bloggang.com mainmenu search





หลังจากที่รีวิวโรงแรมฮอลิเดย์อินน์ห้อง Standard ไปแล้วที่ ลิงค์นี้ (คลิกเพื่ออ่าน)





วันนี้จะมารีวิวห้องไทพ์อื่นๆ ต่อค่ะ (จะพยายามให้จบในบล็อกนี้นะคะ เพื่อความไม่ยืดเยื้อง่ะ เพราะเหลืออีกหลายบล็อกเลยที่จะรีวิวอะค่ะ )




ท้าวความเดิม หลังจากที่ดูห้องอาหารแล้ว เราก็กลับมาที่เคาน์เตอร์ค่ะ ไปติดต่อที่เคาน์เตอร์อีกที เพื่อจะขอดูห้องไทพ์อื่น


เค้าก็พาขึ้นไปที่ชั้น 3 ค่ะ



















ห้องอยู่ตรงหัวมุมค่ะ ซึ่ง...อย่างที่บอกนะคะ ไม่รู้ว่าห้องนี้ไทพ์ไหนค่ะ แหะๆ















ภาพแรกที่เจอเมื่อเปิดประตูเข้าไปค่ะ เป็นโซนของ living room นะคะ














จากรูปเมื่อกี๊ มุมซ้ายจะเห็นว่ามีโต๊ะทำงานนะคะ

ซึ่งก็คือโต๊ะทำงานชุดนี้นี่เอง จะเห็นว่าด้านหลังมีวางข้าวของบางอย่างอยู่ด้วย มีกาน้ำร้อน ไวน์ ชุดชากาแฟค่ะ


















ถัดไปด้านในจะเป็นเตียงนอนค่ะ (ขออภัย รูปนี้ถ่ายตั้งแต่ยังไม่เปิดไฟแบบครบเซ็ท เลยออกจะมืดๆ สักเล็กน้อย)















ห้องน้ำค่ะ ส่วน shower เป็นตู้กระจก แบ่งอย่างชัดเจน

















อีกฝั่งเป็น bathtub ค่ะ ออกทรงกลมๆ น่าจะมีตัวทำระบบน้ำแบบจากุซซี่ด้วยกระมังคะ


















อ่างล้างหน้าค่ะ มีไดร์เป่าผม น้ำเปล่าฟรี 2 ขวดด้วยนะคะ

















ข้าวของเครื่องใช้ที่มีให้ค่ะ (เค้าเรียกกันอย่างเป็นทางการว่า bathroom amenity kits หรือเปล่าคะ?)



















ถัดเข้าไปจากเตียงนอน (รูปมืดๆ เมื่อกี๊) จะมีโต๊ะทำงานอีกชุดค่ะ (เอิ่ม..สงสัยจะเหมาะกับนักธุรกิจ) ตู้เป็นแบบบิ๊วท์อินค่ะ มีที่รองรีดด้วย เอ..ที่อยู่บนโต๊ะนั่นก็น่าจะเตารีดแหละค่ะ
















ตู้เสื้อผ้ามีสองส่วนนะคะ ก็จะมี slippers แล้วก็อีกฝั่งมีตู้เซฟด้วยค่ะ จะเห็นว่าชั้นบนมีผ้าห่มสำรองให้อยู่ด้วย



















ในโซนของเตียงนอนนี้ ก็จะมีทีวีอยู่เฉียงๆ กับเตียงนอนนะคะ ที่เปิดประตูอยู่ข้างๆ ทีวีนั่นเป็นห้องน้ำที่ไปสำรวจมาเมื่อกี๊น่ะค่ะ

ส่วนประตูอีกประตูนั่นคือปิดคั่นระหว่างโซนเตียงนอนกับ living room นะคะ


















ทีวีนอกจากจะมีให้ที่ปลายเตียงแล้ว ก็มีที่ living room ด้วยค่ะ ถ้าไปสองคนจะดูคนละช่องจะได้ไม่ต้องตีกันเนาะ



















หลังจากนั้น จากความทรงจำปลาทองของดิชั้น รู้สึกจะกลับลงมาชั้นล่างเลยหรือเปล่าหว่า?

