ตื่นจากอดีตที่เจ็บๆ ด้วย "ความปรารถนาดี" (ใยไหม)
"ความปรารถนาดี มีความนุ่มนวลพิเศษ ที่ช่วยบรรเทาอาการคิดมาก
หรือซ้ำเติมตัวเอง จนทำให้รู้สึกผิด
ให้กลับเป็นการให้อภัยตัวเองได้เร็วขึ้น จนทำให้รู้สึกดีขึ้น" 1. เวลาที่มีคนพูด หรือแสดงกิริยากับเราแบบเฉยชา ทำให้เราครุ่นคิด ว่า
"ทำไม
เขาถึงพูด หรือแสดงกิริยากับเราแบบนี้" "เราไปทำอะไรให้เขาขุ่นเคือง"
"หรือทำอะไรผิดไป”แล้วเราก็สลัดความคิดเหล่านี้ ออกจากหัวไม่พ้น
มันจึงคอยก่อกวน ทำให้เครียด และจิตตก พอเวลาผ่านไป
คำพูดหรือกิริยาของคนคนนั้น ก็ย้อนกลับมาทำให้เราคิดมากได้อยู่เรื่อย ๆ
เป็นแบบนี้แล้ว...ทรมานใจไหม ?
2. เวลาที่เราทำอะไรผิดพลาดไป แล้วเก็บมาทิ่มแทงใจ เฝ้าแต่โทษตัวเอง ว่า ทำไม
ถึงไม่คิดให้ดี หรือให้ถี่ถ้วนก่อนลงมือทำหรือ ทำไมไม่ระวังตัว กับคำถามว่า
"ทำไม" จึงกลายเป็นฝันร้ายที่ตามหลอนอยู่ทุกค่ำคืน ที่สลัดได้บ้าง
ไม่ได้บ้าง มีใครเป็นแบบนี้บ้างหรือแปล่า ?
3. เวลาที่เรารับปากใครว่า "จะไป" "จะทำให้" หรือ "ยินดีจะช่วยเหลือ"
แล้วพอถึงเวลา กลับเกี่ยงงอน เบี้ยว หรือหาเรื่องโกหก เพื่อให้พ้นภาระ แต่สุดท้ายก็ต้องมานั่งคิดมาก ที่เผลอทำอะไรแบบเด็ก ๆ คิด คิด คิด วิตก หวั่นใจ
จนกลายเป็นการซ้ำเติมตัวเองและเผลอคิดไปไกลว่า คนที่เรารับปากไว้
ต้องเสียใจ เจ็บใจ และมองเราในแง่ไม่ดี พอคิดแบบนี้ ก็ยิ่งทำให้ซึมเศร้า
มีใครกำลังเป็นแบบนี้อยู่บ้าง ?
หากเรื่องราวเหล่านี้ คือ อดีตที่เจ็บๆ และเรากำลังจมปลักอยู่กับมัน
ทางแก้คือ... ต้องใช้ความปรารถนาดี ปลุกตัวเราให้ตื่นขึ้นมา
เพราะหากจมอยู่กับมัน ก็มีแต่ทำให้ใจสลาย แม้สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว
แก้ไขอะไรไม่ได้ แต่เราเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ
ด้วยการใช้ความนุ่มนวลของความปรารถนาดี เยียวยาสภาพจิตใจ ปรารถนาดี เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากความครุ่นคิดเหล่านั้น
ปรารถนาดี เพื่อให้ตัวเองพยายามปรับปรุงตัวใหม่
ปรารถนาดี เพื่อให้ตัวเองมั่นคง ไม่กระเทือน และอ่อนไหวไปกับสิ่งที่มากระทบ
แล้วความปรารถนาดีนี้ จะบรรเทาอดีตที่เจ็บ ๆ ให้เบาบาง และคลี่คลาย ทำให้เราทุกข์น้อย แต่สุขขึ้น นี่คือเรื่องจริง ! :)
"ชีวิต" ต้องก้าวเดินต่อ "อย่าปล่อยให้การเดินทางของชีวิต
ต้องจบปลักอยู่กับอดีตที่เจ็บๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว
เป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่ ในปัจจุบัน"
ขอขอบคุณข้อมูลจาก