สวัสดีค่ะ





เอนทรี่ล่าสุด รีวิวร้านปลาย่าง รสชาติโอเคค่ะ (คลิกเพื่ออ่าน)






หลังจากปล่อยรีวิวทริปการไปพักที่อินเตอร์คอนติเนนตัล สมุย บ้านตลิ่งงามรีสอร์ทมาแล้วดังนี้


การเดินทางด้วยบางกอกแอร์เวย์ส เล้าจน์ และสนามบินสมุย

ห้องพักแบบ Club Premier Ocean View Room

Lunch at Flame

สระว่ายน้ำทั้งเจ็ด

Facilities ต่างๆ

ห้องพักแบบอื่นๆ ตอนที่ 1

Pool Villa และ 3 bedrooms

Air Bar, Pool Bar and Serene
Dinner at Flame







สำหรับวันนี้ก็จะพาไปดูอาหารเช้าแบบบุฟเฟท์ของที่นี่กันบ้างนะคะ ซึ่งก็จะจัดไว้ที่ห้องอาหารแอมเบอร์ ซึ่งอยู่ชั้นล่างของล็อบบี้นั่นเองค่ะ (ภาพแรกนี่เราถ่ายจากสระว่ายน้ำข้างๆ แอมเบอร์นะคะ เช้าวันนั้นตื่นมาว่ายน้ำแล้วก็ไปรับประทานอาหารเช้าต่อเลยค่ะ)















สำหรับที่นั่งของห้องอาหารนี้จะมีทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์ตามภาพนะคะ













ส่วนไลน์อาหารจะอยู่ในห้องด้านในค่ะ พื้นที่ไม่มากนักนะคะ ก็จะจัดวางอย่างละนิดอย่างละหน่อยไปค่ะ

















ที่ชอบคือตัวนี้ค่ะ เจ้าตัวที่เอาไว้สไลด์เนื้อหมูค่ะ (แฮมหรือเบคอนหว่า?) เอามาตั้งโชว์แบบนี้เลย ถ้าอยากได้แบบใหม่ๆ ก็สไลด์เพิ่มได้เลย ไม่ต้องสไลด์มาก่อนทีละเยอะๆ แล้วเอามาตั้งให้ตัวเนื้อมันโดนลมอะค่ะ













มาดูเป็นคลิปกันบ้างค่ะ (ตื่นเต้นขนาดต้องถ่ายคลิปมาให้ดูกันเลยทีเดียว ฮา )













มาดูไลน์อาหารกันดีกว่านะคะว่ามีอะไรให้เราหม่ำบ้าง อิอิ โซนแรกค่ะ อยู่ถัดจากเจ้าเครื่องสไลด์เนื้อหมูไปด้านในเลย นั่นก็คือพวกเพสตรี้และเครื่องทาต่างๆ ตัวเลือกมากมายพอควรเลยหละค่ะ มีไดเอทออเรนจ์แยมให้ด้วยนะเอ้า (สงสัยจะไม่ใส่น้ำตาลกระมัง)















ต่อไปจะอยู่ในตู้เย็นค่ะ อยู่ใกล้ๆ กับพวกไลน์เพสตรี้เมื่อกี๊แหละ ได้แก่ชีส เห็นแล้วกรี๊ดมากค่ะ นอกจากความหลากหลายแล้วเราไม่ค่อยเจอที่ไหนที่เก็บชีสไว้ในอุณหภูมิแบบนี้เลยง่ะ โคตะระเอาใจใส่ ชอบๆ















เมนูอาหารอื่นๆ ที่อยู่ในไลน์ค่ะ มีเมนูรสจัดแบบไทยๆ ด้วยนะ หรือถ้าชอบติ่มซำก็มี แล้วก็สเตชั่นสำหรับท่านใดที่ต้องการให้ทำเมนูไข่แบบร้อนๆ ก็มีจัดให้นะคะ














แนวฝรั่งๆ กันบ้างค่ะ รวมทั้งพวกซีเรียลและผลไม้อบแห้งต่างๆ ด้วยนะฮับ















ส่วนตู้เย็นที่อยู่โซนซีเรียลนี้จะเป็นที่อยู่ของโคลด์คัททั้งหลายค่ะ













ย้ายจากโซนกลางไปที่ด้านในสุดของอีกฝั่งกันบ้างค่ะ จะเป็นผลไม้สด และสเตชั่นสำหรับการสั่งน้ำผลไม้ปั่น ซึ่งสั่งได้ตามใจชอบเลยนะคะว่าจะเอาน้ำอะไรเพียวๆ หรือจะจับอะไรผสมอะไร พนักงานทำให้ได้หมดค่ะ

















ส่วนที่ติดผนังอีกฝั่งก็จะเป็นเครื่องดื่มร้อนนะคะ แต่ไม่ต้องใช้บริการก็ได้นะคะ เพราะพนักงานเค้าจะมาถามเราที่โต๊ะอยู่แล้วค่ะว่าต้องการอะไร เพราะฉะนั้นรอให้พนักงานเค้ามาบริการก็ได้นะคะ













ส่วนไลน์ด้านที่อยู่ติดผนังตามยาวนะคะ ก็จะประกอบไปด้วย ตู้เย็นที่ด้านในจะเน้นอาหารญี่ปุ่น (มีพนักงานบอกว่าจะสั่งซาชิมิก็ได้นะคะ เลยจัดไปค่ะ แต่ซาชิมิไม่ได้ใส่ไว้ในตู้เย็นนะคะ จุดเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่ (ที่สมกับความเป็นห้าดาว) ก็คือเรื่องของการยืดหยุ่นและปรับได้ตามความต้องการของลูกค้าน่ะแหละค่ะ) ถัดไปก็จะเป็นพวกสลัดและน้ำผลไม้ (รวมทั้งน้ำดื่มทั้งแบบน้ำเปล่าและน้ำโซดาด้วยนะคะ)

