ตำรวจได้ภาพไอ้โม่งติดสติ๊กเกอร์SEJEAL

แบ่ง3ทีมตามล่าคลี่ปม

แก๊งบึ้มร้องย้ายห้องขัง อิหร่านลั่นร่วมมือไทย


พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เรียกประชุมชุดคลี่คลายคดีระเบิดของกลุ่มคนร้ายชาวอิหร่าน เพื่อมุ่งคลี่คลายประเด็นสติ๊กเกอร์ปริศนาข้อความ SEJEAL ที่ถูกนำไปติดหลายจุดในกทม.ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่พบในห้องของ น.ส.โรฮานี ไลลา หนึ่งในผู้ต้องหาชาวอิหร่าน และที่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ของคนร้าย ทั้งนี้แม้จะมีคำยืนยันจาก เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการวางระเบิด แต่ก็ยังไม่มีใครอธิบายที่มาที่ไปของสติ๊กเกอร์ชุดดังกล่าวได้


ปานศิริเรียกถกคลี่คดีบึ้ม


โดยเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พล.ต.อ.ปานศิริ เดินทางไปยัง สน.คลองตัน เพื่อเรียกประชุมพนักงานสอบสวนในการติดตามความคืบหน้าคดีระเบิดของกลุ่มคนร้ายชาวอิหร่าน หลังจากเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ได้งดการประชุมไป เพื่อให้เวลาฝ่าย สืบสวนติดตามหาพยานหลักฐานที่เริ่มยากขึ้น โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณกว่า 3 ชั่วโมง ขณะที่ พล.ต.อ.ปานศิริได้ขึ้นรถเดินทางกลับทันที โดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน


สั่งควานหามอเตอร์ไซค์คนร้าย


อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวระบุว่า พล.ต.อ.ปานศิริ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สน. ออกตรวจหารถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ยามาฮ่า มีโอ สีดำ หมายเลขทะเบียน กนต 648 อ่างทอง พร้อมทั้งให้ฝ่ายสืบสวนประสานวินจักรยานยนต์รับจ้าง ร่วมตรวจสอบหา และ ให้รายงานผู้บังคับบัญชาให้รับทราบโดยด่วน เนื่องจากรถคันดังกล่าวเป็นรถของกลุ่มคนร้าย รวมทั้งให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบที่มาที่ไปของสติ๊กเกอร์ปริศนาอย่างละเอียด


พบวงจรปิดถ่ายคนติดสติ๊กเกอร์


รายงานข่าวระบุด้วยว่า ผลการตรวจสอบ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งตามอาคาร บริษัท และห้างร้าน ที่อยู่ใกล้เคียงกับสถานที่พบสติ๊กเกอร์ชุดต่างๆ ทำให้พบเบาะแสคนที่ติดสติ๊กเกอร์ในย่านสุขุมวิทแล้ว โดยกล้องวงจรปิดของธนาคารแห่งหนึ่งได้บันทึกภาพชายต้องสงสัยคนหนึ่ง กำลังนำสติ๊กเกอร์ดังกล่าวมาปิดที่ป้ายบอกทางในเวลากลางคืน ขณะนี้ ชุดสืบสวนกำลังอยู่ระหว่างการนำภาพมาตรวจสอบรายละเอียดข้อมูลของผู้ต้องสงสัยรายนี้เพื่อนำตัวมาสอบปากคำแล้ว


เร่งเช็คร้านสติ๊กเกอร์หาคนจ้าง


ขณะเดียวกัน ชุดสืบสวนได้ออกติดตามแกะรอยแหล่งผลิตสติ๊กเกอร์ในย่านสุขุมวิทและใกล้เคียง โดยมุ่งเน้นบริษัทที่รับทำ สติ๊กเกอร์ที่มีเครื่องมือขนาดใหญ่สามารถผลิต ออกมาได้คราวละมากๆ พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และเจ้าของบริษัทห้างร้านผู้ผลิตสติ๊กเกอร์ให้แจ้งเบาะแสข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะกรณีมีชาว ต่างชาติ หรือบุคคลต้องสงสัยมาว่าจ้างให้ ผลิตสติ๊กเกอร์ข้อความดังกล่าว เพื่อให้การสืบสวนสอบสวน คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาไม่เกิน 2 วัน ในการ ตรวจสอบการว่าจ้างผลิตสติ๊กเกอร์ดังกล่าวได้


ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ


เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ศาลอนุญาตฝากขัง นายโมฮัมหมัด คาซาอี ผู้ต้องหาคดีระเบิดครั้งที่ 1 เป็นเวลา 12 วัน โดยจะครบกำหนดฝากขังในวันที่ 2 มีนาคมนี้ ทั้งนี้ผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ แต่คำให้การหลาย ส่วนเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี สอดคล้องพยาน หลักฐานที่ได้จากในที่เกิดเหตุและสถานที่ต่างๆ


แบ่ง3ทีมไขปริศนาสติ๊กเกอร์


สำหรับการติดตามไขปริศนาสติ๊กเกอร์ ข้อความ SEJEAL ว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายหรือไม่นั้น มีการแบ่งการทำงานออกเป็น 3 ส่วน โดยส่วนแรก ตรวจสอบว่า ใครเป็นผู้ที่นำมาติดและติดตั้งแต่เมื่อไร ซึ่ง บก.ศสส.บช.น.รับผิดชอบ ส่วนที่ 2 ตรวจ ร่องรอยพยานหลักฐานลายนิ้วมือที่ได้จากสติ๊กเกอร์ให้กองพิสูจน์หลักฐานรับผิดชอบ และส่วนที่ 3 เรื่องความหมายที่เกี่ยวข้องตัวอักษรให้ตำรวจสันติบาลเป็นผู้รับผิดชอบ


ย้อนเช็คประวัติเข้า-ออกปท.


พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ มีการมอบหมายให้ บช.สตม. กลับไปตรวจสอบ การเดินทางเข้า-ออกทุกด่านทุกสนามบินของผู้ต้องหาทั้ง 5 คน โดยตรวจเช็คประวัติการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย และตรวจกล้องซีซีทีวีตามจุดต่างๆ ที่ ปรากฏภาพผู้ต้องหาในอดีตที่ผ่านมา รวมทั้ง มอบให้พนักงานสืบสวนสอบสวน บช.น. และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานไปตรวจสอบของกลางทั้ง 7 จุด อาทิ วิทยุทรานซิสเตอร์ ใบเสร็จใช้จ่ายซื้อของ ร่องรอยโลหะ โรงแรมที่พัทยา อพาร์ทเม้นท์นาซ่าเวกัส รถแท็กซี่ ตู้โทรศัพท์ เพื่อตรวจสอบที่มาที่ไป


ร้องกทม.ช่วยเช็คกล้องอีกแรง


นอกจากนี้ยังจะให้ บช.น.ประสาน กทม.ตรวจสอบกล้องซีซีทีวีย้อนหลังไปก่อนช่วงปีใหม่ เพื่อพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแน่นหนามากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ พล.ต.อ.ปานศิริ ได้เน้นย้ำพนักงาน สืบสวนสอบสวน และ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบคดีนี้ โดยสอบถามความคืบหน้าผลคดีเป็นระยะ


แก๊งบึ้มเครียดขอเปลี่ยนห้องขัง


นายโสภณ ตือธรรมพฤกษ์ ผู้บัญชาการ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดเผยถึงการควบคุมตัว นายโมฮัมหมัด คาซาอี อายุ 42 ปี ชาวอิหร่านผู้ต้องหาคดีระเบิดว่า หลังจากตัว นายโมฮัมหมัด เข้ามาคุมขัง ก็ได้ให้อยู่ในแดนแรกรับ โดยมีการดูแล เป็นพิเศษ ต้องป้องกันไม่ให้ฆ่าตัวตาย


และจากการพูดคุยเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ นายโมฮัมหมัด มีอาการเครียด โดยบอกว่า นอนไม่หลับ และได้ร้องขอให้เปลี่ยน ห้องควบคุมตัว แต่ทางเรือนจำไม่อนุญาต เพราะห้องที่ควบคุมตัวอยู่ในขณะนี้เป็นห้องที่ปลอดภัย อีกทั้งมีกล้องวงจรปิด จึงสามารถติดตามดูพฤติกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง


