| ภาพที่บันทึกด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศโซลาร์ไดนามิกส์ของนาซา ระหว่างดวงอาทิตยปะทุครั้งที่ 4 ในรอบ 2 วัน รุนแรงระดับ X1.2 เมื่อ 15 พ.ค. ที่ผ่านมา (SDO/NASA) | | | ไม่ใช่แค่แสงแดดที่แรงจ้า แต่กิจกรรมบนดวงอาทิตย์ก็ร้อนแรงไม้แพ้กัน เมื่อดวงสุริยันตื่นจากหลับใหลเข้าโหมดตื่นตัวอย่างเต็มที่ตามวัฏจักรสุริยะ ผลคือในรอบ 48 ชั่วโมง เกิดการปะทุขนาดใหญ่บนดวงอาทิตย์ถึง 4 ครั้ง ในจำนวนมีครั้งรุนแรงที่สุดของปีนี้ด้วย เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาดวงอาทิตย์ของเราเพิ่งลุกจ้า (flare) รุนแรงที่สุดในปี 2013 ซึ่งการระเบิดที่รุนแรงนี้ทำให้การระเบิดของอนุภาคในปริมาณมหึมาด้วย และเมื่ออนุภาคจากการระเบิดดังกล่าวเดินทางมาถึงโลกก็จะรบกวนดาวเทียมและระบบสื่อสารภาคพื้นได้ โชคดีว่าการปะทุครั้งนี้ไม่ได้หันมาทางโลกโดยตรง แต่บีบีซีนิวส์ระบุว่า ยานอวกาศขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) บางลำอาจอยู่ในเส้นทางของอนุภาคจากดวงอาทิตย์พอดี สำหรับการลุกจ้าของดวงอาทิตย์ 4 ครั้งล่าสุด ตามเวลาประเทศไทย ครั้งแรกเกิดการลุกจ้าระดับ X1.7 เมื่อเวลา 09.17 น. ของวันจันทร์ที่ 13 พ.ค., จากนั้นเวลา 23.09 น.เกิดการลุกจ้าระดับ X2.8 และในวันอังคารที่ 14 พ.ค.เกิดการลุกจ้าระดับ X3.2 เวลา 08.17 น. ล่าสุดคือการลุกจ้าในวันที่ 15 พ.ค.นี้เกิดการลุกจ้าระดับ X1.2 เวลา 08.52 น. การลุกจ้า 3 ครั้งแรกเป็นกิจกรรมบนดวงอาทิตย์ที่รุนแรงที่สุดในปี 2013 ที่เกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง และลุกจ้าทั้งหมดยังจัดอยู่ในระดับ X ซึ่งเป็นระดับการปลดปล่อยพลังงานที่รุนแรงที่สุด และตัวเลขที่ตามมาเป็นข้อมูลลำดับความรุนแรง โดย X2 รุนแรงกว่า X1 เป็น 2 เท่า และ X3 รุนแรงกว่า X2 เป็น 3 เท่า บีบีซีนิวส์อ้างคำสัมภาษณ์ของ ดร.โรเบิร์ต แมสซีย์ (Dr. Robert Massey) ราชบัณฑิตดาราศาสตร์อังกฤษ (Royal Astronomical Society) ซึ่งอธิบายว่า การลุกจ้าระดับ X นั้นเทียบเท่าพลังงานจากระเบิดไฮโดรเจนนับพันล้านลูก
|