 30  มีนาคม  2563
มี ดร.ประมุข เพ็ญสุต KU 33 เป็นประธาน
( KU ALUMNI BRAIN CLUB ) KU-ABC “

 


Create Date : 30 มีนาคม 2563
Last Update : 30 มีนาคม 2563 16:29:52 น. 0 comments
Counter : 249 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 5498498
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]


ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชมรมวิชาการนิสิตเก่า มก.
( KU ALUMNI BRAIN CLUB ) KU-ABC
…เกิดจากการรวมตัวของเพื่อนๆ KU 33 ส่วนหนึ่ง
มีองค์ประกอบดังนี้
ก. ดร.วิทูรย์ สิมะโชคดี เป็นที่ปรึกษา
ข. นายเชิดศักดิ์ วงษ์กมลชุณห์ เป็นที่ปรึกษา
1. ดร.ประมุข เพ็ญสุต ประธาน
2. ศ.ดร.จริงแท้ ศิริพานิชย์ กรรมการ
3. นายชัยวุธ ชัยพันธ์ กรรมการ
4. พลตรีไชยสิทธิ์ ตันตยกุล กรรมการ
5. นางเตือนใจ เจริญพงษ์ กรรมการ
6. นางนงลักษณ์ ติรศรีวัฒน์ กรรมการ
7. อาจารย์นิตยา ทับทิมทัย กรรมการ
8. ดร. ปกรณ์ อุ่นประเสริฐ กรรมการ
9. อาจารย์ปัญญา เหล่าอนันต์ธนา กรรมการ
10. นางพัจนา ปัญจมรัศม กรรมการ
11. ดร.รัตนาภรณ์ ธรรมโกศล กรรมการ
12. นายสินชัย สวัสดิชัย กรรมการ
13. นางสุชีลา ธีรภรณ์ กรรมการ
14. นางสุพรรณี จันทโรจน์ กรรมการ
15. นายอดิศักดิ์ จงจิระศิริ กรรมการ
16. นางสาวอรทัย เอื้อตระกูล กรรมการ
17. รศ.ดร.อรพิน เกิดชูชื่น กรรมการ
18. นางอภิญญา รุจิธารณวงศ์ กรรมการ
เพื่อขับเคลื่อนเจตนารมย์ในการรวบรวมสาระความรู้ /ผลงานวิชาการด้านต่างๆของนิสิตเก่ามาเผยแพร่และแบ่งปันแก่สาธารณชน เมื่อ 2 กันยายน 2562 โดยนางเตือนใจ เจริญพงษ์ กรรมการชมรมเป็นผู้นำเสนอ post ทาง bloggang ของพันทิป หวังอย่างยิ่งว่าเนื้อหาของ blog คงให้ประโยชน์แก่สังคมคะ





Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 5498498's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.