โฮจิมินห์ - กินกะช้อปจนสะใจ
หลังกลับมาจากเวียดนาม พี่ชายเราถามว่า ไปเวียดนาม ได้กินแหนมเนืองป่าว .............. งงเจ้าค่ะ...ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่กินๆเข้าไปมันใช่แหนมเนืองที่พี่เราหมายถึงหรือเปล่า เพราะหน้าตาแหนมเนืองเวียดนาม กะแหนมเนืองไทยมันค่อนข้างแตกต่างกันแยะเอาการ แหนมเนืองไทย น้ำจิ้มข้นคลั่กเหมือนน้ำมะขาม กินกับมะม่วง มะเฟือง กล้วยดิบ พริกสด สมุนไพรนานาชนิด แหนมเนืองเวียดนาม น้ำจิ้มเป็นน้ำปลาผสมน้ำตาลใสๆ มีกระเทียมกะพริกลอยด้านใน กินกับผักรสจืดและขนมจีน ด้วยความที่ค่อนข้างแตกต่างในรายละเอียด ก็ใช้วิจารณญาณในการรับชมนะคะ ว่าระหว่างแหนมเนืองไทย กะแหนมเนืองพี่เวียด อยากชอบอันไหนกันแน่ แต่ที่เอ๋น้อยติดใจเอามากๆจนแทบซื้อติดกระเป๋ากลับบ้านมาก็คือ น้ำปลา เจ้าค่ะ ได้ยินแล้วเจ้าบูถึงกับร้องแว้ก...ไม่กลัวจะแตกหรือไงจ๊ะหนู...แหมก็น้ำปลาเวียดนามหอมกรุ่น เค็มกำลังดี สีใสแจ๋ว น่าเก็บกลับมาทำกับข้าวที่ซู้ดดดดด ส่วนใหญ่พี่เวียดเค้าจะเอามาผสมกับน้ำตาลเพื่อเจือจาง โรยพริกสดลงไปนิด ใช้เป็นน้ำจิ้มกับอาหารแทบทุกอย่างในเมนู ถ้าลองแวะเข้าไปดูตามมซูเปอร์มาร์เก็ตก็จะเห็นน้ำปลาผสมเสร็จวางขายในราคาย่อมเยา ไปเมืองลุงโฮฯคราวนี้ เรากะเจ้าบูพลิกไกด๊บุ๊คบ้าง หรือไม่ก็อาศัยอ่านจากนิตยสารแล้วก็เดินผ่านๆ ดมกลิ่นแล้วคิดว่าน่าจะอร่อยก็พุ่งตัวเข้าไปเสี่ยงชิมกัน อย่างร้านแรก Nhu Lan ได้มาจากนิตยสาร OOM ฉบับเวียดนาม Nhu Lan อาหารท้องถิ่น ราคามิตรภาพ Nhu Lan เป็นร้านขายอาหารท้องถิ่นแท้ๆขึ้นชื่อที่เปิดขายมานาน จานหลักเป็นบาร์เก็ตต์สอดไส้หมูยอ หรือเนื้อ และเฝอค่ะ บรรยากาศในร้านซึ่งเป็นหัวมุมพอดีค่อนข้างคึกคัก มีคนแวะเวียนเข้ามานั่งกินหรือไม่ก็จอดมอไซค์ซื้อบาร์เก็ตต์ที่เขาอบวันต่อวันกลับบ้านกันอย่างต่อเนื่อง เราไปนั่งกินในร้านแล้วหลุดปากออกมาว่า แหม...เหมือนบรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือนไม่มีผิด ร้านนี้เป็นร้านแรกๆในเวียดนาที่เริ่มทำไส้กรอกเองเสียด้วย...เจ๋งป่ะล่ะ เราสองคนเข้าไปทำคอยาวมองคนอื่นว่าเขาสั่งอะไรกัน แต่ก็ไม่อยากกินเฝอ เลยสั่งข้าวเกรียบปากหม้อและบาเก็ตต์ไส้เนื้อมาลองกินกัน ตลกตอนอาหารมานั่นแหละที่ไม่แน่ใจว่า ข้าวเกรียบปากหม้อที่เสิร์ฟมาพร้อมกับหมูยอสองชิ้นนั้นน่ะควรจะกินยังไง พี่สาวชาวเวียดข้างตัวเลยยื่นจานพริกกะกระเทียม ทำท่าบอกให้ตักใส่ในถ้วยน้ำปลาที่เสิร์ฟมาพร้อมกันสิ เรารีบขอบอกขอบใจ และกินข้าวเกรียบปากหม้อกะน้ำปลาเวียดหมดจานอย่างรวดเร็วชนิดทำลายสถิติ...