|
" วันชนะ "
........หลังจากที่ถ่ายทำฉากที่มีระเบิดและม้าล้มผ่านไป...ม้าได้พักอยู่ประมาณสักอาทิตย์กว่า ๆ พวกเราก็กลับมาฝึกซ้อมขี่ม้าเป็นปกติ....แต่ผลพวงจากการถ่ายทำฉากระเบิดนี่สิครับ....มันส่งผมมาถึงพวกผมเข้าให้อย่างจัง..
........เพราะว่าม้าที่เคยขี่กันอยู่น่ะ..มันประสาทเสียเนื่องจากเสียงระเบิด..ทำให้มันดื้อและไม่ค่อยตอบสนองต่อคำสั่ง....ซึ่งการขี่ม้าช่วงนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าตื่นเต้น..มีเหตุให้หายใจไม่ทั่วท้องกันเกือบทุกวัน
........มาว่ากันเรื่องตื่นเต้น ๆ ที่น่าประหลาดใจก่อนดีมั๊ยครับ..เรื่องก็มีอยู่ว่า...วันหนึ่งในขณะที่พวกเราซ้อมขี่ม้าในภูมิประเทศกัน วันนั้นก็จะเป็นการออกขี่รอบ ๆ กองถ่ายถือเป็นการพักผ่อนและออกกำลังกายของม้า..ซึ่งอันที่จริงแล้วก็ไม่น่าจะมีอะไร
........แต่ว่าวันนี้..ม้าที่พวกเราขี่ทุกตัวมีอาการหงุดหงิดมาก ๆแทบจะพาม้าเดินออกจากคอกกันไม่ได้เลยทีเดียว แต่ด้วยความที่เราก็ฝึกมาเยอะแล้วประกอบกับแก่วิชาเต็มที่แล้วทุกคน....ถึงม้าจะไม่ยอมไป..แต่เราก็ทำให้มันยอมไปจนได้ เราก็ขี่ม้ามาเรื่อย ๆ ออกจากคอกม้าเลี้ยวลงมาที่ อารีน่า(ลานอเนกประสงค์ที่ใช้ถ่ายและใช้ฝึกม้า)
........ม้าของแต่ละคนก็เริ่มมีอาการพยศเล็กน้อย...โดยเป็นลักษณะที่เหมือนจะออกวิ่งตลอดเวลา ซึ่งเราเองต้องคอยดึงบังเหียนบังคับให้ม้าเดินและวิ่งเรียบไปช้า ๆ เพราะจุดมุ่งหมายของการขี่วันนี้ไม่ต้องการให้ม้าเหนื่อยมาก โดยจะไม่พยายามให้ม้าวิ่งขโยกเพราะจะทำให้ม้าเหนื่อยมาก....โดยเมื่อผ่านอารีน่ามากได้สักร้อยเมตร
........ม้าของเบิร์ดก็ออกวิ่งนำแบบชนิดที่เรียกว่าม้าแข่งเลย..คือม้าวิ่งที่สปีดเร็วสุดภาษาไทยเค้าเรียกว่า ม้าฮ่อ ซึ่งพวกเราทุกคนก็ตกใจเพราะม้าไม่เคยมีลักษณะอาการแบบนี้..ตัวอื่น ๆ ก็ทำท่าจะวิ่งตาม...แต่ว่าก็พยายามดึงกันไว้ จนกระทั่งมือที่จับสายบังเหียนพองกันแทบทุกคน..เพราะว่าต้องคอยดึงสายบังเหียนตลอดเวลา
........แต่ด้วยความเป็นห่วงเบิร์ดเราก็เลยพยายามเร่งความเร็วม้าเพื่อจะตามไปดูว่าเบิร์ดบังคับม้าให้หยุดได้รึเปล่า จนในที่สุดเราก็ตามมาเจอเบิร์ดหล่นจากหลังม้าแต่ก็กำลังดึงม้าให้หยุดพยศ...หมุนอยู่บริเวณกำแพงเมืองหงสาข้าง ๆ วัดมหาเถร
........แล้วเบิร์ดก็กระโดดขี้ขี่ม้าอีกครั้ง...ซึ่งพวกเราก็คิดว่าเบิร์ดคงจะบังคับม้าอยู่และไม่คิดว่าน่าจะมีปัญหาอะไร แต่พอม้าของพวกเรามาเข้ากลุ่มกันเหมือนเดิม..ม้าของเบิร์ดก็ออกวิ่งอีก คราวนี้ม้าเบิร์ดวิ่งผ่าเข้าไปในฝูงควายที่กำลังหากินอยู่บริเวณลานวังบุเรงนอง แล้วก็วิ่งผ่ากลางฝูงเลยครับ..ควายตกใจวิ่งหนีกันจ้าละหวั่นบางตัวกระโดดหลบม้าเหมือนจิงโจ้เลย