เอิ่ม..ไม่แน่ใจค่ะว่า beauty salon แห่งนี้อยู่ชั้นล่างหรือชั้นไหนหว่า

















จากนั้นก็ลงไปอีก เพราะห้องที่ให้ไปไม่ใช่อย่างที่น้องต้องการ(คือน้องอยากดูห้องที่สามารถอัพเกรดห้องให้นายได้ แต่ไม่ใช่ห้องขนาดนี้ เพราะอัพแพงมากๆ งบไม่พอแน่ๆ ซึ่งเมื่อกี๊ก็บอกแล้ว แต่ไหงให้ห้องนี้มาก็ไม่รู้)

ก็เลยได้ไปดูอีกห้อง คราวนี้ขึ้นไปที่ชั้น 5 ค่ะ (เบื่อกันหรือยังคะ?) แต่จะได้ดูห้อง..น่าจะเกือบครบทุกประเภทของรร.นี้เลยหละค่ะ


ขึ้นไปชั้นห้าก็จะเจอกับ Executive club


















คอนเฟิร์มว่าชั้น 5 จริงๆ ค่ะ


















ชั้นนี่มี Business Center ด้วยค่ะ น่าจะมีอินเตอร์เน็ตด้วยมั้ง เวลาเปิดปิดได้ใจมาก

















ไปดูห้อง 525 ค่ะ พอเปิดเข้าไปก็เฮ้ย! ทั้งน้องทั้งเราเลย เจอ living room อีกแล้ว


















เราก็..เอ่อ..อัพให้นายกันไหวมั้ยเนี่ย แต่ก็ถ่ายรูปเก็บไว้ไปก่อน

โต๊ะทำงานค่ะ ด้านหลังมีชากาแฟ กาน้ำร้อน มินิบาร์นะคะ ส่วนตู้ทางขวานั่นเดี๋ยวดูรูปต่อไปค่ะ
















ในตู้มีเสื้อคลุมกับตู้เซฟค่ะ



















ไวน์ ชุดชากาแฟ กาน้ำร้อน และกระติกน้ำแข็งค่ะ




















ในมินิบาร์ค่ะ เหมือนจะมีเพิ่มขึ้นกว่าห้องธรรมดาอีกหน่อยนะคะ (เอ..ว่าแล้วก็..ห้องเมื่อก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าลืมถ่ายมินิบาร์มานี่หว่า )


















เตียงและโซฟาค่ะ ตรงหัวเตียงมีเล่นเว้าเข้าไป + ตกแต่งด้วยไฟเล็กน้อย เก๋ดี


















ปลายเตียงค่ะ มีทีวีจอแบน กับโต๊ะเครื่องแป้ง


















โทรศัพท์ก็อยู่ใกล้ๆ ทีวีจอแบนนี่แหละนะคะ ในเงากระจก น้ำเปล่าสองขวดข้างเตียงนั่นก็ฟรี (หรือเปล่าหว่า?)



















นอกจากโทรศัพท์ตรงปลายเตียงแล้ว ก็ยังมีโทรศัพท์ตรงข้างๆ เตียงด้วยค่ะ

จะเห็นว่าทุกห้องจะมีเต๊นท์การ์ดบอกว่าโทร.ไปไหนต้องกดอะไรนะคะ

















ไปสำรวจห้องน้ำกันบ้างดีกว่า ภาพโดยรวมของห้องน้ำห้องนี้ค่ะ



















ตัวอ่างล้างหน้าค่ะ มีน้ำเปล่าให้อีก 2 ขวด




















ตัวอ่างค่ะ มีระบบทำน้ำด้วย คล้ายๆ ห้องเมื่อกี๊เลยค่ะ



















ห้องนี้ไม่ได้สำรวจละเอียดค่ะ เพราะจากที่ให้แลนด์เช็ค ราคาเกินงบจะอัพอีกแล้ว เลยต้องลงไปใหม่ ให้เค้าพาไปสำรวจอีกห้องหนึ่ง (เป็นห้องไทพ์ที่ห้าแล้วนะคะ เหอๆ)


