bloggang.com mainmenu search

วันนี้ขอนำเที่ยวภาคกลางกันนะคะ อยุธยานั้นมีแหล่งท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาที่น่าสนใจมากๆ เริ่มกันที่อยุธยา เมืองกรุงเก่ามรดกโลก มีวัดโบราณน่าสนใจมากๆหลายวัด แต่วันนี้ขอแนะนำวัดที่เป็นไฮไลท์ของอยุธยาที่โด่งดังไปทั่วโลก นั่นคือ “วัดมหาธาตุ” ซึ่งองค์การยูเนสโกได้ภาพเลือกเศียรพระในรากต้นโพธิ์ ของวัดแห่งนี้ เป็น 1 ในที่สุดของมรดกโลกจาก 936 แห่ง ไปติดไว้ที่สำนักงานใหญ่ในประเทศฝรั่งเศส เนื่องจากเป็น 1 ในสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก




เศียรพระพุทธรูปหินทราย ซึ่งมีรากไม้ปกคลุมนี้ มีการคาดว่าเศียรพระพุทธรูปหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุง จนรากไม้ขึ้นปกคลุมมีความงดงามแปลกตามาก ชาวต่างชาติบางคนเข้าใจว่าพระพุทธรูปผุดขึ้นมาเองกับต้นโพธิ์ ยิ่งทำให้เกิดกระแสกล่าวขานกันในโลกอินเตอร์เน็ต แต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวกันจำนวนมาก โดยมาล้อมกันตรงต้นที่มีเศียรพระพุทธรูปกันเต็มไปหมด

พระปรางค์ของวัดมหาธาตุแห่งนี้ยังถือเป็นปรางค์ที่สร้างในระยะแรกของสมัยอยุธยา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากปรางค์ขอม มีหลักฐานว่าเป็นปรางค์ที่มีขนาดใหญ่มากและก่อสร้างอย่างวิจิตรสวยงามมาก มีการพบของโบราณหลายชิ้น ที่สำคัญคือ ผอบศิลา ภายในมีสถูปซ้อนกัน 7 ชั้น แบ่งออกเป็น ชิน เงิน นาก ไม้ดำ ไม้จันทร์แดง แก้วโกเมน และทองคำ ชั้นในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุและเครื่องประดับอันมีค่า ปัจจุบันพระบรมสารีริกธาตุนำไปประดิษฐานไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา



จากนั้นไปเที่ยวกันต่อที่วัดไชยวัฒนาราม วัดนี้มีความงดงามยิ่งใหญ่อลังการ เป็นวัดที่พระเจ้าปราสาททอง กษัตริย์กรุงศรีอยุธยาองค์ที่ 24 สร้างขึ้นเมื่อพ.. 2173 ได้ชื่อว่าเป็นโบราณสถานที่มีความงดงามมาก กับพระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ เป็นปรางค์ประธานของวัดตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสและที่มุมฐานมีปรางค์ทิศประจำอยู่ทั้งสี่มุม นอกจากนี้ยังมีพระอุโบสถ อยู่ด้านหน้าของวัดภายในมีซากพระประธานเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างด้วยหินทราย มองเห็นเค้าแห่งความสวยงามยิ่งใหญ่ หากล่องเรือในเวลาพลบค่ำจะเห็นภาพบริเวณวัดไชยวัฒนารามงดงามมาก



เดินทางไปต่อกันที่จังหวัดสุพรรณบุรี จุดหมายคือวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างในสมัยที่เมืองสุพรรณบุรีรุ่งเรือง ซึ่งประชาชนนิยมมานมัสการ “หลวงพ่อโต” ประดิษฐานอยู่ในวิหารสูงเด่นเห็นแต่ไกล เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ศิลปะสมัยอู่ทองสุพรรณภูมิมีลักษณะประทับนั่งห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระชานุ พระหัตถ์ขวาวางหงายบนพระชานุอีกข้างหนึ่งในท่าทรงรับของถวาย องค์พระสูงถึง 23 เมตร

ตรงข้ามวิหารวัดมีร้านขายสินค้าที่ระลึกพื้นเมืองหลายร้านให้แวะเลือกซื้อ ด้านหลังวัดมี “คุ้มขุนช้าง” ซึ่งสร้างเป็นเรือนไทยไม้สักหลังใหญ่กว้างขวาง ตามบทพรรณนาเรือนของขุนช้างในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน ขึ้นไปบนเรือนจะเห็นฉากภาพวาดตัวละครขุนช้างสำหรับให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ปิดท้ายกับอันซีนพระพุทธรูปเมืองไทย ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวที่วัดพระนอน สุพรรณบุรี ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำท่าจีน สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ในวิหารประดิษฐาน พระพุทธรูปปางไสยาสน์สลักจากหิน มีลักษณะแปลกกว่าที่อื่น คือ เป็นพระพุทธรูปอยู่ในลักษณะนอนหงายขนาดเท่าคนโบราณยาวประมาณ 2 เมตร ซึ่งไม่มีให้เห็นในที่อื่น เพราะส่วนใหญ่องค์พระที่อื่นจะอยู่ในท่านั่งหรือท่ายิน นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งใน Unseen Thailand



ภายในวัดยังมี อุทยานมัจฉา อยู่บริเวณริมน้ำหน้าวัด มีปลานานาชนิดชุกชุม ทั้งปลาสวาย ปลาตะเพียน ปลาแรด ทางวัดประกาศเป็นเขตอภัยทาน ปลูกต้นไม้ ทั้งไม้ผลและไม้ประดับ บริเวณวัดจึงร่มรื่นสวยงาม และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่ขึ้นหน้าขึ้นตาแห่งหนึ่งของจังหวัด

ลองหาช่วงเวลาพักผ่อนในวันหยุด เดินทางไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ของดีของเมืองไทยกันนะคะ

Create Date :09 กรกฎาคม 2558 Last Update :10 กรกฎาคม 2558 15:10:39 น. Counter : 1850 Pageviews. Comments :2