|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
บทที่ 1 การบริหารธุรกิจขนาดย่อม Small Business Management
ความหมายของธุรกิจ SMEs หรือ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
ธุรกิจ หมายถึง การดำเนินกิจกรรมทางด้านการผลิต การจำหน่าย และการบริการ ธุรกิจขนาดย่อม หมายถึง ธุรกิจที่เป็นอิสระ มีเอกชนเป็นเจ้าของ ดำเนินการโดยเจ้าของเอง ไม่เป็นเครื่องมือของธุรกิจใด ไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของบุคคล หรือธุรกิจอื่น มีต้นทุนในการดำเนินงานต่ำและมีพนักงานจำนวนไม่มาก
Small and Medium Enterprises SMEs : วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ที่มา : พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.2543 มาตรา 4) หมายถึง กิจการอุตสาหกรรมการผลิต ( Manufacturing ) ค้าส่งและค้าปลีก ( Wholesale and Retail ) บริการ ( Service ) ขนาดของกิจการ SMEs 1. จำนวนการจ้างงาน 2. ทุนจดทะเบียน 3. เงินลงทุน 4. ยอดขาย 5. สินทรัพย์ถาวร วิสาหกิจขนาดย่อม จ้างงานไม่เกิน สินทรัพย์ถาวรไม่เกิน กิจการผลิต 50 คน 50 ล้านบาท กิจการ ค้าส่ง 25 คน 50 ล้านบาท ค้าปลีก 15 คน 30 ล้านบาท กิจการบริการ 50 คน 50 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดกลาง จ้างงาน สินทรัพย์ถาวร กิจการผลิต 50-200 คน 50-200 ล้านบาท กิจการ ค้าส่ง 26-50 คน 50-100 ล้านบาท ค้าปลีก 16-30 คน 30-60 ล้านบาท กิจการบริการ 51-200 คน 50-200 ล้านบาท
ความสำคัญของธุรกิจขนาดย่อม
ช่วยในการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกิดการจ้างงานซึ่งเป็นตัวช่วยให้โครงสร้างทางเศรษฐกิจและสังคมดีขึ้น เป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจขนาดใหญ่ ทำให้ธุรกิจมั่นคงมียอดการผลิตที่สูงขึ้น และมีการนำเทคโนโลยีที่สูงขึ้นมาใช้ในการผลิต เป็นฐานไปสู่ธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นแหล่งผลิตสินค้าใหม่ๆ เป็นการรวมกลุ่มของบุคคลร่วมกันคิดและผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาสู่ตลาด โดยที่ธุรกิจขนาดใหญ่ไม่กล้าเสี่ยงต่อการลงทุน
ข้อเปรียบเทียบระหว่างธุรกิจลักษณะของธุรกิจขนาดย่อม 1.โครงสร้างของธุรกิจไม่มีความสลับซับซ้อนมากนัก การบริหารธุรกิจสามารถใช้แรงงานครอบครัวมาช่วยในการผลิตสินค้าและบริการ ทำให้ต้นทุนค่าแรงงานต่ำ 2.มีความคล่องตัวในการปรับตัวให้เข้ากับสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจมีอิสระในการทำงานทำให้สามารถตัดสินใจในเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆของธุรกิจได้ทันที 3.การเข้าถึงลูกค้าของธุรกิจมักทำได้ดีกว่าธุรกิจขนาดใหญ่ เพราะธุรกิจขนาดย่อมจะมีอยู่ในท้องถิ่นนั้นๆ ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการของท้องถิ่นได้อย่างรวดเร็ว 4.ธุรกิจขนาดย่อมใช้เงินลงทุนต่ำ แรงงานมีจำนวนน้อย ผู้บริหารดำเนินการแต่เพียงผู้เดียว หรือโดยกลุ่มผู้บริหารเพียงไม่กี่คน ทำให้ผู้บริหารมีแรงจูงใจในการดำเนินงาน เนื่องจากผลกำไรที่ได้จะเป็นของผู้ดำเนินการทั้งหมด ลักษณะของธุรกิจขนาดย่อม (ต่อ) 5.ยอดขายมีน้อย เนื่องจากท้องถิ่นบางแห่งมีประชากรและอำนาจซื้อน้อย จนธุรกิจขนาดใหญ่ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ หรือไม่ต้องการเข้าไปแข่งขันกับธุรกิจขนาดเล็ก เนื่องจากมียอดขายน้อย ตลาดเหล่านี้จึงเป็นตลาดของธุรกิจขนาดย่อม 6.ผู้ประกอบการมีแรงจูงใจสูงทำให้ทำงานหนักและเสียสละ เพราะผลของการทำงานหนักก็จะกลับเป็นผลกำไรที่ตกมาถึงผู้ประกอบการโดยตรง 7.มีความคล่องตัวในการจัดการ เนื่องจากสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี เครื่องจักร เครื่องมือการผลิต การแข่งขันฯ ซึ่งผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมสามารถตัดสินใจปรับปรุง เปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วกว่า
