บทที่ ๔๕
รูปราคะ - อรูปราคะ อุทธัจจะพระถังและสานุศิษย์ออกจากเมืองเทียนเต็กแล้ว รอนแรมมาประมาณครึ่งเดือนมองเห็น
กำแพงตั้งท่ายฮู้ พระถังและศิษย์ผ่านเข้าในเมืองจนถึง
อำเภอตี้เล่งกุ้ยยังมีเศรษฐีใจบุญผู้หนึ่ง ชื่อ
เข่าญ่วนหลาย ได้ตั้งปณิธานไว้ว่า จะทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์ให้ครบหมื่นรูป และได้เลี้ยงมาแล้ว ๙,๙๙๖ รูป ยังขาดอีก ๔ รูป ครั้นมีคนไปรายงานท่านเศรษฐีว่า มีพระสงฆ์เดินทางมาจากเมืองไกล เศรษฐีก็ยินดีเป็นยิ่งนัก เรียกลูก ๆ และภรรยาออกมาคำนับพระถังและศิษย์ แล้วนิมนต์ให้พักค้างที่บ้าน เพื่อจะได้ทำบุญเลี้งพระให้ครบตามปรารถนา พระถังขัดศรัทธาไม่ได้ก็พักอยู่ ๑๕ วัน แล้วลาจาก ฝ่ายภรรยาและบุตรของเศรษฐีก็นิมนต์ให้อยู่ต่อเพราะอยากทำบุญของตัวบ้าง เมื่อพระถังปฏิเสธก็ผูกอาฆาต พระถังและศิษย์ออกเดินทางไปครู่ใหญ่ฝนก็ตกกระหน่ำลงมา จึงชวนกันหลบฝนที่สถานที่ปรักหักพังแห่งหนึ่ง
ขณะนั้นมีโจร ๓๐ คน เห็นฝนตกมืดฟ้ามัวดินเช่นนั้นก็ได้โอกาสเข้าปล้นบ้านของเศรษฐี แล้วเข้าทำร้ายท่านเศรษฐีจนถึงแก่ความตาย พวกโจรรวบรวมเงินทองข้าวของหลบหนีไปทางเดียวกับที่พระถังและศิษย์หลบฝนอยู่
ฝ่ายเห้งเจียเมื่อเห็นพวกโจรก็รู้ได้ว่าพวกนี้ไปปล้นมา ก็แผลงฤทธิ์เข้าจับโจร รวบรวมเงินทองของกลางไว้สิ้นแล้วก็ปล่อยตัวไป พระถังกับศิษย์จึงย้อนกลับที่อำเภอตี้เล่งกุ้ย เพื่อนำสมบัติทั้งหลายกลับไปคืนท่านเศรษฐีโดยที่ไม่ทราบว่าท่านเศรษฐีได้ตายเสียแล้ว
ฝ่าย
ยายช่วนจำ(ภรรยาเศรษฐี) กับเข่าเหลียง - เข่าตั้ว บุตรทั้งสองมีความเคียดแค้นพระถังอยู่ก่อน ครั้นโจรปล้นฆ่าสามีตายก็ใส่ความพระถังกับศิษย์ว่าปลอมเป็นโจรมาปล้นบ้าน ดังนั้นพอพระถังกับศิษย์แบกเงินทองของกลางมาคืน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ที่รับแจ้งความจับตัวไปคุมขัง และเตรียมทรมานโดยการบีบขมับให้ยอมรับสารภาพ
ฝ่ายเห้งเจียเข้าไปรับหน้าแทนพระถัง นักการบีบขมับเท่าไหร่ ๆ เห้งเจียก็หาสะเทือนไม่ นักการจึงจองจำทั้งหมดไว้ในคุกมืด รอเวลาประหารให้ตายตกตามเจ้าทรัพย์ไป ตกดึก เห้งเจียก็สะเดาะโซ่ตรวนออกแล้วแปลงเป็นแมงหวี่ลอดออกทางรูกระเบื้องบินไปที่ศพของเข่าญ่วนหลายแล้วพูดขึ้น ราวกับว่าเป็นเข้าญ่วนหลายเจรจา ถึงเหตุที่ตายตามความเป็นจริงให้เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าศพอยู่ทราบ จากนั้นก็บินไปทำเป็นเสียงลุงที่ตายไปแล้วของผู้พิพากษา ขู่ให้ปล่อยตัวพระถังและศิษย์ เสร็จแล้วก็แปลงเป็นเง็กเซียนฮ่องเต้ ขนาดร่างกายมหึมา ลุกขึ้นกระทืบบาทสะเทือนเมือง ขู่ว่าหากลงโทษพระถังจะถล่มเมืองนี้เสียรุ่งเช้า คณะลูกขุนก็ได้เห็นจีวรครองของพระถังมีรัศมีรุ่งเรือง จึงปล่อยตัว เห้งเจียจึงเหาะลงไปเมืองนรก นำวิญญาณของเข่าญ่วนหลายมาใส่ในร่างเดิม เศรษฐีใจบุญก็ฟื้นคืนชีพ ประชาชนเมื่อรู้ถึงกิตติศัพท์ความสามารถของพระถังกับศิษย์ ต่างแห่แหนสักการะกันเอิกเกริก
ศิษย์และอาจารย์อำลาประชาชนแล้ว ก็บ่ายหน้าไปวัดลุยอิมยี่
รูป :(หัวเราะ) แต่ก่อนผ่านเมือง"ฆ่าพระ" ให้ครบหมื่นรูป บัดนี้ผ่านมาถึงบ้านเศรษฐี "เลี้ยงพระ" ให้ครบหมื่นรูปเหมือนกัน...
นาม : เข่าญ่วนหลายเศรษฐีคืออรูปราคะ - ราคะในสิ่งที่ไม่มีรูปรูป :อ้าว...แกเอารูปราคะไปไว้เสียที่ไหนเล่า ?
นาม : ก็นั่นผ่านมาแล้วนี่
พระราชาเทียนเต็กชอบเล่นบอน โกสน กล้วยไม้ ดอกไม้ นั่นล่ะรูปราคะ บัดนี้ชีวิตละรูปราคะ อรูปราคะ
รูป :แกทำไมไปลดเรื่องสูง ๆ ให้เป็นเรื่องต่ำ ๆ ง่าย ๆ ธรรมดาไปเช่นนี้ล่ะ ?
นาม : จริงอยู่
ในความหมายชั้นลึกของที่ตั้งของการกำหนดในสมาธินั้นหมายถึงละราคะในรูปฌาน หรืออรูปฌาน แต่ความเป็นจริงของชีวิตก็อย่างที่ว่าแล้วนั่นแหละ คือไม่ยึดติดในรูปบริสุทธิ์ เช่น บอน โกสน ฯลฯ และสิ่งที่ไม่มีรูป เช่น เกียรติยศ บุญ ความดี ความสงบ...รูป :หมายความว่า
ต้องฆ่าความกำหนัดยินดี คือฉันทราคะในสิ่งเหล่านั้นเสีย เพื่อเลื่อนขั้นชีวิตขึ้น...นาม : ...
สู่อรหัตตมรรค และนั่นแหละเข่าญ่วนหลาย เศรษฐีจึงต้องถูกฆ่าเสียก่อน
รูป :เศรษฐีทางนามธรรม ?
นาม : ผู้ที่ยินดีในการบุญการกุศล คือเศรษฐีทางนามธรรม...รูป :อ้าว...งั้นผู้สำเร็จ ผู้รู้ธรรมไม่ยินดีในการบุญการกุศลหรือ แล้วกัน ขืนเป็นอย่างนี้ศาสนาก็ล่มจมซี...
นาม : ใช่...
ไม่กำหนัดยินดี แต่ทำการกุศลด้วยปัญญา และความกำหนดยึดมั่นยินดีในการบุญ นั่นคือฆ่าเศรษฐี แล้วกลับทำบุญกุศลด้วยปัญญา นั่นคือเห้งเจียทำให้เศรษฐีฟื้นคืนชีพใหม่
รูป :เฮ้อ...กลุ้มใจแทนอาจารย์จริง จะพูดให้ตรง ๆ ก้ไม่ทำ ดันเล่าเป็นนิยายเสียเวียนหัว
นาม : เอ้า...แกเฉลยบ้าง ทำไมพระถังกับศิษย์ถูกหาว่าเป็นโจร ?
รูป :เพราะเป็นคนอกตัญญู ...