อร่อยมาก! ขณะที่บาเก็ตต์นั้นขนมปังอร่อยไม่แพ้กัน เจ้าบูการันตีว่าของเค้าดีจริงๆ กรอบกรุบด้านนอก ด้านในนุ๊มนุ่ม สอบผ่านจ้ะ...และดียิ่งกว่านั้นเสียอีกคือ นอกจากอาหารท้องถิ่นจะอร่อยแล้ว ราคาก็ถูกแสนถูก เหมาะจะมาลิ้มลองด้วยประการทั้งปวง Quan An Ngon ฟู้ดคอร์ตไร้แอร์ เฝอเมืองเว้เขาล่ะ...บึ๋ยๆ เนื้อจิ้มกะพริกเกลือ เมนูใหม่ในชีวิต เนื้อสารพัดปรุง กินกับผักสารพัดอย่าง ส่วนร้านเหลืองนี้ขอบอกว่าคนแยะมาก มาทีไรก็มักต้องต่อคิวรอทุกที แต่แค่ไม่เกิน 5 นาทีก็จะได้คิวเจ้าค่ะไม่ต้องห่วง เพราะโต๊ะเค้าแยะมาก ไม่รู้น้องสาวที่เป็นคนจัดคิวทำได้ยังไงเพราะแกไม่เห็นจดชื่อแซ่เลยสักคน อาศัยจำเอาว่าใครมาก่อนมาหลัง ถ้าใครคิดไม่ออกว่าจะกินอะไรขอแนะนำให้แวะมาร้านนี้ เพราะเจ้าของที่เป็นคนต่างชาติ เดินท่อมๆไปทั่วโฮจิมินห์เพื่อตามหาร้านอร่อยกว่า 20 ร้านซึ่งเมนูแตกต่างกันออกไป ถูกใจร้านไหนก็จ้างเชฟประจำร้านมาทำอาหารให้ที่นี่ เพราะฉะนั้นบรรยากาศของร้านก็จะเหมือนฟู้ดคอร์ทที่ไม่มีแอร์ และมีอาหารอร่อยๆให้เลือกกินมากมายไม่รู้จบ ไปสองครั้งเราสั่งอาหารไม่ซ้ำกันเลยสักเมนู แต่ที่แปลกคือของย่างที่นี่มีให้เลือกว่าอยากเสิร์ฟกินพร้อมกับพริกและเกลือหรือน้ำจิ้มอย่างอื่น เราเลยลองสั่งเนื้อย่างมากินกะพริกเกลือ ซึ่งเป็นรสชาติที่ค่อนข้างประหลาดล้ำ เพราะที่เห็นคือพริกผสมกับเกลือเพียวๆ(อาจมีผงชูรสบ้างเล็กน้อย ชูกำลัง) รสออกเค็มอย่างเดียว มีผักชีกองใหญ่กับขนมปังทามาการีนมาให้แนมลดระดับเกลือในเลือดเล็กน้อย กว่าจะกินหมดเล่นเอาแทบจุก เพราะจานใหญ่มากกกกกกก ถ้าใครเกลียด กะปิ ล่ะก็ อย่าได้พยายามสั่งอาหารที่ลงท้ายด้วยคำว่า Hue Style เพราะอาหารเมืองเว้มักใส่กะปิปะปนมาด้วย ไอ้เราก็ไม่รู้ อยากลองกินเฝอแบบอื่นบ้าง ปรากฏว่าเฝอแบบ Hue Style นั้นมีหมูสามชั้นก้อนบึ้ม เลือดหมูขนาดมหึมา และเส้นหมี่ลอยคออยู่ในน้ำซุปที่กลิ่นกะปิหึ่งฉึ่ง! กินกับหัวปลีหั่นฝอยกองโต...จำได้ว่ากว่าจะกินถ้วยนั้นหมด พะอืดพะอมเสียแทบแย่ (แต่ก็ยกให้เจ้าบูกินซะส่วนใหญ่น่ะนะ) Quoc Ky