........โดยที่ม้าเห็นควายก็ไม่ยอมหยุดวิ่งฝ่าไปกลางฝูงตรงไปยังประตูเมืองพิษณุโลกที่เห็นในภาพยนตร์ ตอนที่พระนเรศวรกอดกับพระเอกาทศรถ นั่นหล่ะครับ เลยจากตรงนั้นไปจะเป็นทางแยกซึ่งมีรถเครนขนาดใหญ่สีเหลืองจอดขวางทางอยู่ ซึ่งตรงนั้นเป็นทางโค้งเลี้ยวขวา เพื่อจะกลับไปที่ศูนย์กลางของกองถ่าย.....ซึ่งพวกเราน่ะเห็นแล้วว่าถ้าไม่เลี้ยวขวาหลบ..มีหวังม้าจะชนเข้ากับรถเครนแน่ ๆ
........ซึ่งเป็นไปตามความคาดหมาย...ม้าชนกับรถเครนจริง ๆ ครับ....พวกเราแต่ละคนงงมากกับการที่ม้าวิ่งชนรถเครน เพราะโดยปกติแล้วม้าแทบจะไม่มีโอกาสวิ่งชนอะไรได้เลย..แล้วยิ่งเป็นรถเครนคันใหญ่ขนาดนั้นด้วยแล้ว สัญชาติญาณของสัตว์ไม่น่าจะทำให้มันวิ่งชนรถเครนได้.....ตอนนั้นหลังจากที่ม้าวิ่งชนรถเครนแล้ว
........ผู้กองเบิร์ดของเราก็ร่วงลงม้ามาอยู่ข้างล่างตามระเบียบ..แต่ว่าเหลือเชื่อครับ..ถึงจะตกจากหลังม้า..เบิร์ด..ก็ไม่ยอมปล่อยบังเหียน ยังดึงม้าอยู่อย่างนั้น..โห...พวกเราเห็นอย่างนั้นแล้ว..ยอมเลยใจเบิร์ดเลยครับร่วงลงมาแล้วยังไม่ยอมปล่อยม้าไปอีก
........สงสัยว่าต้องการจะปราบพยศมันให้อยู่..เพราะนิสัยของเบิร์ดแล้วถ้าไม่ยอมแพ้อะไรแล้วเบิร์ดเป็นสู้สุดใจขาดดิ้น เท่านั้นยังไม่จบนะครับ....เดี๋ยวเดียว เบิร์ดก็กระโดดกลับขึ้นไปขี่ม้าเหมือนเดิม ทั้งที่ทุกคนพยายามทักท้วงว่าวันนี้พอก่อนเถอะเห็นหล่นมาสองครั้งแล้ว
........แล้วอีกอย่างม้าที่พวกผมขี่ก็ใช่ว่าจะยอมให้ความร่วมมือกันสักตัวที่ไหน..ดึงให้หยุดกันจนมือพองแทบจะทุกคน แต่เบิร์ดก็บอกว่า " ขอลองอีกทีพี่ " ....เฮ่อ..เอาเมื่อน้องอยากลอง..พี่ก็ตามใจ....และแล้วเราก็เริ่มพาม้าออกเดินกันอีกครั้ง โดยเส้นทางที่เหลือไม่ไกลเท่าไหร่ก็จะกลับถึงคอกม้า..ก็คิดว่าคงจะพอกันแค่นี้สำหรับการขี่วันนี้
........แต่พอพวกเราพาม้าเดินไปได้สักประมาณสิบก้าว...ม้าเบิร์ดก็แผลงฤทธิ์อีกเหมือนเดิม..คราวนี้วิ่งเต็มเหยียดเลยทีเดียว ที่น่าหวาดเสียวที่สุดน่ะ..ตรงที่ม้าวิ่งเต็มเหยียดนั้นเป็นพื้นถนนลาดยาง..ซึ่งมีโอกาสที่ม้าจะลื่นล้มได้ตลอดเวลา
........เนื่องจากพื้นถนนแข็งประกอบกับที่ว่าเกือกม้าน่ะเป็นเหล็ก...เราจึงได้ยินเสียงควบดังเป็นเสียงเหล็กกระทบของแข็ง คราวนี้พวกเราทุกคนตกใจกว่าครั้งแรกอีกครับ...เพราะทิศทางที่ม้าเบิร์ดวิ่งเตลิดไปนั้น..เป็นเส้นทางที่มีอันตรายอยู่มาก เพราะว่าจากตรงที่เบิร์ดตกม้าครั้งที่สองตรงไปน่ะก็จะถึงบริเวณที่ตู้คอนเทนเนอร์ตั้งอยู่ซึ่งก็คือบริเวณจุดศูนย์กลางของกองถ่าย