คราวนี้ขึ้นไปที่ชั้น 4 ค่ะ

















นี่ค่ะ ผังของโรงแรม ที่บอกว่ามันเดินวนถึงกันหมดค่ะ
















เราไปสำรวจกันที่ห้องนี้ค่ะ 457 มีสัญลักษณ์ห้องงดสูบบุหรี่ด้วย















เข้าไปปุ๊บก็ค่อยยิ้มออกหน่อย เออ..แบบนี้พอลุ้น แหะๆ

เข้าไปเจอตู้เสื้อผ้าก่อนค่ะ จากนั้นก็เป็นโซนไวน์ ชากาแฟพร้อมกาน้ำร้อน กระติกน้ำร้อน ชั้นล่างสุดเป็นมินิบาร์



















ห้องโอเคเลยค่ะ จะเจอโซนโซฟาก่อน แล้วก็เป็นเตียง ในมุมไกลๆ นั่นเป็นโต๊ะทำงานค่ะ



















ทีวีจอแบน อยู่ปลายเตียงค่ะ




















ถ่ายย้อนกลับไปจากมุมโต๊ะทำงานค่ะ

















ตรงมุมโต๊ะทำงานนี่ มีตู้โชว์แบบพวกเครื่องกระเบื้อง จาน แจกัน ด้วยนะคะ


















โต๊ะทำงานค่ะ ขาเก้าอี้เป็นแบบล้อเลื่อนไปมาด้วย (ไม่สังเกตว่า เอ..เก้าอี้นั่งทำงานห้องอื่นเป็นงี้เปล่าหว่า?)





















ชุดโซฟาสำหรับ 3 ท่านค่ะ คนนั่งอยู่นั่นเซลส์กรุ๊ปนี้ค่ะ กำลังถามรายละเอียดอยู่ คิดว่าคงอัพให้เป็นห้องนี้ค่ะ (พอดีกรุ๊ปนี้มีงบจำกัดค่ะ ถ้าเป็นกรุ๊ปที่มีงบเยอะๆ น้องเค้าจะอัพเป็น suite ให้)



















ตัวห้องน้ำจะคล้ายๆ กับห้องไทพ์แรกๆ ที่ทำรีวิวน่ะนะคะ เลยถ่ายมาแค่นี้ว่า มันไม่ได้ต่างกันนัก


















จากนั้นก็ออกมาจากโรงแรมค่ะ หันหลังให้โรงแรม แล้วก็เดินมาทางซ้ายเพื่อมาทางถนนใหญ่ค่ะ

จะเจอซิซเลอร์ แลนด์บอกว่าเปิด 24 ชั่วโมงค่ะ


















เดินมาถึงถนนใหญ่ จะเจอแมคโดนัลด์อยู่ฝั่งตรงกันข้าม เปิด 24 ชม.เช่นกันค่ะ




















ถัดจากแมคโดนัลด์จะเป็นห้างค่ะ ไกด์บอกว่ามีซุปเปอร์ด้วยค่ะ แต่ ณ เวลานั้น ปิดแล้วค่ะ
















โดยรวมแล้ว ถือว่าโอเคเลยทีเดียวค่ะ แม้จะห่างจากตัวเมืองสักหน่อย อย่างที่บอก นั่งแท็กซี่จากหวังฟู่จิง 20 นาทีค่ะ) แต่โดยรวมกับราคาแล้ว เราก็ว่าโอเคเลยหละค่ะ แต่ไม่ได้เห็นอาหารเช้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง (เห็นแต่ห้องอาหาร แหะๆ)


แล้วก็มีผู้รู้บอกเพิ่มด้วยว่า สถานีรถไฟใต้ดินอยู่ตรงใต้ห้างใกล้ๆ โรงแรมเลยหละค่ะ เพราะงั้นก็ยิ่งเดินทางสะดวกเข้าไปด้วยอีกค่ะ



ก็หวังว่า คงพอจะเป็นข้อมูลสำหรับผู้ที่กำลังหาที่พักที่ปักกิ่งได้นะคะ








ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาชมรีวิวค่ะ

371952/4119/355




Create Date :20 กรกฎาคม 2552 Last Update :20 กรกฎาคม 2552 10:17:33 น. Counter : Pageviews. Comments :18