"ยินดีต้อนรับสู่ บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ" มีหลายหัวข้อเรื่องให้คุณอ่าน .. ขอบคุณที่มาเยี่ยมบล็อกค่ะ .. ขอจงมีแต่ความสุขกายสบายใจตลอดไปนะคะ
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
22 กรกฏาคม 2554
 
All Blogs
 

ไทเฮากับข้าพเจ้า





ปกฉบับภาษาจีน: ‘ไทเฮากับข้าพเจ้า’《太后與我》
จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ New Century Press ฮ่องกง
เมษายน 2011, ราคา HK$ 138.00, 350 หน้า



ASTVผู้จัดการออนไลน์--Décadence Mandchoue บันทึกความทรงจำที่เผยบทรักพิสดารของพระนางซูสีไทเฮา (ฉือสี่ไท่โฮ่ว) แห่งราชวงศ์ชิง โดยเซอร์เอ็ดมุนด์ ทรีลอว์นี แบ็กเฮาวส์ (Sir Edmund Trelawny Backhouse) ได้รับการกล่าวขวัญอีกครั้ง

เมื่อบริษัทในฮ่องกงได้นำ Décadence Mandchoue ฉบับภาษาจีนและฉบับภาษาอังกฤษออกวางแผงในดินแดนเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา สำหรับฉบับพากษ์จีนมีชื่อว่า ไทเฮากับข้าพเจ้า 《太后與我》 จัดพิมพ์โดย New Century Press แห่งฮ่องกง

แบ็กเฮาวส์ได้เขียน Décadence Mandchoue เมื่อปี 1943 โดยผู้เขียนตั้งใจให้เป็นบันทึกความทรงจำ ความสัมพันธ์สวาทกับซูสีไทเฮา เนื้อเรื่องมีบทบรรยายฉากรักพิสดารบนเตียงระหว่างผู้เขียนเซอร์แบ็กเฮาวส์ กับพระนางซูสีไทเฮา

และที่น่าตกตะลึงไปกว่านั้นก็คือ เขาได้พรรณนาความรักระหว่างชายภายในราชสำนักชิง ความสัมพันธ์รักร่วมเพศระหว่างเขากับบรรดาเชื้อพระวงศ์ รวมทั้งขุนนางชั้นสูง เซอร์แบ็กเฮาวส์ประกาศตัวว่าเป็นพวกรักร่วมเพศ และมีความสัมพันธ์กับหญิงคนเดียวคือ พระนางซูสีไทเฮา

นอกจากนี้ นายแบ็กเฮาวส์ ยังได้ฉีกตำราประวัติศาสตร์ทั่วไป โดยเปิดเผยว่าซูสีไทเฮาสิ้นพระชนม์ เพราะถูกสังหารด้วยกระสุนจากกระบอกปืนของแม่ทัพหยวน ซื่อไข่

แบ็กเฮาวส์เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1873 เป็นบุตรชายคนโตของตระกูล เควกเกอร์ (Quaker) อันเก่าแก่และมีชื่อเสียง หลังจากที่เขาสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ในปี ค.ศ. 1898 ก็ได้เดินทางมายังกรุงปักกิ่ง

เขาเชี่ยวชาญทั้งภาษาจีน ภาษาแมนจู และภาษามองโกล ได้ทำงานแปลและเป็นล่ามให้กับกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ และหนังสือพิมพ์ เดอะ ไทมส์แห่งลอนดอน

แบ็กเฮาวส์เป็นผู้เชี่ยวชาญลัทธิบุรพนิยม (Orientalism) หนังสือเกี่ยวกับเรื่องจีนของเขาติดอันดับหนังสือขายดี ได้แก่ China under the Empress Dowager (1910) โดยหนังสือเล่มนี้เป็นงานเขียนร่วมกับนายแบลนด์ (J.O.P. Bland) ผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษร่วมค่ายหนังสือพิมพ์เดียวกับเขา หลังจากนั้นทั้งสองยังได้เขียนงานร่วมกัน คือ Annals and Memoirs of the Court of Peking (1914)