ส่วนตู้เย็นที่อยู่ไกลๆ (ติดกับทางเข้าออกระหว่างโซนที่นั่งกับโซนไลน์อาหาร) ก็จะมีพวกโยเกิร์ต นม ฟรุตสลัด ฯลฯ ไว้ค่ะ คืออะไรที่ควรรักษาไว้ในอุณหภูมิเย็นๆ เค้าจะเอามาใส่ไว้หมด ค่อนข้างโอเคเลยค่ะตรงนี้

















หลังจากสำรวจเรียบร้อยแล้วก็เริ่มช็อปปิ้งการกินฮ่ะ สั่งน้ำผลไม้ปั่นก่อนเลย ซึ่งพนักงานท่านนี้ก็แนะนำให้ผสมสามตัวนี้เข้าด้วยกันค่ะ เราก็จัดไปตามนั้น (หนูเชื่อคนง่าย...เหรอป้า?? )













วันนั้นอิชั้นก็จัดการจัดมาก่อนตามภาพค่ะ บรียังคงอร่อยเหมือนเคย น้ำผลไม้ปั่นที่น้องแนะนำว่าแขกชอบทานกัน...อิชั้นคงเป็นคนส่วนน้อยฮ่ะ รสชาติไม่ถูกจริตตัวเองเท่าไหร่ แหะๆ ส่วนเครปนั่น (เป็นอีกอย่างที่สั่งทำได้นะคะ ที่ไลน์พนักงานจะรับทำอยู่) จะเป็นเลมอนน้ำตาล โอเคค่ะ ไม่ว้าวแต่ก็อร่อยตามมาตรฐานค่ะ













นั่งกินไปก็ชมวิวไป เล็งที่ตรงนี้ไว้ค่ะว่าเดี๋ยวกินอิ่มแล้วจะไปเอนกายอ่านหนังสือซะหน่อย ฮี่ๆ















ชาที่สั่งมาค่ะ สำหรับที่ห้องอาหารเช้า ก็บริการชาของ TWG เช่นกันนะคะ เราเลือกเป็นชาเขียว ซึ่งได้เป็น Emperor Sencha มาค่ะ













สักพักปลาดิบที่สั่งตามน้องพนักงานแนะนำก็มาบริการค่ะ

อืมม์..นอกจากการใส่วาซาบิลงมาในโซยุเลย (ซึ่งไม่ควรทำง่า เอาวาซาบิวางไว้ที่ข้างๆ ของจานจะดีกว่านะคะ) ตัวปลาก็ไม่ได้สดแบบที่ควรเป็นค่ะ ก็เลยกินไปหน่อยเดียวเอง เสียดายเหมือนกันค่ะ ซึ่งก็ได้คอมเม้นท์แจ้งทางโรงแรมไปนะคะว่า ถ้าปลาดิบไม่สดมากพอ บอกพนักงานว่าอย่าแนะนำให้แขกสั่งซาชิมิเลยค่ะ มันทำให้โรงแรมเสียเครดิตเปล่าๆ น่อ













ต่อไปค่ะกับการลองชิมกับข้าวแบบไทยๆ ดูบ้าง รสชาติโอค่ะ แต่ไม่เผ็ดนะคะ (ทำกลางๆ ให้แขกชาวตะวันตกด้วยหละค่ะ) ไส้กรอกก็โอค่ะ













จากนั้นก็เดินกลับไปที่โซนผลไม้ค่ะ เจ้าหน้าที่กำลังทำมะม่วงอยู่เลย จะยื่นให้เราทั้งสามชิ้น จนเราต้องขอด้วยความเกรงใจว่า ขอชิ้นเดียวพอค่ะ สามชิ้นกินไม่หมดแน่ๆ แหะๆ หลังจากได้มาแล้วก็ไปหยิบโดนัทมาอีกชิ้นค่ะ

มะม่วงเนื่องจากนอกฤดูเลยอมเปรี้ยวหน่อยนะคะ โดนัทอร่อยค่ะ















นั่งกินใกล้จะอิ่ม น้องพนักงานก็นำถ้วยเล็กๆ พร้อมขนมไทยๆ มาเดินมอบให้ตามโต๊ะค่ะ เป็นการโปรโมทไทยไนท์ดินเนอร์ในค่ำคืนนี้ของเขาหละนะคะ

ขนม..เอ่อ ในฐานะของคนเพชรบุรี สำหรับเรามันหวานแหลมไปค่ะ ไม่กลมกล่อม













ปิดท้ายของเอนทรี่นี้ด้วยภาพวิวขณะที่ตัวเองมาเอนกายอ่านหนังสือตรงที่ที่เล็งไว้ค่ะ เป็นอีกช่วงเวลาของการอยู่ที่นั่นที่มีความสุขมากๆ ก่อนที่จะไปเริ่มคุกกิ้งคลาสตอนสิบโมงตรงค่ะ (ช่วยมองข้ามขาโต๊ะบิลเลียดของข้าพเจ้าไปด้วยนะคะ แหะๆ)



















สำหรับเอนทรี่นี้ก็จบแต่เพียงเท่านี้นะฮับ เอนทรี่หน้าจะพาไปช็อปปิ้งพร้อมกับมาลุ้นคุ้กกิ้งคลาสกับข้าพเจ้าผู้มีทักษะการทำอาหารน้อยยิ่งกว่าหางอึ่งนะคะ แฮ่...