| รากไม้ยางพาราที่ถูกเข้าเครื่องสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ และลดความชื้นก่อนนำไปเข้าโรงไฟฟ้า | | | เมื่อ 32 ปีที่แล้วเขาเห็นต้นยางพาราที่ให้น้ำยางจนวาระสุดท้าย ถูกโค่นแล้วเผาทิ้งอย่างไร้ประโยชน์ แต่ด้วยกระบวนการคิดที่ได้รับการหล่อหลอมจากการเรียนสถาปัตย์ จุฬาฯ เขาจึงเกิดแนวคิดนำไม้ยางมาสร้างเป็นของเล่นไม้ยางพาราเจ้าแรกของโลก แต่ยังมีปัญหาให้เขาขบคิดต่อว่าจะทำประโยชน์อะไรจากรากยางพาราได้บ้าง นายวิฑูรย์ วิระพรสวรรค์ ประธานกรรมการ บริษัท แปลนครีเอชั่นส์ จำกัด เล่าให้ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ฟังว่า เมื่อ 32 ปีที่แล้วเขาเห็นชาวสวนยางโค่นและเผาต้นยางที่หมดอายุการกรีดลงอย่างน่าเสียดาย แต่กระบวนการคิดที่ได้คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทำให้เขาเกิดแนวคิดในการสร้างของเล่นไม้ยางพาราขึ้นเป็นรายแรกของโลก แม้ว่าจะแก้ปัญหาที่คาใจได้แล้วแต่ก็ยังไม่ถึงที่สุด เพราะยังเหลือรากไม้ที่นำมาสร้างประโยชน์ไม่ได้ และชาวสวนยังต้องเผาทิ้งอยู่ดี เขาจึงพยายามคิดหาวิธีใช้ประโยชน์ แล้วพบว่ารากไม้ยางส่าวนหนึ่งสามารถบดเป็นขี้เลื่อยเพื่ออัดขึ้นรูปเป็นของเล่นได้ แต่ก็ยังมีไม้ส่วน รากยางพาราที่ขุดขึ้นมาส่วนหนึ่งสามารถนำไปบดเป็นขี้เลื่อยเพื่อผลิตเป็นของเล่นภายใต้แบรนด์ แปลนทอยส์ แต่ก็ยังมีส่วนที่ดินติดอยู่เยอะและนำมาผลิตเป็นของเล่นไม่ได้ จึงเกิดแนวคิดว่าน่าจะนำไปผลิตพลังงาน โครงการผลิตพลังงานจากชีวมวลของ บริษัท แปลน อีโคเอ็นเนอร์ยี่ จำกัด บริษัทลูกของแปลนครีเอชั่นส์คือทางออกหนึ่งว่าจะนำรากไม้ยางพาราไปใช้ประโยชน์อะไร โดยชีวมวลจากต้นยางพาราที่เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ได้กลายเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตพลังงานไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่น (Gasification) ของบริษัทที่ตั้งอยู่ที่ ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง โดยทั่วไปเขามักใช้ชีวมวลไปเผาเพื่อต้มน้ำผลิตไอสำหรับเดินเครื่องกำเนิดผลิตกระแสไฟฟ้า แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็จะมีควันออกมาและต้องใช้น้ำเยอะ เราจึงพยายามหาเทคโนโลยี และได้รู้จักกับเทคโนโลยีแก๊สซิฟิเคชั่น ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเก่าตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลก แต่พอน้ำมันราคาถูก เทคโนโลยีเลยไม่ได้รับการพัฒนา มีอยู่ไม่กี่ประเทศที่ยังคงพัฒนาต่อ มีจีน อินเดีย เพราะเขาอยากมีพลังงานทดแทน วิทูรย์กล่าว ผู้บริหารของแปลนทอยส์บอกเราว่ากว่าจะได้โรงไฟฟ้าชีวมวลที่มีกำลังผลิต 5 เมกะวัตต์นี้ เขาต้องเดินทางไปดูงานในหลายพื้นที่ ทั้งในอินเดีย จีนและยุโรป รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างกัมพูชา ซึ่งมีหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาตินำเทคโนโลยีผลิตไฟฟ้าชีวมวลจากอินเดียไปติดตั้ง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในหมู่บ้าน และผลิตกระแสไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น ผมไปดูแล้วประทับใจ เป็นพลังงานสำหรับชุมชนจริงๆ น่ารักมากเลย เขาอยากดูทีวีตอนไหนก็สตาร์ทเครื่อง 15 นาทีก็เสร็จแล้ว แต่ละบ้านก็จะหอบเอาเศษไม้ กิ่งไม้มาคนละท่อนสองท่อนเป็นเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า พอดูจบก็แยกย้ายกันกลับบ้าน วิทูรย์เล่าถึงความประทับใจ และบอกว่าเป็นตัวอย่างที่ดีที่ผลิตกระแสไฟฟ้ามาใช้เท่าที่จำเป็น ต่างจากผลิตไฟฟ้าในระบบใหญ่ของไทยที่ผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาสำรองการใช้ หากไม่มีการใช้ก็เสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ที่สุดแปลน อีโคเอ็นเนอร์ยี่ได้สร้างโรงไฟฟ้าที่ผสานเทคโนโลยีจากจีนและอินเดีย ซึ่งกระบวนการทำงานเป็นระบบปิดทั้งหมด โดยใส่ไม้เข้าไปในเตาที่เป็นปล่องสูงหลายชั้นและเกิดกระบวนการแก๊สซิฟิเคชัน ซึ่งเมื่อใส่ไม้เข้าไปความร้อนจะทำให้ความชื้นของไม้ลดลง 30-40% โดยน้ำหนัก การเผาไหม้ครั้งแรกเกิดความร้อน 300 องศาเซลเซียส ทำให้ไม้เปลี่ยนโครงสร้างเป็นถ่าน คล้ายกระบวนการเผาถ่านที่จะไม่ใส่ออกซิเจน จากนั้นเข้าสู่กระบวนการที่สอง ซึ่งจะอัดออกซิเจนให้แก่ถ่านยุบตัวลงในเตา ทำให้ถ่านเผาไหม้อย่างรวดเร็ว แล้วเกิดการแตกตัวของอะตอมของไม้และน้ำจากความชื้น จากนั้นเกิดการจับตัวกลายเป็นคาร์บอนมอนอกไซด์ที่เป็นเชื้อเพลิงติดไฟได้ ก๊าซไฮโดรเจนและมีเทน
|