ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด

cartoonthai
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 237 คน [?]




New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add cartoonthai's blog to your web]
Links
 

 

Honda Brio Amaze กว่า 100 กิโลเมตรบนถนนจริง

Honda Brio Amaze
เรื่อง - ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ Friday, 7 December, 2012 12:49 PM
800x
Honda Brio Amaze
กว่า 100 กิโลเมตรบนถนนจริง
baหลังจากได้ สัมผัสสมรรถนะของรุ่นก่อนผลิตจริง ในสนาม แก่งกระจาน เซอร์กิต ไปเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม จากนั้นในอีก 1 เดือนถัดมาจึง เปิดตัวเป็นทางการ ล่าสุด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ก็เชิญสื่อมวลชนร่วมทดลองขับซีดาน อีโคคาร์รุ่นแรกของ ฮอนด้า ในรุ่น บริโอ้ อเมซ

baมาแปลกด้วยการให้นั่งรถตู้จากโชว์รูม บริษัท ซัมมิท ฮอนด้า ออโตโมบิล ถนนศรีอยุธยา มายังโรงแรมที่พัก แรนโชชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรีคลับ ตั้งอยู่ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา จากนั้นจึงบรรยายสรุปผลิตภัณฑ์โดยวิศวกรชาวไทยและญี่ปุ่น ซึ่งร่วมมือกันออกแบบรถยนต์รุ่นนี้ ก่อนแบ่งกลุ่มเช้าและบ่ายเพื่อทำการทดสอบ บนเส้นทางจากโรงแรมที่พักไปยัง มหาวิหารหลวงพ่อโต อำเภอสีคิ้ว ระยะทางไป-กลับประมาณ 120 กิโลเมตร
Honda Brio Amaze
• มร. จุนอิจิ เทราโอกะ ผู้ช่วยหัวหน้าวิศวกร ผู้รับผิดชอบโครงการพัฒนา Honda Brio Amaze
Honda Brio Amaze
• คุณสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการส่วนงานการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
800x
รูปลักษณ์เน้นการใช้งาน
baครึ่งคันด้านหน้าของ บริโอ้ อเมซ ต่างจาก บริโอ้ แฮทช์แบ็ก เพียงเล็กน้อย ตรงลวดลายของกระจังหน้า และลวดลายของล้อแม็ก ส่วนครึ่งคันด้านหลังแตกต่างกับรุ่นแฮทช์แบ็กอย่างชัดเจน โดยเป็นทรงซีดานแท้ๆ หลังคาด้านหลังไม่ลาดลงมาก เพื่อให้พื้นที่เหนือศีรษะของผู้โดยสารด้านหลังกว้างขวางและไม่ถูกบีบ โดยออกแบบให้รูปทรงด้านท้ายไม่เพรียวลาดมากนัก ชุดไฟท้ายออกแบบขึ้นใหม่แบบชิ้นเดียวติดตั้งบนตัวถัง ไม่มีเค้าโครงของ บริโอ้ แฮทช์แบ็ก เลย แอบหรูด้วยคิ้วโครเมียมคาดยาวตลอดเหนือช่องใส่ป้ายทะเบียน ฝากระโปรงท้ายเปิดได้จรดแนวกันชน

baมิติตัวถังของ บริโอ้ อเมซ เน้นความกว้างขวางของห้องโดยสารด้านหลัง และห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย ด้วยการยืดความยาวตัวถังเพิ่มขึ้น 380 มิลลิเมตร รวมเป็น 3,990 มิลลิเมตร ยืดความยาวฐานล้อ 60 มิลลิเมตร รวมเป็น 2,405 มิลลิเมตรความกว้างและความสูงคงเดิม 1,680 และ 1,485 มิลลิเมตร รุ่นที่ทดลองขับเป็นรุ่นสูงสุด V AT น้ำหนักตัวรถ 965 กิโลกรัม

baด้วยรูปลักษณ์แบบซีดานที่มีท้ายยื่นยาว ทำให้มองแล้วรู้สึกปลอดภัยกว่ารุ่นแฮทช์แบ็ก หากเกิดอุบัติเหตุถูกชนท้าย แม้ทาง ฮอนด้า จะยืนยันว่าทั้ง 2 รุ่นตัวถังมีความปลอดภัยพอๆ กัน แต่เมื่อมีเพื่อนนักข่าวถามวิศวกรชาวญี่ปุ่นว่า ถ้าถูกชนด้วยเงื่อนไขเดียวกัน จะเลือกนั่งบนเบาะหลังของรุ่นซีดานหรือแฮทช์แบ็ก วิศวกรท่านนั้นก็ตอบพร้อมเสียงหัวเราะว่าขอนั่งรุ่นซีดาน