เหลิมยันสติ๊กเกอร์ไม่เกี่ยวบึ้ม


ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีสติ๊กเกอร์ SEJEAL ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบอยู่ในขณะนี้ ไม่เกี่ยวโยงกับเหตุระเบิดหรือการก่อการร้าย เนื่องจากไปศึกษามาแล้ว ความหมาย ของคำดังกล่าว คือนกที่จะปราบปรามความ ชั่วร้าย ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดพูดเรื่องนี้ไปแล้ว


บิ๊กอ๊อดไม่เชื่อใช้ชี้ทางวางบึ้ม


พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกรณีตรวจพบสติ๊กเกอร์ปริศนาอย่างละเอียดอยู่ ส่วนที่มีการพูดว่าเป็นการติดเพื่อชี้เส้นทางหรือบอกตำแหน่งก่อเหตุอะไรบางอย่างนั้น ถือเป็นเรื่องแปลก เพราะคนที่จะกระทำการไม่จำเป็นต้องมีการชี้ทาง เพราะต้องรู้เป้าหมายและเส้นทางต่างๆ ดีอยู่แล้ว เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องของจิตวิทยา แต่ก็ต้องตรวจสอบกันว่าใครเป็นคนทำและทำเพื่ออะไร


สุกำพลรับพลาดเทียบจิ๊กโก๋


พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีเคยเปรียบผู้ลอบวางระเบิดเป็นจิ๊กโก๋ปากซอยว่า ตอนนั้นเพียงพูดว่าให้ลองย้อนมาวิเคราะห์ดูว่า คนทำมีความเป็นมืออาชีพหรือไม่ ซึ่งคนทำอย่างนี้ไม่มีความเป็นมืออาชีพเหมือนจิ๊กโก๋ปากซอย แต่สื่อกลับมาจับคำพูดเพียงคำเดียว ทีหลังจะไม่พูดจิ๊กโก๋ปากซอยแล้ว ยอมรับว่าพลาดไปหน่อย ทำให้เรื่องสนุก ไม่สนุกเลย


ย้ำเป็นกลางปมอิหร่าน-ยิว


ส่วนปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ซึ่งอาจเป็นมูลเหตุของการวางแผนปฏิบัติการในประเทศไทยนั้น พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า เราไม่มีเข้าข้างใคร แม้กระทั่งอิหร่าน เราก็ไม่เคยบอกว่า เขาส่งคนมาทำบ้านเรา แม้เราอาจจะเป็นประเทศที่ได้รับผลตรงนี้ แต่เราต้องเป็นกลาง ไม่เป็นศัตรูกับใคร ไม่ใช่ใครอ้างมาเชื่อหมด ถ้า เขาว่ามาอย่างนี้ก็เพียงแค่ฟังเขาแล้วให้ หน่วยข่าวนำไปดูว่ามันเป็นอย่างไร เราอยู่ตรงกลาง ไม่ใช่เสี้ยมเขาควาย เราอยู่นิ่งๆ รักษาตัว ไม่ให้มีปัญหา


อิหร่านลั่นพร้อมช่วยหาคนร้าย


วันเดียวกัน สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายรามิน เมห์มันพาราสต์ โฆษก กระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ออกแถลงการณ์ ที่กรุงเตหะราน ยืนยันพร้อมให้ความช่วยเหลือ รัฐบาลไทยในการตามล่าตัวผู้ก่อการร้าย ตัวจริงมาลงโทษ กรณีเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย


นายเมห์มันพาราสต์ ย้ำว่ารัฐบาลอิหร่านของประธานาธิบดีมะห์มูด อะห์มาดิเนจัด ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเหตุระเบิดที่ย่านสุขุมวิท 71 เนื่องจากเหตุดังกล่าวเป็นการจัดฉากที่มีสหรัฐ และอิสราเอลอยู่เบื้องหลัง พร้อมย้ำว่ารัฐบาลอิหร่านพร้อมช่วยเหลือทางการไทยตามล่าตัวผู้กระทำความผิดที่แท้จริงมาลงโทษ แม้ทางการไทยจะควบคุมตัวพลเมืองอิหร่านจำนวนหนึ่ง ที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเหตุอุกอาจครั้งนี้ไปสอบสวนแล้วก็ตาม


เว็บวาไรตี้ |ดูดวง |สถานที่ท่องเที่ยว|ก๋วยเตี๋ยวเรือ|กุมารทอง