.....ดอกบัวหลวง..... ดอกบัวหลวงเป็นดอกไม้ที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนาน และเป็นที่คุ้นเคยกันอย่างดีสำหรับพุทธศาสนิกชน ดอกบัวหลวงเป็นดอกไม้ประจำจังหวัด ปทุมธานี พิจิตร, สุโขทัย, หนองบัวลำภู, และอุบลราชธานี บัวหลวงมีชื่อสามัญว่า Nelumbo nucifera และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nymphaea lotus Linn. จัดอยู่ในวงศ์ NYMPHACACEAE และยังมีชื่อเรียกๆอีกเช่นอื่น บุณฑริก, สัตตบงกช เป็นต้น ลักษณะทั่วไปเป็นพรรณไม้น้ำประเภทพืชล้มลุก มีลำต้นและหัวอยู่ในดินใต้น้ำ ชูก้านใบและดอกขึ้นมาบนเหนือผิวน้ำ ใบมีลักษณะกลมกว้างใหญ่ ผิวใบเรียบ สีเขียวขอบน้ำตาล ดอกเป็นกลีบซ้อนกันหลายชั้น มีสีขาว ชมพู เหลือง ลักษณะสีสัน ขนาดของใบและดอกขึ้นอยู่กับชนิดของพันธุ์ การขยายพันธุ์ทำได้โดยการเพาะเมล็ด หรือแยกกอจากหัวหรือเหง้า สภาพที่เหมาะสมคือปลูกในดินเหนียว ดินนา ดินผสมอินทรีย์ ต้องการน้ำมากเพราะเป็นพืชเจริญในน้ำ และแสงแดดอ่อนๆจนถึงแดดจัด มีถิ่นกำเนิดในแถบทวีปเอเซีย เช่น ประเทศจีน อินเดีย และไทย บัวหลวงเป็นพืชที่มีคุณค่าทางสมุน ไพรสามารถนำส่วนต่างๆ ของบัวหลวงมารับประทานได้ สามารถใช้ทำเป็นยาฝาดสมาน รากเหง้ามีสรรพคุณเป็นยาเย็น ต้นอ่อนออกฤทธิ์ขยายเส้นเลือดหัวใจ และเกสรใช้เป็นยาหอมบำรุงหัวใจได้ เป็นเวลายาวนานกว่า ๒,๕๐๐ ปีมาแล้ว ในแง่มุมของพระพุทธศาสนา ดอกบัวหลวงมีความสำคัญเกี่ยวข้องอยู่หลายประการ พระพุทธเจ้าได้ทรงเปรียบเทียบเปรียบเปรยดอกบัว ๔ เหล่ากับ ปัญญาแห่งบุคคลที่สามารถรู้และเข้าใจธรรมะเพื่อความหลุดพ้น บุคคลชนิดแรกสามารถเปรียบเทียบได้กับ ดอกบัวที่ตั้งพ้นน้ำ รอสัมผัสแสงอาทิตย์ก็จะบานในวันนี้ คือผู้รู้เข้าใจธรรมะได้ฉับพลันตั้งแต่ท่านยกหัวข้อขึ้นแสดง และบุคคลที่เปรียบเป็นดั่งดอกบัวประเภทที่ ๒ คือดอกบัวที่ตั้งอยู่เสมอน้ำ จักบานในวันรุ่งขึ้น เฉกผู้รู้เข้าใจต่อเมื่อท่านได้ขยายความแห่งธรรมะนั้น บุคคลประเภทต่อมาเปรียบได้กับ ดอกบัวที่ยังอยู่ในน้ำยังไม่โผล่พ้นน้ำ จักบานในวันด่อ ๆ ไป คือผู้ที่พอจะแนะนำต่อไปได้เพื่อเข้าใจในธรรมะ บุคคลประเภทสุดท้ายเปรียบได้กับ ดอกบัวที่จมอยู่ในน้ำ ไม่มีโอกาสได้โผล่พ้นผิวน้ำจึงเป็นเพียงอาหารของปลาและเต่า คือผู้ที่ได้แค่ตัวบทหรีอถ้อยคำเท่านั้น ไม่อาจจะเข้าใจความหมายรู้ในธรรมะได้ ตอนที่พระพุทธเจ้าทรงประสูตินั้น กล่าวกันว่า ตลอดเจ็ดก้าวที่ทรงเดินนั้นมีดอกบัวผุดขึ้นมารองรับพระบาทไว้ และตามภาพพุทธประวัติโดยมากก็จะมีภาพดอกบัวเข้าเกี่ยวข้อง ดอกบัวจึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในสัญญลักษณ์ทางพุทธศาสนา ดอกบัวหลวงเป็นต้นเค้าของพุทธศิลปไทย ใช้เป็นองค์ประกอบเชิงศิลป์ นิยมทำเป็นรูปรองรับพระพุทธปฏิมากร สถูปเจดีย์ และทำเป็นฐานอาคารที่สร้างขึ้นสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์ อาคารสำหรับสถาบันทางพุทธศาสนา เทวรูป และเครื่องราชูปโภค ฯลฯ มีการนำภาพดอกบัวมาใช้ในเงินตรา ดวงตรา สมัยโบราณ เงินตราทวาราวดี ซึ่งเป็นเงินเหรียญมีรูปร่างต่างๆ ผสมกัน เช่น รูปสังข์ "รูปกระต่ายบนดอกบัว" ฯลฯ เงินตรากรุงศรีอยุธยา เป็นเงินพดด้วง ส่วนใหญ่ตีตราธรรมจักร และตราประจำรัชกาล เช่น ครุฑ ช้าง "ดอกบัว" ฯลฯ เงินตรากรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 เป็นเงินพดด้วง ตราจักร มีตราประจำรัชกาล เป็น "บัวผัน" หรือ "บัวอุณาโลม" (พื้นที่ตรงนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะใส่ข้อความอะไรดี) ชอบภาพไหนโหวตกันเข้ามาหน่อยน๊ะคับ บัวนั้นแม้ว่าจะเกิดแต่ตม แต่ก้องดงามมีคุณประโยชน์มากมาย ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมและทักทายกันอย่างเช่นเคยครับ

Create Date : 17 สิงหาคม 2549
Last Update : 17 สิงหาคม 2549 15:21:29 น.		111 comments
Counter : 24384 Pageviews.
Share Tweet