บทที่ ๔๙
มลทินของผู้ทรงปิฎก
และสิ่งที่หาไม่ได้ในพระไตรปิฎกฝ่ายโพธิสัตว์กวนอิม ครั้นบรรดาเทพารักษ์ที่เคยตามคุ้มครองพระถังเข้ารายงานผลงานแล้ว ทรงรับสั่งให้เทพารักษ์รักษาทิศทั้ง ๕ ไปแจ้งให้ท้าวกิมกังทั้ง ๘ ที่กำลังอุ้มพระถังและศิษย์กลับเมืองจีนนั้น ให้บันดาลให้พระถังได้รับเคราะห์ร้ายครั้งสุดท้ายท้าวกิมกังรับทราบคำสั่งของกวนอิมแล้ว เมื่อเหาะมาถึงแม่น้ำทงทีฮ้อ ก็ปล่อยวางพระถังและศิษย์ลงยังพื้นดิน เห้งเจียนั้นหยั่งรู้ความที่พระถังต้องประสบภัยแล้ว จึงไม่ยอมอุ้มพระถังเหาะข้ามลำน้ำไป
ขณะที่รีรอกันริมฝั่นนั่นเอง
เต่าขาวตัวเดิมก็โผล่ขึ้นมาร้องเชิญทุกคนขึ้นขี่หลัง ศิษย์และอาจารย์ต่างก็ยินดียิ่ง พากันลงยืนบนหลังเต่า เต่าว่ายตัดกระแสน้ำตรงไปยังฟากตรงข้าม
ครั้นมาถึงกลางลำน้ำ เต่าขาวก็เอ่ยถามพระถังขึ้นว่า ที่ฝากไปถามพระยูไลว่า
" เมื่อไหร่หนอเต่านี้จะได้เป็นมนุษย์...?" ฝ่ายพระถังนั้น ความที่จดจ่ออยู่แต่เรื่องพระไตรปิฎก จึงลืมคำถามฝากของเต่าเสียสนิท เมื่อถูกทวงถามก็นิ่งอั้นอยู่
ฝ่ายเต่าขาวเห็นเช่นนั้น ก็รู้ว่าพระถังไม่เอื้อเฟื้อ จึงดำวูบลงในแม่น้ำ ทั้งอาจารย์และศิษย์ก็หลุดจากหลังเต่า แต่ก็หาจมน้ำไม่ เพราะกายเบาผิดคนสามัญ ฝ่ายเห้งเจียก็แผลงฤทธิ์รวบพระคัมภีร์ อานม้าและข้าวของไว้ได้ก่อนที่มันจะจมลงใต้น้ำ
ทั้งหมดขึ้นถึงฝั่งตรงกันข้ามด้วยเนื้อตัวที่เปียกปอน พระถังนั้นหนาวสั่น มือทั้งสองข้างชาเพราะหอบพระไตรปิฎกไว้แน่น ท้องฟ้าก็มืดมิด เพราะมีพายุจัด
รุ่งเช้า เมื่อพายุสงบ อาจารย์และศิษย์ต่างก็ช่วยกันผึ่งพระคัมภีร์ให้แห้ง พระถังก็นั่งเฝ้าดูพระคัมภีร์อยู่ ในขณะนั้น
ตาเฒ่าตั๊นเท่ง ตั๊นเซ้ง และชาวบ้านตั๊นแกจึง ได้ออกมาคารวะพระถัง ตั๊นเท่งถามพระถังถึงเหตุร้ายที่เกิดกลางน้ำ พระถังก็เล่าว่า "
เพราะเราลืมคำถามฝากของเต่า คัมภีร์จึงเปียกแฉะหมด "ครั้นพระคัมภีร์เหล่านั้นแห้งสนิทแล้ว ต่างก็ช่วยกันรวบรวมเก็บ จึงได้พบว่า เนื้อความพระคัมภีร์ปุนเห้งเกงสองสามเล่ม แห้งติดกับหินอยู่ "
อักขระที่สำคัญจึงได้ขาดหายไป " พระถังเห็นเช่นนั้นก็กล่าวโทษว่า เห้งเจียไม่ดูแลให้ดี เห้งเจียก็อธิบายว่า
"เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเพราะฟ้าดินจะมิยอมให้พระคัมภีร์นั้นครบถ้วน เพราะว่าพระธรรมล้ำลึกวิเศษสุดนั้น เกินวิสัยของคัมภีร์จะบันทึกได้"ตาเฒ่าแซ่ตั๊น ก็นิมนต์พระถังและศิษย์ไปที่บ้าน แล้วถวายภัตตาหารการบุญเอิกเกริก
แต่อาจารย์และศิษย์นั้น บัดนี้ เบื่อหน่ายต่ออาหารของปุถุชน จึงไม่มีผู้กินภัตตาหารเลย เสร็จการบุญแล้ว ตาเฒ่าและชาวบ้านต่างช่วยกันสร้างอาราม ชื่อ
เซงยี่(ช่วยชีวิต) เพื่อระลึกถึงพระถังและศิษย์ แล้วนิมนต์ให้ไปพักค้างอยู่ที่อารามแห่งนั้น แล้วลอบใส่กุญแจขังพระถังไว้ เพื่อเขาจะได้ทำบุญต่อไปอีกในวันรุ่งขึ้น พระถังเกรงว่าชาวบ้านจะไม่ยอมให้ลาจาก จึงให้เห้งเจียสะเดาะกุญแจแล้วหนีไปกลางดึก
กล่าวถึงท้าวกิมกังทั้ง ๘ ครั้นเห็นว่าพระถังหมดสิ้นภัยตามอำนาจของฟ้าดินทุกประการแล้ว ก็เหาะลงมาโอบอุ้มพระถังและศิษย์ พามุ่งตรงไปยัง
เมืองเชียงอาน แผ่นดินไต้ถังฝ่ายพระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ ทราบข่าวที่พระน้องยาเธอถังซัมจั๋งกลับถึงเมืองเชียงอาน พร้อมทั้งพระไตรปิฎกครบถ้วน ก็ทรงปีติโสมนัส เสด็จออกมารับพระถังแล้วพาขึ้นสู่ท้องพระโรง พระถังกราบบังคมทูลรายงานการเดินทางแต่โดยย่อ
พระเจ้าถังไทจงฮ่องเต้ทรงมีพระราชศรัทธาใหญ่ ทรงแต่งคำประพันธ์ แล้วให้คัดลอกพระธรรมคำสอนเผยแผ่พระธรรมคุณ พร้อมทั้งยกย่องเกียรติคุณของพระถังให้ลือเลื่องไปทั่วเมืองจีน
จากนั้น พระองค์ทรงอาราธนาให้พระถังซัมจั๋งแสดงพระธรรมเทศนา ในขณะที่พระถังแสดงธรรมอยู่บนธรรมาสน์นั้น ท้าวกิมกังทั้ง ๘ ก็ร้องเรียกพระถังอยู่บนอากาศ แล้วท้าวกิมกังก็มาอุ้มหอบเอพระถังเหาะลิ่วไปสู่เขาเล่งซัว วัดลุยอิมยี่ เพื่อรับเกียรติคุณจากพระยูไลรูป : คำฝากถามของเต่าว่าอย่างไรนะ ?
นาม : เมื่อไหร่นะ คนในโลกจึงจะยอมรับว่า คุณธรรมอย่างเต่านั้นคือมนุษยธรรมที่แท้ ...?รูป : อะไรเล่าคือคุณธรรมอย่างเต่า...?
นาม : ซื่อสัตย์ ไร้เดียงสา..........ไร้มายาไร้ปลิ้นปล้อน
สงบใจไม่เร่าร้อน............นอนแช่น้ำฉ่ำชีวีรูป : ถ้ากิเลสรุมสุมมาเล่า...?....
นาม : .....................หดเข้ากระดองผ่องราศี หัวหนึ่ง ตีนอีกสี่
รูป : อ๋อ
ขันธ์บริสุทธิ์หยุดอุปาทาน......โหงว : วุ่นโลกีย์เปรียบขี่เรือเหาะ........เร็วเหมาะเจาะเพาะสังสาร
นาม : แต่ขี่เต่าเข้านิพพาน................โหงว : ไปเร็วเหลือ เชื่อไหมเธอ...?