กินบุญแล้วไม่ตอบแทน จึงชื่อว่าเป็นโจรอกตัญญูนาม : ถูกแล้ว...แต่ข้าว่าแกหาเข้าใจจริงไม่
รูป :ทำไมดูถูกกันเล่า
..."มาตรํ ปิรํ หนฺตวา อกตญฺญูสิ พราหฺมณ พราหมณ์เอ๋ย...ฆ่าพ่อฆ่าแม่เสีย แล้วจงอกตัญญู...นั่นแหละทางของพระนิพพาน"โหงว : คือผู้ที่กำลังเดินทางสู่ความหลุดพ้น จะอกตัญญูต่อพ่อคืออวิชชา และแม่คือตัณหานาม : ในขณะที่ปุถุชนนั้น กจัญญูต่อพ่อแม่ คืออวิชชาและตัณหา จึงต้องเป็นทุกข์ทรมาน
รูป :เห็นไหมล่ะ...ว่า ชีวิตจะต้องเป็นโจร ถูกชาวบ้านหาว่าเป็นโจรอกตัญญู
นาม : อ้าว...ทีนี้ เห้งเจียถูกบีบขมับ แต่หาสะเทือนไม่ล่ะ...?
รูป :ละความกระเพื่อมคืออุทธัจจะ ด้วยปัญญา ความกระเพื่อม ทึ่ง ตื่นเต้นของจิต หามีไม่ เพราะอำนาจของปัญญา
นาม : รูปราคะไม่มี อรูปราคะไม่มี อุทธัจจะไม่มี คนชนิดนี้ดู ๆ คล้ายผู้ร้าย หรือโจรปากแข็ง ไม่ยินดียินร้ายในสิ่งไหน คนทั่วไปเขาก็หาว่าบ้าเท่านั้น
รูป :แต่จีวรครองของพระถังทำให้เขาหาว่าบ้าไม่ลง...
นาม : เพราะจีวรครองหมายถึงศีลปาฏิโมกข์สังวรรูป :จึงอุปมาให้ คณะลูกขุนปล่อยตัวพระถัง เพราะเห็นจีวรมีรัศมีรุ่งเรือง
นาม : เป็นอันว่า
ชีวิตละรูปราคะ อรูปราคะ อุทธัจจะได้เหลือมานะกับอวิชชา จึงจะบรรลุอรหัตตผลรูป :ที่จริงพระอนาคามีผู้ได้ฌานสมาบัติ แม้สังโยชน์เบื้องบน ๕ นี้ยังไม่ถูกละด้วยอรหัตตมรรคญาณ แต่เพราะอำนาจของสมาบัตินั้น ทำให้สังโยชน์ ๕ เหล่านี้ราบคาบดุจไม่มี หากท่านดับขันธ์ลง จึงเรียกท่านว่าปรินิพพาน ในชั้นสุทธาวาส
นาม : หากว่าพระอนาคามีที่ไม่ได้ฌานสมาบัติ สังโยชน์เบื้องบนยังทำให้ท่านหวั่นไหวได้ แม้ว่าอนาคามีบุคคลจะประณีตเหลือเกินแล้ว
รูป :ดูเหมือนว่า
มรรคและผลนั้นมีส่วนสัมพันธ์กันตรงที่มรรคทำให้เกิดผล และผลก็กลายเป็นมรรค ที่จะเกิดผลใหม่อีก จนถึงอรหัตตผลนาม : ในทุก ๆ ผลจะมีปีศาจ เว้นแต่อรหัตตผล
รูป :เพราะปีศาจทำให้เห้งเจียต้องปราบปรามสู้รบ จนกลายเป็นมรรควิถีใหม่ เพื่อบรรลุผล
นาม : แล้วก็มีปีศาจอีก.
โหงว : เพราะว่าจิตละความยึดมั่นถือมั่นในขั้นต้นที่หยาบ ๆ ครั้นละได้มันจะเลื่อนไปยึดถือขั้นประณีต คือสูงขึ้นไป....นาม : นั่นคือปีศาจ
รูป :แต่ดูให้ดี ๆ
นั่นคือทางโหงว : กิเลสที่ถูกรู้จักสมุฏฐานนั่นคือมรรค ปราบกิเลสได้คือผลนาม : โปรดระวัง...ผีในผล...
โหงว : บัดนี้...ต่อแต่นี้ไม่มีปีศาจอีกแล้ว
นาม : มานะสังโยชน์ และอวิชชาสังโยชน์ ที่เหลืออีกสองอย่างนี้ไม่ใช่ปีศาจหรืออาจารย์ ?
นาม : เฮ่ย...นั่นไม่ใช่กิเลสหยาบคายอย่างขั้นต้น....
โหงว : ต่อแต่นี้เป็น...
"กิมเต็ง"กระหม่อมทอง................"มานะ"ของอริยเจ้า
กวนอิมใช้มาเฝ้า......................นาม : รอพระถังทั้งศิษย์รัก
โหงว : อยู่ริมวัดลุยอิมยี่.........
รูป : ต้องวิริยะมานะหนัก
นาม : มุ่งมุลุสำนัก..............
