........การฝึกดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น....โดยที่เราได้รู้จากทีมงานที่ดูแลเราว่า เตอร์ จะได้เล่นเป็น พระราชมนู ,น้องแอฟ เล่นเป็น มณีจันทร์ สำหรับ ทราย เป็น เลอขิ่น....ซึ่งในตอนนั้นเรารู้กันแค่นี้จริง ๆ สำหรับผม พี่ต๊อดและเบิร์ด ยังไม่รู้เลยว่าเราจะเล่นบทอะไรกัน........ก็คิดเอาเองในใจว่าคงต้องเป็นประมาณทหารเอกของพระนเรศวร..เพราะพระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักรบ..ย่อมต้องมีขุนศึกคู่พระทัยอยู่หลายคน ซึ่งในภายหลังก็มีผมคนเดียวที่ทายถูก...ฮ่า ๆ..เพราะว่า เบิร์ด ก็เล่นเป็น พระนเรศวร แล้ว พี่ต๊อด ก็เล่นเป็นพระเอกาทศรถ...สรุปแล้วผมทายถูก........สองคนนั่นทายผิด..ฮ่า ๆ ผมเก่งมั๊ยหล่ะ มัวแต่พูดถึงตัวเองอยู่ลืมเอก(รังสิโรตม์)ไปเลย...งั้นเดี๋ยววันนี้ขออนุญาต ส่งเอกกลับบ้านก่อนแล้วกันนะครับเพราะเดี๋ยวผมเล่าไปเล่ามาแล้วก็จะลืมอีก..เอาทีละคนเนอะ..เพราะว่าแสดงภาพยนตร์เรื่องนี้ เจอกับนักแสดงเยอะเหลือเกิน เอ้า..เรื่องเอกนะ เอกมาซ้อมขี่ม้า , ฟันดาบอยู่ด้วยกันได้สัก เดือนกว่า ๆ ซึ่งเป็นคนแรกที่โดนพิษสงจากม้า...แต่ไม่ได้ตกม้านะครับ..อาการที่เอกประสบหลังจากการขี่ม้าก็คือ ก้นแตก..ฮ่าๆ ........จริง ๆ ครับ ผมก็เคยแตก...ซึ่งคิดว่าไม่น่าจะมีนักขี่ม้าที่ไหนไม่เคยประสบอาการนี้...มันทรมานมากนะครับ..วันที่เอกก้นแตกนั้น...ผมเห็นหน้าตาเอกเป็นกังวลหลังจากที่ลงจากม้า ก็คือผมเห็นเอกเดินคลำที่ก้นแล้วก็มานั่งกินน้ำตรงที่พักของคอกม้า..ผมก็เลยถามเอกว่าเป็นอะไร..เอกบอกว่า " ไม่เป็นอะไรครับพี่.." ผมก็ไม่ได้สนใจถามอะไรต่อเพราะคิดว่าเอกคงไม่เป็นอะไร....แต่มารู้เอาวันรุ่งขึ้นว่า...เอกก้นแตก..ฮ่า ๆ..เพราะว่าเอกไม่ยอมขึ้นขี่ม้าและไม่ได้ฝึกขี่........ในวันนี้ โดยที่เอกกระซิบบอกผมเบา ๆ ว่า "ก้นแตกซะแล้วพี่..." ผมเองก็อดขำหน้าตาน้องเค้าไม่ได้..เพราะผมเองยังไม่เคยได้ลิ้มรสของการที่ขี่ม้าแล้วก้นแตก...ก็เลยยังไม่ซาบซึ้ง..แต่อีกไม่นานหรอกครับผมก็ได้ซาบซึ้งประสบการณ์นั้น..ด้วยตัวเองจนได้...โห...ขอบอกเลยครับ..ว่าสุด ๆ จริง ๆ ทรมานมาก ๆ และตั้งแต่นั้นก็สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมก้นแตกอีกแล้ว..เข็ดจริงๆ........แต่สำหรับคนที่กำลังจะเรียนขี่ม้าหรือว่าเพิ่งฝึกขี่ม้าแล้วประสบปัญหาก้นแตกแต่ก็ยังอยากขี่ม้าต่อไป ผมมีวิธีแก้ครับ...." ขอแนะนำอุปกรณ์ช่วยการขี่ม้าและป้องกันอาการก้นแตก " นั่นคือ ผ้าอนามัยของสตรีหลังคลอดบุตร.....