พ.ศ.2478 เป็นครั้งแรกของการตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ในระบอบประชาธิปไตย ขณะที่ พ.ศ.2494 เป็นการยุติบทบาทผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
ช่วงเวลา 16 ปีนี้ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามรับมือ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
เดิมทีผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ มาจากการแต่งตั้งตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ พ.ศ.2467 เป็นรัฐธรรมนูญฉบับ 10 ธันวาคม พ.ศ.2475
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ที่แต่งตั้งครั้งแรก หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ได้แก่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ ทรงเป็นประธาน, พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพย์อาภา และเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม)
คณะผู้สำเร็จราชการฯ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลพระยาพหลพลพยุหเสนา ทำให้กำหนดบทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ
หากความร่วมมืออันดีดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่พอใจ ในกลุ่มเจ้านายบางส่วน โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลตัดเงินปีของเจ้านาย, ปรับลดฐานะกระทรวงวังลงมาเป็นกรม, จัดระเบียบทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ใหม่, การจัดการพระราชทรัพย์ของรัชกาลที่ 7 ฯลฯ ความกดดันทำให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นอนุวัตรจาตุรนต์ปลงพระชนม์ตนเอง
รัฐบาลในขณะนั้นได้แต่งตั้งเจ้าพระยาพิชเยนทรโยธิน (อุ่ม อินทรโยธิน) เข้ามาแทนตำแหน่งที่ว่าง และให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพย์อาภาทรงเป็นประธานแทน ซึ่งยังคงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นดังเห็นได้จ ากการให้สำนักพระราชวังและกรมราชเลขานุการในพระองค์ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี
แรงกดดันดังกล่าวทำให้เกิดรัฐประหาร พ.ศ.2481 ล้มรัฐบาลจอมพล ป. แต่ไม่สำเร็จคณะผู้ก่อการถูกจับในข้อหากบฏซึ่งมีเจ้านายชั้นสูงคือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร
สมเด็จพระพันวัสสาฯ, สมเด็จพระราชชนนีศรีสังวาลย์ (ตำแหน่งขณะนั้น) ทรงหารือให้คณะผู้สำเร็จราชการฯ ช่วยเหลือกรมขุนชัยนาทนเรนทรที่ถูกลงโทษจำคุกตลอดชีวิต และถอดฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ แต่คณะผู้สำเร็จราชการฯ ไม่ได้ทำตามพระราชประสงค์
แต่ยุคของความขัดแย้ง ระหว่างรัฐบาลกับผู้สำเร็จราชการฯ ก็เกิดขึ้น
เมื่อนายปรีดี พนมยงค์ เข้ามาเป็นผู้สำเร็จราชการฯ ในเดือนธันวาคม พ.ศ.2484 แทนเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ที่ถึงแก่อสัญกรรมตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2481 แต่ยังไม่ได้แต่งตั้งบุคคลเข้ามาแทน
เพราะเมื่อรัฐบาลจอมพล ป. ประกาศสงครามกับอเมริกา, บริเตนใหญ่ นายปรีดีเป็นผู้แทนราชการฯ เพียงคนเดียว ที่ไม่ลงนามในประกาศสงครามดังกล่าว และยังเคลื่อนไหวทางการเมืองในฐานะองค์กรใต้ดิน ชื่อ "เสรีไทย"
9 มิถุนายน พ.ศ.2489 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดลเสด็จสวรรคตอย่างกะทันหัน
16 มิถุนายน พ.ศ.2489 รัฐสภาแต่งตั้งคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพื่อปฏิบัติราชการแทนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ที่ยังทรงไม่บรรลุนิติภาวะ ประกอบด้วยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทรเป็นประธาน และพระยามานวราชเสวี
คดีสวรรคตของรัชกาลที่ 8 กลายเป็นประเด็นการเมือง ที่ลงเอยด้วยการเกิดรัฐประหาร 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 หลังการรัฐประหารรัฐบาลนายควง อภัยวงศ์ ประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2490 ซึ่งเป็นการฟื้นฟูพระราชอำนาจ ของพระมหากษัตริย์ขึ้นมาอีกครั้ง
ในรัฐธรรมนูญฉบับนั้นได้มีการกำหนดตำแหน่ง "อภิรัฐมนตรี" ขึ้นโดยประกอบด้วย พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนชัยนาทนเรนทร เป็นประธาน พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต พลโท พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอลงกฏ พระยามานวราชเสวี และ พล.ต.อ.อดุล อดุลเดชจรัส
อภิรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการในพระองค์, ถวายคำปรึกษาแก่พระมหากษัตริย์, เป็นผู้แทนพระองค์, เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ฯลฯ
จากนั้นรัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณให้แก่สถาบันกษัตริย์, ถวายคืนทรัพย์สินบางส่วนที่รัฐบาลยึดไว้หลังการปฏิวัติ พ.ศ.2475, ออกพระราชบัญญัติจัดระเบียบทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2491
ให้สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นนิติบุคคล ที่เป็นอิสระจากรัฐบาล โดยสถาบันพระมหากษัตริย์ จะมีอำนาจในการแต่งตั้งผู้อำนวยการและคณะกรรมการทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และสามารถควบคุมการจัดหาผลประโยชน์ จากทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้อย่างเต็มที่
โดยรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2492 ได้ถวายอำนาจให้พระมหากษัตริย์เป็นผู้เลือกและแต่งตั้งวุฒิสภา, ให้สิทธิในการยับยั้งกฎหมายมากขึ้น, มีสิทธิในการขอประชามติจากประชาชนในกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญ
มีอำนาจแต่งตั้งองคมนตรีหรือให้ออกได้ตามพระราชอัธยาศัย, มีอำนาจสถาปนาฐานันดรศักดิ์และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์, ผู้สำเร็จราชการฯ ยังแทรกแซงการเมืองด้วยการเข้าประทับในการประชุมคณะรัฐมนตรีรัฐบาลจอมพล ป. ฯลฯ
ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลประชาธิปไตย กับสถาบันกษัตริย์ที่มีผู้สำเร็จราชการฯ เป็น "คนกลาง" ตัวอย่างที่กล่าวเป็นบางส่วนของการค้นคว้าของผู้เขียน (ศรัญญู) เขียนไว้ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม
ที่ทำให้เห็นว่าช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากระบอบสมบูรณาสิทธิราชย์ สู่ระบอบประชาธิปไตย ในช่วง 20 ปีแรกนั้น หรือวันที่ประชาธิปไตยของประเทศครบ 80 ปี กลไกสำคัญอย่างรัฐบาล และสถาบันกษัตริย์ที่พยายามปรับตัว และแสดงบทบาทเพื่อรักษาและสร้างความชอบธรรมของตนภายใต้รัฐธรรมนูญ
ขอบคุณ
มติชนออนไลน์
คุณวิภา จิรภาไพศาล
สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ
ในวาระ 80 ปี การปฏิวัติเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 ที่ทำให้เกิดการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่ถือประชาชนเป็นใหญ่ มีกิจกรรม, ข้อเขียนเพื่อระลึกถึงการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศ