ตร.สอบพยานปากสำคัญ "นายไก่" อ้างเห็น "หมอสุพัฒน์" พกปืน 2 กระบอก พร้อมชายแต่งกายคล้ายตำรวจอีกสองคนนำตัวสองสามีภรรยาออกจากไร่บนก่อนหายตัวไป โดย ผบช.ภาค 7 เดินทางลงมาสอบปากคำด้วยตัวเองทันที...

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ต.ค. พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล รอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พิชัย ปกป้อง ผกก.สภ.ท่าไม้รวก อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายไก่ (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) พยานที่พบเห็นนายสามารถ นุ่มจุ้ย และนางอรษา เกิดทรัพย์ สองสามีภรรยา เป็นครั้งสุดท้ายก่อนหายตัวไป ตามคำกล่าวอ้างของนางสธิสา วงศ์สิงห์ อายุ 37 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 42/1 หมู่ 10 บ้านวังข้าวสาร พี่สาวของ น.ส.อรษา ที่เคยให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าวันที่นายสามารถ และนางอรษา สองสามีภรรยาหายตัวไป โดย “นายไก่” เพื่อนบ้านมาบอกให้ตนซื้ออาหารไปเยี่ยมนายสามารถ และ น.ส.อรษา เนื่องจากนายไก่เห็นชาย 2 คนแต่งกายคล้ายตำรวจมาจับตัวคนทั้งสองไปขึ้นรถกระบะ

โดยขณะนั้นนายไก่เข้าใจว่าทั้งสองถูกจับตัวไปที่ สภ.ท่าไม้รวก แต่เมื่อตรวจสอบไม่มีการควบคุมตัวบุคคลทั้งสองไปที่สถานีตำรวจภูธรท่าไม้รวกแต่อย่างใด โดยต่อมานางสธิสาได้นำเรื่องไปบอกนายสว่าง นุ่มจุ้ย บิดานายสามารถ และครั้งนั้นนายสว่างได้ไปแจ้งความเรื่องบุคคลทั้งสองหายไปพร้อมรถยนต์กระบะ พร้อมทั้งได้เล่าเรื่องนี้ให้ตำรวจเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานแต่ไม่ได้รับความสนใจด้วยเหตุผลที่ตำรวจอ้างว่านายไก่เป็นคนขี้เมาเชื่อถือไม่ได้ จนทำให้เวลาผ่านไปนาน 3 ปีไม่มีอะไรคืบหน้า

ต่อมาเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายไก่เดินทางไปที่บริเวณรอยต่อระหว่างไร่สับปะรดของนายสามารถ และไร่บน ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ ซึ่งเป็นจุดที่นายไก่พบเห็นทั้งสองคนเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหายสาบสูญที่ บ้านวังข้าวสารหมู่ 10 ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง โดยใช้เวลาการชี้จุดที่พบเห็นขณะหมอสุพัฒน์พร้อมพวกอีกสองคนไปนำตัวสองสามี ภรรยาออกไปจากไร่ประมาณ 30 นาทีจึงแล้วเสร็จ จากนั้นได้นำตัวนายไก่เดินทางกลับ สภ.ท่าไม้รวกทันที

ขณะเดียวกันที่เรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี น.ส.ศิวารยา ณ สงขลา ภรรยาคนที่ 4 ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เดินทางมาขอเข้าเยี่ยม พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ แต่เมื่อพบเห็นผู้สื่อข่าวได้รีบเดินหนีไปโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด

อย่างไรก็ดี ในวันนี้ (29 ต.ค.) เป็นวันครบกำหนดการฝากขังผลัดที่ 3 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจขออำนาจศาลเพชรบุรีฝากขัง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในเรือนจำกลางจังหวัดเพชรบุรี เบื้องต้นทนายความและญาติ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไม่ได้ยื่นขอประกันตัวให้ศาลปล่อยตัวชั่วคราว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขออำนาจศาลเพชรบุรีฝากขัง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เป็นผลัดที่ 4 ต่อเนื่อง ทำให้ขณะนี้ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำรวม 36 วันแล้ว

จากนั้นเวลา 14.30 น. พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิทยา ประยงค์พันธ์ รอง ผบช.ภ.7 หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี พล.ต.ต.พีรชาติ รื่นเริง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และคณะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องเดินทางมาที่ สภ.ท่าไม้รวก ร่วมสอบปากคำจากนายไก่ พยานปากสำคัญที่ตำรวจได้ตัวมาตั้งแต่เมื่อวานนี้อย่างเคร่งเครียด โดยใช้เวลาสอบปากคำนาน 3 ชม.จึงแล้วเสร็จ

พล.ต.ท.หาญพล ให้สัมภาษณ์หลังสอบปากคำว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนมีการดำเนินการด้วยความรอบคอบ วันนี้มีการสอบพยานเพิ่มเติมอีกซึ่งมีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนคดีกักขังหน่วงเหนี่ยว และมีไว้ซึ่งของโจรคาดว่าพนักงานสอบสวนจะสามารถส่งสำนวนฟ้องได้ภายใน 2 วัน ส่วนการแจ้งคดีเพิ่มเติมคือฆ่าผู้อื่นตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจะนำหมายศาลไป แจ้งต่อ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ได้ในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ เนื่องจากวันนี้ได้พยานใหม่เพิ่มจึงต้องเร่งรัดสอบปากคำ สำหรับกรณีที่อาจมีคนในเครื่องแบบเข้ามาเกี่ยวข้อง ยืนยันว่าหากพิสูจน์ได้ชัดเจนจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดตรงไปตรงมาทั้งหมด ไม่มียกเว้น ส่วนการขุดหาร่าง 2 สามีภรรยาที่สูญหายจะดำเนินการต่อ กรณีที่การขุดครั้งหลังสุดพบเสื้อเชิ้ตแขนยาวและพยานยืนยันว่าเป็นเสื้อที่นายสามารถสวมใส่เมื่อวันที่สูญหาย และมีรอยคล้ายรูกระสุนปืนนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการสอบปากคำนายไก่ได้เปิดปากพูดคุยกับเพื่อนสนิท (ขอสงวนนาม) โดยอ้างว่า ในวันเกิดเหตุตนและเพื่อนพบเห็น พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ แต่งกายชุดเครื่องแบบตำรวจครึ่งท่อนใส่กางเกงสีกากี เสื้อยืดสีขาวถือปืนยาว 1 กระบอกและพกปืนสั้นที่เอว 1 กระบอก มาพร้อมกับชายแต่งชุดคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ อีก 2 นาย เข้ามาควบคุมตัวนายสามารถและนางอรษาขึ้นรถไปจากไร่ก่อนหายตัวไป โดยนายไก่ยืนยันจำได้ว่าเห็นนายสามารถใส่เสื้อเชิ้ตสีดำมีลาย ตรงกับที่ขุดพบเมื่อการขุดหาศพครั้งล่าสุดภายในไร่ของ พ.ต.อ.สุพัฒน์

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะที่ พล.ต.ท.หาญพล กำลังสอบปากคำนายไก่อยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเยาว์ ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญอีกหนึ่งคนที่อยู่กับนายไก่ และพบเห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุพร้อมกันมาให้การดูแลและคุ้มครองพยานไว้ด้วย