ริมทางสุดเริด อย่างที่เคยเขียนไว้ว่าพวกเราชอบกินเฝอกันมาก โดยเฉพาะเฝอริมทางที่มักจะอร่อยล้ำกว่าเฝอฟู้ดคอร์ท เจ้าบูเลยแยงๆให้ลองชิมเฝอร้านนี้ดู ซึ่งเห็นแล้วก็ต้องบอกว่าระดับความสะอาดสูงกว่าร้านริมทางทั่วๆไปแยะเอาการ นั่งๆไปเห็นมีคนโลคอลมากินกัน ไม่มีเจ็กจีนพูดภาษาเวียดไม่ได้อย่างเราสองคนโผล่มาให้เห็น คุณป้าคุณน้าก็เลยพูดภาษาอังกฤษกันไม่ค่อยได้ แต่ไม่เป็นไร ทุกคนน่ารักมาก พอลองกินแล้วน้ำซุปหอมอร่อย เจ้าบูซดเสียเกลี้ยงชาม แถมยังมีปาท่องโก๋ให้กินแนมด้วย Huong Lai Restaurant อาหารเวียดนามเจ้าของเป็นญี่ปุ่นใจดี ที่รู้จักร้านนี้เพราะเห็นแผ่นพับโฆษณาเล็กๆวางไว้ที่ร้านเสื้อโปรดของเรา Theu Theu เค้าโฆษณาไว้ว่าที่นี่ทำอาหารเวียดนามเรียบง่าย เน้นความสดและอร่อย เสิร์ฟอาหารเป็นคอร์สทั้งตอนกลางวันและเย็น (ไม่คอร์สก็มีแต่แบบคอร์สคุ้มกว่าแยะค่ะ) ก็เลยขอแวะไปเสียหน่อย ก็คนมันใจง่าย แถมน้องๆร้าน Theu Theu น่ารักมาก ดูแลลูกค้าแบบไม่ทำให้เรารู้สึกอึดอัดและนอบน้อมสุดริด ติดใจค่ะเลยตั้งใจไปกินร้านญาติโยมของร้านน่ารักๆแบบนี้ให้ได้ และพอเราไปที่ร้านจริงก็รู้สึกชอบมาก เพราะนอกจากน้องๆจะบริการดี เอาใจใส่เหมือนน้องๆที่ร้าน Theu Theu แล้ว หน้าแรกของเมนูเค้าเขียนบอกไว้ว่าเด็กที่ร้านบางคนเป็นเด็กข้างถนนไม่มีโอกาสในชีวิต เค้าจะเอาเด็กพวกนี้มาเทรนงานในร้าน ฝึกอาชีพให้ แล้วก็ส่งเสียให้ได้เรียนหนังสือ พอเรียนจบใครอยากทำงานที่ร้านต่อก็ได้ หรือจะไปทำอย่างอื่นก็ไม่มีปัญหา ... อ่านแล้วยิ่งรักมากขึ้น อ้ะ...เจ้าบูสั่งอาหารซิ!! แค่เครื่องดื่มเสิร์ฟมาเราก็สนุกแล้ว เพราะเจ้าบูสั่งน้ำมะนาวซึ่งมาแบบแยกมะนาว แยกน้ำเชื่อม โซดา และน้ำแข็งให้เรามาชงเอง...เจ๋งอ้ะ DIY น้ำมะนาว ที่เซอร์ไพรส์คือร้านนี้อาหารอร่อยแทบทุกอย่าง...ทุกอย่างจริงๆ คือตอนแรกไม่ได้ตั้งความหวังอะไรมาก คิดว่าคนญี่ปุ่นมาทำอาหารเวียดนามมันจะไปอร่อยเท่าคนเวียดจริงๆได้ไง ปรากดว่าเรารักร้านนี้สุดๆ และเสียดายที่กินเป็นมื้อสุดท้ายในเมืองลุงโฮฯ โดยเฉพาะหมูและไข่ต้มซีอิ๊วเราแย่งกินกะเจ้าบูขนาดไม่ให้เหลือน้ำซุป มะเขือยาวโรยต้นหอมที่ปกติเราไม่ชอบก็ตักเขาปากไม่ยั้ง ซุปเผือกแบบเค็มนิดๆ ลื่นๆหน่อยเราก็ยังซดจนหมด โอย...คิดถึง ขอยกให้เป็นร้านสุดเริ่ดประจำใจเลยทีเดียว DIY น้ำมะนาว อาหารอร่อยทุกเมนู The Refinery ฝรั่งเศสต้นฉบับในโฮจิมินห์ ทริปนี้ถ้าเป็นไปได้เราสองคนจะเลือกกินอาหารเวียดนามก่อนเสมอ แต่มื้อหนึ่งก็รู้สึกถูกใจร้าน The Refinery จนต้องขอแอบโกง กินอาหารฝรั่งเศสบ้าง ดูทางเข้าแล้วก็โหย...