baรูปลักษณ์โดยรวมยังให้ความรู้สึกเดียวกับ บริโอ้ แฮทช์แบ็ก คือ ด้านหน้าดูสวยลงตัว ส่วนด้านหลังแม้ได้รับการออกแบบขึ้นใหม่ แต่ก็อยู่ภายใต้เงื่อนไขของการเน้นประโยชน์ใช้สอยเป็นหลัก จึงยังดูเหมือนไม่ลงตัวอยู่บ้าง แต่ถ้าเปรียบเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับก็นับว่าคุ้ม แต่โดยส่วนตัวแล้วผมชอบรูปลักษณ์ของรุ่นแฮทช์แบ็กมากกว่า และน่าจะแต่งขึ้นกว่า และไม่ได้สนใจความกว้างขวางของห้องโดยสารด้านหลัง และห้องเก็บสัมภาระ เพราะไม่ได้ใช้ประโยชน์ในจุดนั้น
Honda Brio Amaze
ภายในมีดีที่เบาะหลัง
baแผงคอนโซล ชุดมาตรวัด และอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งเบาะคู่หน้า ใช้ร่วมกับ บริโอ้ แฮทช์แบ็ก เกือบทั้งหมด มีการปรับโทนสีที่ใช้ในการตกแต่งแผงคอนโซล จากเดิมที่มี 3 สี ลดลงเหลือ 2 สี โดยใช้วัสดุเหมือนเดิม เน้นจุดเด่นในเรื่องห้องโดยสารด้านหลัง ด้วยการเพิ่มขนาดเบาะหลังตามตารางด้านล่าง
รุ่น ความกว้างเบาะหลัง ความสูงเบาะหลัง ความหนาเบาะหลัง
• Honda Brio Amaze 1,351 (+ 251) 596 (+ 66) 102 (+20)
• Honda Brio Hatchback 1,100 530 82
• Honda City 1,201 644 76
Honda Brio Amaze
baผมและเพื่อนสื่อมวลชนที่ขับทดสอบคู่กัน มีความสูง 170 เซนติเมตรเท่ากัน ระหว่างการทดลองขับผมลองปีนไปนั่งเบาะหลังฝั่งผู้ขับ พบว่ามีที่ว่างระหว่างหัวเข่ากับด้านหลังเบาะหน้าประมาณ 15 เซนติเมตร พื้นที่เหนือศีรษะและด้านข้างประมาณ 6-7 เซนติเมตร เมื่อคาดเข็มขัดนิรภัยและดึงที่เท้าแขนตรงกลางลงมา ก็ช่วยให้นั่งได้สบายและกระชับขึ้น แต่รู้สึกว่าที่เท้าแขนจะต่ำไปนิด เบาะนั่งคู่หน้าวางตำแหน่งไว้ไม่สูงนัก แต่ก็ยังสามารถสอดเท้าเข้าไปใต้เบาะเมื่อต้องการเปลี่ยนอิริยาบท ช่วยลดความเมื่อยล้าได้

baห้องเก็บสัมภาระเป็นอีกจุดที่ได้รับการปรับปรุงให้มีความกว้างขวางกว่า บริโอ้ แฮทช์แบ็ก อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในส่วนของความลึก การบุภายในห้องเก็บสัมภาระ ถือว่าทำได้ดีตามระดับราคารถ ส่วนพนักพิงเป็นแบบติดตาย ไม่สามารถพับลงเพื่อเพิ่มความจุหรือใส่สัมภาระที่มีความยาวมากๆ ได้ เบาะหุ้มผ้าโทนสีอ่อน ช่วยให้ภายในดูโปร่งและกว้างขวาง แต่ก็สกปรกง่าย ต้องใช้อย่างระมัดระวังและหมั่นดูแลรักษา
Honda Brio Amaze
เครื่องยนต์เน้นความประหยัด
baขับเคลื่อนความกว้างขวางด้วยเครื่องยนต์บล็ออกเดียวกับ บริโอ้ แฮทช์แบ็ก เป็นแบบเบนซิน 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว i-VTEC ความจุ 1,198 ซีซี กำลังสูงสุด 90 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 11.2 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบต่อนาที รุ่นที่ทดลองขับส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่มีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนได้อีกพอควร มีระบบควบคุมการเคลื่อนตัว มีเซ็นเซอร์วัดความเอียงของตัวรถ มีเซ็นเซอร์อุณหภูมิน้ำมันเกียร์ เพิ่มระยะการล็อกของคลัตช์ นอกจากนี้ชุดเกียร์ยังได้รับการออกแบบให้มีน้ำหนักเบาและมีขนาดเล็ก ถังน้ำมันมีความจุ 35 ลิตร

