เขียนโดย นภัสกร รัตนพงศ์สิทธิ

1. ได้ฤกษ์โละเครื่องสำอางหมดอายุ
ลืมนึกไปเลยว่าสิ่งใกล้ตัวที่ตรงหน้าเราคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ซึ่งก็รวมถึง โต๊ะเครื่องแป้ง ที่เราใช้วางเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่หยิบมาใช้งานอยู่เป็นประจำด้วย จนลืมสังเกตวันหมดอายุ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุหรือแปรงที่สกปรกเป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ ดังนั้นเราจึงควรที่จะทำความสะอาดโต๊ะเครื่องแป้งและเช็คเครื่องสำอางที่ใช้อยู่ว่าหมดอายุไปบ้างหรือยัง

2. ทนุถนอมผิวหน้าของคุณ
เมื่อคุณรู้สึกระคายเคืองผิวหน้าหรือเห็นริ้วรอยบนใบหน้าชัดเจน ซึ่งอาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การพักผ่อนน้อย การพบเจอกับฝุ่นละอองในชีวิตประจำวัน ผิวหน้าจึงเป็นหน้าด่านในการเจอกับเชื้อโรคเหล่านี้ ลองให้หน้าได้พักผ่อนและบำรุงผิว โดยการขัดผิวหน้าอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง ใช้ครีมบำรุงผิวทั้งชนิดกลางวันและกลางคืน แต่ถ้าคุณมีปัญหาบนใบหน้ามากเกินกว่านั้น ก็สามารถไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อปรึกษานะคะ

3. ใช้รองพื้นที่เหมาะกับผิวหน้า
เคล็ดลับในการหาเฉดสีรองพื้นที่เหมาะสมกับผิวของคุณ คือการแต้มครีมรองพื้นบริเวณคางหรือบนหลังมือของคุณเพื่อทำการเทียบสี คล้ายๆ กับการลองเสื้อซักชุดเพื่อให้เหมาะกับตัวคุณ

4. เช็คผิวกันเถอะ
ไฝ ฝ้า กระ จุดด่างดำ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ บนผิวที่เราอาจมองข้ามไม่ได้ คุณควรจะหาเวลาเพื่อไปเช็คผิวจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยแนะนำคุณเรื่องการดูแลผิว การบำรุงผิว หรือรักษาสิวและรอยแผลเป็นจากสิว เพื่อช่วยปกปิดริ้วรอยบนใบหน้าให้จางหายไป

5. ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีค่า SPF
เราไม่สามารถพูดได้ว่า จะปกป้องผิวหรือหลีกหนีจากแสงแดดได้ตลอดทั้งปี แต่วิธีที่ง่ายที่สุดคือ การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ในการบำรุงผิวเป็นประจำได้ทุกวัน ซึ่งโดยทั่วไป เราสามารถใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF ประมาณ 15 ก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับคนที่ผิวไวต่อแดด หรือผิวถูกแผดเผาให้หมองคล้ำได้ง่ายนั้น ใช้ SPF 30 ก็ปกป้องผิวได้แล้ว ในการใช้ครีมกันแดดที่มี ค่า SPF สูงๆ นั้น ไม่ได้หมายความว่าจะปกป้องแสดงแดดได้ดีเสมอไป ในความเป็นจริงแล้ว ค่า SPF สูงๆ นั้นอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย และอาจจะมีผลข้างเคียงที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น เกิดผดผื่นคันได้ นอกจากนี้ยังอาจจะทำให้สีผิวของเราไม่สม่ำเสมอ เกิดรอยด่างขึ้นได้ การเลือกใช้ค่า SPF จึงขึ้นอยู่กับการใช้งานอย่างเหมาะสมด้วยนะคะ

6. ลองใช้ลิปให้หนาขึ้นเพื่อทำให้เรียวปากดูอวบอิ่ม
หากคุณชื่นชอบการแต่งหน้าตามเทรนด์หรือตามนิตยสารแฟชั่นแต่บางครั้งก็ไม่กล้า ลองเริ่มเปลี่ยนจากการทาลิปสติกบางๆ ที่ทำเป็นประจำ มาทาลิปสติกสีสด ปัดอายแชร์โดว์ เพิ่มสีสันบนใบหน้าของหน้าของคุณให้โดดเด่นขึ้น การใช้เครื่องสำอางง่ายๆ เพียงไม่กี่ชิ้น อาจทำให้คุณดูเปลี่ยนไปได้

7. หมั่นทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือ
ใครจะคิดว่าโทรศัพท์มือถือที่เราใช้อยู่เป็นประจำ จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและความสกปรกชั้นดีจากการใช้มือสไลด์หรือพิมพ์ข้อความบนหน้าจอแล้วนำมาแนบบนใบหน้า ดังนั้นใช้เวลาแค่เพียง 10 วินาทีไม่กี่ครั้งต่อวัน หมั่นทำความสะอาดโทรศัพท์ของคุณเพื่อลดเชื้อแบคทีเรีย อันเป็นบ่อเกิดของสิวบนใบหน้า ยังดีกว่าการเปิดลำโพงเพื่อใช้งานนะ

8. เลิกสระผมทุกวันได้แล้ว
รู้หรือไม่การสระผมทุกวันมีผลเสีย เราควรสระผมไม่เกินสัปดาห์ละ 2 ถึง 3 ครั้ง จะดีกว่าการสระผมทุกวัน ด้วยเหตุผลสองประการ คือ เมื่อเส้นผมผลิตน้ำมันได้อย่างคงที่จะช่วยไม่ทำให้ผมแห้งแตกปลาย เพราะการสระผมบ่อยๆ หรือมากเกินไป จะทำให้ไขมันบนหนังศีรษะและเส้นผมถูกชำระล้างออกไป ต่อมไขมันจึงต้องผลิตไขมันออกมามากขึ้นเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดหาย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนสระผมทุกวัน มักประสบปัญหาศีรษะมันได้ง่าย และอีกประการคือช่วยให้คุณประหยัดยาสระผมได้ด้วย อีกเคล็ดลับหนึ่งคือ การใช้ครีมนวดผมหลังสระผม จะช่วยให้คุณรู้สึกว่าเส้นผมสะอาดและชุ่มชื่นขึ้น

9. นอนหลับให้มากพักผ่อนให้เพียงพอ
ไม่มีอะไรที่รู้สึกแย่ไปกว่านี้แล้ว เมื่อได้ยินเพื่อนพูดว่า "เธอดูโทรมจังนะ" แต่หนทางแก้ไขง่ายๆ ที่ไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่เพียงคุณ “นอนหลับ” การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ เป็นขั้นตอนของการฟื้นฟูผิว อีกทั้งยังช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวหนังหรืออวัยวะที่สึกหรอของเราและยังช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนของร่างกายช่วยทำให้คุณอารมณ์ดี นอกจากนี้เมื่อนอนหลับร่างกายจะหลั่งสารสำคัญ เช่น สารเมลาโทนิน ที่ช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต หลังจากที่คุณได้นอนเต็มที่แล้วจะช่วยทำให้คุณมีความสุขดูสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าขึ้น แต่ถ้าคนเราอดนอนหรือนอนหลับไม่เพียงพอก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานของร่างกายรวมทั้งผิวพรรณด้อยลง

ที่มา  //women.sanook.com/37033/

Create Date : 06 พฤษภาคม 2558
Last Update : 6 พฤษภาคม 2558 7:57:57 น.		0 comments
Counter : 1279 Pageviews.
Share Tweet