bloggang.com mainmenu search


            เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับโลก โด่งดังมานาน และนับวันจะได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้นักท่องเที่ยวเข้ามาคับคั่งม๊ากมาก

            แต่เมื่อคนมากขึ้น ก็ทำให้ปัญหาต่างๆมากขึ้นตามมา ประกอบกับภาวะโลกร้อนขึ้น ขณะนี้เกิดปัญหาปะการังฟอกขาวอย่างมากมาย ในระดับวิกฤต

            มีโอกาสดีมากได้ร่วมทริป ชื่อ “พีพี กำลังจะเปลี่ยนไป” ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของ บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) จับมือนักวิชาการ หน่วยงานภาครัฐและชุมชน  ริเริ่มโครงการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development: SD) ภายใต้กรอบ “พีพี โมเดล” ของ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ร่วมสร้างความยั่งยืนให้สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

 

            ก่อนอื่นเรามาดูสถานที่น่าท่องเที่ยวทั้ง 7 แห่งของพีพีและใกล้เคียง ว่ามีอะไรน่าเที่ยวบ้าง รวมถึงการแก้ไขปัญหาปะการังฟอกขาวกัน

            1 เริ่มที่อ่าวมาหยา ถูกขนานนามเป็น สวรรค์ใต้ฟ้า วิมานบนดิน อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะพีพี

 

            อ่าวมาหยา เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ จากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อม แหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน เกาะหินปูนแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างชายฝั่งหลายสิบกิโลเมตร

            ด้วยความที่น้ำทะเลใสช่วยให้แสงส่องถึงใต้ผิวน้ำในระดับที่เหมาะสม ตัวอ่อนของปะการังเกาะตัวกันบนหินที่ทับถมอยู่กลางอ่าว แต่ปัจจุบันแนวปะการังบริเวณด้านหน้าชายหาดอ่าวมาหยาได้กลายเป็นแนวปะการังเสื่อมโทรม เป็นผลพวงบางส่วนจากการทิ้งสมอเรือและคลื่นยักษ์สึนามิ

            วันนี้อ่าวมาหยาคับคั่งมากไปด้วยนักท่องเที่ยว และเรือนำเที่ยว คนเยอะจนแน่นหน้าชายหาดไปหมด

ทุกคนต่างอยากมาสัมผัสหาดทรายขาวละเอียดเหมือนผงแป้ง นอนแช่น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต เพราะนี่คือทะเลไทยที่สวยติดอันดับโลก

 

 

2 อ่าวโล๊ะสะมะ  เวิ้งอ่าวแคบๆอีกแห่งหนึ่งที่น้ำทะเลสวยใส เป็นจุดดำน้ำตื้น snorkeling ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง ของเกาะพีพีเล

อ่าวโล๊ะสะมะ มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมา ที่นี่มีปะการังอ่อนหลากหลายชนิดสีสันใต้ทะเล ของอ่าวโล๊ะสะมะจัดได้ว่าจัดจ้านทีเดียว มีปลาน้อยใหญ่จำนวนมาก ใต้ท้องทะเลของอ่าวจะเป็น กองหิน ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ทะเล มองเห็นปลาน้อยใหญ่และกองหินแนว ปะการัง

3 อ่าวปิเละ นี่คือลากูน หรือ “ทะเลใน” มีถ้ำทะเลเชื่อมต่อกับด้านนอก น้ำทะเลไหลผ่านเข้าถึง ภายในแอ่งเหล่านี้เป็นเสมือนอีกโลกหนึ่งที่โอบล้อมไว้ด้วยผาหินปูน  เรือจะแล่นผ่านปากทางเข้าแคบๆ ทันทีที่เรือผ่านเข้าไป อ่าวใหญ่ปรากฏตรงหน้า

            อ่าวปิเละ มีหน้าผาสูงชันปิดล้อมเกือบรอบด้าน ทำให้ปราศจากคลื่นลม เหมือนสระว่ายน้ำน้ำทะเลใสสะอาด พื้นน้ำนิ่ง นักท่องเที่ยวต่างลงเล่นน้ำมากมาย ด้านล่างมีปะการังมากมายเช่นกัน

