BlogGang.com : : sirivinit :

พาหวานใจไปปารีส (1)

คุณผู้อ่านครับ ซีรี่ส์หวานใจกลับมาพบกับคุณอีกแล้วครับ หลังจากคราวก่อนผมพาคุณไปลอนดอน ขอบคุณที่กรุณาสนับสนุนหนังสือของผมจนกำลังพิมพ์ครั้งที่ 2 คราวนี้จึงต้องไม่น้อยหน้ากว่าคราวก่อน

ผมเลือกเมืองสุดบรรเจิดมาเทียบเคียงกับมหานครลอนดอน เมืองนั้นจะเป็นที่อื่นใดไม่ได้แน่ ยกเว้นแต่ “ปารีส” เมืองหลวงของฝรั่งเศส ศูนย์กลางแฟชั่นและศิลปวัฒนธรรมของโลก

ก่อนไปปารีส เรามาหาเหตุผลกันดีกว่า ว่าทำไมต้องไป ? อันดับแรกที่สาวไทยรายไหนก็ต้องกรี๊ด ไปปารีสก็ต้องไปชอปปิ้งสิคะ ยิ่งตอนนี้เงินยูโรกำลังตกต่ำ เหลือแค่ 1 ยูโรต่อ 40 บาท เมื่อเทียบกับเมื่อปีก่อน ค่าเงินลดลงกว่า 20 เปอร์เซ็นต์

เปรียบเสมือนซูเปอร์เซลทั้งทวีป ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าที่พัก หรือค่าใด ๆ ก็ตามเถิด ถูกกว่าเดิมทั้งนั้น นั่นก็แน่อยู่แล้วครับ ผมจะพาคุณไปเดินชอป 3 ถนน 2 ห้าง ได้แก่ ถนนชองป์ เซลิเซส์ ถนนมงเตญจ์ ถนนแซงต์ โตโนเร ห้างกาเลอรี ลาฟาแยต และห้างแปรงตองป์ ถือว่าครบสูตรตามประสานักชอปที่ดี

ครั้นจะชอปอย่างเดียว ไม่สนใจศิลปวัฒนธรรมก็คงใช่ที่ ผมกะจะพาคุณไปลูฟวร์ พิพิธภัณฑ์อันดับหนึ่งของโลก ไปแวร์ซายน์ วังบรรเจิดเลิศหล้า ตามด้วยอีกหลากหลายสถานที่ต้องชม

เช่น ประตูชัย หอไอเฟล จัตุรัสปลาส เดอ ลา กงกอร์ด พิพิธภัณฑ์มูเซ ดอร์เซย์ พิพิธภัณฑ์โรแดง สุสานนโปเลียน โบสถ์แซงต์ ชาเปล และโบสถ์นอเตรอะ ดาม แค่อ่านรายชื่อสถานที่ทั้งหมด เชื่อเลยว่า พาหวานใจไปครั้งนี้ คงได้เขียนติดต่อกันยาวไม่แพ้ครั้งก่อน

ชอปก็ได้ความรู้ก็มี แค่สองข้อนี้ ปารีสก็กินขาดนครอื่นใดในโลก เมื่อลองบวกอาหารฝรั่งเศสที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหล้า (ประเภทอาหารฝรั่ง) บวกกับขนมรสชาติอัศจรรย์

บวกบรรยากาศสุดแสนโรแมนติกริมแม่น้ำเซน เดินเกาะเกี่ยวกุมมือกันดูหอไอเฟลส่องไฟระยิบระยับ เดินผ่านหอคอยเก่าที่เคยคุมขังพระนางมารีอังตัวเนต ผ่านย่านมงต์มาร์ต จุดเริ่มต้นของหลายศิลปินบันลือโลก บวกโน่นบวกนี้เข้าไปอีก

ไม่น่าแปลกใจที่ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนมากที่สุดในโลก (เฉลี่ยปีละ 70 ล้านคน) และใครที่ไปถึงฝรั่งเศส ไม่ไปปารีสได้ไง

อธิบายมาแค่นี้ คงไม่ต้องแต่งเติมเสริมบรรยายให้มากความ ปารีสน่าไปอยู่แล้ว แต่ปัญหาสำคัญของพวกเราชาวไทย คือกลัวว่าพูดภาษาฝรั่งเศสไม่ได้ จะขลุกขลักในการเดินทาง ครั้นจะไปกับทัวร์ ก็กลัวไปแล้วไม่ถึงแก่น ใครกังวลเช่นนี้ ไม่ต้องเป็นห่วงครับ