ประเภทธุรกิจ วิสาหกิจขนาดย่อม ธุรกิจการผลิต (Manufacturing Business) เป็นธุรกิจที่นำเอาวัตถุดิบและปัจจัยนำเข้าต่างๆมาผ่านกระบวนการแปรสภาพจนกลายเป็นสินค้า การจ้างงานไม่เกิน 50 คน มูลค้าสินทรัพย์ถาวรไม่เกิน 50 ล้านบาท ธุรกิจบริการ (Service Business) เป็นธุรกิจหรือกิจการที่พนักงานทำหน้าที่ให้บริการต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า มีจำนวนการจ้างงานไม่เกิน 50 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวร ไม่เกิน 50 ล้านบาท วิสาหกิจขนาดกลาง ธุรกิจการผลิต (กิจการผลิตสินค้า) มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 50 คน แต่ไม่เกิน 200 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวรเกินกว่า 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท ธุรกิจการจำหน่าย ( กิจการซื้อมาขายไป ) การค้าส่ง มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 25 คน แต่ไม่เกิน 50 คนหรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวร กว่า 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาท การค้าปลีก เป็นกิจการที่มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 15 คน แต่ไม่เกิน 30 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวรเกินกว่า 30 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 60 ล้านบาท ธุรกิจการบริการ (กิจการบริการ) มีจำนวนการจ้างงานเกินกว่า 50 คน แต่ไม่เกิน 200 คน หรือมีมูลค่าสินทรัพย์ถาวร เกินกว่า 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท
ข้อดี และข้อเสียของธุรกิจขนาดย่อม ข้อดี 1. ผู้ประกอบการสามารถทำในสิ่งที่ตนเองชอบ ถนัด และมีวิถีชีวิตตามที่ตนเองต้องการ หากมีความรู้ความสามารถในการจัดการที่ดี 2. การทำธุรกิจทำได้ง่ายเพราะใช้ปัจจัยในการดำเนินกิจการต่างๆ ไม่มาก 3. ผู้ประกอบการมีความเป็นอิสระ และคล่องตัวในการบริหารกิจการได้อย่างทั่วถึง และใกล้ชิด 4. ถ้าการดำเนินกิจการประสบปัญหา หรือเกิดวิกฤติทางเศรษฐกิจ โอกาสที่จะฟื้นตัวเกิดได้ง่ายกว่ากิจการขนาดใหญ่ 5. การดำเนินธุรกิจทุกประเภท ( การผลิต การจำหน่าย และการบริการ) มีความยืดหยุ่นสูง สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน การผลิต และการค้าที่ต้องการการตอบสนองที่รวดเร็ว ตลอดจนการผลิตสินค้าและการบริการที่มุ่งความหลากหลาย รวดเร็ว มากกว่ามุ่งปริมาณ
ข้อเสีย 1.ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขาดความรู้ด้านการตลาด เมื่อผลิตสินค้าออกมาแล้วไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้ จึงประสบปัญหาการขาดทุนและปิดกิจการ 2.ผู้ประกอบการมักขาดความรู้ในการจัดการหรือการบริหารงานที่เป็นระบบ เพราะส่วนใหญ่จะใช้ประสบการณ์จากการเรียนรู้และอาศัยบุคคลในครอบครัวเป็นหลัก 3.ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มักใช้เทคนิคการผลิตไม่ซับซ้อน เนื่องจากมีต้นทุนต่ำ จึงทำให้ธุรกิจไม่สามารถผลิตสินค้าผูกขาดได้เหมือนกับธุรกิจขนาดใหญ่ 4.ไม่สามารถรักษาแรงงานที่มีฝีมือและมีความชำนาญงานไว้ได้ เพราะแรงงานเมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น มักจะย่อมออกไปทางานในสถานประกอบการที่มีขนาดใหญ่มีระบบ และผลตอบแทนที่ดีกว่า 5.ผู้ประกอบการมักขาดแคลนเงินทุนหรือขยายกิจการไม่ได้ เนื่องจากขาดความน่าเชื่อถือจากสถาบันทางการเงิน