            4 เกาะพีพีดอน เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะพีพี มีเนื้อหาประมาณ 28 ตารางกิโลเมตร กว้าง 3.5 กิโลเมตรและยาว 8 กิโลเมตร บริเวณอ่าวต้นไทร ที่ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะ เป็นที่ตั้งของท่าเรือราว 2 กิโลเมตร มีหาดทรายสวยงาม น้ำใส

            บริเวณใจกลางของอ่าวต้นไทร เป็นศูนย์กลางการค้า โรงแรม รีสอร์ท และมีถนนคนเดินขนาดย่อมๆ

            5 ทะเลแหวก  แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของกระบี่ ที่ถูกขนานนามให้เป็น Unseen Thailand ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกอันเนื่องมาจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติในยามน้ำลด จนทำให้เกิดปรากฎการณ์ที่ เรียกว่า“ทะเลแหวก” ขึ้น

            ทะเลแหวกคือสันทรายขาวละเอียดทอดตัวเป็นแนวยาวเชื่อมต่อถึงกัน ระหว่างเกาะ 3 เกาะคือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ และแนวสันทรายนี้จะค่อยๆจมหายไปใต้ผืนน้ำเมื่อเข้าสู่ช่วงเวลาน้ำขึ้นของแต่ละวัน

6  โรงแรมพีพีไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท หนึ่งในโรงแรมดีที่สุดของเกาะพีพี เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่บนเกาะพีพีดอน ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ มีการออกแบบในลักษณะบังกาโลใกล้ชิดธรรมชาติ แต่ละวิลล่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

           

ประกอบด้วยอาคารที่พักอาศัยแบบวิลล่าทั้งหมด 112 หลัง และกลุ่มวิลล่า (Villa Cluster) จำนวน 5 กลุ่ม อยู่ท่ามกลางดงมะพร้าวที่สวยงาม ทะเลสวย น้ำใส

            เวลานักท่องเที่ยวไปถึงจะมีรถแทรกเตอร์วิ่งออกไปรับในทะเลกันเลยทีเดียว กิ๊บเก๋มากๆ

            7 อ่าวโละบาเกา  จุดเด่นของที่นี่ คือ เนื่องแน่นไปด้วยทิวมะพร้าว มีหาดทรายที่ขาวสะอาด มีความเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน

หน้าหาดมีแนวปะการังน้ำตื้น และที่นี่คือจุดในการฟื้นฟูปะการัง ซึ่งกำลังมีการนำสาหร่ายจิ๋วมาทดลอง เป็นครั้งแรกของโลก

            เราพูดคุยกับคุณนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. สิงห์ เอสเตท และคุณเดิร์ก เดอ คายเปอร์ ซีโอโอของกลุ่ม ซึ่งให้ข้อมูลว่า โรงแรม พีพี ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท ที่หาดโละบาเกา บนเกาะพีพี ดอน  ที่เป็นหนึ่งในธุรกิจของสิงห์เอสเตท ได้เข้ามาร่วมในโครงการ “พีพี กำลังจะเปลี่ยนไป”

            นี่คือกิจกรรมเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างยั่งยืน ตามกรอบแนวคิด  พีพีโมเดล ของผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ อันจะทำให้สิงห์ เอสเตท ได้มีส่วนร่วมในการช่วยรักษา และพลิกฟื้น ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี

            พีพีโมเดล คือการควบคุม ดูแล รักษา ฟื้นฟู เป็นแนวทางที่ใช้จัดการอุทยาน โดยอิงตามหลัก IUCN ด้วยวิธี Nature Based Solution หรือการใช้หลักธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหา ประกอบด้วยการควบคุม ได้แก่ การปิด “เกาะยูง” เพื่อรักษาแหล่งพ่อแม่พันธุ์ปะการังก่อนเหตุการณ์ปะการังฟอกขาว ได้ผลสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้ปะการังฟอกขาวน้อยกว่า 10 เปอร์เซ็นต์

            การปิดแนวปะการังทะเลแหวก ให้เป็นเขตฟื้นฟู และควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวบริเวณอ่าวโละบาเกาและเกาะไผ่ ควบคุมปริมาณเรือให้อยู่ในจำนวนที่เหมาะสม และวางแผนการปิดเปิดพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเพื่อลดผลกระทบจากการท่องเที่ยว เช่น อ่าวมาหยา