ร้านนี้ยังเปิดอยู่หรือเปล่าฟระ เพราะรกร้างเหมือนตึกโดนทุบเหลือเกิน แต่พอไปนั่งแล้วคนเต็มร้านเชียวค่ะ ส่วนใหญ่ก็ฝรั่งมังค่าทั้งนั้น ที่สำคัญคืออาหารฝรั่งเศสร้านนี้เขาอร่อยได้ใจได้จิตจริงๆ บาเกตต์ที่เสิร์ฟมารองท้องก็ไม่หนอน ซุปหัวหอมกะชีสจานแรกนี่เรียกว่าไม่เหลือน้ำซุปติดก้นจานค่ะ อร่อยมากกกกกก เราสั่ง Chicken & Avocado อกไก่เสิร์ฟพร้อมอะโวคาโดและมันบดชีส (ฟังแล้วอ๊วนอ้วนเนอะพี่ทั่น) แต่ก็มีผักย่างสารพัดชนิดกองมาให้ด้วย เป็นจานที่หอมครีมเอามากๆ แต่ด้วยความที่ลิ้นไม่คุ้นเคยกับของพรรค์นี้ กินได้แค่ครึ่งจานก็ขอบายเจ้าค่ะ
ส่วนเจ้าบูสั่ง Steak Frites สเต็กกับเฟรนช์ฟรายส์ มีมะเขือเทศโรยโรสแมรี่มาให้ลูกนึง กินแล้วเข้ากันดี๊ดี แย่งเจ้าบูกินนิดๆหน่อยๆนี่มันอร่อยจัง (แต่ของตัวเองยังเหลือแหะๆ) ทางเข้าขวามือเหลืองๆจ้ะ...ยังกะถูกทุบไปแล้วงั้นน่ะ ซุปหัวหอมอร่อยมากกกกก ยัม ยัม ชอบแบบไหนสไตล์ไหนก็เลือกรับประทานกันได้ตามสบายใจชอบนะเคอะ แต่ถ้าใครอยากนั่งดื่มอะไรชิลล์ๆตอนกลางคืนล่ะก็ ขอแนะนำดาดฟ้าตึกโรงแรม Caravelle เพราะเค้ามีบาร์สุดฮิปอยู่ตรงนั้น มองลงมาก็จะเห็นวิวเมืองลุงโฮฯใน district 1 ได้เกือบหมด คืนที่เราไปเป็นละตินไนท์ ก็จะมีนักร้องละตินมาร้องให้ลุงๆป้าๆ ออกมาแด๊นซ์กระจายกันเป็นที่สนุกสนานครื้นเครง สำหรับสาวนักช้อป ที่นี่คือสวรรค์ย่อยๆเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะสาวหวานทั้งหลาย เพราะเมืองโฮฯเป็นแหล่งลูกไม้ขึ้นชื่อ เมื่อมันมารวมกับวิธีการตัดเย็บละเมียดละไมของคนญี่ปุ่นที่เข้ามาอยู่แล้วล่ะก็ เอ๋น้อยแทบหมดตัวออกจากร้านเลยก็ว่าได้เจ้าค่ะ ขอเรียงลำดับความเริดตามความคิดเลยก็แล้วกัน Theu Theu ชอบตรงบริการน่ารัก อบอุ่นแต่ไม่อึดอัด กระเป๋าผ้าใบจิ๋วจ้อยปักลายให้เลือกหลายแบบ มีผ้ากันเปื้อน ที่รองแก้ว และเสื้อสไตล์ญี่ปุ่นจ๋าวางขาย แต่ข้อไม่ดีของร้านนี้มีอย่างเดียว ราคาไม่ถูกนะเคอะ เหอๆๆ Song ตั้งใจว่าอยากไปซื้อเดรสจากร้านนี้สักตัว แต่ปรากดว่าคอลเลคชั่นนี้ไม่ถูกจริตเอ๋น้อยเจ้าค่ะ (ดีแล้ว เพราะราคาก็ใช่ย่อยน่ะค่ะพี่น้อง) เลยได้แต่หมอนปัก กระเป๋าถือเล็กๆจิ๋วๆมา เจ้าบูยังได้กูกูนูผ้าฝ้ายสีขาวสะอาดบริสุทธิ์มาถึงสามตัว ร้านนี้ค่อนข้างอินเตอร์กว่าร้านอื่นๆ เพราะคุณ Valerie Gregorie McKenzie ดีไซเนอร์ฝรั่งเศส ที่ลงหลักปักฐานในโฮฯ ทำทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ ของแต่งบ้านแบรนด์ Song ด้วยวัสดุที่มีในเวียดนาม จนทุกวันนี้ได้ไปวางขายใน Saks Fifth Avenue นิวยอร์กปู้นนู้น และกำลังจะมาเปิดร้านที่เมืองไทยด้วยจ้ะ ถ้าใครผ่านตานิตยสาร Elle Decoration จะเห็นว่าบ้านพี่แกสุดยอด