........โดยเมื่อวิ่งถึงทางแยกหน้าตู้คอนเทนเนอร์ของท่านมุ้ยม้าเบิร์ดก็เลี้ยวซ้าย วิ่งลัดลงข้างถนนผ่านเต้นท์สารพัดเต้นท์ที่เป็นที่สร้างงานไม้และงานโฟมมีทั้งเหล็กโครงที่จะใช้ทำแบบของตัวสิงห์ที่เราเห็นตั้งใหญ่ ๆ นั่นหล่ะครับ..แล้วก็มาก็ได้ยินเสียงคนหวีดร้องกันดังอื้ออึงไปหมด
........สักพักก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องว้าย........ดังลั่น..........พวกผมงี้ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเลยครับ....พยายามบังคับม้าตามไปให้เร็วที่สุดเพราะเป็นห่วงเบิร์ด....ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นตายร้ายดีประการใด....พอพวกเราขี่ม้าตามมาจนถึงบริเวณริมน้ำซึ่งเป็นเพิงที่ปลูกสำหรับเป็นร้านค้าเล็ก ๆ ที่สำหรับขายอาหารตามสั่งและพวกน้ำปั่น
........เราก็เห็น เบิร์ดเดินสวนกลับมาพร้อมกับหิ้วบูทสำหรับขี่ม้าที่เบิร์ดใส่เป็นประจำมาด้วย โดยที่พวกเราแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าบูทคู่นั้น..ทำไมมันถึงได้ยับเยินขนาดนั้นสภาพของมันก็คือ..บริเวณส่วนหัวของบูททั้งสองข้าง...ฉีกขาดจนเปิดขึ้นมาเกือบทำให้พื้นรองเท้าด้านล่างหลุดไป
.......ด้วยความสงสัยและความเป็นห่วงก็เลยก็เลยสอบถามเหตุการณ์จากเบิร์ด ซึ่งในขณะนั้นเริ่มมีไทยมุงเข้ามาร่วมเหตุการณ์ด้วยเยอะแล้ว..เพราะว่าบริเวณนั้นมีคนงานแและทีมงานทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก แล้วก็เป็นบริเวณร้านค้าจึงมีคนผ่านไปผ่านมาเยอะทั้งวัน....เบิร์ดก็เล่าให้ฟังว่า...พอม้าพาวิ่งออกมา
........เบิร์ดก็พยายามจะดึงม้าให้ช้าลง..แต่ไม่ว่าจะถึงยังงัยมันก็ไม่ยอมหยุด..จะกระทั่งม้าวิ่งมาถึงทางโค้งตรงที่เป็นร้านค้า เบิร์ดดึงให้ม้าเลี้ยวจนสายบังเหียนหข้างหนึ่ขาด...ซึ่งตัวเบิร์ดเองมองเห็นร้านค้าอยู่ข้างหน้า..คิดว่าม้าอาจจะชนเข้ากับร้านค้าได้ ซึ่งในร้านค้าน่ะไม่ต้องพูดถึงครับ..ว่ามีอุปกรณ์ที่อำนวยความเจ็บตัวอยู่เพียบเชียวครับ
.......ไม่ว่าจะเป็นหม้อก๋วยเตี๋ยวกับน้ำร้อน ๆ ในหม้อ... ตู้กระจกที่ใส่ผักและเนื้อสัตว์โชว์หน้าร้าน...ขวดน้ำหวาน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่ไม่น่าพิศสมัยเลยสักนิด..ก็เลยตัดสินใจลงม้าดีกว่าเพราะสายบังเหียนก็ขาดไปข้างหนึ่งเหลือเพียงข้างเดียวเท่านั้น