รูป : เป็นอันว่า
ซื่อบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา ไร้มายาสาไถยคือมนุษยธรรมแท้ ที่คนฉลาดเฉโกในโลกหาว่าเป็นคนโง่เง่า ไม่ยอมรับแล้วยังหมิ่นเหยียดหยามนานานาม : ด้วยเหตุฉะนี้................พระคัมภีร์จึงเปียกแฉะ
รูป : รู้ปิฎกกระดกแกละ........แหละยกหางวางท่าทาง
นาม : คัมภีร์จึงมีมลทิน...........เพราะหมิ่นทางสะอาดสว่างโหงว : ปิฎกจึงตกค้าง..............อักขระด้วนกระบวนธรรมรูป : เป็นอันว่า
ธรรมแท้ที่เป็นส่วนคุณธรรมของเต่าคือซื่อบริสุทธิ์ไร้เดียงสานั้น มักจะหาไม่พบในผู้รู้เทศน์ รู้ท่อง รู้เรียนพระไตรปิฎกนาม : เพราะว่าคุณธรรมชนิดนี้ถูกลบอักขระออกจากพระคัมภีร์...รูป : ยิ่งเรียนมาก ค้นคว้าจนตาลายยิ่งหาไม่พบโหงว : พบแต่ตัวตนในทางแตกฉาน จนยกหางข่มผู้อื่น ยิ่งไม่เป็นเต่ารูป : กลับเป็นสัตว์ มีหูมีหางกระดก หดไม่ลง จมไม่ลง
นาม : ไม่มีกระดองสำหรับหดหัวหดตีนอย่างเต่านี่...
รูป : เอาล่ะ ต่อไปพระถังและศิษย์เบื่อหน่ายอาหารของปุถุชน ไม่มีผู้กินอาหารเลย...?
นาม : กิเลสโลภลาภอาบสักการ......คืออาหารของปุถุชน
พอชีวินสิ้นกังวล................. วิมุติปริ่มอิ่มนิรันดร์โหงว : การกินนั้นมีอยู่...................แต่ผู้กินมิใช่ "ฉัน"รูป : อ๋อ...
ธาตุลิ้นกินรสอัน -........สักว่าธาตุ ปราศตัวตนนาม : เอ้า.....เขาขังพระถังไว้.........หวังถวายกองลาภผล
รูป : เห้งเจียโง่พิกล....................ไฉนะสะเดาะ เหาะกลางดึก?
เห็นมีแต่พระตะกละ............ประจบสก อกระทึก
โหงว : ข้อนี้ไว้ให้เจ้าตรึก................นึกตรองดู คงรู้เอง
รูป+ นาม : ...เฮ้อ...กลุ้ม
(จบบทที่ ๔๙ โปรดติดตามตอนต่อไป...) * คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๒๙๕ - ๓๐๑ )** เชิญอ่าน คำนิยม เรื่อง "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย ล.เสถียรสุต และ
คำนำผู้ไขความค่ะ
มาเจิมให้ตัวเองเพราะอยากจะบอกว่า...
เท่าที่อ่าน เท่าที่พิมพ์มา...จขบ.ชอบบทนี้มากถึงมากที่สุดค่ะ
อยากจะมีคุณธรรมอย่างเต่าสักข้อ...เห็นทีจะยากยิ่งนัก แหะ ๆ ต้องสร้างกระดองให้ตัวเองก่อน
โดย: แม่ไก่ 4 ธันวาคม 2551 12:26:34 น.
ยกมะม่วง ไม้ให้ร่มให้เย็น ในรั้วบ้าน ..ร่มไม้เย็น มาฝากจ๊ะ
ตามหลังเจ้าของบ้านมาติดๆ ก้อว่าตะโกนเรียกสุดเสียง สว. แล้วน๊า ทำมั๊ยม่ายด้ายยิน
ช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง ดูแลร่างกายให้อบอุ่นนะจ๊ะ
โดย: ร่มไม้เย็น 4 ธันวาคม 2551 16:45:33 น.
ชอบแฮะ
คล้องจอง ไพเราะ แต่ลึกซึ้งดีอ้ะ
อ่า..มาขอบคุณสำหรับการบอกชื่อร.ร.นะคะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 4 ธันวาคม 2551 20:43:59 น.
ต๋อนนี้ส่งเสียงแว็กๆๆๆอย่างเดวเลยครับ 55555
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 5 ธันวาคม 2551 13:27:08 น.
ม่วนดี ตลกดี
โดย: BeCoffee 5 ธันวาคม 2551 17:57:25 น.
ตอนนี้ก่ต้องสู้ด้วยตัวเองครับ
ผมได้หวังพึ่งใคร๋เลยครับ
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 6 ธันวาคม 2551 13:44:02 น.
อมยิ้มน่ารัก อิอิ (เพิ่งเห็นเรอะ แหะๆ)
รอลุ้นต่อไปนะคะ
ตอนนี้ส่งถึงมือฝ่ายไอทีแล้วค่ะ
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 15 ธันวาคม 2551 13:19:42 น.