bloggang.com mainmenu search


บทที่ ๑๒ เรือน้ำเต้า (พบซัวเจ๋ง)


ขึ้นฤดูวสันต์ เวลาจวนค่ำ ศิษย์และอาจารย์ลุถึงฝั่งแม่น้ำหลิวซัวฮ้อ ฝั่งตรงข้ามกว้างไกลสุดสายตาของพระถังและโป้ยก่าย แต่อยู่ในทัศนวิสัยของเห้งเจีย

ขณะที่กำลังรีรอกันอยู่นั้น ปีศาจซัวหงอเจ๋งก็โผล่พรวดขึ้นมา จะจับพระถังกินเป็นอาหาร โป้ยก่ายเข้ารุมรบเป็นโกลาหล พอเห้งเจียเข้าช่วย ปีศาจก็ตกใจกระโดดหนีลงน้ำ โป้ยก่ายตามลงไป ล่อขึ้นบก เห้งเจียใจร้อนทนไม่ได้กระโดดผลีผลามเข้าสู้รบ ปีศาจก็กลับมุดน้ำกบดานเสีย เห้งเจียจนปัญญา เพราะว่าหากปราบปีศาจนี้ไม่สำเร็จก็ข้ามแม่น้ำไปไม่ได้ จึงตีลังกาในอากาศถึงเขาน่ำไฮ้ เล่าความให้กวนอิมฟัง
กวนอิมโพธิสัตว์จึงมอบลูกน้ำเต้าให้แก่ฮุยไง้ศิษย์เอกให้ไปกับเห้งเจีย ฮุยไง้ลอยอยู่กลางแม่น้ำ แล้วร้องเรียกปีศาจว่า..."ซัวหงอเจ๋ง ซัวหงอเจ๋ง ผู้ที่จะไปอาราธนาพระไตรปิฎกยังไซทีมาถึงแล้ว ขึ้นมาเถิด " ปีศาจจึงขึ้นมาจากน้ำแล้วเข้ามาคำนับพระถังและเห้งเจีย แล้วโกนผมสมาทานศีล บวชเป็นพระสงฆ์

ครั้นแล้วซัวหงอเจ๋งก็ได้เอาหัวกะโหลก ๙ หัวของบรรดาผู้คิดจะไปไซที ที่ตนได้จับกินแล้วร้อยกะโหลกเป็นมาลัยคล้องคอไว้นั้น นำมาร้อยติดกันด้วยหวายล้อมลูกน้ำเต้าของกวนอิมไว้ตรงกลาง แล้วเชิญคณะไปไซทีลงขี่ต่างเรือข้ามฟาก พระถังยืนตรงกลาง โป้ยก่ายยืนซ้าย ซัวเจ๋งยืนข้างขวา ข้างหลังคือเห้งเจียจูงม้าขาว ฝ่ายอุยไง้ศิษย์เอกของกวนอิมก็เหาะอยู่เบื้องบนเพื่อตามคุ้มครอง คลื่นลมสงบราบเรียบ เรือน้ำเต้าลอยละลิ่วถึงฝั่งตรงข้าม ฮุยไง้จึงเก็บลูกน้ำเต้าคืน หัวกะโหลกทั้ง ๙ หัวก็หายไป

เมื่อข้ามแม่น้ำได้แล้วก็บันเทิงใจ ฝั่งตรงข้ามอุดมไปด้วยไม้ผลไม้ดอกออกช่อน่ารื่นรมย์ ศิษย์และอาจารย์ต่างมุ่งมั่นไปสู่ทิศปราจีนด้วยความเบาใจ





รูป : ซัวเจ๋งคืออะไร ? แม่น้ำหลิวซัวฮ้อคืออะไร ?

นาม : สมาธิคือซัวเจ๋ง แม่น้ำหลิวซัวฮ้อคือ มโนนิเวศน์ (การเฝ้าสังเกตใจ ) ในขณะที่จิตอยู่ในนิเวศน์ คือเริ่มมองด้านในเป็น อนันตริกสมาธิจะโผล่ขึ้นมาให้เห็น

รูป : ก่อนหน้ามองด้านในเป็นมันเป็นอย่างไร ?