แบ็กเฮาวส์ได้เขียนบันทึกความทรงจำ ชื่อว่า Décadence Mandchoue เผยถึงสัมพันธ์สวาทในสำนักชิง โดยนาย Reinhard Hoeppli นายแพทย์ชาวสวิส ที่สนิทสนมกับเขารบเร้าให้เขาเขียนบันทึกความจำอันน่าตื่นตะลึง ในสำนักชิงที่ท่านเซอร์ฯ ได้ประสบมาไว้ หลายเดือนต่อมาแบ็กเฮาวส์ก็ถึงแก่อนิจกรรม (เดือนมกราคม ค.ศ. 1944) ด้วยโรคร้าย ที่กรุงปักกิ่ง ในวัย 71 ปี


ในบทนำของบันทึกฯ แบ็กเฮาวส์ได้ใช้วลี "ความรักที่ทำให้ดวงเนตรของผู้คนมืดบอดนี้ดั่งมายาเพ้อฝันเหนือจินตนาการ” พรรณนาประสบการณ์พิศวาสในราชสำนักชิง ที่เขาได้ประสบมา

เล่าว่าเมื่อวัย 32 เขาเริ่มเข้าวังที่ประทับของพระนางซูสีฯอย่างลับๆ ด้วยสถานะ “คู่นอน" อันทำให้ความสัมพันธ์ทั้งสองได้ผันแปรจาก “นักการทูตหนุ่มกับไทเฮา" มาเป็น “คู่รักเริงสวาท" ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เขากระอักกระอ่วนใจไม่น้อย

โดยในกิจกามนี้ก็มีมหาขันทีหลี่ เหลียนอิง เป็นผู้คอยจัดเตรียมยาโป๊ว ปลุกอารมณ์เพศให้แก่เขา ทั้งช่วยเขาอาบน้ำ พรมน้ำหอม ทำให้เขาเกิดอารมณ์เสน่หา สนองความปรารถนาของพระนางซูสีฯวัย 70 ชันษา


สื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ นำเสนอบทความเกี่ยวกับ “ฆาตกรรมในราชสำนักชิง” โดยอ้างอิงบันทึกความทรงจำ ‘ไทเฮากับข้าพเจ้า’ ของเซอร์เอ็ดมุนด์ ทรีลอว์นี แบ็กเฮาวส์ ที่ระบุสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของพระนางซูสีไทเฮา ว่าถูกหยวน ซื่อไข่ ยิงสังหาร (ภาพ เอเจนซี)




สื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ นำเสนอบทความเกี่ยวกับ “ฆาตกรรมในราชสำนักชิง” โดยอ้างอิงบันทึกความทรงจำ
‘ไทเฮากับข้าพเจ้า’ ของเซอร์เอ็ดมุนด์ ทรีลอว์นี แบ็กเฮาวส์
ที่ระบุสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของพระนางซูสีไทเฮา
ว่าถูกหยวน ซื่อไข่ ยิงสังหาร (ภาพ เอเจนซี)



หยวนซื่อไข่ ยิงเข้าพระอุทรของพระนางซูสีฯ

ต่อข้อสงสัยเรื่องการสิ้นพระชนม์ของพระนางซูสี เซอร์แบ็กเฮาวส์ได้ลบล้างการอธิบายในหนังสือประวัติศาสตร์ทั่วไป เขาระบุในบักทึกว่าเมื่อแม่ทัพหยวน ซื่อไข่และนายพลเถี่ย หลางฉิว ได้พยายามโน้มน้าวพระนางให้สละราชบัลลังก์

แต่พระนางกลับทรงมีพระบัญชาแต่งตั้ง ให้นายทหารใหญ่ทั้งสองเป็นราชครู มีหน้าที่บริหารงานแผ่นดิน และช่วยพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ

หยวน ซื่อไข่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็บันดาลโทสะ จึงคว้าปืนมายิงลั่นลูกกระสุนออกไปหกนัด กระสุนสามนัดโดนเข้าที่กลางพระอุทรของซูสีไทเฮา เวลานั้นพระนางยังมิได้สิ้นพระชนม์ทันที แต่ทรงตะโกนว่า “กบฏ! ลากตัวหยวน ซื่อไข่ไปประหาร ไอ้เนรคุณ ทำไมเราถึงปล่อยมันไว้จนป่านนี้?"




