ศึกแย่งชิงเกาะพิพาทลามหนัก ญี่ปุ่นปิดธุรกิจในจีนเพียบ ป้องกันความเสียหายรุงแรง นักวิเคราะห์ชี้อาจส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม การเงิน ส่งออก และการลงทุนอย่างหนัก มะกันวอนคู่กรณีใจเย็น...

กรณีพิพาทแย่งชิงหมู่เกาะเซนกากุ หรือเตียวหยู ในทะเลจีนตะวันออก ระหว่างจีนและญี่ปุ่น ลุกลามหนักหลังรัฐบาลญี่ปุ่นประกาศซ้ือหมู่เกาะนี้จากเจ้าของเอกชนชาวญี่ปุ่น เมื่อ 11 ก.ย. ทำให้ชาวจีนลุกฮือประท้วงในหลายสิบเมือง ทั้งบุกโจมตีสถานทูต เผาทำลายห้างร้าน รถยนต์ และโรงงานของญี่ปุ่น

ล่าสุดเมื่อ 17 ก.ย. บริษัท “พานาโซนิค” ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นสั่งปิดโรงงาน 1 แห่งในเมืองชิงเต่า มณฑลชานตง จนถึง 18 ก.ย. และอาจปิดอีก 2 แห่ง ส่วนบริษัท “แคนนอน” ผู้ผลิตกล้องและเครื่องพิมพ์ ก็สั่งปิดโรงงาน 3 ใน 4 แห่งในจีนจนถึง 18 ก.ย. เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน ด้านบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ “เซฟเวิน & ไอ โฮลดิงส์” ของญี่ปุ่น ก็สั่งปิดห้างสรรพสินค้า “อิโตะ โยกาโดะ” 13 แห่ง และร้านสะดวกซ้ือ “7-11” ถึง 198 แห่งในจีนเช่นกัน

ส่วนสายการบินออลล์ นิปปอน แอร์เวย์สเผยว่า มีผู้ยกเลิกตั๋วจองเที่ยวบินจากจีนไปญี่ปุ่นจำนวนมาก และมหานครเซี่ยงไฮ้ที่มีชาวญี่ปุ่นอยู่มากที่สุดราว 56,000 คน มีชาวญี่ปุ่นถูกไล่ออกจากร้านอาหารญี่ปุ่น ส่วนโรงเรียนญี่ปุ่นหลายแห่งทั้งในเซี่ยงไฮ้และกรุงปักกิ่งต้องปิดการเรียนการสอน ขณะท่ีบริษัท “โตโยต้า” ผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ เร่งประเมินความเสียหายหลังโรงงานท่ีเมืองชิงเต่าถูกบุกทำลาย ทั้งมีรายงานว่าโรงงานของบริษัท “ฮอนด้า” ก็ถูกบุกโจมตีเช่นกัน

คาดว่าการประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นจะยิ่งรุนแรงใน 18 ก.ย. วันครบรอบ 81 ปี “เหตุการณ์มุคเดน” ซึ่งนำไปสู่การบุกยึดครองแมนจูเรียโดยกองทัพญี่ปุ่น เมื่อพ.ศ. 2474 หนังสือพิมพ์ “พีเพิล’ส์ เดลี่” กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเตือนว่าถ้ากรณีพิพาทลุกลามเรื้อรัง จีนอาจต้องตอบโต้ทางเศรษฐกิจ และขู่ว่าญี่ปุ่นต้องการถอยหลังกลับไป 10 ปีหรือ 20 ปี

ด้านนักวิเคราะห์ชี้ว่า ศึกแย่งชิงหมู่เกาะอาจส่งผลต่อภาคอุตสาหกรรม การเงิน ส่งออก และการลงทุนของญี่ปุ่นในจีนอย่างหนัก และญี่ปุ่นอาจมองหาลู่ทางขยายการลงทุนในชาติอื่นแทนจีน รวมทั้งในไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และต่อความสัมพันธ์ด้านการค้าของจีน-ญี่ปุ่นโดยรวมด้วย โดยจีนเป็นหุ้นส่วนการค้าท่ีใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ปีที่แล้วมูลค่าการส่งออกของญี่ปุ่นไปจีนสูงถึง 340,000 ล้านดอลลาร์

นายกฯ โยชิฮิโกะ โนดะ แห่งญี่ปุ่น เรียกร้องหลังเจรจากับนายลีออน พาเนตตา รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ในกรุงโตเกียวให้จีนรับประกันความปลอดภัยของชาวญี่ปุ่น และปกป้องทรัพย์สินของญี่ปุ่นในจีนด้วย ส่วนนายโคอิจิโร เกมบะ รมว.ต่างประเทศญี่ปุ่นอ้างว่า รัฐบาลญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เห็นพ้องกันว่าหมู่เกาะเซนกากุ ถูกคุ้มครองโดยสนธิสัญญาด้านความมั่นคงระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ ขณะที่นายพาเนตตาแถลงว่าสหรัฐฯ จะยึดมั่นพันธกรณีในสนธิสัญญาความมั่นคงกับญี่ปุ่น แต่จะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พร้อมทั้งเรียกร้องให้จีนและญี่ปุ่นสงบและยับยั้งชั่งใจ.