โหงว : พบพระพักตร์พระยูไล
รูป : อาจารย์วานเล่าต่อ...
โหงว : อ๋อเล่าน่าอย่าสงสัย
ว่าพระถังทั้งศิษย์ใหญ่..........ข้ามฝั่งได้ด้วยเรือไร้ท้องนาม : อัศจรรย์ขันจริงเจียว..............
รูป :เสียวใช่น้อยลอยตุ๊ปป่อง
โหงว : แต่เรือท้องเปิดเตลิดล่อง.......ส่งสงฆ์เจ้าเข้านิพพานมานานเอย(จบบทที่ ๔๕ โปรดติดตามตอนต่อไป...) * คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๒๗๕ - ๒๘๑ )**เชิญอ่าน คำนิยม เรื่อง "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย ล.เสถียรสุต และ
คำนำผู้ไขความ ค่ะ
อากาศเย็นๆ มาขอชาร้อนๆ บ้านนี้จิบพร้อมฟังคุณแม่ไก่เล่าเรื่องดีๆให้ฟัง
สบายดีนะคะ คิดถึงๆๆ
โดย: โมกสีเงิน 11 พฤศจิกายน 2551 10:10:11 น.
เจียงใหม่ก็หนาวแต๊ๆเลยครับ
หนาวมาสองวันแล้วครับ
โดย: ก๋าคุง (กะว่าก๋า ) 11 พฤศจิกายน 2551 10:22:49 น.
ไม่คุ้นเลย สงสัยเพราะตอนเด็กๆ อ่านแล้วไม่เข้าใจ
ทำไมยายเมียแกถึงเป็นคนไร้เหตุผลได้ถึงปานนั้น เฮ้อ
โดย: แพนด้ามหาภัย 11 พฤศจิกายน 2551 11:24:17 น.
แวะมาเยี่ยมเยียนทักทายค่ะ
ที่ลำปางหนาวหรือยังคะเนี่ย
ยังไงก็รักษาสุขภาพร่างกายให้อบอุ่นด้วยนะคะ
มีความสุขมากมากค่ะ
ป.ล. ยังตามอ่านเรื่องไซอิ๋วได้ไม่ถึงไหนเลยค่ะ
โดย: discipula 11 พฤศจิกายน 2551 14:42:13 น.
แวะมาเยี่ยมจ๊ะ
อย่าทำงานเพลินจนลืมทานอาหารนะ
อากาศเริ่มเย็นๆแล้ว รักษาสุขภาพนะจ๊ะ
ทำงานอย่างมีความสุขจ๊ะ
โดย: ร่มไม้เย็น 11 พฤศจิกายน 2551 16:45:14 น.
โดย: นัทธ์ 11 พฤศจิกายน 2551 21:37:41 น.
วันพรุ่งนี้ลอยกระทง
มีนัดไปลอยหรือนอนชมจันทร์ตี้บ้านเจ้า
ของอ้อนไปแบบแก๊งสาวโสดเจ้า
กลุ่มใหญ่อยู่เหมือนกันที่รพ.
โดย: BeCoffee 11 พฤศจิกายน 2551 23:19:16 น.
แวะมาทักทายกันในวันลอยกระทงและวันพระใหญ่ค่ะ มีความสุขมากๆ นะคะ
โดย: หอมกร 12 พฤศจิกายน 2551 8:29:03 น.
เอากลอนมาฝากค่ะ
ลอยกระทงปี้นี้
อย่าเจ็บ อย่าจน
เฮงๆ ค่า
ลอยกระทง ปีนี้ เป็นช่วงหนาว...
ขาวสกาว ราวอยู่ ในหมู่ฝน
ลอยกระทง ปีนี้ ไม่อับจน..
ขอทุกคน ห่าง..โศก.. ในโมกธรรม..
โดย: treehouse 12 พฤศจิกายน 2551 20:32:14 น.
ออกไปลอยกระทงหรือปล่าว
สำหรับป้าไม่ได้ไปไหน ลอยในเน็ตค่ะ
โดย: ร่มไม้เย็น 12 พฤศจิกายน 2551 21:55:20 น.
สุขสันต์วันลอยกระทงเจ้า แม่ไก่
โดย: แม่เฮือน 12 พฤศจิกายน 2551 22:20:48 น.
โดย: ลูกปัดแก้ว 13 พฤศจิกายน 2551 8:56:11 น.
แวะมาทักทายกันก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์จ้า
โดย: หอมกร 14 พฤศจิกายน 2551 9:06:30 น.