ปกฉบับภาษาอังกฤษ: Décadence Mandchoue :
The China Memoirs of
Sir Edmund Trelawny Backhouse,
edited by Derek Sandhaus



จินตนาการที่ปั้นแต่งขึ้นจากความทรงจำเรื่องเซ็กซ์และฝิ่น?

สื่อยักษ์ใหญ่โลก นิวยอร์ก ไทม์ส ได้เผยกระแสวิพาษ์วิจารณ์เกี่ยวกับงานเขียนเรื่องจีนของแบ็กเฮาวส์ ในบทความชื่อ 'Memoir (or Is It?) of Sex and Opium' เผยแพร่เมื่อวันที่ 30 มี.ค.2554

โดยได้อ้างถึงงานเขียนเรื่องจีนของแบ็กเฮาวส์ ที่ติดอันดับหนังสือขายดี คือ China under the Empress Dowager และ Annals and Memoirs of the Court of Peking มีการพิสูจน์กันแล้วว่า

แหล่งข้อมูลที่มาและเนื้อหาที่กล่าวอ้างบางส่วนในหนังสือนั้น บิดเบือน (เขา (แบ็กเฮาวส์) ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากหลังจากมีการพบว่าบันทึกที่เขานำมาอ้างอิงนั้นเป็นเอกสารปลอม)

ด้านกลุ่มนักประวัติศาสตร์ก็มีความเห็นต่าง ถึงคุณค่าของงานเขียนของแบ็กเฮาวส์ ในการทำให้ชาวตะวันตกเข้าใจจีน และมันมีความสำคัญอันใดหรือไม่

เซอร์เอ็ดมุนด์ ทรีลอว์นี แบ็กเฮาวส์ ได้เขียนบันทึกความจำ Décadence Mandchoue เมื่อปี 1943 บันทึกความทรงจำซึ่งเป็นต้นฉบับลายมือเขียนนี้ อยู่ในความดูแลของแพทย์ชาวสวิสที่ดูแลเขา คือ Reinhard Hoeppli ซึ่งไม่ได้นำออกตีพิมพ์เผยแพร่

ต่อมาต้นฉบับลายมือเขียนฉบับนี้ ได้ตกไปอยู่ในมือของนักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ นาย Hugh Trevor-Roper ซึ่งก็ไม่ได้นำออกตีพิมพ์เผยแพร่เช่นกัน

นาย Trevor-Roper กลับเขียนชีวประวัติของตัวเอง ออกมาเป็นหนังสือชื่อ Hermit of Peking: The Hidden Life of Sir Edmund Backhouse (1976) ทั้งได้โจมตีบันทึกความทรงจำของแบ็กเฮาวส์ เป็น “เอกสารประวัติศาสตร์ที่ไร้คุณค่าสิ้นดี” ทั้งหลอกลวง และลามกอนาจาร

บันทึกความทรงจำฉบับดั้งเดิมของแบ็กเฮาวส์ ถูกเก็บไว้บนหิ้งหนังสือในห้องสมุด Bodleian ในออกซ์ฟอร์ดจนฝุ่นเกาะหนา

กระทั่งดีเร็ก แซนด์เฮาส์ (Derek Sandhaus) หัวหน้ากองบรรณาธิการ Earnshaw Books ได้มาพบขณะกำลังวิจัยหนังสือเล่มอื่น จากนั้นก็มีการแปลฉบับภาษาอังกฤษและตีพิมพ์เผยแพร่

เป้า ผู่ แห่ง New Century Press แห่งฮ่องกง กล่าวถึงสาเหตุที่บันทึกความทรงจำลายมือเขียนเล่มนี้ ไม่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่เป็นเวลานาน “ประการแรก เป็นเพราะ นาย Trevor-Roper ได้ทำลายชื่อเสียงของเซอร์แบ็กเฮาวส์ไปแล้ว ประการที่สอง เพราะเนื้อหาบทรักเริงสวาทอันโจ่งครึ่ม”

อย่างไรก็ตาม บันทึกความจำ Décadence Mandchoue ก็ยังมีแง่มุมทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ แม้กระทั่งผู้พิมพ์ก็ยอมรับว่า “เนื้อหาในหนังสืออาจไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด

แต่ก็ยังมีคุณค่าอยู่ที่รายละเอียดเกี่ยวกับยุคสมัย ที่บันทึกไว้ในหนังสือ แม้เนื้อหามีความลักลั่นพิกลอยู่ แต่ก็มีพื้นฐานจากเรื่องจริง แม้บางจุดไม่ใช่ประสบการณ์ที่เขาประสบมาด้วยตังเองจริงๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่เขาได้ยินมา” แซนด์เฮาส์ กล่าว

แซนด์เฮาส์ ยอมรับว่า “มันเป็นเรื่องยากที่จะระบุจัดประเภทแก่หนังสือเล่มนี้ เป็นอัตชีวประวัติ เรื่องแต่ง หรือไม่ใช่เรื่องแต่ง?”

งานเขียนเรื่องจีนของแบ็กเฮาวส์เล่มอื่นๆ ก็ถูกตั้งคำถามแบบเดียวกันนี้เช่นกัน ในยุคสมัยที่เขาเขียนงานเหล่านี้ โลกตะวันตกรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องจีนน้อยมาก การที่แบ็กเฮาวส์รู้ทั้งภาษาจีนกลาง ภาษามองโกล และภาษาญี่ปุ่นนั้น

ได้ส่งอิทธิพลทางความคิดระดับหนึ่ง ขณะที่ผู้อ่านงานของเขาไม่มีทางที่จะพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างของเขาได้เลย

สำหรับผู้อ่านยุคสมัยใหม่ที่มีความคิดเชิงวิพากษ์วิจารณ์ อาจมอง Décadence Mandchoue เป็นบันทึกความจำที่ปั้นแต่งขึ้นจากจินตนาการเฟ้อฝัน ที่มีรายละเอียดข้อมูลที่เขียนจากชีวิตจริง

โดยมีพล็อตเรื่องเต็มไปด้วยสีสันรุนแรง แบ็กเฮาวส์รู้ดีว่าชาวยุโรปทั่วๆไปมีทัศนคติเกี่ยวกับจีนอย่างไร เป็นโลกที่เต็มไปด้วยเรื่องแปลกพิสดาร เรื่องเซ็กซ์ โลกแห่งความเพ้อฝันของเหล่าราชินี และการสูบฝิ่น ดังนั้น เขาจึงตอบสนองผู้อ่านอย่างโดนใจ

“ทำไมชาวตะวันตกถึงจะเชื่อเรื่องราวที่เต็มไปด้วยสีสันรุนแรงเหล่านี้

“ในทางกลับกัน จะมีใครเชื่อว่าหนุ่มจีนคนหนึ่ง เดินทางไปอังกฤษ และมีสัมพันธ์สวาทกับพระนางวิคตอเรีย?” Bret Hinsch อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยฝัวกวงในไต้หวัน และผู้เขียน Passions of the Cut Sleeve: The Male Homosexual Tradition in China กล่าว


ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์


ศุกรวารสิริสวัสดิ์ค่ะ




 

Create Date : 22 กรกฎาคม 2554
0 comments
Last Update : 27 มีนาคม 2555 21:08:31 น.
Counter : 1343 Pageviews.


sirivinit
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 224 คน [?]





/



2558

2556

2555

น้ำใจจากคุณ krittut 2554

2553


สิริสวัสดิ์วรวาร
เปรมปรีดิ์มานรื่นรมณีย์นะคะ ยินดีต้อนรับ
สู่บล็อกของคนใฝ่รู้ สำหรับผู้ใส่ใจใฝ่รู้ค่ะ