น่ารักมากๆ แถมยังติดริมน้ำอีกตะหาก Liti ร้านนี้ผ้าปักลูกไม้สไตล์ฝรั่งเศสแยะมาก รวมถึงของใช้ในบ้านกระจุกกระจิก กระจ๊อกกระแจ๊ก ผ้าเช็ดหน้าลายจุดตรงขอบเป็นลูกไม้ กระเป๋าเด็ก เสื้อเด็กน่ารักสุดๆจนอยากซื้อมาเก็บไว้ก่อน (ทั้งที่ยังไม่มีแผนการมีเบบี๋) กระเป๋าปักลายก็น่ารักใช่ย่อย เราได้ของฝากจากร้านนี้แยะเอาการอยู่Nagu ร้านนี้เราติดใจมาตั้งแต่แวะไปที่ฮานอย ขายตุ๊กตาหมีน่ารัก ผ้ากันเปื้อน กระเป๋า ของใช้จุกจิกทำจากผ้าลายดอกและหนัง รองเท้าแตะใส่ในบ้านน่าร๊ากกกสุดๆ (ซึ่งบัดนี้ใส่จนเน่าเปื่อย) แต่แวะเข้าไปเที่ยวนี้ค่อนข้างเหี่ยว เพราะไม่มีอะไรใหม่ๆให้สอยมาใช้เลย แถมของน้อยกว่าที่ฮานอยหลายเท่า ... Dogma ตัดอารมณ์นิดหน่อยกับ Dogma ดีไซเนอร์มาแรงชาวเวียด ที่หยิบเอาอารมณ์จากสงครามมาทำเป็นลายผ้ายืดสีแรง เส้นสายเป็นเอกลักษณ์ แต่เห็นแล้วจับไม่ค่อยลง เพราะเสื้อยืดผ้าธรรมดาๆ ราคาก็พันกว่าเข้าไปแล้ว La Bella ร้านนี้อ่านจาก Oom แล้วบอกว่า คัตติ้งเสื้อผ้าเค้าเนี้ยบจริงๆ แต่ส่องๆเข้าไปเป็นเสื้อผ้าออกแนวผู้ใหญ่หน่อยเลยไม่ได้เข้าไป Theu Theu DogmaShopping : Dogma : 29A ถนน Dong Khoi, District 1 Song : 76D ถนน Le Than Ton, Distric 1 Liti : ติดกับร้าน Song เด๊ะเลย Dining : The Refinery : 74 Hai Ba Trung Street, District 1 Huong Lai : 38 Ly Tu Trong District 1 Caravelle Hotel : 19 Lam Son Square, Dist 1 Nhu Lan : 50 Ham Nghi, Dist 1 คงจบทริปโฮฯ-ดาลัดไว้แค่นี้ก่อนจะมีคนแหวะออกมาเป็นเวียดนามกันเสียก่อน ใครอยากได้ข้อมูลไปเที่ยวเวียดนาม ฮานอย-โฮฯ-ดาลัด ถามเอ๋ได้นะคะถ้ารู้เต็มใจตอบเจ้าค่ะ และขอบคุณมากที่แวะเข้ามาร่วมแบ่งปันประสบการณ์กันค่ะ ปล.ขอบคุณกราฟฟิกน่ารักๆจากพี่จิบ - มาเรีย ณ ไกลบ้านค่ะ
Create Date : 07 ธันวาคม 2551
Last Update : 5 เมษายน 2554 19:43:59 น.
35 comments
Counter : 7361 Pageviews.
โดย: YUCCA วันที่: 7 ธันวาคม 2551 เวลา:23:50:32 น.
โดย: JewNid วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:0:00:38 น.
โดย: adaytrip วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:0:22:12 น.
