บทที่ ๔ ปัญญารู้ไตรลักษณ์ คือการ "บวช" แท้พระถังซัมจั๋งคอตก เดินจูงม้าไปในป่าใหญ่แต่ลำพัง แสนว้าเหว่ เดินมาครู่หนึ่งพบพระโพธิสัตว์กวนอิมแปลงมาเป็นแม่เฒ่า ได้สนทนาปราศรัยรู้ความกันแล้ว แม่เฒ่ากล่าวว่าจะไปไซทีโดยไม่มีเห้งเจียนั้น ย่อมไปไม่ถึงโดยแน่นอน แม่เฒ่ารับว่าจะช่วยไปตามเห้งเจียให้ นางได้มอบเสื้อและห่วงมงคลสวมหัว พร้อมทั้งมนต์สะกดหัวใจไว้ปราบเห้งเจียในเวลาดื้อหรือดุร้าย
กล่าวฝ่ายเห้งเจีย นั่งซดน้ำชาอยู่กับพญาเล่งอ๋อง พญาเล่งอ๋องได้เตือนสติให้รำลึกถึงมรรคผล เห้งเจียจึงเหาะย้อนกลับมาหาพระถัง พระถังก็ให้เห้งเจียสวมเสื้อและห่วงมงคล โดยหลอกว่าเป็นหมวกวิเศษที่ใครใส่แล้วยิ่งฉลาดรอบรู้ในการหนังสือ ส่วนเสื้อนั้นใครสวมแล้ว จะรู้จักขนบธรรมเนียมประเพณีโดยไม่ต้องเรียนต้องฝึก เห้งเจียหลงเชื่อ ครั้นแล้วพระถังก็ลองร่ายมนต์สะกด เห้งเจียก็ปวดขมับล้มม้วนกลิ้งไปมา เป็นอันว่า เจ้าลิงจอมโจกของเราก็อยู่ในกำมือของพระถังซัมจั๋งโดยสิ้นเชิง
นาม : ( หัวเราะกั๊กๆ )
รูป : แกเข้าใจรึ ?
นาม : เปล่า
รูป : แล้วหัวเราะหาอะไรวะ
นาม : หัวเราะเยาะความโง่ของคนสมัยเราที่อุตริกล่าวว่า "แต่ก่อนคนเรายังโง่" ซึ่งเรื่องจริงกลับตรงข้าม
รูป : ตรงข้ามยังไง ?
นาม : มันตรงกันข้ามว่า คนโบราณผูกปริศนาไว้ให้ คนสมัยนี้แหละโง่ แล้วยังหยิ่ง ยกตัวอีกซิ อย่างที่อาจารย์เล่ามา แกรู้รึ ?
รูป : ก็นิทานสนุก ๆ ไปคิดอะไรให้ปวดหัวทำไมเล่า อาจารย์ท่านก็แต่งไปเรื่อย ๆ นึกไหนได้ก็ว่ากันไป
โหงว : ถ้าแกขืนหมิ่นข้า ข้าจะยอมโง่โดยหยุดเฉลย เพื่อให้แกโง่สองเท่าของข้า
นาม : โธ่ อาจารย์อย่าถือสามันเลย ผมอยากทราบจริง ๆ ว่า ปัญญาที่กบดานและดื้อดุร้ายจะถูกควบคุมได้อย่างไร ?
โหงว : กวนอิมโพธิสัตว์ คือเมตตาบารมี ได้นำเสื้อวิเศษ คือการเฝ้าดูจิต โดยการทำในใจไว้อย่างแยบคาย (โยนิโสมนสิการ) ซึ่งใครใส่แล้วรู้ขนบธรรมเนียมโดยไม่ต้องเรียน ขนบธรรมเนียมที่พระอริยเจ้าได้ทำทางไว้ คือการมีสติเฝ้าดูชีวิต หรือ การทำในใจไว้อย่างแยบคาย แล้วจะรู้ทาง รู้ธรรม รู้วินัย โดยไม่ต้องเรียนเลย
รูป : แล้ว มงคล ๓ ห่วงเล่าครับ ?
นาม : ผมเดาว่า ศีล สมาธิ ปัญญา ใช่ไหมครับ ?
