........ตอนนี้พวกเราได้มาอยู่กันครบทีมแล้วครับ..สำหรับนักแสดงหลัก ซึ่งกิจวัตรประจำวันในทุก ๆ วันของพวกเราก็คือการซ้อม ซ้อม และ ซ้อม...............มาถึงตอนนี้เองที่กองถ่ายจะได้เริ่มการถ่ายทำฉากแรก...ซึ่งปีเตอร์กับทรายเป็นสองคนแรกที่ได้เข้าฉากถ่ายทำภาพยนตร์ ซึ่งก็คือ ฉากการรบที่ช่องสิงห์นั่นเอง..เราถ่ายทำกันภายในกองถ่ายตรงพื้นที่ ที่เรียกว่า อารีน่า หรือ ก็คือ สนามฝึกขี่ม้าที่พวกเราฝึกขี่กันอยู่ทุกวัน....โดยจำลองหน้าผาหินและต้นไม้ขึ้นมาใหม่หมด...........ในฉากนี้เป็นเรื่องของการรบของพระราชมนูและเลอขิ่น..ขณะที่กองทัพของสุระกำมาเดินทางมาถึงช่องสิงห์...ซึ่งเป็นค่ายที่พระราชมนูตั้งค่ายคอยสกัดทัพของสุระกำมา....ตอนนั้นพวกเราก็ยังงง ๆ กันอยู่ที่โผล่มาก็รบกันเลยเพราะว่าไม่รู้เนื้อเรื่องว่าบทเป็นอย่างไรบ้าง..ที่รู้ก็คือประวัติศาสตร์และคาแร็คเตอร์ที่ท่านมุ้ยทรงอธิบายให้เข้าใจในแต่ละบุคคล...........การถ่ายทำช่วงนั้นเป็นช่วงที่ปีเตอร์และทราย..ทุ่มเทให้กับการซ้อมคิวต่อสู้กับสตั้นอย่างมาก..เรียกได้ว่าซ้อมคิวดาบกันอย่างเดียว...เพราะว่าเป็นคิวที่ยาวและยากมากอีกทั้งยังใช้นักแสดงประกอบเยอะมาก ๆ ด้วย...ถึงขนาดที่ว่าปีเตอร์กับทราย ก็ได้แผลจากการซ้อมฟันดาบเกือบทุกวัน....แต่ด้วยเลือดทรหดของลูกผู้ชายชื่อ นพชัย ชัยนาม...และ...ความมุ่งมั่นทุ่มเท..ของสาวมาดเท่ห์นาม อินทิรา เจริญปุระ....ทำให้พวกเราทึ่งกับสิ่งที่สองคนนี้ได้แสดงออกมาในการถ่ายทำฉากแรกของภาพยนตร์.............บางคนอาจเคยเจอกับปีเตอร์ในที่ต่าง ๆ ในบุคคลิกที่เป็นคนเงียบ ๆ ยิ้มเก่งดูท่าทางลุง ๆ ซึ่งเมื่อปีเตอร์ต้องมาสวมบทบาทนักรบที่บ้าระห่ำ ออกแนวบ้าดีเดือด ปีเตอร์ ก็กลับกลายเป็นคนละคนเชียวครับ...ยิ่งในภาพยนตร์ช่วงท้าย ๆ ที่พระราชมนูเจอกับเลอขิ่นนั้น...เตอร์ก็สวมบทบาทเจ้าชู้ได้แนบเนียนมาก ๆ ปีเตอร์ถือเป็นนักแสดงที่ทำให้ผมได้เห็นความแตกต่างของ การเป็นคนธรรมดาและการสวมบทบาทเป็นตัวละครในภาพยนตร์ได้ชัดเจนที่สุด...ซึ่งตอนแรกเองผมไม่คิดว่าปีเตอร์จะทำได้ขนาดนั้น.............ดังนั้นช่วงที่ปีเตอร์กับทรายถ่ายทำนั้น..เราจึงพักยกการแกล้งปีเตอร์ไว้พลางก่อน..เนื่องจากสงสาร...พอเย็นมาเลิกกองถ่ายก็เห็นเตอร์ตาโรยจนแทบจะปิด...เพราะว่าถ่ายทั้งวัน...แล้วก็เป็นคิวต่อสู้ด้วย..เสื้อเกราะก็หนัก อากาศก็ร้อน..พอกลับถึงโรงแรม...ตอนจะอาบน้ำพอปีเตอร์ถอดเสื้อออก..เราแอบเห็นรอยที่ไหล่และหลังของปีเตอร์ที่เกิดจากการเสียดสีกับเสื้อเกราะ เป็นแผลถลอกแดง ๆ เหมือนกับคนที่มอเตอร์ไซด์ล้ม...โห...ผมงี้เชื่อในความทรหดของพี่แกเลย..ทนได้ยังงัยอ่ะ........นี่หล่ะครับ..ผมถึงว่าเตอร์เป็นคนที่ทรหดมาก ๆ ไม่บ่นเลยสักคำ..แล้วถ้าไม่เห็นตอนถอดเสื้ออาบน้ำที่โรงแรม..ก็อย่าหวังให้ปีเตอร์บอกเลยครับ..หมอนี่ปากหนักจริง ๆ ยกให้ในความทรหดอดทนของเตอร์เป็นที่ ๑ เลยครับ.....ช่วงนั้นมีอีกเรื่องที่น่าประทับใจของปีเตอร์ ก็คือ หลังจากวันที่กลับไปพักบ้านที่ กทม.ช่วงวันหยุดซึ่งก็เป็นช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ทางกองถ่ายไม่มีถ่ายและทีมครูฝึกพักนั้น........เมื่อเตอร์มาถึงที่กาญจนบุรี..