Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2553
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
บทที่ 1 การบริหารธุรกิจขนาดย่อม Small Business Management

ความหมายของธุรกิจ SMEs หรือ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

ธุรกิจ หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางด้านการผลิต การจำหน่าย และการบริการ
ธุรกิจขนาดย่อม หมายถึง ธุรกิจที่เป็นอิสระ มีเอกชนเป็นเจ้าของ ดำเนินการโดยเจ้าของเอง ไม่เป็นเครื่องมือของธุรกิจใด ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของบุคคล หรือธุรกิจอื่น มีต้นทุนในการดำเนินงานต่ำและมีพนักงานจำนวนไม่มาก

Small and Medium Enterprises
SMEs : วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
(ที่มา : พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.2543 มาตรา 4)
หมายถึง กิจการอุตสาหกรรมการผลิต ( Manufacturing ) ค้าส่งและค้าปลีก ( Wholesale and Retail ) บริการ ( Service )
ขนาดของกิจการ SMEs
1. จำนวนการจ้างงาน
2. ทุนจดทะเบียน
3. เงินลงทุน
4. ยอดขาย
5. สินทรัพย์ถาวร
วิสาหกิจขนาดย่อม
จ้างงานไม่เกิน สินทรัพย์ถาวรไม่เกิน
 กิจการผลิต 50 คน 50 ล้านบาท
 กิจการ ค้าส่ง 25 คน 50 ล้านบาท
ค้าปลีก 15 คน 30 ล้านบาท
 กิจการบริการ 50 คน 50 ล้านบาท
วิสาหกิจขนาดกลาง
จ้างงาน สินทรัพย์ถาวร
 กิจการผลิต 50-200 คน 50-200 ล้านบาท
 กิจการ ค้าส่ง 26-50 คน 50-100 ล้านบาท
ค้าปลีก 16-30 คน 30-60 ล้านบาท
 กิจการบริการ 51-200 คน 50-200 ล้านบาท

ความสำคัญของธุรกิจขนาดย่อม

 ช่วยในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกิดการจ้างงานซึ่งเป็นตัวช่วยให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมดีขึ้น
 เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจขนาดใหญ่ ทำให้ธุรกิจมั่นคงมียอดการผลิตที่สูงขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีที่สูงขึ้นมาใช้ในการผลิต เป็นฐานไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่
 เป็นแหล่งผลิตสินค้าใหม่ๆ เป็นการรวมกลุ่มของบุคคลร่วมกันคิดและผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาด โดยที่ธุรกิจขนาดใหญ่ไม่กล้าเสี่ยงต่อการลงทุน

ข้อเปรียบเทียบระหว่างธุรกิจลักษณะของธุรกิจขนาดย่อม
 1.โครงสร้างของธุรกิจไม่มีความสลับซับซ้อนมากนัก การบริหารธุรกิจสามารถใช้แรงงานครอบครัวมาช่วยในการผลิตสินค้าและบริการ ทำให้ต้นทุนค่าแรงงานต่ำ
 2.มีความคล่องตัวในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจมีอิสระในการทำงานทำให้สามารถตัดสินใจในเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆของธุรกิจได้ทันที
 3.การเข้าถึงลูกค้าของธุรกิจมักทำได้ดีกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะธุรกิจขนาดย่อมจะมีอยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการของท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว
 4.ธุรกิจขนาดย่อมใช้เงินลงทุนต่ำ แรงงานมีจำนวนน้อย ผู้บริหารดำเนินการแต่เพียงผู้เดียว หรือโดยกลุ่มผู้บริหารเพียงไม่กี่คน ทำให้ผู้บริหารมีแรงจูงใจในการดำเนินงาน เนื่องจากผลกำไรที่ได้จะเป็นของผู้ดำเนินการทั้งหมด
ลักษณะของธุรกิจขนาดย่อม (ต่อ)
 5.ยอดขายมีน้อย เนื่องจากท้องถิ่นบางแห่งมีประชากรและอำนาจซื้อน้อย จนธุรกิจขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ หรือไม่ต้องการเข้าไปแข่งขันกับธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากมียอดขายน้อย ตลาดเหล่านี้จึงเป็นตลาดของธุรกิจขนาดย่อม
 6.ผู้ประกอบการมีแรงจูงใจสูงทำให้ทำงานหนักและเสียสละ เพราะผลของการทำงานหนักก็จะกลับเป็นผลกำไรที่ตกมาถึงผู้ประกอบการโดยตรง
 7.มีความคล่องตัวในการจัดการ เนื่องจากสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี เครื่องจักร เครื่องมือการผลิต การแข่งขันฯ ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมสามารถตัดสินใจปรับปรุง เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วกว่า