ทริปนี้มีแค่ผมกับหวานใจสองคน เป็นการไปเที่ยวด้วยตัวเองแน่แท้จริงหนอ ไม่มีเพื่อน ไม่มีญาติ ไม่มีคนรู้จักอยู่ที่นั่น ที่สำคัญ ผมพูดภาษาอังกฤษไม่เป็น หวานใจก็พูดไม่เป็น เธอพูดเป็นแค่คำหวาน (จริงเรอะ)

ข้อมูลต่อไปนี้จึงเป็นการเที่ยวฝรั่งเศสด้วยตัวเองของบุรุษและสตรีที่พูดได้ 2 คำ คือ บองชูกับเมอร์ซี่ ใช้เวลาอยู่ในปารีสเกือบสองสัปดาห์ รอดชีวิตกลับมา รวมทั้งสนุกสนานจนฝันว่าอยากกลับไปใหม่

เกริ่นนำแค่นี้พอแล้ว ออกเดินทางกันเถิด ว่าแต่...เราจะไปตอนไหนดีเอ่ย ? ปารีสเป็นเมืองที่มี 4 ฤดูกาล สภาพแวดล้อมและอุณหภูมิแตกต่างกันชัดเจน ยังมีงานเทศกาลต่าง ๆ อีกมาก รวมทั้งแฟชั่นวีคที่สาว ๆ ฝันอยากไปให้ได้สักครั้งในชีวิต

เผอิญผมไม่สนใจเรื่องใดเลย ยกเว้นเรื่องราคา ปารีสในช่วงราคาถูก คือปารีสหน้าหนาว ค่าที่พักลดวูบ นอกจากนี้ ยังมีช่วง Saldes หรือลดราคาประจำปี winter sale (6 สัปดาห์ หากอยากไป summer sale คือช่วงเดือนกรกฎาคมนี่แหละครับ) แม้ฤดูหนาวจะหนาวจริงระดับหิมะตก แต่ผมมีไขมันเยอะไว้ห่อหุ้มร่าง จึงไม่เคยกังวลใจในเรื่องนี้

ในฤดูหนาวยังเป็นช่วงกลางวันสั้น กลางคืนยาว พระอาทิตย์ขึ้นช้ามากและตกเร็วมาก ผมก็ยังไม่สนใจอีกนั่นแหละ เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยวที่เน้น เช่น พิพิธภัณฑ์ ไม่ได้ปิดตามพระอาทิตย์สักหน่อย ร้านค้าก็ไม่ปิด หอไอเฟลก็เปิดไฟเร็ว เที่ยวตอนฤดูหนาว ได้เห็นแสงสีปารีสราตรีไวกว่าฤดูอื่น

ข้อดีอีกประการคือฝรั่งยุโรปไม่ค่อยเที่ยวช่วงหน้าหนาว ผิดกับหน้าร้อน ไปที่ไหนล้วนต่อคิวกันยาวเหยียด นอกจากนี้ ผมไม่ชอบยุโรปฤดูร้อน แม้ดอกไม้จะบาน แต่ผู้คนใส่เสื้อยืดใส่กางเกงขาสั้น ดูแล้วยังไงก็ไม่เหมือนยุโรปในฝันครับ

เลือกช่วงเวลาได้แล้ว ถึงการจองห้องพักและตั๋วเครื่องบิน ผมใช้วิธีเลือกจากเว็บไซต์ตามระเบียบ ปารีสมีโรงแรมหลายพันแห่ง ตั้งแต่ห้องพักนอนรวมกัน จนถึงอภิโรงแรมมหาหรู ผมคงไม่ลงรายละเอียดส่วนนี้มาก เพราะเป็นการเขียนบทความ ไม่ใช่เขียนหนังสือคู่มือ

ขืนเขียนเยอะมีหวังร้อยตอนก็ไม่จบ เอาเป็นว่า ผมเลือกนอนโรงแรมใจกลางเมือง สามารถเดินไปถึงแม่น้ำเซน เดินไปถนนชองป์ เซลิเซส์ หรือเดินไปถนนมงเตญจ์ สบายอุรา

แต่ถ้าคุณต้องการที่พักราคาประหยัด ปารีสเป็นเมืองที่มีระบบขนส่งมวลชน ดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก สถานีรถไฟฟ้ามีแทบทุกหัวมุมถนน ไปไหนก็สะดวกสบาย แต่แน่นอนว่า คุณอาจไม่ได้ใกล้ชิดบรรยากาศโรแมนติกตลอดเวลา ของอย่างนี้ได้อย่างเสียอย่างครับ

ปารีสเป็นเมืองที่ค่าที่ดินแพงมาก (มาก ๆ) หากอยากอยู่ในย่านใจกลาง ต้องเตรียมเงินไว้เยอะหน่อย อีกทั้งห้องพักก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่คุณอาจเห็นวิวที่รื่นเริงบันเทิงใจตลอดเวลา เช่น หอไอเฟลทุกทิวาราตรี ฯลฯ