โหงว : ผิดถนัด เห้งเจียคือปัญญา ซึ่งเราจะได้พบ ศีล สมาธิ ในบทถัด ๆ ไป ไม่ใช่ที่นี่ ห่วงมงคล ๓ ห่วงคือ ไตรลักษณ์ ได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ๓ วงนี้ รวบมัดเป็นวงว่าง (สุญญตา) วงเดียวไว้สวมหัวของปัญญา นั่นคือจิตที่ดื้อรั้นกระสับกระส่าย ไหลไปตามอารมณ์นั้น ต้องให้มันกำหนดกัมมัฏฐานที่มีไตรลักษณ์เป็นอารมณ์จึงจะชื่อว่าบวชจริงไม่ใช่ที่กายเท่านั้น
รูป : แล้วทำไมอาจารย์แต่งให้พระถังซึ่งเป็นพระ เที่ยวทุศีลหลอกลวงแม้กระทั่งลิงว่า ห่วงมงคลคือหมวก ก็ไม่รู้ ?
นาม : นี่ แก เลื่อนลอยอีกแล้วละซี
โหงว : จิตของคนธรรมดาจะไม่ยอมกำหนดไตรลักษณ์ จะต้องหลอกล่อ(ปัคคหะ) ว่ากำหนดไตรลักษณ์ แล้วจะรู้เรื่องปริยัติได้หมดสิ้น ที่จริงเราไม่ได้หลอกเลย ปริยัติทั้งหมดทั้งสิ้นในพระไตรปิฎก รวมลงที่ว่า สิ่งทั้งปวงเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หรือสรุปว่าคือ สุญญตา อันอุปมาด้วยห่วงมงคลวงว่างครอบไว้เหนือหัวของปัญญา
นาม : แหม สนุกจริงครับ
รูป : แล้วคาถาบีบขมับเล่า ?
โหงว : ทุกครั้งที่จิตดื้อไม่ยอมทำตามในการมุ่งสู่ความหลุดพ้น มักจะวนไปสู่อารมณ์โลก ๆ ตามปรารถนา คือดันไปกำหนดว่า สิ่งทั้งปวงเป็นของเที่ยง เป็นสุข หรือเป็นตัวตนเข้า จงร่ายมนต์บีบขมับคือ กำหนดกัมมัฏฐานที่มีไตรลักษณ์เป็นอารมณ์ แล้ว ปัญญามันจะยอมรับใช้
นาม : เป็นอันว่า ชีวิตสามารถปลุกเร้าบังคับให้ปัญญาทำหน้าที่จูงม้าหลวง(วิริยะของศรัทธา)พาชีวิตบ่ายหน้าสู่นิพพาน อันเป็นเป้าหมาย.... โอ้โฮ วิเศษจริง ๆ
รูป : ผมฟังไม่สนุกเลย แหมคุยกันคอแห้ง ขอน้ำชามาซดกันหน่อยนา
โหงว : มัวซดน้ำชาอยู่ใต้บาดาลนั่นแหละ อีนางเง็กมิ่นกงจู๊
รูป : อาจารย์ด่าใครครับ เง็กมิ่นกงจู๊ ไหนกัน ?
นาม : อาจารย์ครับ โปรดเฉลยก่อน เพราะไซอิ๋วยาวมาก กว่าจะถึงตอนนั้น เดี๋ยวผมก็ลืมเสียเท่านั้น
โหงว : เง็กมิ่นกงจู๊ คือ กามสุขัลลิกานุโยค เมียน้อยของงูหม้ออ๋อง(มิจฉาทิฏฐิ)
รูป : อาจารย์ด่าผม
นาม : อาจารย์ครับ ได้โปรดเล่าต่อไป
โหงว : บทถัดไปหวาดเสียวมาก เพราะพระถังจะพบปีศาจร้ายตัวแรกที่อาศัยอยู่ในบึง ฟังนะ ..............