baในช่วงการทดลองขับ ผมรับหน้าที่ขับก่อนโดยมีเพื่อนที่ขับคู่กันช่วยบอกเส้นทางให้ ก่อนออกเดินทางได้เซต 0 ระยะทางและอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย ถนนหน้าโรงแรมเป็นทางแคบเลนสวนก็ยังพอจะขับตามกันไปได้ แต่พอออกถนนใหญ่ ผมถูกรถของช่างวีดิโอมาประกบถ่าย ก็ต้องลดความเร็วลงพอสมควรเพื่อให้ถ่ายได้สะดวก เมื่อได้ภาพตามต้องการผมก็พยายามเร่งตามคันอื่นเพราะกลัวหลงทาง ถึงได้รู้ว่าไล่ยังไงก็ไม่ทัน เพราะรถถูกล็อกความเร็วไว้ที่ประมาณ 140-145 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเหมือน บริโอ้ แฮทช์แบ็ก กดสุดคันเร่งแล้วรอบจะนิ่งแถวๆ 3,500 รอบต่อนาที

baอัตราเร่งก็เป็นไปตามสภาพ คือ ไม่หวือหวา แต่ก็ไม่ถึงกับอืด เพราะได้เกียร์อัตโนมัติ CVT ช่วยไว้ได้เยอะ กดคันเร่งแล้วรอบตวัดขึ้นไปคาไว้แถวๆ ขีดแดง ไม่มีช่วงรอบตกแล้วไล่รอบขึ้นไปใหม่ ทำให้รีดสมรรถนะของเครื่องยนต์ออกมาได้อย่างเต็มที่ บนทางโล่งๆ กดคันเร่งมิดแช่ไว้ไม่นานก็ถึงความเร็วสูงสุดแล้ว จากโรงแรมไปถึงจุดเปลี่ยนผู้ขับ มหาวิหารหลวงพ่อโต อำเภอสีคิ้ว ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.5 กิโลเมตรต่อลิตร ถือว่าเหมาะสมกับลักษณะการขับ
Honda Brio Amaze
ด้านหลังกว้างจริง
baพักยืดเส้นยืดสายก่อนออกเดินทางกลับพร้อมสลับคนขับ นั่งไปได้สักพักผมก็ปีนข้ามไปเบาะหลังเพื่อถ่ายรูป บริโอ้ อเมซ คันอื่นๆ พบว่าด้านหลังกว้างขวางจริงๆ การขยับไปฝั่งซ้ายและขวาเพื่อโผล่ออกไปถ่ายรูปทำได้อย่างคล่องตัว เมื่อได้รูปตามต้องการแล้วก็ลองนั่งอย่างจริงจัง พบว่ารอบตัวมีพื้นที่ว่างมากมาย (อาจเพราะเบาะหลังนั่งคนเดียว) สวนทางกับรูปลักษณ์ภายนอกที่ยังคงความกะทัดรัดในด้านมิติ ที่มีความยาวไม่ถึง 4 เมตร

baการเก็บเสียงถือว่าทำได้ดี ทั้งในส่วนของเสียงลมปะทะ เสียงยาง รวมทั้งเสียงการทำงานของช่วงล่างเมื่อขับผ่านถนนขรุขระ จะได้ยินเสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างชัดเจนก็ตอนที่เร่งรอบสูงๆ และเสียงลมปะทะที่เพิ่มขึ้นบ้างเมื่อใช้ความเร็วสูงเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป แต่ก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ เพราะต้องไม่ลืมว่านี่คืออีโคคาร์ เน้นการใช้งานที่ความเร็วต่ำ-ปานกลาง และมีราคาไม่แพง
Honda Brio Amaze
ช่วงล่างยังแปลกใจ
baตอนที่ ทดลองขับครั้งแรก ใน แก่งกระจาน เซอร์กิต พบว่าช่วงล่างของ บริโอ้ อเมซ หนึบหนับได้ใจมากๆ เข้าโค้งด้วยความเร็วค่อนข้างสูงได้อย่างมั่นใจ ส่วนในการขับบนถนนจริงในครั้งนี้พบว่า เมื่อขับผ่านถนนที่เป็นคลื่นลอนต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง รถจะมีอาการยวบยาบให้สัมผัสบ้าง รวมทั้งการแช่ที่ความเร็วสูงสุดนานๆ หรือเปลี่ยนช่องทางที่ความเร็วสูง จะรู้สึกวูบวาบอยู่บ้าง อาจเป็นเพราะใช้ยางหน้าแคบ 175/65 R14 แต่ก็ยังสามารถควบคุมรถได้ไม่ยากนัก และไม่น่าเป็นกังวลในจุดนี้ เพราะไม่ใช่จุดประสงค์หลักของรถประเภทนี้อยู่แล้ว