ประโยชน์ของธุรกิจขนาดย่อมต่อสังคมและเศรษฐกิจ เพิ่มการว่าจ้างแรงงานในระบบเศรษฐกิจ เป็นแหล่งที่มาของประดิษฐกรรมใหม่ ส่งเสริมการแข่งขันเสรี สนับสนุนธุรกิจขนาดใหญ่ ช่วยพัฒนาศักยภาพของบุคคล ช่วยกระจายรายได้ให้กับประชาชนกลุ่มใหญ่ แนวโน้มของธุรกิจขนาดย่อม เพิ่มการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต่างๆ มุ่งส่วนตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) การรวมกลุ่มกันทางธุรกิจ มีการแข่งขันที่รุนแรง ยึดหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินงาน
ความสำเร็จของธุรกิจขนาดย่อม ความเป็นอิสระและคล่องตัว ความเอาใจใส่ใกล้ชิดลูกค้า การสร้างนวัตกรรมใหม่ให้แก่สินค้า แรงจูงใจจากผลกำไรของธุรกิจ
สาเหตุแห่งความล้มเหลวของธุรกิจขนาดย่อม เงินทุนดำเนินการไม่เพียงพอ การจัดการที่ไร้ประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการขาดศักยภาพในการเป็นนักธุรกิจที่ดี ปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น แรงงานฝีมือ ทำเลที่ตั้ง
ธุรกิจขนาดย่อมมีลักษณะสำคัญ 4 ประการ ความต้องการด้านเทคนิคและวิชาการมีน้อยมาก เจ้าของหรือผู้บริหารมีประสบการณ์ในการบริหารไม่มากนัก ตลาดของธุรกิจขนาดย่อมมีขอบเขตจำกัดอยู่ในท้องถิ่นนั้น ความต้องการเงินทุนเริ่มแรกมีน้อย คุณสมบัติของผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อม ต้องกล้าเสี่ยงอย่างมีเหตุผล ต้องมีความมั่นใจในตนเอง ต้องเป็นผู้ที่ชอบทำงานหนักและทนทานต่อการทำงาน ต้องเป็นผู้ที่มีความสามารถในการกำหนดเป้าหมาย มีการวางแผนเป็นขั้นตอนที่จะนำไปสู่เป้าหมายที่วางไว้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเป็นผู้ที่พร้อมที่จะรับผิดชอบต่อความสำเร็จหรือความล้มเหลวของธุรกิจและจะต้องมีมาตรการที่จะควบคุมให้ธุรกิจดำเนินอยู่ตลอดไป ต้องเป็นผู้ที่มีความคิดในทางสร้างสรรค์ที่จะนำผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ ออกสู่ตลาด
สาเหตุที่ทำให้บุคคลสนใจในการทำธุรกิจขนาดย่อม มีความภูมิใจในการเป็นเจ้าของธุรกิจเพื่อเป็นการสร้างการยอมรับจากสังคมมากกว่าการเป็นลูกจ้าง การดำเนินธุรกิจขนาดย่อมเป็นงานที่สามารถสร้างความสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้นผู้ดำเนินธุรกิจสามารถแสดงความสามารถในการบริหารงานได้อย่างเต็มความ สามารถ ผู้ดำเนินธุรกิจมีความเป็นอิสระในการบริหารงานได้ตามความต้องการโดยไม่ต้องอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของบุคคลอื่นทำให้สามารถตัดสินใจและ แก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง
แหล่งเงินทุน แหล่ง เงินทุนจากส่วนของเจ้าของ : เงินออมส่วนตัวอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์ หุ้นส่วน หรือโดยการขายหุ้นของบริษัทจำกัด แหล่ง เงินทุนจากการก่อหนี้ : ธนาคารพาณิชย์ ผู้จำหน่ายสินค้า ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายอุปกรณ์ บริษัทการเงิน บริษัทประกันภัย และนักลงทุนเอกชน
Create Date : 12 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2553 16:50:46 น. |
|
5 comments
|
Counter : 23732 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ไชยา IP: 203.172.219.178 วันที่: 14 กันยายน 2554 เวลา:10:58:18 น. |
|
|
|
โดย: เรณู IP: 1.2.246.95 วันที่: 14 กรกฎาคม 2555 เวลา:12:28:40 น. |
|
|
|
โดย: 11 IP: 223.204.64.135 วันที่: 19 พฤศจิกายน 2555 เวลา:20:38:28 น. |
|
|
|
โดย: kan IP: 117.47.42.144 วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:14:20:24 น. |
|
|
|
โดย: kan IP: 117.47.42.144 วันที่: 6 มีนาคม 2556 เวลา:14:21:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
เชียงใหม่ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 93 คน [?]

|
วิทยากร, ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRM & HRD), การบริหารความเสี่ยงองค์กร, การจัดการมาตรฐานแรงงาน, กฎหมายแรงงาน,เขียนหนังสือและบทความ
|
|
|
|
|
|
|
|