ฮ่า ๆ อย่าขำนะครับ..แล้วต้องสัญญาก่อนนะว่าเจอกันแล้วจะไม่ล้อผม...เพราะผมเคยใช้มาแล้ว...ฮ่าๆ ........สำหรับสตรีที่ยังไม่เคยคลอดบุตร อาจยังไม่เคยรู้จักกับผ้าอนามัยชนิดนี้...ซึ่งคิดว่าน้อง ๆ ที่ติดตามอ่านบล็อคของผม ก็คงเป็นสาว ๆ โสดกันทั้งนั้น....ฮิ..ฮิ...ทีนี้เรามาดูลักษณะของผ้าอนามัยชนิดนี้กันนะครับ..ก็จะพิเศษกว่าปกติ ตรงที่มันจะมียางยืดให้เราสามารถใช้สวมรัดที่เอว และมีสายเกี่ยวผ้าอนามัยจากเอวด้านหน้าลอดใต้หว่างขา.....ไปด้านหลัง...ผมก็ใช้แบบที่ผู้หญิงเค้าใช้น่ะครับแต่ว่าดึงผ้าอนามัยไปด้านหลังเล็กน้อยให้อยู่ตำแหน่งของก้นตรงที่จะสัมผัสกับอานม้า ซึ่งคุณสมบัติของผ้าอนามัยจะนุ่มนวลมาก ๆ รู้สึกสบายจริง ๆ แล้วแผลที่แตกอยู่ก็จะไม่สีกับอานเพราะเมื่อเหงื่อเราออกมา.....ผ้าอนามัยที่เราใส่อยู่ก็จะโค้งติดแนบสนิทกับก้นจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน..นั่นเป็นวิธีเอาชนะอาการก้นแตก....ซึ่งตอนนี้ถึงผมก้นแตกอีกก็ไม่กลัวแล้วครับ..เพราะยังงัยก็มีผ้าอนามัยเป็นอุปกรณ์เสริมให้อุ่นใจอยู่........คืนสุดท้ายที่ผมได้มีโอกาสคุยกับเอกก็คือ คืนที่มีการถ่ายลองฟิลม์ ซึ่งผมก็ได้นอนคุยกับเอกอยู่ท้ายรถไฟ(รถขนอุปกรณ์ไฟ..นะครับ..) ซึ่งตรงนั้นเป็นพื้นที่ ที่พี่ ๆ ทีมงานแนะนำผมว่า...เวลาไปถ่ายหนังถ่ายละครที่ไหน..ถ้าอยากหาที่นอนพักผ่อนให้มองหารถไฟไว้ ซึ่งรถไฟเนี่ยจะอยู่ใกล้กับที่ถ่ายเสมอเพราะถ่ายหนังต้องมีการจัดไฟรถไฟจึงต้องอยู่ใกล้ ๆ เพราะจะได้สะดวกเวลาจะจัดไฟ........ซึ่งถ้าเรานอนใกล้รถไฟเค้าจะเรียกหาง่ายและก็ไม่ต้องเดินไกลอีกด้วย....อีกอย่างคือ ท้ายรถไฟจะมีลักษณะเป็นแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ที่สามารถเป็นลิฟท์ ใช้ยกขึ้นลงเพื่อขนอุปกรณ์ขี้นรถได้......พื้นที่กว้างขวางนอนสบายมาก ๆ ....คืนนั้นผมก็เลยนอนคุยกับเอกอยู่ท้ายรถไฟ ก็คุยกันไปเรื่อย ๆ เปื่อย ........เอกก็เล่าเรื่องบ้านที่อยุธยาบ้าง เรื่องเล่นดนตรี เล่นหนัง...แล้วเอกก็บอกว่า..." ผมคงไม่ได้อยู่ขี่ม้ากับพี่แล้วหล่ะครับ " เพราะว่ามีงานแสดงที่ติดต่อเข้ามา แล้วตอนนั้น..เอกยังมีคิวต้องไปโปรโมต หนังเรื่อง ทวิภพ ด้วย เอกก็เลยต้องไปทำงานคงไม่มีเวลามาอยู่ซ้อมด้วยกัน....นั้นเป็นวันสุดท้ายที่ผมได้คุยกับเอกในกองถ่ายนเรศวร..แต่หลังจากนั้นก็ยังโทรคุยกันบ้างตามประสาคนคุ้นเคยกัน
ซ่า....ซ่า..... ( เสียงสาดน้ำ ) ชุ่มฉ่ำ ๆรับวันสงกรานต์ จ้า
รักษาสุขภาพด้วยจ้า ที่ป่วยอยู่ก็ขอให้หายเป็นปลิดทิ้ง โอม...เพี้ยง