** ขอบคุณภาพการ์ตูนไซอิ๋วจากเว็บ
//www.mindcyber.com/ ค่ะ
***ส่วนภาพล่างสุดเป็นภาพเขียนของท่านอาจารย์เขมานันทะ แม้ไม่ได้เกี่ยวกับเนื้อหาบล็อก แต่ก็อยากนำเสนอขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
**คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๑๔ - ๑๘
สวัสดีและขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านค่ะ
โดย: แม่ไก่ 22 กรกฎาคม 2551 9:48:50 น.
รูป : อาจารย์ด่าผม
เห็นไอคอนตัวนี้ลอยมา >> 55
โดย: แพนด้ามหาภัย 22 กรกฎาคม 2551 11:17:59 น.
ตึงวันนี้ก่เพราะจ้วยเลี้ยงหมิงหมิงนี่แหละครับ
เลยตื่นมาอัพบล้อกต๋อนตีสามได้ครับ 55555
ว่าแล้วก่เอาฮูปมาโชว์เลยครับ
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) 22 กรกฎาคม 2551 15:37:30 น.
มีความสุขทุกๆวันนะคะ
โดย: ร่มไม้เย็น 22 กรกฎาคม 2551 15:42:46 น.
มาดามของพี่ก๋า..สวยจัง
ไม่ได้อ่านเลยค่ะบล็อกวันนี้
ไม่ได้อ่านต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้น..ไม่ค่อยเข้าใจ
รอค่ะรอรีวิว..ชอบพระเอกกับนางเอก"ทางสายใหม่"จัง
ตอนอ่านตอนนั้น..มีแอบจิ้นด้วยนะคะ
ว่าใครเป็นพระนาง..อิอิ...เอ..ถ้าจำไม่ผิด
มันมีฉากที่พระเอกหนีไปอยู่ไกลปืนเที่ยง
และนางเอกก็ตามไปหาที่บ้านไหมคะ..(เหมือนจะคุ้นๆ)
ว่าแล้วก็อยากหามาอ่าน...เร็วๆจัง
น้อยใจ..พี่แม่ไก่เรียกแจงว่าอ้อนค่ะ
แค่ครั้งเดียว..คราวที่แล้ว(นานแล้ว)..แจงเข้าใจ..ไม่ได้ทัก
แต่นี่ครั้งที่สอง...ฮือ ฮือ..อ..น้อยจาย..ย..ย..ย...ย..ย..ย..ย(มากขนาดไหน..ดูตัวยอยักษ์)
รีบ..บ..รีวิวหนังสือมาปลอบใจเสียดีดี...อิอิ
โดย: nikanda 22 กรกฎาคม 2551 16:39:22 น.
ไม่ได้ตามคุณแจงมา
แต่เจอโดยบังเอิญค่ะ...
พี่แม่ไก่ อ้อนเชยจังค่ะเพิ่งได้อ่านเรื่องนี้
ตอนที่ปี้สาวเขียนไปได้ 7 ตอนแล้ว
สนุกดีค่ะ แนวนี้ชอบๆ ชอบประโยคสนทนาด้วย
เอาไว้เดี๋ยวตามอ่านตอนเก่าๆ นะคะ
ที่บล็อกนู้น ช่วงนี้อารมณ์เหงาๆ รักๆ มาแรงค่ะ
แต่หนังสือ ได้มาจากเพื่อนๆ นี่แหละ
อ่านแล้วก็วิวเสียหน่อยคนให้ยืมจะได้ชื่นใจค่ะ...เนอะปี้สาวเนอะ
โดย: BeCoffee 22 กรกฎาคม 2551 23:04:20 น.
นุชพลาดอ่านไซอิ๋วตอนที่1 มีโอกาสดีๆจะขอมานั่งอ่านที่บล๊อกแม่ไก่ซักกำเจ้า เพราะชอบอ่านเรื่องไซอิ๋วเจ้า
แม่ไก่ดูแลรักษาสุขภาพและมีความสุขนักๆเน่อเจ้า
โดย: แม่เฮือน 23 กรกฎาคม 2551 0:12:24 น.
รีบวิ่งมาอ่านตอนใหม่เลย แต่ทำไมมีคนมาตัดหน้าเยอะเนอะ
ว๊า ผมว่าผมไวแล้วนะครับวันนี้
โดย: ธรรม (ห่วงใย ) 23 กรกฎาคม 2551 4:06:03 น.