baบริโอ้ อเมซ ใช้ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมแบบ H-Shape ซึ่งเป็นระบบเดียวกับ บริโอ้ แฮทช์แบ็ก โดยมีความแตกต่างกันที่ช็อคแอ็บซอร์เบอร์มีความหนืดมากกว่า สปริงมีความแข็งมากกว่า และเหล็กกันโคลงมีขนาดใหญ่กว่า ด้วยการเซตระบบกันสะเทือนให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น ส่งผลให้ระบบเบรกดีขึ้นด้วยแบบพอรู้สึกได้ แม้จะใช้ระบบเดิมแบบหน้าดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน ด้านหลังดรัมเบรกพร้อมเอบีเอสและอีบีดี

baขากลับรถค่อนข้างเยอะจึงใช้ความเร็วได้ไม่สูงมากนัก ที่ความเร็วปานกลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ช่วงล่างของ บริโอ้ อเมซ ให้ความนุ่มนวลและนิ่งพอสมควร ห้องโดยสารก็ค่อนข้างเงียบ ช่วยให้นั่งสบาย พิสูจน์ว่าอีโคคาร์ก็สามารถขับบนถนนเส้นหลักของต่างจังหวัดได้ ด้วยความเร็วที่เหมาะสมกับประเภทของรถ ซึ่งก็ถือว่าไม่ช้ากว่ารถคันอื่นมากนัก

baฮอนด้า บริโอ้ อเมซ อีโคคาร์ซีดาน ที่เน้นความกว้างขวางของห้องโดยสารด้านหลัง และห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย โดยยังคงความกะทัดรัดของรูปลักษณ์ภายนอกเอาไว้ เครื่องยนต์คงเดิม จากการทดลองขับในระยะสั้นๆ คาดว่าสามารถขับให้มีอัตราสิ้นเปลืองเท่าๆ กับรุ่นแฮทช์แบ็กได้ ช่วงล่างเป็นไปตามประเภทรถคือ เน้นความนุ่มนวลเป็นหลัก สามารถรองรับความเร็วสูงสุดที่ถูกล็อกไว้ได้ดีพอสมควร รองรับการใช้งานได้ทั้งในเมืองและเดินทางไกล นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ต้องการความประหยัด ทั้งในส่วนของราคาและค่าใช้จ่ายในการใช้งาน

ขอบคุณ: บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด อำนวยความสะดวกในการเดินทาง
Honda Brio Amaze

Specification: Honda Brio Amaze V AT
แบบตัวถัง ซีดาน 4 ประตู
ยาว x กว้าง x สูง 3,990 x 1,680 x 1,485 มิลลิเมตร
ฐานล้อ 2,405 มิลลิเมตร
ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,480 / 1,465 มิลลิเมตร
ระยะต่ำสุดจากพื้น 150 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 965 กิโลกรัม
แบบเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว iVTEC
ความจุ 1,198 ซีซี
กระบอกสูบ x ช่วงชัก 73.0 x 71.6 มิลลิเมตร
อัตราส่วนการอัด 10.2:1
กำลังสูงสุด 90 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 11.2 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ CVT
ระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า
ระบบบังคับเลี้ยว แร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า
ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชั่นบีม H-Shape
ระบบเบรกหน้า/หลัง ดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน / ดรัม พร้อมเอบีเอส และอีบีดี
ผู้จำหน่าย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
โทรศัพท์ Call Center 0-2341-7777, 0-2341-7888 และ 0-2341-7999
เวบไซต์ www.honda.co.th/brioamaze


//www.motortrivia.com/




 

Create Date : 08 ธันวาคม 2555    
Last Update : 8 ธันวาคม 2555 10:17:44 น.
Counter : 9678 Pageviews.  

2014 Porsche Cayman เจนเนอเรชั่น 3 เบาขึ้น แรงขึ้น และประหยัดขึ้น

2014 Porsche Cayman
เรื่อง : ARIA 54 Friday, 7 December, 2012 1:39 AM
800x
2014 Porsche Cayman
เจนเนอเรชั่น 3 เบาขึ้น แรงขึ้น และประหยัดขึ้น
baปอร์เช่ เปิดตัวสปอร์ตเครื่องวางกลาง Cayman ใหม่เจเนอเรชั่นที่ 3 อย่างเป็นทางการในงาน 2012 Los Angeles Auto Show ตีตราเป็นรุ่นปี 2014 โดยยังคงใช้พื้นฐานของ Porsche Boxster ตัวถังแข็งแรงขึ้น 40% กำลังเพิ่มขึ้นในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองดีขึ้น 15% ทั้งยังสามารถลดน้ำหนักลงไปได้อีก 30 กก. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า

baเทียบกับรุ่นที่แล้ว Cayman ใหม่มีความยาวตัวเพิ่มขึ้น กว้างขึ้น ความสูงถูกลดลง ภายในแชร์พื้นฐานมาจาก Boxster แต่ปรับปรุงวัสดุให้มีคุณภาพมากขึ้น พื้นที่บรรทุกสัมภาระเพิ่มขึ้นเป็น 425 ลิตร (+15 ลิตร)