........ตัดสินใจได้ก็เลยพลิกตัวลงจากหลังม้า....แต่ด้วยความที่ว่าไม่อยากให้ม้าเตลิดไปไกลกลัวว่าทหารที่ดูแลม้า จะต้องตามไล่จับม้ากันวุ่นวาย..ก็เลยไม่ยอมปล่อยสายบังเหียนที่ขาดเหลืออยู่เพียงข้างเดียว เมื่อมือไม่ปล่อยสายแต่ม้ายังคงวิ่งอยู่ด้วยความเร็วคงที่ของมันเบิร์ดในฐานะนักกรีฑาเก่าก็ต้องออกแรงสปีดตามม้า
.......แล้วก็พยายามดึงสู้แรงม้าให้หยุด..ผลของการวิ่งตามม้าและพยายามจะหยุดม้าจึงทำให้บูทขี่ม้าคู่นั้นมีสภาพอย่างที่เห็นหล่ะครับ เหตุการณ์วันนั้นนับว่าน่าตื่นเต้นไม่เบาและเป็นเรื่องสนทนาของคนแทบทั้งกองถ่ายไปทั้งอาทิตย์
.......แต่ว่าทำไมผมถึงว่าเรื่องนี้มันทั้งตื่นเต้น และประหลาดด้วยน่ะเหรอครับ ที่ว่ามันประหลาดก็เพราะตรงที่ม้าวิ่งพาเบิร์ดเตลิดแล้วก็ตกลงทั้ง ๓ ครั้งน่ะ....เป็นตรงที่สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินภายในกองถ่าย ตอนที่เราเปิดกล้องหนังกันทั้งสิ้นงัยครับ
........เริ่มจากที่แรกที่เบิร์ดตกม้าตรงข้างวัดมหาเถร..ก็เป็นตรงที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีบวงสรวงภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งถ้าเราจำภาพข่าวตอนนั้นได้..ตรงวัดมหาเถรเป็นพื้นที่ที่มีการตั้งโต๊ะหมู่บูชาและเครื่องสังเวยในการบวงสรวง
........และมีการประกอบพิธีบวงสรวง...อีกที่หนึ่งก็คือตรงที่ม้าชนเข้ากับรถเครนสีเหลือง...แล้วเบิร์ดก็หล่นลงมาจากหลังม้า ก็คือที่ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จประทับเพื่อทอดพระเนตรการถ่ายทำ ฉากที่พระนเรศวรทรงนิวัติพระนครครั้งแรก....แล้วตรงที่สุดท้ายก็คือตรงศูนย์กลางกองถ่ายก็เป็นพื้นที่ที่ทรงเสด็จทอดพระเนตร
.......พื้นที่กองสร้างฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก......ซึ่งในวันที่มีเหตุการณ์ตกม้านั้นเบิร์ดเป็นคนพูดกับทุกคนเองว่า " พี่เหมือนม้ามันจะพาผมมา..ผมเอามันไม่อยู่จริง ๆ ดึงเท่าไหร่ก็ไม่อยู่ "...แต่เมื่อเราสอบถามอาการบาดเจ็บของเบิร์ด...ก็ไม่เห็นว่าจะมีรอยฟกช้ำอะไรสักนิดเดียว...ไม่มีแม้แต่แผลถลอก..ซึ่งพวกเราก็โล่งใจที่เบิร์ดไม่ได้รับบาดเจ็บ
........นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่เราจะได้รับการยืนยันว่า ร.อ.วันชนะ สวัสดี..จะมารับบทสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งภายหลังจากที่ทราบว่าเบิร์ดได้รับบทเป็น สมเด็จพระนเรศวร...และทราบว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะทรงเสด็จมาเปิดกล้องภาพยนตร์เรื่องนี้ เราก็มีความประหลาดใจกันสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว...