ประเภทธุรกิจ วิสาหกิจขนาดย่อม
 ธุรกิจการผลิต (Manufacturing Business) เป็นธุรกิจที่นำเอาวัตถุดิบและปัจจัยนำเข้าต่างๆมาผ่านกระบวนการแปรสภาพจนกลายเป็นสินค้า การจ้างงานไม่เกิน 50 คน มูลค้าสินทรัพย์ถาวรไม่เกิน 50 ล้านบาท
 ธุรกิจบริการ (Service Business) เป็นธุรกิจหรือกิจการที่พนักงานทำหน้าที่ให้บริการต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวร ไม่เกิน 50 ล้านบาท
วิสาหกิจขนาดกลาง
 ธุรกิจการผลิต (กิจการผลิตสินค้า) มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 50 คน แต่ไม่เกิน 200 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวรเกินกว่า 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท
 ธุรกิจการจำหน่าย ( กิจการซื้อมาขายไป )
 การค้าส่ง มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 25 คน แต่ไม่เกิน 50 คนหรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวร กว่า 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท
 การค้าปลีก เป็นกิจการที่มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 15 คน แต่ไม่เกิน 30 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวรเกินกว่า 30 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 60 ล้านบาท
 ธุรกิจการบริการ (กิจการบริการ) มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 50 คน แต่ไม่เกิน 200 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวร เกินกว่า 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท

ข้อดี และข้อเสียของธุรกิจขนาดย่อม
 ข้อดี
 1. ผู้ประกอบการสามารถทำในสิ่งที่ตนเองชอบ ถนัด และมีวิถีชีวิตตามที่ตนเองต้องการ หากมีความรู้ความสามารถในการจัดการที่ดี
 2. การทำธุรกิจทำได้ง่ายเพราะใช้ปัจจัยในการดำเนินกิจการต่างๆ ไม่มาก
 3. ผู้ประกอบการมีความเป็นอิสระ และคล่องตัวในการบริหารกิจการได้อย่างทั่วถึง และใกล้ชิด
 4. ถ้าการดำเนินกิจการประสบปัญหา หรือเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ โอกาสที่จะฟื้นตัวเกิดได้ง่ายกว่ากิจการขนาดใหญ่
 5. การดำเนินธุรกิจทุกประเภท ( การผลิต การจำหน่าย และการบริการ) มีความยืดหยุ่นสูง สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน การผลิต และการค้าที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว ตลอดจนการผลิตสินค้าและการบริการที่มุ่งความหลากหลาย รวดเร็ว มากกว่ามุ่งปริมาณ

 ข้อเสีย
 1.ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขาดความรู้ด้านการตลาด เมื่อผลิตสินค้าออกมาแล้วไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้ จึงประสบปัญหาการขาดทุนและปิดกิจการ
 2.ผู้ประกอบการมักขาดความรู้ในการจัดการหรือการบริหารงานที่เป็นระบบ เพราะส่วนใหญ่จะใช้ประสบการณ์จากการเรียนรู้และอาศัยบุคคลในครอบครัวเป็นหลัก
 3.ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มักใช้เทคนิคการผลิตไม่ซับซ้อน เนื่องจากมีต้นทุนต่ำ จึงทำให้ธุรกิจไม่สามารถผลิตสินค้าผูกขาดได้เหมือนกับธุรกิจขนาดใหญ่
 4.ไม่สามารถรักษาแรงงานที่มีฝีมือและมีความชำนาญงานไว้ได้ เพราะแรงงานเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น มักจะย่อมออกไปทางานในสถานประกอบการที่มีขนาดใหญ่มีระบบ และผลตอบแทนที่ดีกว่า
 5.ผู้ประกอบการมักขาดแคลนเงินทุนหรือขยายกิจการไม่ได้ เนื่องจากขาดความน่าเชื่อถือจากสถาบันทางการเงิน

ประโยชน์ของธุรกิจขนาดย่อมต่อสังคมและเศรษฐกิจ
 เพิ่มการว่าจ้างแรงงานในระบบเศรษฐกิจ
 เป็นแหล่งที่มาของประดิษฐกรรมใหม่
 ส่งเสริมการแข่งขันเสรี
 สนับสนุนธุรกิจขนาดใหญ่
 ช่วยพัฒนาศักยภาพของบุคคล
 ช่วยกระจายรายได้ให้กับประชาชนกลุ่มใหญ่
แนวโน้มของธุรกิจขนาดย่อม
 เพิ่มการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ
 มุ่งส่วนตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market)
 การรวมกลุ่มกันทางธุรกิจ
 มีการแข่งขันที่รุนแรง
 ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน

ความสำเร็จของธุรกิจขนาดย่อม
 ความเป็นอิสระและคล่องตัว
 ความเอาใจใส่ใกล้ชิดลูกค้า
 การสร้างนวัตกรรมใหม่ให้แก่สินค้า
 แรงจูงใจจากผลกำไรของธุรกิจ

สาเหตุแห่งความล้มเหลวของธุรกิจขนาดย่อม
 เงินทุนดำเนินการไม่เพียงพอ
 การจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ
 ผู้ประกอบการขาดศักยภาพในการเป็นนักธุรกิจที่ดี
 ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น แรงงานฝีมือ ทำเลที่ตั้ง

ธุรกิจขนาดย่อมมีลักษณะสำคัญ 4 ประการ
 ความต้องการด้านเทคนิคและวิชาการมีน้อยมาก
 เจ้าของหรือผู้บริหารมีประสบการณ์ในการบริหารไม่มากนัก
 ตลาดของธุรกิจขนาดย่อมมีขอบเขตจำกัดอยู่ในท้องถิ่นนั้น
 ความต้องการเงินทุนเริ่มแรกมีน้อย
คุณสมบัติของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม
 ต้องกล้าเสี่ยงอย่างมีเหตุผล
 ต้องมีความมั่นใจในตนเอง
 ต้องเป็นผู้ที่ชอบทำงานหนักและทนทานต่อการทำงาน
 ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการกำหนดเป้าหมาย มีการวางแผนเป็นขั้นตอนที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ
 ต้องเป็นผู้ที่พร้อมที่จะรับผิดชอบต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของธุรกิจและจะต้องมีมาตรการที่จะควบคุมให้ธุรกิจดำเนินอยู่ตลอดไป
 ต้องเป็นผู้ที่มีความคิดในทางสร้างสรรค์ที่จะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด

สาเหตุที่ทำให้บุคคลสนใจในการทำธุรกิจขนาดย่อม
 มีความภูมิใจในการเป็นเจ้าของธุรกิจเพื่อเป็นการสร้างการยอมรับจากสังคมมากกว่าการเป็นลูกจ้าง
 การดำเนินธุรกิจขนาดย่อมเป็นงานที่สามารถสร้างความสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้นผู้ดำเนินธุรกิจสามารถแสดงความสามารถในการบริหารงานได้อย่างเต็มความ สามารถ
 ผู้ดำเนินธุรกิจมีความเป็นอิสระในการบริหารงานได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของบุคคลอื่นทำให้สามารถตัดสินใจและ แก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง

แหล่งเงินทุน
 แหล่ง เงินทุนจากส่วนของเจ้าของ : เงินออมส่วนตัวอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ หุ้นส่วน หรือโดยการขายหุ้นของบริษัทจำกัด
 แหล่ง เงินทุนจากการก่อหนี้ : ธนาคารพาณิชย์ ผู้จำหน่ายสินค้า ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายอุปกรณ์ บริษัทการเงิน บริษัทประกันภัย และนักลงทุนเอกชน




Create Date : 12 กรกฎาคม 2553
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 16:50:46 น. 5 comments
Counter : 23732 Pageviews.

 
ดีครับ


โดย: ไชยา IP: 203.172.219.178 วันที่: 14 กันยายน 2554 เวลา:10:58:18 น.  

 
ปรับปรุง


โดย: เรณู IP: 1.2.246.95 วันที่: 14 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:28:40 น.  

 
อ่อ..


โดย: 11 IP: 223.204.64.135 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:38:28 น.  

 
ขอบคุณค่ะ กำลังจะเริ่มเรียนวิชาการสร้างและการจัดการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอยุ่พอดีค่ะ


โดย: kan IP: 117.47.42.144 วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:14:20:24 น.  

 
ขอบคุณค่ะ กำลังจะเริ่มเรียนวิชาการสร้างและการจัดการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมอยุ่พอดีค่ะ


โดย: kan IP: 117.47.42.144 วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:14:21:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Benjawan_B
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 93 คน [?]




วิทยากร, ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRM & HRD), การบริหารความเสี่ยงองค์กร, การจัดการมาตรฐานแรงงาน, กฎหมายแรงงาน,เขียนหนังสือและบทความ
New Comments
Friends' blogs
[Add Benjawan_B's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.