เชิญอ่านตามสบายนะคะ
มีดีๆให้คุณได้ทราบหลากหลายค่ะ

๑ - ๑/๑ ฉันรักในหลวง
๒.๓.๑๐.๑๕.๓๐.๒๔.๕๙.๖๓.๙๐.ธรรมะ
๔ - ๔/๑ รวมพลคนดัง
๕. ศาสนาพุทธสุดประเสริฐ
๖. ความรู้ทั่วไปในศาสนาพุทธ
๗. ๑๖. ประวัติศาสตร์
๘ - ๙/๑ ไม้ดอก ไม้ใบ
๑๑ - ๑๑/๑ เกม
๑๒.๓๗.๔๐-๔๓.๕๓.๗๕.๘๖.ศิลปะเทศ
๑๔ - ๑๔/๑. ๒๐๘. ข่าวคนดังเทศ
๑๘. ๑๙. ๒๒. ราชวงศ์ไทย
๒๐.๑๑๖-๑๑๖/๒ ๑๙๐-๑๙๐/๘ ละคร ทีวี
๒๑. ๓๑. ๒๐๘. ราชวงศ์เทศ
๒๔. นักเขียนไทย
๒๔/๑. กลอนชั้นบรมครู
๒๙/๑-๒๙/๔โปสการ์ดจากเพื่อนบล็อก
๓๓. สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
๓๙.๑๘๑-๑๘๑/๗ สุธาโภชน์รสเลิศล้ำ
๔๑.๔๒.๕๐.๕๘.๖๐.๖๑.๘๖.มหาวิหาร
๕๗. ปราสาท พระราชวัง คฤหาสน์เทศ
๖๒. วัด
๖๕ - ๖๕/๑ การ์ตูน
๖๕/๒. นิทานเซน
๖๗. ความตายมาพรากให้จากไป
๖๙ - ๖๙/๒ สารพัดสัตว์
๗๔. สุนัข
๗๖. อุทยานสวรรค์
๗๗. ซูเปอร์แมน - แบทแมน
๗๘ - ๘๓. แสตมป์สะสม
๘๕-๘๕/๑ หนังสือสะสม
๘๗ - ๘๗/๒ ๒๑๕ ข่าวกีฬา
๘๙. ๘๙/๑ จีนแผ่นดินใหญ่
๙๐/๑ .ทิเบต
๙๑. จันทร์สูริย์ดารา
๙๒. สมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า
๙๓ - ๙๓/๒ ภาพยนตร์
๙๔ - ๙๔/๓ ยานยนต์
๙๕ - ๙๕/๑ ดูดวง
๙๖ - ๙๖/๑ . ๒๑๑ วิทยาศาสตร์
๙๗ - ๙๗/๑.๒๐๙ แวดวงวรรณกรรม
๙๘. ภาพพุทธประวัติ
๙๙. ๑๒๗ - ๑๒๗/๑ ดนตรี
๑๐๑. ป้าย R สะสม
๑๐๒. บัตรภาพตราไปรฯสะสม
๑๐๓. DIY
๑๐๗/๑ เล่าเรื่องเมืองญี่ปุ่น
๑๐๘ - ๑๐๘/๑ หนังสือ
๑๑๓ - ๑๑๓/๑ บ้านสวย
๑๑๕. พระเครื่อง
๑๒๐. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
๑๒๓. เจ้าฟ้าเพชรรัตน์ฯ
๑๒๕. เหรียญที่ระลึก
๑๒๕/๑ เหรียญสะสมต่างประเทศ
๑๒๕/๒ เหรียญที่ระลึกจังหวัด
๑๒๕/๓ ธนบัตรที่ระลึก
๑๒๕/๔ บัตรโทรศัพท์
๑๒๕/๕ กล่องไม้ขีด และอื่นๆ
๑๓๑.เรื่องสั้นชั้นครู"เจียวต้าย"
๑๖๔.บล็อกพิเศษ วันเดียวอั๊พ 100
เอนทรี่ ให้คุณป้า"ร่มไม้เย็น"ชม
๑๙๐/๓ เรื่องย่อละคร
๑๙๓. คดีเขาพระวิหาร
๒๑๒. ศิลปะ
๒๑๗. วิถีแห่งอำนาจ บูเช็กเทียน
๒๑๗/๑.วิถีแห่งอำนาจ เจงกิสข่าน
๒๑๗/๒.วิถีแห่งอำนาจ จูหยวนจาง
๒๑๗/๓.วิถีแห่งอำนาจ ซูสีไทเฮา
๒๑๗/๔.วิถีแห่งอำนาจ หงซิ่วฉวน
๒๑๗/๕.วิถีแห่งอำนาจ แฮรี่ พอตเตอร์

ข่าวทั่วไปล่าสุด บล็อกล่างสุดค่ะ

เปิดบล็อก 1 มกราคม 2552



free counters
08.27 - 250811

207 flags collected 300316



Friends' blogs
[Add sirivinit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.