( เหตุการณ์นี้เป็นเหตุการจริงที่นำมาบวกเข้ากับความเชื่อส่วนบุคคล..ไม่ได้มุ่งหวังจะโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านไปในทางที่ต้องการให้เชื่อถือในสิ่งเร้นลับอะไร...น่าจะเรียกว่าเป็นความความบังเอิญอันเป็นมงคลมากกว่า..กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ...ฮ่า ๆ )
Create Date : 20 เมษายน 2550 |
|
57 comments |
Last Update : 24 เมษายน 2550 4:26:03 น. |
Counter : 2725 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: momijimi 20 เมษายน 2550 21:46:34 น. |
|
|
|
| |
โดย: captainhyuk IP: 202.142.217.130 20 เมษายน 2550 21:53:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: plally IP: 58.9.203.25 20 เมษายน 2550 21:56:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jeed IP: 124.120.143.200 20 เมษายน 2550 22:10:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องเก๋2 (Kaekoe ) 20 เมษายน 2550 22:28:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: กวางค่ะ (ชลพิณธุ์ ) 20 เมษายน 2550 22:33:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: ปูน IP: 58.137.15.150 20 เมษายน 2550 22:59:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพชร IP: 203.188.9.6 20 เมษายน 2550 22:59:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพชร IP: 203.188.9.6 20 เมษายน 2550 23:02:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: เพชร IP: 203.188.9.6 20 เมษายน 2550 23:02:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: September rain IP: 125.24.42.201 20 เมษายน 2550 23:15:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: แฟน(กลับ)คลับ(เลิก) IP: 203.156.86.160 20 เมษายน 2550 23:16:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: พี่หมูเอง IP: 58.136.48.98 20 เมษายน 2550 23:28:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: นักรบ3769 IP: 203.118.112.19 20 เมษายน 2550 23:30:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: คุณนายขาวมณี IP: 203.113.34.13 20 เมษายน 2550 23:49:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: เฌอ IP: 202.91.19.192 21 เมษายน 2550 1:42:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: เฟิร์น IP: 124.121.3.87 21 เมษายน 2550 1:52:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: เฟิร์น IP: 124.121.3.87 21 เมษายน 2550 1:53:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: MM (Aampous ) 21 เมษายน 2550 8:50:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: argup IP: 58.136.60.62 21 เมษายน 2550 9:03:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: autumn whispers IP: 124.120.95.3 21 เมษายน 2550 9:13:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: เหมือนว่าฝนจะตก IP: 61.7.159.163 21 เมษายน 2550 9:29:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: dtu IP: 125.26.117.94 21 เมษายน 2550 10:18:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: แสนพลพ่าย (แสนพลพ่าย ) 21 เมษายน 2550 10:32:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: 79 IP: 125.26.117.94 21 เมษายน 2550 10:37:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่มดจิ๋ว IP: 124.121.161.113 21 เมษายน 2550 11:35:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: oon IP: 58.147.71.162 21 เมษายน 2550 11:48:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: Par&Par IP: 125.26.35.238 21 เมษายน 2550 12:16:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: น้องบุ๋มบิ๋ม IP: 202.133.154.129 21 เมษายน 2550 14:37:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: แมวดื้อ (แมวดื้อ ) 21 เมษายน 2550 14:44:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: momochatty IP: 203.209.119.244 21 เมษายน 2550 16:14:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: tuk IP: 58.8.153.241 21 เมษายน 2550 17:12:16 น. |
|
|
|
| |
โดย: ต้อง IP: 58.136.218.228 21 เมษายน 2550 18:09:27 น. |
|
|
|
| |
โดย: ออย IP: 203.113.34.8 21 เมษายน 2550 18:50:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: pa_b6 IP: 58.8.116.153 21 เมษายน 2550 19:55:39 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไซซีบาร์ IP: 124.120.12.151 21 เมษายน 2550 20:16:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: อั้ม IP: 58.9.28.172 21 เมษายน 2550 20:40:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: jaajah IP: 58.8.157.66 21 เมษายน 2550 22:58:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: POO <sonatines> IP: 203.118.114.66 21 เมษายน 2550 23:19:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ้อยคะ IP: 203.146.63.189 22 เมษายน 2550 0:56:38 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ้อย IP: 203.146.63.189 22 เมษายน 2550 1:00:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: nooaoh IP: 202.28.4.15 22 เมษายน 2550 8:28:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: BeLLe IP: 125.26.78.235 22 เมษายน 2550 22:17:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: แก้ว...จอมเฟอะ(เนตร) IP: 210.246.145.71 23 เมษายน 2550 13:09:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: Nymph~* IP: 203.130.131.195 23 เมษายน 2550 19:14:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: นิต พาณิชการเจ้าพระยา IP: 58.8.196.215 30 เมษายน 2550 14:57:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: williamruang IP: 125.24.134.161 8 พฤษภาคม 2550 13:14:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: กัปตัน IP: 222.123.53.85 22 กันยายน 2550 21:39:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ดาริน IP: 125.26.109.29 8 มีนาคม 2551 20:06:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: linsy IP: 125.26.86.251 6 กันยายน 2554 19:23:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ไปอ่านก่อนะคะ