นาม : สมาธิก็ยังเป็นปีศาจเงือกอยู่วะ

โหงว : คือมิจฉาสมาธิ เจ้าชักฉลาดขึ้น ลองไขความตอนที่ข้ามแม่น้ำด้วยเรือน้ำเต้าดูที

นาม : ซัวเจ๋งคืออนันตริกสมาธิ (สมาธิที่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย) คือสมาธิของชีวิตที่เกิดจากปัญญาในชีวิตประจำวัน การใช้ปัญญาในการสอดส่องพิจารณา ในการพยายามละกิเลสจะมีสมาธิชนิดนี้ควบคู่อยู่เสมอ และในวันที่สมาธิได้ประจักษ์ถึงสมาธินี้ก็เมื่อความยึดมั่นในกามเริ่มถอยกำลัง ซัวเจ๋งนี้คือสมาธิที่เป็นองค์แห่งมรรค ตอนข้ามลำน้ำหลิวซัวฮ้อ คือบารมี ๖ ได้เกิดขึ้นในชีวิตพร้อมพรั่ง คือปัญญา(เห้งเจีย) ศีล(โป้ยก่าย) สมาธิ(ซัวเจ๋ง) วิริยะ(ม้าขาว) ทาน (ฮุยไง้) ขันติ(พระถัง) บารมีทั้ง ๖ บรรทุกไปบนน้ำเต้ากลวง - สุญญตา

รูป : แล้วหัวกะโหลก ๙ หัวของผู้ที่เคยเดินทางไปไซที และถูกปีศาจซัวเจ๋งจับกินเล่า?

นาม : ?

โหงว : ความเพียรเพื่อจะได้สมาธิชนิดนี้จะต้องจริงจังประหนึ่งว่าเอาความพยายามของชีวิตถึง ๙ ชาตินั่นแหละมารวมกัน

นาม : จึงอุปมาว่า ซัวเจ๋งใช้กะโหลกผีของผู้คิดไปไซทีถึง ๙ หัวมาร้อยเป็นมาลัยคล้องคอ แล้วตอนนี้ก็ใช้เป็นพาหนะขี่ข้ามแม่น้ำไปอีก

รูป : ตอนข้ามน้ำทำไมเห้งเจียจูงม้าอยู่ข้างหลังพระถัง

นาม : ศีลอยู่ซ้าย กลางคือขันติ สมาธิอยู่ขวา ปัญญาอยู่หลัง คลื่นลมจึงสงบ

รูป : แกไม่ได้เฉลยว่าเพราะเหตุไรจึงเป็นเช่นนั้น ในช่วงที่ชีวิตประจักษ์ต่อสมาธิ

นาม : ก็ไม่รู้ซิ มันเป็นของมันอย่างนั้น จะไปหาเหตุผลหาสวรรค์วิมานอะไรกัน

โหงว : ช่วงนั้นสมาธิเพิ่งเกิด จิตเริ่มเป็นหนึ่งแน่ว ปัญญาไม่ต้องทำงานหนัก เพียงแต่กุมบังเหียนวิริยะไว้เท่านั้นเพราะบารมีอื่นพรั่งพร้อมในหน้าที่การงานในช่วงนั้น ๆ แล้ว
ชีวิตเมื่อถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ที่โน้มเอียงไปทางนิโรธ ทางดับกิเลส (ไซที) จะเริ่มพบกับความสงบสุขระดับหนึ่ง สองข้างทางเดินของชีวิตจึงเริ่มมีไม้ดอกไม้ผลออกช่อน่าชมยิ่ง


(จบบทที่ ๑๒ โปรดติดตามตอนต่อไป...)




**คัดจาก "เดินทางไกลกับไซอิ๋ว" โดย "เขมานันทะ" หน้า ๔๗ - ๕๐





Create Date :30 กรกฎาคม 2551 Last Update :30 กรกฎาคม 2551 12:26:30 น. Counter : Pageviews. Comments :7