โดย: ขนมจั้ง IP: 220.244.198.2 วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:5:55:04 น.
โดย: ความเจ็บปวด วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:6:04:29 น.
โดย: Tiens เทียนส์ (mlmboy ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:17:44:43 น.
โดย: chalawanman วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:18:36:23 น.
โดย: รัชชี่ (รัชชี่ ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:18:45:11 น.
โดย: paerid วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:20:45:46 น.
โดย: แซลลี่ (lazypiggy ) วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:22:09:32 น.
โดย: merecat วันที่: 8 ธันวาคม 2551 เวลา:23:20:59 น.
โดย: คนชุมแสง วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:8:04:08 น.
โดย: Jiji&Kaka วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:11:18:53 น.
โดย: Tangible วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:14:24:14 น.
โดย: Why England วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:22:07:21 น.
โดย: TweetyFly วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:0:53:02 น.
โดย: Tangible วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:12:40:43 น.
โดย: TweetyFly วันที่: 10 ธันวาคม 2551 เวลา:21:49:01 น.
โดย: แซลลี (lazypiggy ) วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:19:19:11 น.
โดย: ต้อย IP: 192.168.87.76, 202.183.219.43 วันที่: 9 กรกฎาคม 2552 เวลา:14:27:05 น.
โดย: adaytrip วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:23:30:17 น.
โดย: สาวก HANSON วันที่: 2 ธันวาคม 2552 เวลา:20:04:28 น.
โดย: Eric IP: 163.172.136.205 วันที่: 22 เมษายน 2562 เวลา:21:57:39 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [? ]
อาโหลๆ สวัสดีจ้ะ! อยากให้สิ่งที่เขียนในบล็อกนี้มีประโยชน์และเป็นแนวทางในการท่องเที่ยวของเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านไม่มากก็น้อย แวะมาแล้วก็อย่าลืมทิ้งคอมเมนต์ไว้ให้อ่านกันน้า : )
1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
ยังไม่เคยไปเวียตนามเลย ได้ข่าวว่ามีนักท่องเที่ยวมากขึ้น มีโอกาสขอไปมั่ง
ขอบคุณมากๆค่ะสำหรับนำเที่ยวครั้งนี้