โรงแรมพวกนี้จะมีดาวเป็นมาตรฐานสุดเคร่งครัด เหมือนกับร้านอาหารครับ ชาวปารีสเชื่อถือในมาตรฐานเหล่านี้มาก อีกทั้งนักวิจารณ์ทั้งอาหารทั้งโรงแรมก็มีอยู่เต็มปารีส หากที่ใดไม่ได้ตามมาตรฐาน เจอดีแน่ครับ หากเป็นห้าดาว ก็จะเป็นห้าดาวจริงหรูจริง

ปารีสยังเป็นเมืองที่ได้รับการควบคุมการก่อสร้างทุกรูปแบบอย่างเคร่งครัด จะมีเงินมากมายแค่ไหน คิดทุบตึกเก่าทิ้ง สร้างตึกห้าสิบชั้นขึ้นมาแทน ทำไม่ได้หรอกครับ ค่าโรงแรมจุดยอดเยี่ยมจึงแพงหนักหนา เพราะเป็นหน้าเป็นตา ไม่ใช่เฉพาะในปารีส

แต่ถือเป็นอิมเมจของโรงแรมในเชนนั้นนี้ทั่วโลกด้วยครับ เรื่องนี้ยังรวมถึงร้านขายของแบรนด์เนมทั้งหลาย ต้องมีร้านประเภทเรือธงหรือ Flag Ship Store ใจกลางมหานคร แต่ของในนั้นไม่ได้แพงกว่าของในร้านแบรนด์เดียวกันที่แอบซ่อนตามห้าง

เค้าใช้ราคามาตรฐาน โดยบวกค่าเช่าแสนแพงลงไปในราคาของที่จำหน่ายทั้งโลก จะซื้อที่ฮ่องกง กรุงเทพ หรือที่ไหนก็ตาม เราได้จ่ายค่าเช่าให้กับทางร้านที่ปารีสเป็นที่เรียบร้อย

มาถึงตั๋วเครื่องบิน ใคร ๆ ก็อยากบินตรง แต่ค่าตั๋วมันแพงเหลือหลาย ครั้นจะบินแบบต่อที่โน่นที่นี่ ก็ต้องยอมเสียเวลาอีก 4-6 ชั่วโมง แล้วแต่ว่าจะไปต่อเครื่องที่ไหน เรื่องอย่างนี้เชิญตัดสินใจตามสบาย ผมยังยินดีใช้บริการการบินไทย ตราบใดที่เค้าไม่คิดค่าตั๋วเกินเหตุ (ตอนนี้เริ่มเกินแล้วจ้า)

แม้เครื่องบินจะเก่านิด ไม่มีจอประจำที่นั่ง แต่ขาไปเป็นเวลานอน ขากลับผมก็อ่านหนังสือเรื่อยมา ได้พูดคุยกับคุณสจ๊วตคุณแอร์บ้าง ได้คำกระซิบบอก เช่น เครื่องบินว่าง เลือกนั่งตรงนี้ก็ได้ค่ะ คงไม่มีคนอื่นมานั่งข้าง ๆ ใครจะเจอบริการอย่างไรก็สุดแล้วแต่โชค สำหรับผม ยังใช้การบินไทยอยู่ครับ

เมื่อมีใบจองตั๋วเครื่องบิน มีใบจองที่พัก เราเขียนโปรแกรมท่องเที่ยวแบบวันต่อวัน จากนั้นก็ไปทำวีซ่าที่สถานทูต ช่วงที่ผมไป สถานทูตฝรั่งเศสยังอนุญาตให้ไปยื่นวีซ่าแทนได้

ผมจึงไม่เดือดร้อนต้องไปเอง นับว่าสะดวกกว่าไปอังกฤษมาก เมื่อทุกอย่างพร้อมสรรพ สัปดาห์หน้าเราไปลุยปารีสกันครับ

หนังสือทุกเล่ม ของ ดร.ธรณ์ อ่านสนุก
เมื่อมีงานหนังสือ ที่ศูนย์สิริกิติ์ ดร.ธรณ์ จะออกบู้ธ
จำหน่ายหนังสือลดราคา และแจกลายเซ็นด้วย
ตัวหนังสือกลมๆ ป้อมๆ เหมือนตัว ดร.ธรณ์
คนอารมณ์ดีนั่นแหละค่ะ

ขอขอบคุณ ทะเลไทยดอทคอม
Submitted by Surachai on Thu, 15/07/2010 - 00:00

สวัสดิ์สิริศนิวาร สิริมานรมณีย์นะคะ

Create Date : 09 กรกฎาคม 2554

0 comments

Last Update : 9 กรกฎาคม 2554 19:00:28 น.

Counter : 1209 Pageviews.