"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2556
 
24 มิถุนายน 2556
 
All Blogs
 
ถกจริยธรรม "ให้กำเนิดทายาทหลังตาย"

 

 

การให้กำเนิดทารกจากอสุจิของพ่อผู้ล่วงลับ สามารถทำได้ในทางการแพทย์ แต่ยังเป็นข้อถกเถียงกันในเรื่องจริยธรรม (ไลฟ์ไซน์/Shutterstock)

 

       ไม่ผิดจริยธรรมแน่หรือ ที่จะให้กำเนิดทารกจากอสุจิของพ่อผู้ล่วงลับ? คำถามที่หมิ่นเหม่ในแง่ของจริยธรรม และยังเหมือนเป็นการฝืนต่อกฎเกณฑ์ธรรมชาตินี้ กำลังเป็นที่ถกเถียงอย่างกว้างขวางในสหรัฐฯ ที่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายเร่งทำการศึกษาเพื่อหาข้อสรุปอันไปสู่แนวทางการกำหนดนโยบายในการนำเอาเซลล์สืบพันธุ์ของชายที่เสียชีวิตไปแล้วมาปฏิสนธิกับไข่ของภรรยาผู้สูญเสียสามีอันเป็นที่รัก
       
       ดร.แลร์รี ลิปชูลต์ซ (Dr.Larry Lipshultz) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบขับถ่ายปัสสาวะ แห่งวิทยาลัยแพทยศาสตร์เบเลอร์ (Baylor College of Medicine) ในมลรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ กล่าวว่า เรื่องนี้อาจเป็นไปได้ในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า ที่แพทย์จะสามารถเก็บอสุจิของฝ่ายชายที่เสียชีวิตไปแล้ว เพื่อนำไปผสมกับไข่จากฝ่ายหญิงที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งในปัจจุบันมีความต้องการให้เก็บอสุจิจากผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว (postmortem sperm retrieval : PMSR) มากขึ้น แต่ถึงกระนั้น ในสหรัฐฯ เองก็ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการควบคุมการเก็บเอาอสุจิจากผู้ล่วงลับไว้ใช้งานหลังการตายของเขา
       
       "เมื่อรัฐบาลยังไม่มีกฎหมายหรือข้อบังคับใดๆต่อเรื่องนี้ สถาบันการแพทย์ก็ควรจะออกกฎระเบียบของตนเอง เพื่อดูแลและควบคุมการทำงานที่ยังเต็มไปด้วยข้อกังขาในเรื่องจริยธรรมเป็นการชั่วคราวไปก่อน" ลิปชูลต์ซ ได้ให้เหตุผลไว้ในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร เฟอร์ทิลิทีแอนด์สเตอริลิที (Fertility and Sterility) ซึ่งเป็นวารสารเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์และการเป็นหมัน
       
       จากรายงานของไลฟ์ไซน์ระบุว่า การร้องขอให้มีการเก็บเซลล์สืบพันธุ์จากผู้ล่วงลับ อาจมาจากความต้องการของภรรยาหรือบิดามารดาของชายหนุ่มที่เสียชีวิตอย่างกระทันหันก่อนที่จะมีโอกาสให้กำเนิดทายาท หรืออาจมาจากความต้องการของผู้ป่วยหนักที่อาจเสียชีวิตในไม่ช้า และหวังอยากเก็บเซลล์สืบพันธุ์ของตนไว้เพื่อใช้งานหลังจากที่ตนได้จากไปแล้ว
       
       ทว่าสถาบันการแพทย์หลายแห่งที่พยายามร่างระเบียบปฏิบัติสำหรับเรื่องดังกล่าว ต้องเผชิญกับความเป็นห่วงกังวลในเรื่องของจริยธรรมมากมาย เช่นว่า บุคคลผู้เสียชีวิตนั้นยินยอมให้มีการนำเอาอสุจิของเขาไปใช้ภายหลังจากที่เขาจากไปแล้วหรือไม่? ไม่ว่าใครก็ตามสามารถร้องขออสุจิของเขาได้ใช่หรือเปล่า? และมันดีที่สุดแล้วหรือที่จะให้ทารกลืมตาดูโลกโดยปราศจากบิดาผู้ให้กำเนิด? แต่มีสิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนทุกคนจะเห็นพ้องต้องกันนั่นคือ ความประสงค์ของฝ่ายชายที่เสียชีวิตไปนั้นจะต้องชัดเจน
       