baเครื่องยนต์แม้จะเป็นบล๊อคเดียวกับ Boxster ทว่าได้รับการเพิ่มกำลังให้อีก 10 แรงม้า รุ่นพื้นฐานอาศัยกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบนอน 2.7 ลิตร กำลังสูงสุด +10 เป็น 275 แรงม้า ps อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. รุ่นเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ 5.7 วินาที เกียร์ PDK 5.6 วินาที ถ้าติดตั้งชุด Sport Chrono package จะได้ตัวเลขเวลาที่ต่ำลงเป็น 5.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 266 กม./ชม.

baส่วนเวอร์ชั่นที่สปอร์ตกว่าอย่าง Cayman S ยังคงขยับความจุขึ้นไปเป็น 3.4 ลิตรเหมือน Boxster S กำลังสูงสุด +10 เป็น 325 แรงม้า ps อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 วินาที เกียร์ PDK 4.9 วินาที ติดตั้งชุด Sport Chrono package เหลือ 4.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 283 กม./ชม.

baปอร์เช่ จะเริ่มจำหน่าย Cayman ใหม่ในสหรัฐฯ พร้อมๆ กับยุโรปประมาณเดือนมีนาคม 2013 เป็นต้นไป ราคาจำหน่ายรุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ 52,600 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท ส่วน Cayman S ขยับขึ้นไปเป็น 63,800 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.9 ล้านบาท ราคาเบากว่า Boxster/Boxster S รุ่นละราวๆ 3 แสนบาท

baบ้านเราใครสนใจก็เก็บเงินรอได้เลยครับ เอเอเอส เอาเข้ามาแน่นอน กลางๆ ปีหน้าก็น่าจะได้เห็นตัวจริงกัน



//www.motortrivia.com/




 

Create Date : 07 ธันวาคม 2555    
Last Update : 7 ธันวาคม 2555 8:30:06 น.
Counter : 2642 Pageviews.  

BMW Series 4 Coupe Concept มันมีจริง พร้อมปล่อยของต้นปีหน้า

หลังจากเป็นข่าวคราวกันมาสักพักใหญ่ในที่สุดค่ายรถยนต์ค่ายตราพัดฟ้าก็เผยโฉมว่าที่รถยนต์ BMW Series 4  ที่เตรียมจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า  ในงาน Detriot Auto Show

                การออกมาเปิดตัวโชว์โฉมอย่างสายฟ้าแลบ เป็นการเปิดเยอย่างไม่ได้ตั้งใจหลังเมื่อไม่กี่วันก่อนมีภาพหลุดออกมาบนโลกออนไลน์ ทำให้ค่ายตราพัดฟ้าตกลงว่า จะเผยข้อมูลไปเลย เพรายังไงเสียงความลับนั้นก็ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป

                 BMW Series 4 นั้นมีข่าวคราวความเคลื่อนไหวมานานแรมปี ด้วยความต้องการขยายไลน์รุ่นเพื่อตอบสนองได้มายิ่งขึ้นของ  BMW                 และในน้องใหม่ล่าสุด  BMW Series 4  นั้น ก็มีการเผยโฉมในคราบความเป็นสปอร์ตที่มีหลายส่วนคล้ายกับ  series 3 ที่มีการเปิดตัวออกมาเมื่อปีที่แล้ว

BMW Series 4 Coupe

                เรือนร่างที่เริ่มต้นโครงสร้างด้วยความยาว  4,641 ม.ม. กว้า ง 1,826 ม.ม. และ สูง 1362 ม.ม.  ถือเป็นตัวเลขที่มีการขยายมิติตัวถังเพิ่มขึ้นจากรุ่น  Series 3 อีกพอตัว เช่นความยาวเพิ่ม 29 ม.ม. กว้างอีกกว่า 44 ม.ม. นั่นรวมถึงมันมีความเตี้ยลงกว่าเดิม ราว  ๆ  16 ม.ม. ถูกออกแบบมาให้มีความเป็นรถสปอร์ตหรูสไตล์คูเป้ ที่ให้ความมั่นใจขณะขับขี่กับฐานล้อกว้าง 2,850 ม.ม. และ มีความกว้างระหว่างล้อทางด้านหน้า 1,545 ม.ม. และด้านหลัง 1,593 ม.ม.

