จากกระแสภาพยนตร์เรื่อง Lost in Thailand หนังดังแห่งปีของประเทศจีน ที่กวาดรายได้อย่างถล่มทลายในประเทศจีน โดยมีเนื้อหาในการมาถ่ายทำทางภาคเหนือของไทย ได้สร้างความสนใจในเมืองไทยให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอย่างมาก คาดว่าปีนี้คนจีนจะมาไทยมากกว่า 7 ล้านคนทีเดียว

ในทางกลับกัน นักท่องเที่ยวคนไทยก็ไปเยือนจีนตามรอยหนังดังอย่าง “อวตาร” นั้นคือ “จางเจียเจี้ย” สถานที่ถ่ายทำของหนังเรื่องนี้ ที่ชูคอนเซ็ปท์ก้าวสู่ประตูสวรรค์            ความมหัศจรรย์บนผืนแผ่นดินจีน ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวนับร้อยล้านคนให้เดินทางไปเยือนเพื่อเยี่ยมชมความงดงามของธรรมชาติที่เพิ่งเปิดบินตรงจากไทยสู่เมืองนี้

เมืองจางเจียเจี้ย มณฑลหูหนาน เป็นเมืองมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งแรกของจีนที่ได้รับจากยูเนสโก เมื่อปี 1992 และเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของจีน เมื่อปี 1982 เป็นสถานที่ซึ่งรัฐบาลจีนยกย่องให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ซึ่งหมายถึงสถานที่ท่องเที่ยวระดับสูงสุดแห่งแรกๆ ก่อนหน้านี้นักท่องเที่ยวไทยเดินทางเข้าสู่จางเจียเจี้ยต้องใช้เวลาถึง 1 วันครึ่งเพราะไม่ได้บินตรง

แต่วันนี้ก็มีชาร์เตอร์ไฟลท์บินตรงซึ่งต้องลองหาจากบริษัททัวร์กัน

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเริ่มที่ “เทียนเหมินซาน” หรือเรียกว่า “ภูเขาประตูสวรรค์” ซึ่งเป็นภูเขาที่สวยที่สุด 1 ใน 4 ของจีน สัมผัสกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาวถึง  7.5  กิโลเมตร ก่อนพบกับถ้ำเทียนเหมินซาน หรือ ถ้ำประตูสวรรค์  และเป็นที่มาของชื่อ “ประตูสวรรค์”  ซึ่งมีความสูง 131.5 เมตร กว้าง 57 เมตร ลึก 60 เมตร เกิดจากภูเขาที่ระเบิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จนกลายเป็นช่องประตูขนาดใหญ่

เมื่อมาจางเจียเจี้ย  ต้องไม่พลาด “เขาเทียนจื่อซาน”  หรือ เขาจักรพรรดิ์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอุทยานเหยียนเจียเจี้ย เต็มไปด้วยชะง่อนผาอันสูงชัน ลำห้วยลึก และป่าหิน การเดินทางจะอาศัยลิฟท์แก้วไป่หลง ลิฟท์แก้วแห่งแรกของเอเชีย ความสูง 326 เมตร พร้อมกับชมทิวทัศน์อันสวยงามที่สุดแสนตื่นตา ตื่นใจ และประทับใจ

            ภาพวาดศิลปะทรายสีจวินเซิง เป็นศิลปะที่สวยงามหาชมได้ที่นี่ที่เดียวในโลก ด้วยการนำเม็ดทรายหลากสีและกิ่งไม้ต่างๆ จากธรรมชาติในท้องถิ่น มารังสรรค์เป็นงานศิลปะ

ในยามค่ำคืนต้องไม่พลาดที่จะชมโชว์จิ้งจอกขาว การแสดงที่ถือว่าครบครันชวนให้เคลิบเคลิ้ม ฉากการแสดงเป็นเวทีกลางแจ้งกลางหุบเขาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยนักแสดงกว่า 600 ชีวิต  

การท่องเที่ยวไทยและจีนในยามนี้จึงคึกคักเป็นอย่างยิ่ง