| | | | | เรื่อง : ARIA 54 | Wednesday, 11 September, 2013 7:59 PM | |  | | | | | |  เปิดตัวเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้วที่ 2013 แฟรงค์เฟิร์ท มอเตอร์โชว์ กับ X-Trail ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งมากับแพลทฟอร์มใหม่ของพันธมิตร เรโนลท์-นิสสัน CMF platform หรือ Common Module Family เตรียมจำหน่ายใน 190 ประเทศทั่วโลก ด้วยรูปโฉมที่สวยงามลงตัวกว่าที่เคยจากการลบเหลี่ยมสัน ปรับภาพลักษณ์ให้มีความเฉี่ยวขึ้นแบบรถครอสโอเวอร์
นิสสัน ไม่ได้ปิดบังแนวคิดนี้ เพราะให้ข้อมูลมาเลยว่า X-Trail ใหม่พัฒนาขึ้นโดยใช้แรงบันดาลใจจาก Juke, Murano และ Qashqai เทียบกับ รุ่นก่อนหน้า X-Trail ใหม่จะให้ประสิทธิภาพในการใช้งานที่มากกว่า และจะเป็นรถรุ่นที่เซ็ทมาตรฐานใหม่ให้ตลาด C-SUV หรือเอสยูวีกึ่งครอสโอเวอร์ ได้ทั้งความหรู ความสะดวกสบาย และลุยได้ดีขึ้น
X-Trail ใหม่ใช้ไฟ LED ทั้งไฟสูงและไฟต่ำ ผนวกแนวไฟ LED สำหรับวิ่งกลางวันไว้ในโคมเดียวกัน ไฟท้ายเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นทรงบูมเมอแรงแบบรถรุ่นใหม่ๆ ของ นิสสัน ซุ้มล้อถูกยกให้สูงขึ้นเพื่อติดตั้งล้อขนาดใหญ่ไซส์ 19 นิ้ว ประตูคู่หลังเปิดได้ถึง 80 องศา เพื่อให้คุณพ่อ-คุณแม่สามารถยก เบาะนิรภัยสำหรับเด็ก เข้า-ออก หรือติดตั้งในเบาะแถว 2 ได้ง่ายขึ้น | | |  | | | X-Trail จะเป็นรถรุ่นแรกของ นิสสัน ที่ได้ใช้งานระบบอินโฟเทนเมนท์เจนเนอเรชั่นใหม่ NissanConnect พร้อมระบบนำทางที่ทำงานได้รวดเร็วขึ้น เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และใช้งานทุกฟังก์ชั่นของ Google ได้ โดยประโยชน์ของระบบอินโฟฯ ที่ผนวกความสามารถของ Google คือ การค้นหาข้อมูลที่พัก, ร้านอาหาร หรือปั๊มน้ำมันได้ละเอียดกว่าการเรียกดูจุด POI ในเนวิเกเตอร์รุ่นเก่า รวมทั้งยังสามารถใช้ฟังก์ชั่นอย่าง send-to-car โอนข้อมูลจากคอมฯ หรือสมาร์ทโฟนลงไปในระบบได้ด้วย
นอกจากนี้ภายในยังเน้นความกว้างขวางให้มากขึ้น กล่องอเนกประสงค์ที่คอนโซลกลางสามารถวาง iPad หรือ Tablet ขนาด 10 นิ้วได้ ห้องเก็บสัมภาระออกแบบใหม่หมด แบ่งออกเป็น 2 ชั้น ชั้นบนสามารถรับน้ำหนักได้สูงสุด 10 กก. ชั้นล่างรับน้ำหนักสูงสุดได้ 75 กก. ซึ่งน่าจะช่วยให้ผู้ใช้งานจัดวางข้าวของหนัก-เบาได้เป็นระเบียบเรียบร้อยขึ้น
ระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออิเลคทรอนิค ALL MODE 4x4i เน้นความเรียบง่ายในการใช้งาน ควบคุมผ่านปุ่มโรตารี่บนคอนโซลกลาง เลือกใช้งานโหมดขับเคลื่อนได้ 3 แบบ คือ 2 ล้อ, อัตโนมัติ และ Lock สำหรับการใช้งานในแบบ permanent four-wheel drive ค่ามาตรฐานของระบบคือโหมดอัตโรมัติ ซึ่งระบบจะเลือกถ่ายทอดแรงบิดระหว่างเพลาหน้า-หลังตามความเหมาะสมของสภาพในการขับ
3 ระบบใหม่ที่จะมีให้ใช้ใน X-Trail คือ 1.) ระบบ Active Ride Control ตรวจจับสภาพถนนที่ไม่เรียบเป็นลอนคลื่น พร้อมปรับเปลี่ยนหรือเพิ่ม-ลดการทำงานของแดมเปอร์ เพื่อให้ตัวรถมีการทรงตัวที่ดีที่สุด 2.) ระบบ Active Engine Brake ช่วยควบคุม หรือปรับกำลังของเครื่องยนต์และการทำงานของระบบส่งกำลังในขณะเข้าโค้ง หรือในจังหวะถอนคันเร่งจนถึงจุดหยุดนิ่ง นิสสัน ระบุว่าระบบนี้จะช่วยให้ผู้ขับควบคุมการใช้เบรคได้ดีขึ้น และใช้แรงในการเหยียบแป้นเบรคน้อยลง
และ 3.) ระบบ Active Trace Control ใช้เซนเซอร์ตรวจจับความเร็ว, องศาการหมุนของพวงมาลัย, ความหนัก-เบาของการเหยียบคันเร่ง โดยจะช่วยหยุดล้อในบางจังหวะเพื่อลดอาการหน้าดื้อในโค้ง เน้นให้ความช่วยเหลือผู้ขับในสภาพถนนเปียกลื่น ซึ่งระบบนี้จะทำงานตลอดเวลาตั้งแต่เซนเซอร์ตรวจพบว่ารถกำลังเข้าโค้ง ไปจนกระทั่งพ้นแนวโค้ง
นิสสัน จะเริ่มจำหน่าย X-Trail ใหม่ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2014 โดยจะจำกัดเฉพาะบางประเทศก่อน จากนั้นในช่วงกลางปีจึงจะเริ่มทำตลาดหลักทั่วโลก รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดรออัพเดทอีกครั้ง | | | |
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [
เปิดตัวเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้วที่ 2013 แฟรงค์เฟิร์ท มอเตอร์โชว์ กับ X-Trail ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งมากับแพลทฟอร์มใหม่ของพันธมิตร เรโนลท์-นิสสัน CMF platform หรือ Common Module Family เตรียมจำหน่ายใน 190 ประเทศทั่วโลก ด้วยรูปโฉมที่สวยงามลงตัวกว่าที่เคยจากการลบเหลี่ยมสัน ปรับภาพลักษณ์ให้มีความเฉี่ยวขึ้นแบบรถครอสโอเวอร์