                ตอบโจทย์ภายใต้การออกแบบในแนวทางสมัยใหม่ของ  BMW  ที่ได้กลิ่นอายต่างๆจากรุ่น   Series 3 มา ทั้ง  D Double Swage  line หรือ Air Breather  ที่ได้เส้นสายตามการออกแบบในหลักอากาศพลศาสตร์  โดยลดแรงเสียงทานที่ล้อหน้า ด้วยล้ออัลลอยขอบ 20 นิ้ว

BMW Series 4 Coupe

                ด้านหลังยังมาพร้อมไฟท้ายแบบ L Shape  ใหม่ ล่าสุดที่ให้ความลงตัวมากยิ่งขึ้น และเมื่อดูในภาพรวมมันก็มีความคล้ายรุ่นพี่ BMW Series 6 Grand Coupe  ที่ให้ลำตัวที่กว้างและบั้นท้ายที่โค้งเว้างดงามในการลีลาที่เย้ยวนใจในการขับขี่

                ในห้องโดยสาร BMW Series 4 ได้อานิสงค์ของการออกแบบภายในจากรุ่น 3 มาตอบโจทย์ จากรุ่น ทัวร์ริ่งและซีดาน โดยมันยังมีประตู่ที่กว้างกว่า รวมถึงการให้โครงสร้างของเสาบีที่แข็งแรงขึ้นด้วย การเชื่อมั่นเข้ากับห้องสัมภาระ

BMW  ไม่ได้เปิดเผยยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลใดๆทางด้านเครื่องยนต์ของว่าที่รถใหม่ และนั่นมันทำให้เราน่าติดตามว่า เจ้าสปอร์ต BMW Series 4  คันนี้จะมาพร้อมขุมพลังอะไร ที่เราคงจะได้รุในงาน Detriot Auto Show 2013

เรื่องโดย ทีมงาน Sanook! Auto 





 

Create Date : 06 ธันวาคม 2555    
Last Update : 6 ธันวาคม 2555 8:17:23 น.
Counter : 1907 Pageviews.  

2012 BMW i3 Coupe Concept ซิตี้คาร์พลังไฟฟ้า i3 เวอร์ชั่นตัวถังคูเป้

BMW i3 Coupe Concept
เรื่อง : ARIA 54 Tuesday, 4 December, 2012 0:02 AM
800x
2012 BMW i3 Coupe Concept
ซิตี้คาร์พลังไฟฟ้า i3 เวอร์ชั่นตัวถังคูเป้
baทิ้งช่วงไป 1 ปี นับจากการเปิดตัว i3 Concept ล่าสุด แบรนด์ i ซับแบรนด์ของ บีเอ็มดับเบิลยู ก็มีความเคลื่อนไหวใหม่ โดยออนไลน์ภาพชุดของต้นแบบ i3 Coupe Concept ตัวถัง 3 ประตูแฮทช์แบค ก่อนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน 2012 LA Auto Show ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา

baเมื่อย้อนกลับไปเทียบกับรุ่น 5 ประตู i3 Coupe Concept ถือว่าอยู่ในสภาพที่ใกล้เคียงโปรดัคชั่นคาร์มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ประตูข้างแบบกระจกใสถูกตัดออกไป ห้องโดยสารถูกตัดทอนให้เรียบขึ้น มีการติดตั้งระบบ iDrive ที่คอนโซลกลาง โดยระบบอินโฟเทนเมนท์ BMW ConnectedDrive ที่เห็นในภาพ จะถูกพัฒนาต่อเนื่องให้เป็นระบบที่สามารถใช้งานได้จริงสำหรับแบรนด์ i โดยเฉพาะ

baขนาดตัวของ i3 Coupe Concept มากับความยาว 3,964 มม. กว้าง 1,768 มม. สูง 1,555 มม. วางอยู่บนฐานล้อขนาด 2,570 มม. สั้นกว่าความยาวตัวรถ Honda Jazz Hybrid เพียงนิดเดียวเท่านั้น (-136 มม.) ใครที่เห็นภาพแล้วนึกมิติรถไม่ออก น่าจะเห็นภาพรวมได้ชัดเจนขึ้น นั่นหมายถึง i3 เวอร์ชั่นนี้ จะเป็นรถซิตี้คาร์ที่มีพื้นที่ใช้สอยในห้องโดยสารที่กว้างขวางพอสมควรเลยทีเดียว

baระบบขับเคลื่อนยังคงเป็นชุดเดียวกับรุ่น 5 ประตู คือ ขับหลังด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่วางอยู่บนเพลาหลัง กำลังสูงสุด 125 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่า 170 แรงม้า ps แรงบิด 25.4 กก.-ม. เก็บกระแสไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ซึ่งถูกแพควางเอาไว้ใต้พื้นห้องโดยสาร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติจังหวะเดียว อัตราเร่ง 0-60 กม./ชม. ต่ำกว่า 4 วินาที ส่วน 0-100 กม./ชม. 8 วินาที

baแม้จะยังไม่มีคำยืนยันที่แน่ชัด ทว่า i3 ตัวถังคูเป้ ก็น่าจะมีทางเลือกของระบบขับเคลื่อนแบบเดียวกับเวอร์ชั่น 5 ประตู คือมีรุ่น range-extender ใช้เครื่องยนต์ 3 สูบเบนซิน 1.5 ลิตรช่วยปั่นไฟไปเก็บในแบตเตอรี่ สำหรับคนที่ยังไม่อยากใช้รถไฟฟ้าเพียวๆ และต้องการความแน่นอนของระยะทางในการวิ่งที่ต้องมากกว่าเวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนแน่ๆ