           

การจัดแคมเปญ No Shark No Parrotfish Sold Here เลิกการขายฉลาม ปลานกแก้วทั้งเกาะ ประสบความสำเร็จ และยังมีแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ในการดูแลจัดการปัญหาน้ำเสียที่สะสมมากกว่า 15 ปี

            พร้อมจัดหาทุ่นให้เรือจอด ป้องกันการทิ้งสมอที่จะทำให้แนวปะการังเสียหาย โดยสิงห์เอสเตทได้มอบทุ่นจอดเรือที่ทะเลแหวก โดยใช้วิธี Park&Ride ให้ผู้ประกอบการเข้ามาส่งนักท่องเที่ยวแล้วนำเรือออกไปจอดกับทุ่น แทนการเข้ามาจอดบริเวณทะเลแหวก เพื่อป้องกันรักษาไม่ให้แนวปะการังเสียหายจากการทิ้งสมอของเรือท่องเที่ยว

 

            การสนับสนุนเรือตรวจการณ์เพื่อให้เจ้าหน้าที่อุทยานได้ปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ควบคุมดูแล และจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมาย

            สำหรับการสนับสนุนการวิจัย สาหร่ายจิ๋ว (Zooxanthellae) ฟื้นฟูปะการังฟอกขาว ซึ่งเป็นการวิจัยครั้งแรกของโลก ที่ดำเนินการโดย ดร.ไทยถาวร เลิศวิทยาประสิทธิ์  หัวหน้าภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์

 

 

สำหรับข้อมูลทั่วไป

 

            อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี ตั้งอยู่ในจังหวัดกระบี่ มีเนื้อที่ 387 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยพื้นที่ชายฝั่ง (หาดนพรัตน์ธารา-สุสานหอย ฯลฯ) หมู่เกาะปอดะ (ทะเลแหวก) และหมู่เกาะพีพี (อ่าวมาหยา เกาะไผ่ เกาะพีพีดอน ฯลฯ)

            ในช่วงเวลา 8 เดือน (ตุลาคม 58-มิถุนายน 59) มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมอุทยานฯ มากกว่า 1.3 ล้านคน ถือเป็นอุทยานแห่งชาติที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในประเทศ และยังเป็นอุทยานที่เก็บเงินรายได้ค่าธรรมเนียมมากที่สุด ในเวลา 9 เดือน ได้มากกว่า 400 ล้านบาท

            การจัดการอุทยานพีพีฯ ในยุค “ปฏิรูปอุทยานทางทะเล” ใช้แนวทาง “พีพีโมเดล” ที่ประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านรายได้ที่เพิ่มขึ้น 9 เท่า (จาก 44 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปี 58) และการจัดระเบียบเรือ จาก 90 ลำในเดือนพฤศจิกายน 58 เป็น 1,550 ลำในเดือนพฤษภาคม 59

            หลังจากเกิดปะการังฟอกขาวทั่วประเทศ อุทยานฯ ได้รับผลกระทบขั้นวิกฤต 1 บริเวณ (ทะเลแหวก) และรุนแรง 2 บริเวณ (เกาะไผ่ตะวันตกและอ่าวโละบาเกา) จึงมีการจัดการด้านต่าง ๆ เพื่อรับมือปะการังฟอกขาว

ขอบคุณ 

บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) สนับสนุนการเดินทางของ Travelista นักเดินทาง

 

ที่อยู่สิงห์เอสเตท 968 อาคารอื้อจือเหลียง ชั้น 20 ถนนพระราม 4 แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

 

คุณภคมน ภาสวัสดิ์ ฝ่าย –  การตลาดและภาพลักษณ์องค์กร  โทร. 0 2632 4533 ต่อ 902

 

คุณอติโรจน์ โชติพรสวัสดิ์ – ฝ่ายการตลาดและภาพลักษณ์องค์กร  โทร. 0 2632 4533 ต่อ 905, 089 1189110

 

www.singhaestate.co.th

 

 

 

 

Create Date :11 กรกฎาคม 2559 Last Update :11 กรกฎาคม 2559 12:56:58 น. Counter : 2408 Pageviews. Comments :2