เค้าจะมีกระเป๋าใบโต ๆ มาด้วย ๑ ใบซึ่งกระเป๋าใบนี้ไม่ใช้กระเป๋าเสื้อผ้าหรอกครับ..แต่เป็นกระเป๋าใส่อาหารและขนมซึ่งคุณแม่ของปีเตอร์ทำมาให้...มีทั้งแซนวิส แฮม ช็อคโกแล็ทแท่ง ขนมปัง ช็อคโกแลทแยมนูเทลล่า เค้ก ....มีเยอะชนิดที่เรียกได้ว่าท่านได้ทั้งอาทิตย์เลย....ซึ่งรู้ได้เลยว่าคุณแม่ของเตอร์คงสังเกตุที่ความผอมโซและโทรมมาก ๆ ในช่วงนั้นเพราะถ่ายทำหนักมาก ๆ ...ถึงได้ทำอาหารพิเศษมาให้เตอร์ด้วย........ปีเตอร์เป็นคนที่ชอบช็อคโกแลทมาก ๆ แล้วก็เป็นคนชำนาญเรื่องช็อคโกแลทด้วย..รู้หมดว่าอันไหนอร่อยอันไหนไม่อร่อย..แต่ที่ทานกันอยู่ประจำแล้วก็ทำให้ติดนิสัยชอบเหมือนกันหมดทั้งแก๊งค์เลยตอนที่ถ่ายหนังก็คือ....นูเทลล่า นี่หล่ะครับคุณพระปีเตอร์เป็นคนเอามาเผยแพร่...ซึ่งเตอร์จะมีประจำตู้เย็นที่โรงแรมเสมอ พร้อมกันขนมปังปอนด์...ซึ่งผมกับเบิรด์มักจะดอดไปใช้บริการที่ตู้เย็นของปีเตอร์เสมอ ๆ ........ไว้น้อง ๆได้มีโอกาสเห็นพี่เตอร์ทานช็อคโกแลตน้อง ๆ จะรู้เองว่าพี่เตอร์นี่หล่ะ..ปีศาจช็อคโกแลตตัวจริง...การถ่ายทำฉากการรบที่ช่องสิงห์ของปีเตอร์และทราย..ภายในกองถ่ายดำเนินการถ่ายทำใช้เวลาราว ๑ เดือนเต็มครับ...หลังเสร็จจากฉากรบที่ว่าแล้ว...คราวนี้ก็มาถึงฉากที่มีการระเบิดแล้วมีม้าล้ม...ที่เราเห็นในภาพยนตร์นั่นหล่ะครับ........ซึ่งช่วงนี้นักแสดงหลักไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย..เพราะเป็นฉากที่ทหารพม่าของสุระกำมา..โดนปืนใหญ่ของพระศรีระดมยิงจากค่ายศรีเทพ...ฉากนี้เป็นฉากที่ตื่นตาตื่นใจมาก..พวกเราทุกคนแห่กันไปดูทุกวันที่มีการถ่ายทำ..เพราะว่าทีมสตั้นที่มาขี่ม้าเข้าฉากนั้นจัดว่าเป็นมือระดับเซียนทั้งนั้น..เพราะเป็นทีมสตั้นจากต่างประเทศทั้งสิ้น..เท่าที่จำได้..ก็จะมี สเปน,ออสเตรเรีย,เชค,อเมริกา....ที่สามารขี่ม้าฝ่าระเบิดได้..แล้วก็สามารถขี่ม้าแล้วดึงให้ม้าล้มได้.............เวลาที่โดนระเบิด...การถ่ายฉากนี้ถือว่าสิ้นเปลืองและสูญเสียเยอะมาก ๆ...ไม่ว่าจะเป็นระเบิดที่ได้ทีมสร้างงานเอฟเฟ็คจาก MI 2 จาก Matrix ซึ่งเค้าทำงานแบบมืออาชีพจริง ๆ ....แต่อย่างไรก็ดีก็ยังเป็นการถ่ายทำที่ยากมากอยู่ดี..เพราะต้องใช้ม้าเยอะมาก..แล้วอีกอย่างม้าที่มาเข้าฉากแต่ละตัวนั้น..จะตื่นและขวัญเสียจากเสียงระเบิดและไฟ...ซึ่งก็มีบางตัวเหมือนกันที่เตลิดวิ่งเข้าป่าเข้ารกไป...บางตัวก็มีเจ็บขา..เจ็บหลัง..ทำให้ช่วงนั้นพวกเราแทบจะไม่ได้ซ้อมขี่ม้ากันเลยเพราะม้าต้องเข้าฉากและก็บาดเจ็บหลายตัว........ซึ่งพวกเราก็เซ็ง ๆ ไปเหมือนกัน..เพราะใจน่ะจดจ่ออยากจะขี่ม้ากันเต็มทนแล้ว...แต่ผลหลังจากที่ถ่ายฉากนี้เสร็จสิครับ...มันน่าตื่นเต้นกว่าตอนที่ดูเค้าถ่ายฉากขี่ม้าฝ่าระเบิดเสียอีก...เพราะม้าแต่ละตัวที่เข้าฉากขี่ฝ่าระเบิดมาแล้วนั้นขวัญเสียตื่นแทบจะขี่ไม่ได้เลย..ต้องพักอยู่นานทีเดียว...ซึ่งเมื่อพวกผมเอามาซ้อมขี่ในเวลาต่อมา...มันก็เลยทำให้มีเหตุการณ์หวาดเสียวเกินขึ้นกับพวกเราหลายคนเลยหล่ะครับ........อยากรู้ว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง...ก็ติดตามต่อไปนะครับ..วันนี้ไม่ไหวแล้ว..ขออนุญาตไปนอนก่อนครับ
รักษาสุขภาพด้วยน่ะค่ะ