//www.motortrivia.com




 

Create Date : 05 ธันวาคม 2555    
Last Update : 5 ธันวาคม 2555 9:38:45 น.
Counter : 2416 Pageviews.  

Sanook! Drive : ลองสั้น ๆ กับ Toyota Corolla Altis E85

เมื่อพูดถึงรถยนต์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยแล้ว Toyota Corolla Altis  ใหม่ ถือเป็นรถยนต์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นรถยนตืขวัญใจคนไทยมาช้านาน และครองใจคนบ้านเรามาแล้วนักต่อนัก

                ในการกลับมาครั้งใหม่ของ Toyota Corolla Altis  เวอร์ชั่น  2013  ค่ายรถยนต์  Toyota  ได้นำเอาความสามารถใหม่มานำเสนอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการขับขี่ที่เข้ากับยุคประหยัดน้ำมัน เช่นเดียวกับการสนองตอบเรื่องสมรรถนในการขับขี่ที่ต้องลงตัวไปพร้อมกันด้วย

Toyota Corolla Altis  E85

                กายภายนอก  Toyota Corolla Altis  ใหม่ เริ่มต้นในการออกแบบที่ไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานเดิม แต่เพื่อให้มันลงตัวมากยิ่งขึ้นนั้น ก็มีการปรับเปลี่ยนในส่วนของกระจังหน้าใหม่ให้ความสปอร์ตด้วย โทนสีเทาดำให้อารมณ์ที่สปอร์ตแตกต่างมากยิ่งขึ้นในการขับขี่

                การทดสอบครั้งนี้ต้องบอกก่อนว่า เป็นเพียงการทดสอบเล็กๆ ในสนามทดสอบ โดยทั้งหมด เพื่อจะแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะการขับขี่ในภาพรวมของ Toyota Corolla altis  ใหม่  โดยทดสอบในสถานีต่างๆ ตั้ง แต่ การควบคุมรถในสถานีสลาลอม ,การเข้าโค้ง , การเร่ง ,การเปลี่ยนเลน และท้ายที่สุดคือการเบรค

                เมื่อพร้อมก็ได้เวลาขึ้นขับ  Toyota Corolla altis  ใหม่ และเมื่อก้าวขึ้นมาในห้องโดยสารทุกอย่างมีความสปอร์ตมากลงตัวในแบบที่แตกต่างอย่างที่ไม่เคยมีมาเริ่มต้นด้วยการตบแต่งห้องโดยสาร ที่มีการปรับห้องโดยสารเป็นหนัง โทนสีดำลงตัวกว่าที่คิด เช่นเดียวกับในส่วนการให้รายละเอียดเปลี่ยนเป็นสีดำ ที่ดูสปอร์ตกลมกลืนลงตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะใครที่ชอบอารมณ์ที่แตกต่างจากเดิม

Toyota Corolla Altis  E85

                การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญใน Toyota Corolla Altis  ใหม่ นั้นคงไม่พ้นเรื่องของระบบขับเคลื่อน ที่เครื่องยนต์ขนาด  1.8  ลิตร ให้กำลังสูงสุด  138 แรงม้า ที่  6400  รอบต่อนาที และยังให้แรงบิดที่ 173  นิวตันเมตร ที่  4000  รอบต่อนาที มาพร้อมระบบ  Dual  vvti  ที่สามารถตอบสนองในเรื่องของพละกำลังได้ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร  CVT 7 Wonder speed  ที่ให้ความลงตัวในการขับขี่  ตอบสนองทั้งสมรรถนะและความประหยัด

                เมื่อพูดถึงเครื่องยนต์ใหม่ที่สามารถรองรับการทำงานของ  E85  ได้แล้ว สิ่งที่เปลี่ยนแปลงสำคัญในครั้งนี้ก็คงพ้นในส่วนของความสามารถที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ทำให้น่าสนใจ และวันนี้เราก็ทดสอบด้วยการขับขี่ E85  กันด้วย เรียกว่าลองให้รู้กันไปเลยสักครั้ง  