       "หลักสำคัญของแนวทางการปฏิบัติต่อเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของการให้กำเนิดทารกโดยปราศจากการยินยอมของพวกเขา" ความคิดเห็นของอาร์เทอร์ แคปแลน (Arthur Caplan) หัวหน้าแผนกจริยธรรมทางการแพทย์ ศูนย์การแพทย์ลังกอน มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU Langone Medical Center) ซึ่งเขามิได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เลยกับบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารเฟอทิลลิที แอนด์ สเตอริลลิที
       
       องค์กรด้านการแพทย์บางแห่งก็ได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์นี้อย่างเคร่งครัด และร้องขอให้มีการยินยอมจากบุคคลผู้เสียชีวิตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร ก่อนที่แพทย์จะทำการเก็บเซลล์อสุจิของเขา อย่างไรก็ตาม ข้อเรียกร้องโดยมากมักจะมาจากกรณีที่ผู้ชายเสียชีวิตอย่างไม่คาดฝัน โดยที่ยังไม่เคยคิดที่จะให้ความยินยอมที่ชัดเจน
       
       ลิปชูลต์ซกล่าวว่าในกรณีที่ไม่ปรากฏหนังสือแสดงเจตจำนงค์ให้ความยินยอมที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากชายนั้น สถาบันการแพทย์บางแห่งก็ยังคงเคารพในความต้องการของเขา หากมีพยานหลักฐานแสดงว่าอสุจิที่เก็บไว้นั้นเป็นความปรารถนาของผู้ตายเอง เช่นกรณีตัวอย่าง หากคู่สมรสพยายามที่จะมีบุตรและได้มีการนำเรื่องนี้ไปปรึกษากับเพื่อนหรือครอบครัว นั่นก็แสดงนัยว่าฝ่ายชายยินยอม
       
       ถึงกระนั้น ข้อสมมติฐานธรรมดาสามัญทั่วไปจากการศึกษาวิจัยของลิปชูลต์ซและทีมงานที่เผยแพร่เมื่อไม่นานมานี้ชี้ให้เห็นว่า ชายทุกคนเห็นด้วยกับให้กำเนิดทายาทหลังการตายของเขา ซึ่งจากการศึกษาพบว่าผู้ชาย 85% ไปที่ธนาคารอสุจิเพื่อเตรียมการอนุญาตการใช้งานอสุจิของเขาภายหลังจากที่เขาจากไปแล้ว และไม่ว่าจะเป็นชายที่เคยมีความสัมพันธ์กับคนรัก หรือชายที่เคยเป็นพ่อของเด็กมาแล้ว ส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะยินยอมให้มีการนำอสุจิไปใช้หลังการตายของเขา
       
       ยังมีอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องพิจารณาคือ แรงจูงใจของกลุ่มบุคคลที่ร้องขอให้มีการเก็บอสุจิของผู้ล่วงลับ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ระบุว่าสมาชิกครอบครัวของผู้จากไปย่อมเศร้าโศกเสียใจมาก จึงอาจตัดสินใจไปตามสภาพการณ์โดยปราศจากเหตุผลก็เป็นได้ ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องให้คำแนะนำแก่ผู้ที่ได้รับมอบอำนาจให้รอคอยเวลาสักสองสามเดือนหรืออาจจะ 1 ปี ก่อนที่จะมีการใช้เซลล์สืบพันธุ์ของผู้ตายในการปฏิสนธิและตั้งครรภ์ต่อไป
       
       ทางด้านแคปแลนตั้งข้อสังเกตว่า มีความกังวลมากมายในเรื่องจริยธรรมที่มาพร้อมกับการปฏิเสธข้อเรียกร้องให้มีการเก็บอสุจิของบุคคลที่เสียชีวิตไปแล้ว อาทิ ข้อจำกัดของครอบครัวที่ปารถนาจะสืบเชื้อสายวงศ์สกุล และความกังวลในเรื่องบุคคลภายนอกที่ไม่ควรไปกำหนดว่าใครสามารถมีทายาทต่อไปได้ gxHo9ho
       
       อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการดำเนินการเก็บอสุจิภายหลังการเสียชีวิต อย่างไม่ถูกกฎหมายในฝรั่งเศส เยอรมนี สวีเดน และอีกหลายประเทศ แม้ว่าจะมีหนังสือยินยอมจากผู้ตายเป็นลายลักษณ์อักษรก็ตาม แต่ในสหราชอาณาจักร สามารถทำได้ถ้าหากมีหนังสือยินยอมจากผู้ล่วงลับ ส่วนในอิสราเอลก็สามารถดำเนินการเก็บอสุจิของผู้จากไปไว้ก่อนได้ แต่ตุลาการจะเป็นผู้ตัดสินว่าสามารถนำอสุจินั้น ไปใช้ปฏิสนธิและให้กำเนิดทารกต่อไปได้หรือไม่
       
       ขณะที่ในสหรัฐฯ การร้องขอให้มีการเก็บอสุจิหลังของผู้จากไปในบางกรณี ได้รับความเห็นชอบภายใต้หลักเกณฑ์ในการบริจาคอวัยวะของรัฐ ซึ่งกฎหมายการบริจาคอวัยวะ ฉบับปรับปรุงแก้ไขในปี 2006 (Universal Anatomical Gift Act of 2006) อนุญาตให้ญาติใกล้ชิดแสดงความยินยอมให้มีการเก็บรักษาอวัยวะหรือเนื้อเยื่อ ของผู้เสียชีวิตเอาไว้ได้ เว้นแต่มีหลักฐานว่าผู้ตายไม่มีความประสงค์ให้เป็นเช่นนั้น โดยในปี 2006 ตุลาการได้บัญญัติกฎหมายการบริจาคอวัยวะซึ่งหมายรวมถึงอสุจิด้วย ให้สามารถเก็บไว้ได้หากได้รับความยินยอมจากบิดามารดาของผู้บริจาค ตราบใดที่ผู้บริจาคมิได้มีการปฎิเสธอย่างชัดแจ้ง
       
       จากการวิเคราะห์ข้อมูลของสถาบันการแพทย์ในสหรัฐฯ จำนวน 9 แห่ง ที่มีการจัดทำแนวทางสำหรับการเก็บอสุจิจากผู้ล่วงลับ โดยทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) ได้ระบุองค์ประกอบของระเบียบการปฏิบัติงานในเรื่องดังกล่าว ซึ่งสถาบันอื่นๆ สามารถนำไปใช้ในการกำหนดแนวทางของตนเองได้ โดยองค์ประกอบเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้แนวทางที่ออกมาเป็นมาตรฐาน เช่น สิ่งที่ถือว่าเป็นหลักฐานของการยินยอม และผู้ที่มีสิทธิร้องขออย่างถูกต้อง
       
       นอกจากนี้ การศึกษาของทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดยังพบว่า 60% ของสถาบันการแพทย์ที่ทีมนักวิจัยได้ติดต่อเพื่อขอทำการวิจัยในครั้งนี้ต่างระบุว่า พวกเขายังไม่มีข้อกำหนดสำหรับเรื่องดังกล่าว ซึ่งลิปชูลต์ซก็ได้วิเคราะห์ว่า นั่นแสดงให้เห็นว่าสถาบันการแพทย์ที่ถูกร้องขอให้มีการเก็บอสุจิของผู้เสียชีวิต อาจมีความเสี่ยงที่จะถูกดำเนินการขัดต่อกฎหมายได้เช่นกัน
       
       ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยระบุว่าการศึกษานี้ยังไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียดของแนวทางปฏิบัติใดๆ แต่เป้าหมายในท้ายที่สุดคือการวางนโยบายที่เป็นการเคารพต่อความประสงค์ ของผู้ล่วงลับและเพื่อสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวและเด็กที่จะเกิดขึ้นมาในอนาคต
       

ขอบคุณ
ผู้จัดการออนไลน์
ไลฟ์ไซน์/Shutterstock

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ




Create Date : 24 มิถุนายน 2556
Last Update : 24 มิถุนายน 2556 9:53:46 น. 0 comments
Counter : 928 Pageviews.

sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.