                ในสถานีแรกที่เราขับสลาลอม นั้น เป็นสถานีที่โชว์ให้เราเห็นถึงการตอบสนองของพวงมาลัย ที่ครั้งนี้ทำได้ดีขึ้น แม้จะยังไม่คมมาก แต่การตอบสนองถือว่าเร็วกว่าเดิมพอตัว การให้พวงมาลัยซ้าย- ขวา ถือว่าใช้ได้ แม้จะต้องยอมรับไม่หวือหวามากนัก แต่ที่ดูดีไม่แพ้กัน คือความรู้สึกจากระบบช่วงล่างที่หนึบแน่นมากยิ่งขึ้น และมั่นใจเพิ่มขึ้นในการขับขี่ ซึ่งเราก้ได้แอบถาม Toyota  มาคร่าวๆ แล้วก็พบว่ามีการปรับจูนในส่วนของระบบกันสะเทือนใหม่ด้วย

                การสลาลอมที่ความเร็ว  60  กม./ช.ม. โดยประมาณ สิ่งที่เราสามารถสังเกตได้อีกประการ คือการลดความโคลงของตัวรถที่ทำได้ดีมากยิ่งขึ้นพอสมควร และ มันพิสูจน์อีกครั้งเมื่อเราเข้าโค้งยาวในสถานีที่ 2  ทีความเร็วเดียวกันและการโคลงที่น้อยลงก็ทำให้มั่นใจมากยิ่งขึ่นในการขับขี่ที่ดูดีเพิ่มขึ้นจากเดิม

Toyota Corolla Altis  E85

                สถานีที่ 3  เราหยุดนิ่งก่อนที่จะเร่งในอัตรา 0-100 ก.ม./ช.ม. แบบไม่ได้จับเวลามาวัดกันอย่างจริงจัง แต่เมื่อเดินคันเร่งในช่วงแรก เราจะรู้สึกว่ารถยนต์ดูจะออกตัวแบบหนืดเล็กน้อย  แต่เมื่อล้อหมุนรอบเครื่องเร่งเพิ่มขึ้นเกินช่วง  3000 รอบต่อนาที ก็สามารถรู้สึกได้ว่าแรงเร่งมีการเปลี่ยนไป อาจจะด้วยแรงบิดที่สามารถสนองตอบได้อย่างลงตัว ด้วยระบบวาล์วแปรผันคู่ ทั้งไอดี ไอเสีย ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานของเครื่องยนต์  ให้เหมาะสม และยิ่งไปกว่านั้น สามารถฟาดได้ถึงแรงม้าสูงสุดแบบที่ไม่ช้าให้รำคาญใจในยามที่ต้องใช้รอบเครื่อง

                เราพ้นสถานที่ 3  ที่ความเร็ว  100 ก.ม./ช.ม. พอดิบพอดี ก่อนที่ จะเข้าสู่สถานีที่ 4  เพื่อดูการเปลี่ยนเลน ของ Toyota Corolla Altis  ใหม่ โดยเราแตะเบรคเล็กน้อย เพื่อลดความเร็ว จนมองหน้าปัดครั้งสุดท้าย ที่  90  ก.ม./ช.ม. และหลังจากนั้นทำการเปลี่ยน เลนตามปกติ  ซึ่งก็ยังให้ความมั่นใจได้ท้ายรถไม่มีอาการสะบัดให้เห็น แม้จะใช้ความเร็วพอสมควร ในการเปลี่ยนเลนที่ไม่กว้างนัก

                ในสถานีสุดท้ายเราเบรคลดความเร็วลง ซึ่ง  Toyota Corolla Altis  ใหม่ ดูเหมือน จะมีความสามารถในเรื่องการเบรกมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้สามารถสนองตอบได้ดีมากยิ่งขึ้น และเรื่องการให้ฟีลลิงที่แป้นเบรกเองก็ให้ความมั่นใจแบบไม่ต้องรอลุ้น เมื่อประกอบกับระบบช่วงล่าง ที่มาถึงจุดสุดท้ายของการทดสอบก็ต้องยอมรับว่า มันดีใช่ย่อยเหมือนกัน

ถ้าถามว่า Toyota Corolla Altis  ใหม่ คุ้นค่าน่าซื้อหรือไม่ คงต้องตอบว่าพอสมควรเลยทีเดียวสำหรับรถยนต์คันนี้ที่มีดีที่แตกต่างเช่นเดียวกันกับ การขับขี่ที่ดีขึ้น และแถมท้ายราคายังถูกลง แล้วแบบนี้จะไม่ให้มันน่าสนใจได้อย่างไร แต่แน่นอนนี่เป็นเพียงการทดสอบสั้นที่เราจะนำมันมาทดสอบอีกครั้งในเร็วๆนี้ แน่นอน

เรื่องโดย ทีมงาน Sanook! Auto 




 

Create Date : 04 ธันวาคม 2555    
Last Update : 4 ธันวาคม 2555 8:30:30 น.
Counter : 1771 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.